Chapter​ 4

3387 Words
Chapter​ 4 ​ ดวงตะวันเริ่มเคลื่อนคล้อยลอยต่ำ ชุนขับบิ๊กไบค์เข้ามาจอดในบ้าน ก่อนจะลงจากรถแล้วเดินเข้าบ้าน “ไอ้น่านนะไอ้น่าน​ เล่นเอาซะเมาเลย​ ดีนะที่ยังขับรถกลับบ้านได้” ชายหนุ่มเดินโซเซเข้าห้องนอน เสียงพระสวดมนต์ทำวัตรเย็นดังแว่วมา เขารีบผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่ออาบน้ำ สลัดความมึนเมาออกไปจากหัว​ พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นตุ๊กตาตัวอวบนอนนิ่งอยู่บนที่นอนหนานุ่ม 'ตุ๊กตายางสมัยนี้ทำออกมาสวยพอ ๆ​ กับผู้หญิงจริงๆ เลย...ไม่สิ​ สวยกว่าคนจริง​ ๆ​ ด้วยซ้ำ'​ เหมือนตกอยู่ในภวังค์​ ชุนเดินไปหย่อนกายที่เปลือยเปล่านั่งลงบนเตียง​ แววตาเข้มจ้องมองตุ๊กตาที่นอนนิ่งอยู่ตรงหน้าอย่างพินิจพิจารณา ด้วยใบหน้าที่สวยหวานของตุ๊กตา​ ผิวขาวเนียนละเอียด​ ประกอบกับความมึนเมาที่ยังคงอยู่ ทำให้ชุนลืมเรื่องที่เพื่อนกำชับไว้ มือแกร่งยื่นไปสัมผัสอกอวบชูชันของตุ๊กตา​ ไล้ไปมาอย่างช้า​ ๆ​ ผิวนุ่มนิ่มทำให้ชายหนุ่มเริ่มบีบเคล้นคลึงหนักมือขึ้น “อืม...นิ่มมือดีจัง” อารมณ์ของชายหนุ่มเริ่มพลุ่งพล่าน เลือดร้อนในกายสูบฉีดแรงขึ้น​ มันวิ่งเข้าหาแท่งร้อนจนผงาดแข็งอวดส่วนปลายแดงก่ำ​ที่กำลังผงกหัวหงึก​ ๆ “ข้างใน...จะเหมือนคนจริง​ ๆ​ มั้ยนะ” เขาถอดเสื้อผ้าของตุ๊กตาออก​ หน้าอกอวบใหญ่อวดยอดยกสีสวยดีดเด้งท้าทายสายตาหื่นกระหาย มือร้อนแตะสัมผัสผิวเนื้อนุ่มลื่น​ ลากไล้ไปทั่วร่างเปลือยของตุ๊กตายาง “โอ...อวบอูมดีจัง​ เหมือนคนเลย” ชายหนุ่มสูดปากเข้าหากัน​ เขาทนไม่ไหวแล้ว​ มือแกร่งจับสองขาเรียวของตุ๊กตายางแยกออกจากกันอย่างช้า ๆ แววตาเข้มร้อนเร่าสำรวจมองจ้องไปยังรอยแยกสีชมพูระเรื่อที่อ้าออกเล็กน้อย​ เขายื่นมือไปสัมผัสราวต้องมนตร์สะกด​ สองนิ้วแกร่งแตะลงบนเนินเนื้อแล้วแยกกลีบอวบอูมออกจากกัน​ เขาแค่อยากสำรวจให้ล้ำลึก​ อยากรู้เหลือเกินว่าข้างในนั่นจะนุ่มและอุ่นสักแค่ไหน “อูยยย...ซี๊ดดด...ไม่ไหวแล้ว​ กูขอเถอะไอ้น่าน​ เดี๋ยวกูจ่ายเงินให้” อารมณ์อยากของชุนพุ่งพล่านถึงขีดสุด​ เขาขยับเข้าไปนั่งคุกเข่าอยู่กลางกายของตุ๊กตา​ มือแกร่งจับสองขาขาวให้แยกออกมากขึ้น​ มืออีกข้างกำท่อนเอ็นที่แข็งแกร่งแล้วบีบเจลใส่ลูบไล้จนชุ่มท่อนลำ ก่อนจะแอ่นสะโพกถูไถท่อนเอ็นตรงปากร่องสวาทของตุ๊กตายาง ค่อย​ ๆ​ ออกแรงดันสอดใส่แท่งร้อนเข้าไปในร่องหลืบนุ่มหยุ่น “อืม...อา...นุ่มดีจัง...ซี๊ด...” เสียงนุ่มครางทุ้มต่ำ​ เจ้าตัวเกร็งไปทั้งร่างจากแรงบีบรัดภายใน​ ชายหนุ่มจัดท่าทางของตุ๊กตาตามที่ตนเองต้องการ ก่อนจะขยับสะโพกเพื่อส่งท่อนเอ็นที่แข็งแกร่งเข้าออกตามจังหวะ​ อกอวบขาวสั่นไหวตามแรงกระแทกกระทั้นของคนตัวโต “ซี๊ดด...อูยย...ถ้าเป็นน้องขวัญก็ดีน่ะสิ” ใบหน้าคมคร้ามแดงก่ำเพราะความมันส์ในอารมณ์​ มือแกร่งเอื้อมไปบีบเคล้นคลึงสองเต้าอวบพร้อมสะโพกที่ขยับไม่หยุด พายุแห่งตัณหาพัดโหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่ร่างแกร่งของชุนจะเกร็งกระตุกพร้อมเสียงคราง น้ำรักสีขาวขุ่นฉีดพุ่งออกมาจากท่อนเอ็นจนล้นร่องสวาทของตุ๊กตายาง ชุนดึงท่อนเอ็นที่ยังแข็งออกมาจากความนุ่มหยุ่น ก่อนจะทิ้งกายนอนหงายหายใจหอบถี่อยู่ข้าง​ ๆ​ ตุ๊กตายางที่ไร้ชีวิต​ พลัน! ก็มีแสงประหลาดพุ่งออกจากกล่องของขวัญจากเพื่อนรักที่เขายังไม่ได้แกะ แสงนั้นพุ่งตรงเข้าหาตุ๊กตายางทันที ชายหนุ่มร่างเปลือยเปล่ายันกายลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจ ก่อนที่แสงนั้นจะหายวับไปในตัวตุ๊กตายาง “แสงห่าอะไรวะ!” ชายหนุ่มลนลานลงจากที่นอน ขณะที่สายตาเลิ่กลั่กยังคงจับจ้องตุ๊กตาที่นอนนิ่งอยู่ที่เดิม​ เขาเหลียวมองไปยังกล่องของขวัญ​ ก่อนเดินไปหยิบกล่องขึ้นมาดูอีกครั้ง คราวนี้เขารีบแกะออกมาดูเพราะความสงสัย​ และสิ่งที่อยู่ภายในก็ทำให้หน้าเพื่อนรักลอยมา “ไอ้น่าน​ มึงเอาจิ๋มกระป๋องมาให้กูเนี่ยนะ” แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ชุนแปลกใจ​ เขาจับสิ่งนั้นขึ้นมาพลิก ดู​ อ***********งจำลองขนาดเหมาะมือโดยมีเส้นไหมสีดำ ปกคลุมเพียงบาง ๆ เพื่อหาแหล่งที่มาของแสง “มันมีแสงออกมาได้ยังไงวะ” เขาจับหมุนพลิกไปมาตรวจสอบอย่างละเอียด​ แต่ก็หาแหล่งที่มาของแสงเมื่อครู่ไม่ได้ “มึงเอาอะไรมาให้กูวะไอ้น่าน​ จิ๋มศักดิ์สิทธิ์เหรอ” เขาอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้​ แต่ขณะเดียวกันความกลัวก็เริ่มคลืบคลานเข้ามาเกาะกุมหัวใจ ชุนรีบนำสิ่งที่ตนถืออยู่เดินเอาไปเก็บไว้อีกห้องหนึ่ง “เอาไว้ที่นี่ดีกว่า อย่าอยู่ห้องเดียวกันเลยเรา” เขาเก็บของขวัญจากเพื่อนเข้าลิ้นชักของตู้เสื้อผ้าแล้วล็อคกุญแจอย่างแน่นหนา​ ก่อนเดินกลับห้องด้วยความสงสัยที่ยังกรุ่นอยู่ในใจ ชายหนุ่มรีบอาบน้ำเพื่อไล่ความมึนเมาให้หายไป ท่ามกลางความคาใจเรื่องของแสงประหลาดที่เห็น​ และเขาคิดว่าเขาเห็นมันจริง​ ๆ​ไม่ใช่เพราะความเมา ชุนยังคงดำเนินชีวิตตามครรลองของปุถุชนคนธรรมดาที่ต้องหาเลี้ยงชีพต่อไป เเต่วันนี้เขาทำงานด้วยความกระวนกระวายใจจนน่านนทีเริ่มรับรู้ได้ “มึงเป็นอะไรวะไอ้ชุน เดินไปเดินมาอยู่ได้” “ไม่รู้ดิ​ อยู่ดี ๆ​ กูก็รู้สึกไม่สบายใจ” ชุนตอบด้วยสีหน้าที่วิตกกังวล “มึงไม่สบายหรือเปล่า” “กูปกติ ไม่ได้เป็นอะไร​ กูว่ากูไปล้างหน้าก่อนดีกว่า” ชุนเอ่ยพลางเดินหนีไป ทิ้งความคาใจให้กับเพื่อนรักที่นั่งมองดูด้วยความเป็นห่วง “อ้าว​ พี่ชุน​ มาทำงานด้วยเหรอคะ​ เมื่อเช้าไม่เห็นเจอที่ร้านกาแฟเลย” เสียงหนึ่งดังขึ้นขณะที่้ชุนกำลังเดินไปห้องน้ำ เขาหยุดเคลื่อนไหวแล้วหันกลับไปมองทางต้นเสียง “น้องขวัญนั่นเอง​ นึกว่าใคร” “นอกจากขวัญแล้วยังมีคนที่พี่ชุนคิดถึงอีกเหรอคะ” คนพูดหน้าสลดลงไป​ จนชุนเองสัมผัสได้ “โธ่...ไม่มีหรอก พี่จะมีใครได้อีกล่ะครับ” ชายหนุ่มเดินยิ้มเข้าไปหาขวัญข้าวจนได้กลิ่นหอมละมุนอยู่ตรงหน้า​ เขาเผลอสูดดมเข้าปอดราวต้องมนตร์ “อืม...กลิ่นอะไร​นะ​ น้องขวัญเปลี่ยนน้ำหอมใหม่เหรอครับ” เจ้าตัวคลี่ยิ้ม​ เอียงหน้ามองใบหน้าคมคร้ามด้วยแววตาทอประกาย "หอมมั้ยคะ” คนถูกถามคลี่ยิ้มมุมปาก​ แววตาเข้มมองอีกฝ่ายอย่างมีความหมาย “อืม...พี่ต้องดมใกล้ ๆ อีกที​ จมูกพี่ไม่ค่อยดีน่ะ” ใบหน้าคมคร้ามโน้มลงต่ำ จนขวัญข้าวสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่ระเรี่ยอยู่ข้างใบหู ความแปลกใหม่ทำให้ขนอ่อนบนกายสาวลุกชัน​ การกระทำที่ทำให้สาวเจ้าต้องเบี่ยงหน้าหลบ​ มองไปรอบกายอย่างหวาดระแวง “พี่ชุน​ เดี๋ยวมีคนมาเห็นค่ะ” เหมือนชุนจะนึกอะไรได้​ เขาเอ่ยชวนขึ้นมาเสียดื้อ​ ๆ “เย็นนี้ว่างมั้ย​ พี่ว่าเราซื้อของไปทำอะไรกินกันที่บ้านพี่ดีกว่า” ขวัญข้าวมีท่าทีลังเล​ ในที่สุดหล่อนก็แพ้แววตาอ้อนวอนชวนให้ใจละลายคู่นั้น​ ยิ้มหวานคลี่ส่งไปให้ชายหนุ่มตรงหน้า "โอเคค่ะ" บรรยากาศยามเย็นของบ้านย่านชานเมืองนั้นเงียบสงบ​ มีเพียงเสียงนกขับขานผสานเสียงทำวัตรเย็นที่ดังแว่วมา​ ลมอ่อนพัดโชยมาเป็นระลอก​ ท้องฟ้าเริ่มถูกปกคลุมด้วยความมืดดำอีกครั้ง “พี่มีความสุขมากเลยรู้ไหม ที่วันนี้น้องขวัญยอมมากับพี่” เจ้าของบ้านเอ่ยขึ้นขณะเปิดตู้เย็นเพื่อหาเครื่องดื่มให้แขกคนสำคัญ “พี่ชุนพูดตรง ๆ​ แบบนี้​ ​ขวัญก็เขินเป็นเหมือนกันนะคะ” หล่อนยิ้มเอียงอาย​ ทว่าเป็นรอยยิ้มที่ตราตรึงอยู่ในหัวใจคนมอง ชุนเดินถือเครื่องดื่มมาหลายชนิด เพื่อให้อีกฝ่ายได้เลือก ก่อนจะนั่งลงเคียงข้างกันบนโซฟา “น้องขวัญจะดื่มอะไรดีครับ​ เลือกได้ตามสบายเลยนะ” “ขอแบบไม่เมาก็แล้วกันค่ะ” เลือกแล้วก็เอื้อมมือไปหยิบน้ำส้มมารินใส่แก้วของตนเอง​ ทุกการเคลื่อนไหวนั้นถูกจับจ้องจากสายตาคู่คม “น้องขวัญรู้ไหม พี่คิดอะไร” “เอ่อ...ไม่รู้...ค่ะ...” ชายหนุ่มขยับเข้ามาใกล้จนขวัญข้าวนั่งเกร็ง​ หลุบตาหนีแววตาที่จ้องมองอย่างมีความหมาย “พี่แอบรักน้องขวัญมานานแล้ว​ และพี่ไม่อยากเก็บมันไว้ในใจอีกต่อไป” "พี่ชุน..." หัวใจคนฟังสั่นไหว​ ขณะที่สองมือแกร่งจับลงบนไหล่บอบบางแล้วรั้งร่างของหล่อนให้หันไปเผชิญหน้า “พี่รักน้องขวัญนะครับ แล้วน้องขวัญล่ะคิดยังไงกับพี่” แววตาสองคู่สบประสาน​ บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบงัน​ จนต่างสัมผัสได้ถึงเสียงหัวใจของกันและกัน “แล้วพี่ชุนคิดว่าอย่างไรคะ ที่ขวัญไปไหนมาไหนด้วยโดยที่ไม่เคยปฏิเสธ” หล่อนไม่ตอบตรง​ ๆ​ หากแต่ทำให้คนฟังใจสั่น ชายหนุ่มโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นซ่าน​ของกันและกัน ริมฝีปากร้อนสัมผัสเบา​ ๆ​ ลงบนเรียวปากนุ่ม​ ความหวามแผ่ซ่านไปตามกระแสเลือด​ เร่งเร้าสัมผัสอ่อนละมุนให้หน่วงหนักตามกระแสปรารถนาแสนเชี่ยวกราก ขวัญข้าวเผยอปากรับด้วยความเต็มใจเมื่อลิ้นร้อนสอดแทรกเข้ามาสัมผัสเรียวลิ้นนุ่ม มือแกร่งลากไล้ขึ้นสูง​ขยำเคล้นคลึงสองเต้าอวบใหญ่พร้อมกับนิ้วหัวแม่มือที่บี้คลึงยอดตุ่มใตไปพร้อมกัน สัมผัสที่ทำให้คนถูกกระทำครางเสียงหวานอยู่ในลำคอ เลือดในกายสาวสูบฉีดไปทั่วร่าง​ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับชุนที่ตอนนี้เขารู้สึกปวดหนึบหนับอยู่กลางกาย​ ท่อนเอ็นขนาดใหญ่ผงาดขึ้นจนแทบจะระเบิดออกมานอกกางเกง “อืม...อา...พี่ชุน...ขวัญเสียว” เสียงหวานครางแผ่ว​ ริมฝีปากนุ่มเม้มติ่งหูของอีกฝ่ายตามกระแสปรารถนาที่หมุนวน ชุนโถมกายแกร่งออกแรงดันเบียดให้ร่างอวบนอน ราบลงบนโซฟาตัวนุ่ม ใบหน้าคมคร้ามเลื่อนลงต่ำมายังเนินอกอวบคู่งาม​ ที่ยอดปทุมถันดันเสื้อทำงานตัวบางจนเป็นปุ่มปม ปลายนิ้วแกร่งสะกิดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด​ และจังหวะนั้นเอง “ไอ้ชุน...ไอ้ชุน มึงอยู่หรือเปล่า” เสียงตะโกนเรียกคุ้นหูดังมาจากหน้าบ้าน​ เหมือนมีมือมืดกระชากร่างของทั้งสองจนตกจากสวรรค์ อารามตกใจทำให้ขวัญข้าวใช้มือดันแผงอกแกร่งให้ผละออกห่าง “แม่ง...ให้มันได้อย่างนี้สิวะไอ้น่าน” ชายหนุ่มกัดฟันกรอดด้วยความหัวเสีย​ ก่อนจะลุกขึ้นจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อย “พี่ชุนรีบไปรับหน้าพี่น่านเถอะค่ะ” ขวัญข้าวเอ่ยออกมาขณะที่กำลังแต่งตัวให้เรียบร้อยเช่นกัน ชุนเดินออกไปต้อนรับเพื่อนรักด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ก่อนจะพาอีกฝ่ายเข้ามาในบ้านด้วยความไม่เต็มใจ “อะ​ อ้าว​ น้องขวัญก็อยู่ด้วยเหรอครับ” น่านนทีทำหน้างง​ เมื่อเห็นว่าใครนั่งดูทีวีอยู่ภายในห้องรับแขก “เอ่อ...” หล่อนยิ้มเฝื่อน​ พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ​ ในขณะที่น่านนทียื่นมือไปตบไหล่เพื่อน “แล้วมึงก็ไม่บอกกูว่าอยู่กับน้องขวัญ” “ไอ้เวร แล้วมึงเคยถามกูมั้ยก่อนจะทะเล่อทะล่าโผล่มา” สองหนุ่มกระซิบกระซาบก่อนจะพากันเดินไปนั่งที่โซฟา “พี่ชุนมีเพื่อนคุยแล้ว​ เดี๋ยวขวัญกลับเลยดีกว่าค่ะ กลัวจะถึงห้องดึกน่ะค่ะ” ขวัญข้าวทำท่าดูนาฬิกาที่ข้อมือ​ ก่อนจะลุกขึ้นยืน “อ้าว​ แล้วน้องขวัญจะกลับยังไงครับ” “ขวัญโทรบอกให้น้องสาวขับรถมารับ​ เดี๋ยวก็คงมาถึงค่ะ” ทั้งสามคุยกันต่ออีกสักพัก​ ก่อนเสียงโทรศัพท์ของขวัญข้าวจะดังขึ้น หล่อนมองดูจึงรู้ว่าน้องสาวโทรมา หญิงสาวจึงร่ำลาสองหนุ่มเพื่อกลับบ้าน​ โดยชุนเดินตามออกมาส่งตรงรั้วหน้าบ้าน “มึงมีอะไรว่ามาไอ้น่าน​ ไอ้มารคอหอย” ชุนเอ่ยขึ้นขณะกำลังเดินตรงเข้าไปหาน่านนทีที่นั่งไขว่ห้างอย่างสบายอารมณ์อยู่บนโซฟา “กูมาเอาของกูคืน​ ญาติกูกลับไปแล้ว” ชุนตกใจเล็กน้อยเมื่อทราบถึงเหตุผลในการมาของเพื่อนรัก เพราะสิ่งของที่เพื่อนนำมาฝากไว้นั้นตนได้เปิดซิงไปแล้ว​ ได้แต่ทำกระอึกกระอัก “เอ่อ...คือ...คือว่า” “มึงเป็นอะไรของมึง ไหนตุ๊กตากู” “กู...กูใช้ไปแล้ว!” “ไอ้ชุน! ไอ้เวร มึงปู้ยี่ปู้ยำตุ๊กตากูไปแล้วโธ่...โซเฟียของพี่น่าน” น่านนทีเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สุดแสนเสียดาย​ เขากอดหมอนทำท่าเหมือนเด็กถูกแย่งของเล่น “มึงอย่าโกรธกูนะ” “.....” “ไอ้น่าน​ กูขอโทษ วันนั้นกูเมา” “พอ ๆ​ มึงไม่ต้องพูด ในเมื่อมึงจับน้องโซเฟียของกูทำเมียไปแล้ว​ มึงซื้อต่อกูไปเลย” “ให้กูซื้อต่อ แล้วกูจะซื้อไปทำอะไร” “ซื้อเอาไว้เฝ้าบ้านให้มึงมั้ง​ ไอ้นี่ มึงทำอะไรไว้ในทีแรกมึงก็เอาไว้ทำอย่างนั้นแหละ” ชุนนั่งนิ่งไปสักครู่จึงมองหน้าเพื่อนพร้อมกับเอ่ยถามราคา “เท่าไหร่” “สี่หมื่น” “หะ! สี่หมื่น มึงปล้นกูรึไงไอ้น่าน” “ไอ้ชุน ตัวนี้รุ่นพรีเมี่ยม กูซื้อมาสีหมื่นห้าถ้ามึงไม่เชื่อมึงไปถามที่ร้านกับกูเลย” ทั้งคู่คุยตกลงราคากันอยู่สักพักชุนจึงยอมซื้อต่ออย่างจำใจ​ ก่อนที่น่านนทีจะขอตัวกลับบ้านเพราะฝนเริ่มทำท่าจะตกลงมา ชุนเดินกลับเข้าไปในห้องนอนหลังจากเดินไปส่งเพื่อนที่หน้าบ้านแล้ว เขาหย่อนกายนั่งลงบนเตียง​ มองตุ๊กตายางที่นอนนิ่ง​ เธอดูสวย​ แต่เป็นความสวยที่ไร้ชีวิตชีวา ชายหนุ่มเอนกายลงนอน​ ความคิดเริ่มฟุ้งซ่านไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับขวัญข้าวเมื่อช่วงหัวค่ำ ในขณะที่ฝนเริ่มลงเม็ดเปาะแปะ​ อากาศเย็นลงจนสัมผัสได้ บรรยากาศที่เป็นใจทำให้อารมณ์ของเขาเริ่มฟุ้งซ่านตามความคิด ท่อนเอ็นกลางลำตัวเริ่มตื่นขึ้นอีกครั้ง ชุนหันมองตุ๊กตายางที่นอนนิ่งอย่างเชื้อเชิญ เขาอดใจไม่ไหว​ มือแกร่งยื่นไปสัมผัสกับอกอวบที่ตั้งชูชัน​ ยอดอกสีชมพูระเรื่อชวนให้เขาขยับเข้าไปลิ้มลอง “ไม่ไหวแล้ว​ เอาวะ ไหน ๆ​ ก็จ่ายเงินเป็นของเราแล้วนี่หว่า​ ต้องใช้ให้คุ้ม” เขาขยับเข้าไปหาตุ๊กตายาง​ ก่อนจะจับตุ๊กตาถอดเสื้อผ้าออกจนหมด “ทำไมวันนี้เหมือนหอมและนิ่มกว่าเดิมวะ...นิ่มเหมือนตัวน้องขวัญเลย” ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้าไปดอมดมที่เรือนกายขาวผ่อง​ เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลง จมูกคมสันดอมดมไปทั่วร่างตุ๊กตาราวต้องมนตร์​ ในขณะที่ฝนก็ตกลงมาราวกับฟ้ารั่วผสานเสียงฟ้าคำรามจนน่านอนซุกกายอยู่ใต้ผ้าห่มอุ่น​ แต่ไม่ใช่ชุนในตอนนี้ บรรยากาศบวกกับกลิ่นหอมรัญจวนใจเร่งเลือดในกายในพลุ่งพล่าน​ ชายหนุ่มถอดเสื้อผ้าออกจากร่างแล้วโยนไปกองอยู่ข้างเตียง​ แววตาเข้มหลุบมองท่อนเนื้อแข็งขึงจนเส้นเลือดนูนเด่นที่ยามนี้ชี้ไปทางร่างขาวเนียน​ เขาขยับจับสองขาตุ๊กตายางให้แยกออก​ มือข้างถนัดกำรูดท่อนเอ็นเข้าออกช้า​ ๆ​ ก่อนออกแรงดันเข้าสู่ร่องสวาทสีสวยแสนเชื้อเชิญ “ซี๊ดด...โอวว..." เขาสูดปากราวเคี้ยวพริกแสนเผ็ดร้อน​ ขณะเอวและสะโพกก็ขยับเข้าออกอย่างใจเย็นไม่เร่งรีบ​ รู้สึกมีความสุขจนอยากเก็บความรู้สึกนี้เอาไว้นาน​ ๆ "ทำไมวันนี้เหมือนตอดรัดแน่น​ และทั้งอุ่นและนุ่มขึ้นนะ” ชายหนุ่มเริ่มสัมผัสได้ถึงสิ่งผิดปกติบางอย่าง​ แต่ด้วยไฟแห่งราคะเขาจึงไม่สนใจสิ่งใดมากไปกว่าการหาความสุขจากเรือนร่างไร้ชีวิต​ ในขณะที่สะโพกแกร่งก็ขยับเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ​ และเร็วขึ้น​ แรงขึ้น​ ๆ “ซี๊ดด...อู้วว...ตอดรัดถี่เหมือนของคนจริง ๆ​ เลย​ อย่างนี้สิถึงจะคุ้มกับเงินที่้เสียไป” เสียงครางกระเส่าดังแข่งกับเสียงสายฝนดุดัน​ ขณะที่สะโพกก็โยกไปตามจังหวะของอารมณ์ร้อนเร่า ด้วยอารมณ์ที่กำลังกระเจิดกระเจิงหลงอยู่ในห้วงสวาท​ ทำให้เขาไม่ทันสังเกตถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตุ๊กตายางที่นอนนิ่งอยู่ใต้ร่างแกร่ง สีผิวของตุ๊กตายางเริ่มเปลี่ยนไปเป็นสีเนื้อขาวอมชมพูเหมือนมนุษย์​ ดวงตากลมโตกระพริบเบา​ ๆ​ แล้วหลับตาพริ้มเคลิ้มฝันไปกับท่วงทำนองแห่งรักที่มาจากกายแกร่ง ปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อห่อเข้าหากันราวกับกำลังข่มอารมณ์หวามที่คนบนร่างมอบให้อย่างเอาเป็นเอาตาย “ซี๊ดด...อูยย...ตอดรัดดีจัง​ จะแตกแล้ว” สะโพกแกร่งกระแทกกระทั้นเร็วขึ้นและแรงขึ้น​อย่างไม่ปราณี มือร้อนยื่นไปบีบเคล้นขยำขยี้สองเต้าอวบที่กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะรักร้าย​ แรง​บีบนั้นหน่วงหนัก ตามแรงอารมณ์​ จนชายหนุ่มเริ่มสัมผัสได้ถึงสิ่งที่ผิดปกติบางอย่าง​ก่อนเขาจะกระแทกท่อนเอ็นครั้งสุดท้ายอย่างเต็มแรง​ พร้อมกับน้ำรักสีขาวขุ่นที่พรั่งพรูออกมา “ทำไม...มันนิ่มเหมือนของคนจริง ๆ​ เลยวะ” หลังอารมณ์หวามทุเลาลง​ ชายหนุ่มลืมตามองดูตุ๊กตายางที่อยู่ใต้ร่าง​ แววตาที่สบประสานทำให้เขาต้องอุทานออกมา “เฮ้ย!” ชายหนุ่มผงะถอยห่าง​จนเกือบตกเตียง​ เขาถอยกรูดไปตั้งหลักอยู่มุมห้อง​พร้อมหยิกตัวเองไปด้วย เมื่อเห็นเต็มสองตาว่าตุ๊กตายางที่เขาใช้เสพสมเพื่อบำบัดอารมณ์ใคร่​ ตอนนี้ได้กลับกลายเป็นหญิงสาวที่มีชีวิต หล่อนผิวขาวผมสีดำขลับยาวสยายจนถึงกลางหลัง​ร่างนั้นนอนหายใจหอบเหนื่อยหลังผ่านสังเวียนรักมาหมาด​ ๆ​ ชายหนุ่มมองตรงร่องสวาทสีสวย​ เขาเห็นน้ำรักของตัวไหลออกมาจนเลอะเปรอะเปื้อนที่นอน “ทะ...เธอเป็นใคร ละ...แล้วมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!” ถามทั้งที่รู้​ ก็เขาเห็นกับตาว่าหล่อนกลายร่างมาจาก ตุ๊กตายาง​ หาใช่ปีนเข้ามาทางหน้าต่างแต่อย่างใด​ แต่เพราะความตกใจผสานงุนงงทำให้ในหัวเขามึนตึบไปหมด หล่อนคลี่ยิ้มมาให้ ใบหน้าหล่อนสวยคมราวกับนางฟ้าในเทพนิยาย​ แววตาคู่สวยมองจ้องมาแต่ไม่ยอมตอบคำถาม จนชุนต้องเรียกสติกลับมา “ฉะ...ฉันถามว่าเธอเป็นใคร​ ทำไม... เอ่อ...ทำไมเธอกลายร่างได้​ เธอไม่ใช่ผีใช่มั้ย!” หล่อนขยับแขนเรียวยกขึ้นแล้วชี้มาทางแท่งร้อนตรงกลางกายของชุน​ จนเขาต้องก้มมองตาม​ จึงนึกขึ้นมาได้ว่าเขาเองยังเปลือยเปล่าล้อนจ้อนเช่นเดียวกับหล่อน “สิ่งนั้นปลุกข้าขึ้นมาจากการหลับใหล..." ".....! " เสียงนั้นช่างไพเราะเสนาะหูยิ่งนัก​ ชายหนุ่มก้มมองตัวเองอีกครั้ง​ สลับกับมองดวงหน้าหวานชวนให้ใหลหลง "นายท่าน...ท่านเป็นคนปลุกข้าขึ้นมา​ ข้าเป็นหนี้บุญคุณของท่าน” "นี่มัน...เรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย!"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD