บทที่ 6 คำปลอบจากมารดา (ในอดีต)

1121 Words
“หนูมีเรื่องอยากจะบอกคุณหนึ่งอย่างค่ะ วันข้างหน้าคุณจะได้อยู่บ้านหลังใหญ่โตกว่านี้แน่นอนค่า ด้วยน้ำพักน้ำแรงจากบุตรสาวของคุณ ที่เป็นเจ้าคนนายคนค่า” หญิงสาวว่าพลาง วางมือลงบนหลังมือของผู้หญิงอีกฝ่าย มองยังไงก็คือมารดาของตนไม่มีผิด “คงไม่หรอกค่า เจ้าหนูอายุไม่กี่ขวบเอง ยังตัดสินเรื่องอนาคตไม่ได้หรอกค่ะ” หล่อนเอี้ยวคอออกไปนอกหน้าต่าง ซึ่งอยู่ด้านหลังของพวกเขา สายตาจ้องมองไปยังร่างเล็กทั้งสองที่วิ่งเล่นกันแถวหน้าบ้าน “ค่ะ” หญิงสาวรับคำ จะบอกให้อีกฝ่ายเชื่อก็คงยาก “งั้นหนูขอตัวไปอาบน้ำได้ไหมคะ” เธอตัดบท เพราะตอนนี้รู้สึกตัวเองมีกลิ่นยังไงพิกล “ชะ เชิญห้องน้ำด้านหลังเลยค่ะ มันอาจจะแคบไปสักหน่อยนะคะ” หล่อนผายมือไปด้านหลังครัว ก่อนจะลุกขึ้นยืนตามหลัง เพื่อไปหาชุดให้หญิงสาวเปลี่ยน “ขอบคุณนะคะ” โสธิยากล่าวคำขอบคุณ พร้อมกับโค้งตัวเพียงเล็กน้อย ก่อนจะสาวเท้าไปยังห้องน้ำด้านหลัง หลังจากนั้นเพียงไม่นาน หญิงสาวอยู่ในชุดเสื้อยืดตัวโคร่ง ซึ่งน่าจะเป็นเสื้อของผู้ชาย กับกางเกงสามส่วนของผู้ชายเช่นเดียวกัน “มะ มันจะดีหรือคะ หากคุณพ่อ เอ๊ย! สามีของคุณมาเห็นเข้าคงจะโดนเอ็ดแน่ ๆ เลยค่า” หญิงสาวทำหน้าปะแล่มปะเหลือ พลางมองเสื้อผ้าที่สวมใส่ “คงไม่หรอกค่า อีกอย่างคุณก็ลองเสื้อผ้าของฉันแล้วมันตัวเล็กเกินไป ก็คงต้องใส่เสื้อผ้าของสามีแทน” หล่อนยิ้มอย่างเป็นมิตร ก่อนจะมองหญิงสาวตรงหน้าที่รูปร่างใหญ่กว่าโสรดา “ขะ ขอโทษด้วยนะคะที่รบกวนแม้แต่เสื้อผ้า” หญิงสาวมีสีหน้าเจือลง เพราะไม่อยากทำให้ชีวิตรักของบิดาและมารดาผิดใจกัน “ไม่เป็นไรเลยค่า ว่าแต่คุณเป็นใครมาจากไหนเหรอ ทำไมถึงแต่งชุดนี้ได้ หรือว่าคุณแอบหนีงานแต่ง” หล่อนกล่าวพลางทำสีหน้าตกใจ เมื่อพูดว่าหนีงานแต่ง “เฮ้อ!” หากทว่าเธอกลับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ สายตาวูบลงต่ำ ก่อนจะขยับปากพูดอีกครั้ง “ไม่ใช่หนีหรอกค่า เข้าห้องหอกันแล้วค่ะ แต่ยังไม่ได้มีอะไรกันนะคะ เพราะเขาขอไปสนุกกับเพื่อนฝูง ตัวหนูเองก็ด้วยค่ะ” เธอเล่าออกมา พร้อมกับถอนหายใจอีกครั้ง ถึงแม้ว่าไม่อยากจะนึกถึงมันก็ตาม “แต่เขากลับไปมีอะไรกับผู้หญิงในงาน ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็เคยเป็นเพื่อนของเขา หนูไปเห็นเองค่ะ” เมื่อกล่าวจบ เธอก็ปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาอีกครั้ง โดยที่ไม่อายผู้หญิงที่นั่งข้าง ๆ โสรดาเห็นแบบนั้น หล่อนจึงกำมือของโสธิยา ก่อนจะใช้อีกมือ ตบลงบนหลังมือเบา ๆ เพื่อปลอบใจ “ถือซะว่าเป็นความโชคดีที่อยู่ในโชคร้ายของคุณนะคะ อีกอย่างมันดีไม่ใช่หรือคะ ที่เรารู้ตอนนี้ดีกว่ารู้เมื่อสายไป หลังจากที่อยู่กินกันอย่างฉันสามีภรรยาไปแล้ว พอถึงตอนนั้นมันอาจจะคงแย่ไปกว่านี้ค่ะ” น้ำเสียงหวานปลอบประโลมหญิงสาวจนเธอต้องปาดน้ำตาทิ้ง แววตามองไปที่ใบหน้าของคนคุ้นเคย เพราะมันคือคำพูดของมารดาในวัยสาว โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้เลยว่าผู้หญิงคนนี้ที่หล่อนปลอบใจ ให้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นั้นคือบุตรสาวของตนในอีกยี่สิบกว่าปีข้างหน้า “ขอบคุณมากนะคะ คำพูดของคุณทำให้ฉันนึกถึงคุณแม่ขึ้นมาเลยค่า” เธอกล่าวพลางพร้อมกับรอยยิ้มที่คลี่ออกมา “คุณแม่มักมองโลกในแง่บวกเสมอ เวลาที่ฉันมีปัญหาอะไร ก็มีคุณแม่นี่ละค่าที่คอยให้คำปรึกษาได้” โสธิยากล่าวด้วยรอยยิ้ม เมื่อนึกถึงมารดาที่เพิ่งกล่าวคำอวยพรงานแต่งไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน พร้อมกับเปลี่ยนสรรพนามในการเรียกตัวเอง ที่เผลอเรียกแบบนั้นอย่างลืมตัว “ไม่เป็นไรหรอกค่า ผู้หญิงด้วยกันเข้าใจกันดีค่ะ” หล่อนพูดน้ำเสียงนิ่มนวลอย่างเอ็นดู “ว่าแต่คุณชื่ออะไรเหรอค่า ฉันชื่อดา” ว่าแล้วหล่อนก็เอ่ยปากถามชื่อคนตรงหน้า “หะ หยกค่ะ” เธอตอบออกมาอย่างภาคภูมิใจ เพราะเป็นชื่อที่มารดาและบิดาตั้งให้ “บังเอิญจังเลยนะคะ คุณชื่อเหมือนลูกสาวฉันเลยค่ะ” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าอีกครั้ง เลยทำให้โสธิยาอดยิ้มตามไม่ได้ “มันคงเป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ ค่ะ” เธอกล่าวออกมาเบา ๆ ทั้งที่สายตายังจ้องมองคนตรงหน้าอย่างไม่วางตา “ว่าแต่คุณออกมาแบบนี้ คุณพ่อคุณแม่ไม่เป็นห่วงแย่เลยหรือคะ” หล่อนกล่าวอย่างเป็นกังวล ว่าหญิงสาวตรงหน้ายังมีบิดาและมารดา คอยเป็นห่วง หญิงสาวนึกขึ้นได้ว่าเธอจากบ้านมาไกล ป่านนี้พวกท่านทั้งสองคงวิ่งตามหาเธอกันให้วุ่น “หยกลืมนึกเรื่องนี้ไปเลยค่ะ” หัวคิ้วขมวดเข้าหากันอีกครั้ง “แต่ถึงอย่างไรหยกก็คงไปหาไม่ได้อยู่ดีค่ะ” เธอถอนหายใจอีกครั้ง “ทำไมไม่ลองไปในจุดที่จากมาดูละคะ อาจจะคิดอะไรดี ๆ ออกค่ะ” หล่อนแนะนำหญิงสาวตรงหน้าอีกครั้ง “นั้นซิคะ งั้นหยกขอตัวไปที่สวนนะคะ ส่วนเรื่องอาหารไม่ลืมแน่นอนค่ะ รบกวนคุณดาหาวัตถุดิบให้หยกหน่อยได้ไหมคะ หยกอยากทำอาหารที่คุณแม่เคยทำให้ทานค่ะ” โสธิยากล่าวออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “จะทำอะไรทานคะ แล้วให้ดาเตรียมอะไรบ้าง” หล่อนถามเพราะจะได้จดรายกายเพื่อจะได้หาซื้อของจากตลาดสด “หยกอยากทำ ต้มจืดเต้าหู้หมูสับ น้ำพริกกากหมู และแกงกะทิสายบัวค่ะ” เธอกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เมื่อกล่าวชื่ออาหารออกมา เพราะเป็นอาหารที่มารดาชอบทำให้ทาน “ได้ค่ะ เดี๋ยวสักครู่ดาจะไปหาซื้อมาให้นะคะ เชิญคุณหยกตามสบายนะคะ ดาคงไม่รบกวนแล้วค่ะ” หล่อนกล่าวจบก็ลุกออกจากเก้าอี้ตัวดังกล่าว พลางสาวเท้าไปยังตู้เย็นใกล้ ๆ เพื่อจะดูว่าวัตถุดิบต่าง ๆ มีอะไรบ้าง และต้องซื้ออะไรเพิ่ม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD