Chapter 4
ดวงตะวันเริ่มเคลื่อนคล้อยลอยต่ำ ชุนขับบิ๊กไบค์เข้ามาจอดในบ้าน ก่อนจะลงจากรถแล้วเดินเข้าบ้าน
“ไอ้น่านนะไอ้น่าน เล่นเอาซะเมาเลย ดีนะที่ยังขับรถกลับบ้านได้”
ชายหนุ่มเดินโซเซเข้าห้องนอน เสียงพระสวดมนต์ทำวัตรเย็นดังแว่วมา เขารีบผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่ออาบน้ำ สลัดความมึนเมาออกไปจากหัว พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นตุ๊กตาตัวอวบนอนนิ่งอยู่บนที่นอนหนานุ่ม
'ตุ๊กตายางสมัยนี้ทำออกมาสวยพอ ๆ กับผู้หญิงจริงๆ เลย...ไม่สิ สวยกว่าคนจริง ๆ ด้วยซ้ำ'
เหมือนตกอยู่ในภวังค์ ชุนเดินไปหย่อนกายที่เปลือยเปล่านั่งลงบนเตียง แววตาเข้มจ้องมองตุ๊กตาที่นอนนิ่งอยู่ตรงหน้าอย่างพินิจพิจารณา ด้วยใบหน้าที่สวยหวานของตุ๊กตา ผิวขาวเนียนละเอียด ประกอบกับความมึนเมาที่ยังคงอยู่ ทำให้ชุนลืมเรื่องที่เพื่อนกำชับไว้
มือแกร่งยื่นไปสัมผัสอกอวบชูชันของตุ๊กตา ไล้ไปมาอย่างช้า ๆ ผิวนุ่มนิ่มทำให้ชายหนุ่มเริ่มบีบเคล้นคลึงหนักมือขึ้น
“อืม...นิ่มมือดีจัง”
อารมณ์ของชายหนุ่มเริ่มพลุ่งพล่าน เลือดร้อนในกายสูบฉีดแรงขึ้น มันวิ่งเข้าหาแท่งร้อนจนผงาดแข็งอวดส่วนปลายแดงก่ำที่กำลังผงกหัวหงึก ๆ
“ข้างใน...จะเหมือนคนจริง ๆ มั้ยนะ”
เขาถอดเสื้อผ้าของตุ๊กตาออก หน้าอกอวบใหญ่อวดยอดยกสีสวยดีดเด้งท้าทายสายตาหื่นกระหาย มือร้อนแตะสัมผัสผิวเนื้อนุ่มลื่น ลากไล้ไปทั่วร่างเปลือยของตุ๊กตายาง
“โอ...อวบอูมดีจัง เหมือนคนเลย”
ชายหนุ่มสูดปากเข้าหากัน เขาทนไม่ไหวแล้ว มือแกร่งจับสองขาเรียวของตุ๊กตายางแยกออกจากกันอย่างช้า ๆ แววตาเข้มร้อนเร่าสำรวจมองจ้องไปยังรอยแยกสีชมพูระเรื่อที่อ้าออกเล็กน้อย เขายื่นมือไปสัมผัสราวต้องมนตร์สะกด สองนิ้วแกร่งแตะลงบนเนินเนื้อแล้วแยกกลีบอวบอูมออกจากกัน เขาแค่อยากสำรวจให้ล้ำลึก อยากรู้เหลือเกินว่าข้างในนั่นจะนุ่มและอุ่นสักแค่ไหน
“อูยยย...ซี๊ดดด...ไม่ไหวแล้ว กูขอเถอะไอ้น่าน เดี๋ยวกูจ่ายเงินให้”
อารมณ์อยากของชุนพุ่งพล่านถึงขีดสุด เขาขยับเข้าไปนั่งคุกเข่าอยู่กลางกายของตุ๊กตา มือแกร่งจับสองขาขาวให้แยกออกมากขึ้น มืออีกข้างกำท่อนเอ็นที่แข็งแกร่งแล้วบีบเจลใส่ลูบไล้จนชุ่มท่อนลำ ก่อนจะแอ่นสะโพกถูไถท่อนเอ็นตรงปากร่องสวาทของตุ๊กตายาง ค่อย ๆ ออกแรงดันสอดใส่แท่งร้อนเข้าไปในร่องหลืบนุ่มหยุ่น
“อืม...อา...นุ่มดีจัง...ซี๊ด...”
เสียงนุ่มครางทุ้มต่ำ เจ้าตัวเกร็งไปทั้งร่างจากแรงบีบรัดภายใน ชายหนุ่มจัดท่าทางของตุ๊กตาตามที่ตนเองต้องการ ก่อนจะขยับสะโพกเพื่อส่งท่อนเอ็นที่แข็งแกร่งเข้าออกตามจังหวะ อกอวบขาวสั่นไหวตามแรงกระแทกกระทั้นของคนตัวโต
“ซี๊ดด...อูยย...ถ้าเป็นน้องขวัญก็ดีน่ะสิ”
ใบหน้าคมคร้ามแดงก่ำเพราะความมันส์ในอารมณ์ มือแกร่งเอื้อมไปบีบเคล้นคลึงสองเต้าอวบพร้อมสะโพกที่ขยับไม่หยุด พายุแห่งตัณหาพัดโหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง
ก่อนที่ร่างแกร่งของชุนจะเกร็งกระตุกพร้อมเสียงคราง น้ำรักสีขาวขุ่นฉีดพุ่งออกมาจากท่อนเอ็นจนล้นร่องสวาทของตุ๊กตายาง
ชุนดึงท่อนเอ็นที่ยังแข็งออกมาจากความนุ่มหยุ่น ก่อนจะทิ้งกายนอนหงายหายใจหอบถี่อยู่ข้าง ๆ ตุ๊กตายางที่ไร้ชีวิต พลัน! ก็มีแสงประหลาดพุ่งออกจากกล่องของขวัญจากเพื่อนรักที่เขายังไม่ได้แกะ
แสงนั้นพุ่งตรงเข้าหาตุ๊กตายางทันที ชายหนุ่มร่างเปลือยเปล่ายันกายลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจ ก่อนที่แสงนั้นจะหายวับไปในตัวตุ๊กตายาง
“แสงห่าอะไรวะ!”
ชายหนุ่มลนลานลงจากที่นอน ขณะที่สายตาเลิ่กลั่กยังคงจับจ้องตุ๊กตาที่นอนนิ่งอยู่ที่เดิม เขาเหลียวมองไปยังกล่องของขวัญ ก่อนเดินไปหยิบกล่องขึ้นมาดูอีกครั้ง คราวนี้เขารีบแกะออกมาดูเพราะความสงสัย และสิ่งที่อยู่ภายในก็ทำให้หน้าเพื่อนรักลอยมา
“ไอ้น่าน มึงเอาจิ๋มกระป๋องมาให้กูเนี่ยนะ”
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ชุนแปลกใจ เขาจับสิ่งนั้นขึ้นมาพลิก
ดู อ***********งจำลองขนาดเหมาะมือโดยมีเส้นไหมสีดำ
ปกคลุมเพียงบาง ๆ เพื่อหาแหล่งที่มาของแสง
“มันมีแสงออกมาได้ยังไงวะ”
เขาจับหมุนพลิกไปมาตรวจสอบอย่างละเอียด แต่ก็หาแหล่งที่มาของแสงเมื่อครู่ไม่ได้
“มึงเอาอะไรมาให้กูวะไอ้น่าน จิ๋มศักดิ์สิทธิ์เหรอ”
เขาอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ แต่ขณะเดียวกันความกลัวก็เริ่มคลืบคลานเข้ามาเกาะกุมหัวใจ ชุนรีบนำสิ่งที่ตนถืออยู่เดินเอาไปเก็บไว้อีกห้องหนึ่ง
“เอาไว้ที่นี่ดีกว่า อย่าอยู่ห้องเดียวกันเลยเรา”
เขาเก็บของขวัญจากเพื่อนเข้าลิ้นชักของตู้เสื้อผ้าแล้วล็อคกุญแจอย่างแน่นหนา ก่อนเดินกลับห้องด้วยความสงสัยที่ยังกรุ่นอยู่ในใจ ชายหนุ่มรีบอาบน้ำเพื่อไล่ความมึนเมาให้หายไป ท่ามกลางความคาใจเรื่องของแสงประหลาดที่เห็น และเขาคิดว่าเขาเห็นมันจริง ๆไม่ใช่เพราะความเมา
ชุนยังคงดำเนินชีวิตตามครรลองของปุถุชนคนธรรมดาที่ต้องหาเลี้ยงชีพต่อไป เเต่วันนี้เขาทำงานด้วยความกระวนกระวายใจจนน่านนทีเริ่มรับรู้ได้
“มึงเป็นอะไรวะไอ้ชุน เดินไปเดินมาอยู่ได้”
“ไม่รู้ดิ อยู่ดี ๆ กูก็รู้สึกไม่สบายใจ”
ชุนตอบด้วยสีหน้าที่วิตกกังวล
“มึงไม่สบายหรือเปล่า”
“กูปกติ ไม่ได้เป็นอะไร กูว่ากูไปล้างหน้าก่อนดีกว่า”
ชุนเอ่ยพลางเดินหนีไป ทิ้งความคาใจให้กับเพื่อนรักที่นั่งมองดูด้วยความเป็นห่วง
“อ้าว พี่ชุน มาทำงานด้วยเหรอคะ เมื่อเช้าไม่เห็นเจอที่ร้านกาแฟเลย”
เสียงหนึ่งดังขึ้นขณะที่้ชุนกำลังเดินไปห้องน้ำ เขาหยุดเคลื่อนไหวแล้วหันกลับไปมองทางต้นเสียง
“น้องขวัญนั่นเอง นึกว่าใคร”
“นอกจากขวัญแล้วยังมีคนที่พี่ชุนคิดถึงอีกเหรอคะ”
คนพูดหน้าสลดลงไป จนชุนเองสัมผัสได้
“โธ่...ไม่มีหรอก พี่จะมีใครได้อีกล่ะครับ”
ชายหนุ่มเดินยิ้มเข้าไปหาขวัญข้าวจนได้กลิ่นหอมละมุนอยู่ตรงหน้า เขาเผลอสูดดมเข้าปอดราวต้องมนตร์
“อืม...กลิ่นอะไรนะ น้องขวัญเปลี่ยนน้ำหอมใหม่เหรอครับ”
เจ้าตัวคลี่ยิ้ม เอียงหน้ามองใบหน้าคมคร้ามด้วยแววตาทอประกาย
"หอมมั้ยคะ”
คนถูกถามคลี่ยิ้มมุมปาก แววตาเข้มมองอีกฝ่ายอย่างมีความหมาย
“อืม...พี่ต้องดมใกล้ ๆ อีกที จมูกพี่ไม่ค่อยดีน่ะ”
ใบหน้าคมคร้ามโน้มลงต่ำ จนขวัญข้าวสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่ระเรี่ยอยู่ข้างใบหู ความแปลกใหม่ทำให้ขนอ่อนบนกายสาวลุกชัน การกระทำที่ทำให้สาวเจ้าต้องเบี่ยงหน้าหลบ มองไปรอบกายอย่างหวาดระแวง
“พี่ชุน เดี๋ยวมีคนมาเห็นค่ะ”
เหมือนชุนจะนึกอะไรได้ เขาเอ่ยชวนขึ้นมาเสียดื้อ ๆ
“เย็นนี้ว่างมั้ย พี่ว่าเราซื้อของไปทำอะไรกินกันที่บ้านพี่ดีกว่า”
ขวัญข้าวมีท่าทีลังเล ในที่สุดหล่อนก็แพ้แววตาอ้อนวอนชวนให้ใจละลายคู่นั้น ยิ้มหวานคลี่ส่งไปให้ชายหนุ่มตรงหน้า
"โอเคค่ะ"
บรรยากาศยามเย็นของบ้านย่านชานเมืองนั้นเงียบสงบ มีเพียงเสียงนกขับขานผสานเสียงทำวัตรเย็นที่ดังแว่วมา ลมอ่อนพัดโชยมาเป็นระลอก ท้องฟ้าเริ่มถูกปกคลุมด้วยความมืดดำอีกครั้ง
“พี่มีความสุขมากเลยรู้ไหม ที่วันนี้น้องขวัญยอมมากับพี่”
เจ้าของบ้านเอ่ยขึ้นขณะเปิดตู้เย็นเพื่อหาเครื่องดื่มให้แขกคนสำคัญ
“พี่ชุนพูดตรง ๆ แบบนี้ ขวัญก็เขินเป็นเหมือนกันนะคะ”
หล่อนยิ้มเอียงอาย ทว่าเป็นรอยยิ้มที่ตราตรึงอยู่ในหัวใจคนมอง
ชุนเดินถือเครื่องดื่มมาหลายชนิด เพื่อให้อีกฝ่ายได้เลือก ก่อนจะนั่งลงเคียงข้างกันบนโซฟา
“น้องขวัญจะดื่มอะไรดีครับ เลือกได้ตามสบายเลยนะ”
“ขอแบบไม่เมาก็แล้วกันค่ะ”
เลือกแล้วก็เอื้อมมือไปหยิบน้ำส้มมารินใส่แก้วของตนเอง ทุกการเคลื่อนไหวนั้นถูกจับจ้องจากสายตาคู่คม
“น้องขวัญรู้ไหม พี่คิดอะไร”
“เอ่อ...ไม่รู้...ค่ะ...”
ชายหนุ่มขยับเข้ามาใกล้จนขวัญข้าวนั่งเกร็ง หลุบตาหนีแววตาที่จ้องมองอย่างมีความหมาย
“พี่แอบรักน้องขวัญมานานแล้ว และพี่ไม่อยากเก็บมันไว้ในใจอีกต่อไป”
"พี่ชุน..."
หัวใจคนฟังสั่นไหว ขณะที่สองมือแกร่งจับลงบนไหล่บอบบางแล้วรั้งร่างของหล่อนให้หันไปเผชิญหน้า
“พี่รักน้องขวัญนะครับ แล้วน้องขวัญล่ะคิดยังไงกับพี่”
แววตาสองคู่สบประสาน บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบงัน จนต่างสัมผัสได้ถึงเสียงหัวใจของกันและกัน
“แล้วพี่ชุนคิดว่าอย่างไรคะ ที่ขวัญไปไหนมาไหนด้วยโดยที่ไม่เคยปฏิเสธ”
หล่อนไม่ตอบตรง ๆ หากแต่ทำให้คนฟังใจสั่น ชายหนุ่มโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นซ่านของกันและกัน ริมฝีปากร้อนสัมผัสเบา ๆ ลงบนเรียวปากนุ่ม ความหวามแผ่ซ่านไปตามกระแสเลือด เร่งเร้าสัมผัสอ่อนละมุนให้หน่วงหนักตามกระแสปรารถนาแสนเชี่ยวกราก
ขวัญข้าวเผยอปากรับด้วยความเต็มใจเมื่อลิ้นร้อนสอดแทรกเข้ามาสัมผัสเรียวลิ้นนุ่ม มือแกร่งลากไล้ขึ้นสูงขยำเคล้นคลึงสองเต้าอวบใหญ่พร้อมกับนิ้วหัวแม่มือที่บี้คลึงยอดตุ่มใตไปพร้อมกัน สัมผัสที่ทำให้คนถูกกระทำครางเสียงหวานอยู่ในลำคอ
เลือดในกายสาวสูบฉีดไปทั่วร่าง ซึ่งไม่ต่างอะไรกับชุนที่ตอนนี้เขารู้สึกปวดหนึบหนับอยู่กลางกาย ท่อนเอ็นขนาดใหญ่ผงาดขึ้นจนแทบจะระเบิดออกมานอกกางเกง
“อืม...อา...พี่ชุน...ขวัญเสียว”
เสียงหวานครางแผ่ว ริมฝีปากนุ่มเม้มติ่งหูของอีกฝ่ายตามกระแสปรารถนาที่หมุนวน
ชุนโถมกายแกร่งออกแรงดันเบียดให้ร่างอวบนอน
ราบลงบนโซฟาตัวนุ่ม ใบหน้าคมคร้ามเลื่อนลงต่ำมายังเนินอกอวบคู่งาม ที่ยอดปทุมถันดันเสื้อทำงานตัวบางจนเป็นปุ่มปม
ปลายนิ้วแกร่งสะกิดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด และจังหวะนั้นเอง
“ไอ้ชุน...ไอ้ชุน มึงอยู่หรือเปล่า”
เสียงตะโกนเรียกคุ้นหูดังมาจากหน้าบ้าน เหมือนมีมือมืดกระชากร่างของทั้งสองจนตกจากสวรรค์ อารามตกใจทำให้ขวัญข้าวใช้มือดันแผงอกแกร่งให้ผละออกห่าง
“แม่ง...ให้มันได้อย่างนี้สิวะไอ้น่าน”
ชายหนุ่มกัดฟันกรอดด้วยความหัวเสีย ก่อนจะลุกขึ้นจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
“พี่ชุนรีบไปรับหน้าพี่น่านเถอะค่ะ”
ขวัญข้าวเอ่ยออกมาขณะที่กำลังแต่งตัวให้เรียบร้อยเช่นกัน
ชุนเดินออกไปต้อนรับเพื่อนรักด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ก่อนจะพาอีกฝ่ายเข้ามาในบ้านด้วยความไม่เต็มใจ
“อะ อ้าว น้องขวัญก็อยู่ด้วยเหรอครับ”
น่านนทีทำหน้างง เมื่อเห็นว่าใครนั่งดูทีวีอยู่ภายในห้องรับแขก
“เอ่อ...”
หล่อนยิ้มเฝื่อน พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ในขณะที่น่านนทียื่นมือไปตบไหล่เพื่อน
“แล้วมึงก็ไม่บอกกูว่าอยู่กับน้องขวัญ”
“ไอ้เวร แล้วมึงเคยถามกูมั้ยก่อนจะทะเล่อทะล่าโผล่มา”
สองหนุ่มกระซิบกระซาบก่อนจะพากันเดินไปนั่งที่โซฟา
“พี่ชุนมีเพื่อนคุยแล้ว เดี๋ยวขวัญกลับเลยดีกว่าค่ะ กลัวจะถึงห้องดึกน่ะค่ะ”
ขวัญข้าวทำท่าดูนาฬิกาที่ข้อมือ ก่อนจะลุกขึ้นยืน
“อ้าว แล้วน้องขวัญจะกลับยังไงครับ”
“ขวัญโทรบอกให้น้องสาวขับรถมารับ เดี๋ยวก็คงมาถึงค่ะ”
ทั้งสามคุยกันต่ออีกสักพัก ก่อนเสียงโทรศัพท์ของขวัญข้าวจะดังขึ้น หล่อนมองดูจึงรู้ว่าน้องสาวโทรมา หญิงสาวจึงร่ำลาสองหนุ่มเพื่อกลับบ้าน โดยชุนเดินตามออกมาส่งตรงรั้วหน้าบ้าน
“มึงมีอะไรว่ามาไอ้น่าน ไอ้มารคอหอย”
ชุนเอ่ยขึ้นขณะกำลังเดินตรงเข้าไปหาน่านนทีที่นั่งไขว่ห้างอย่างสบายอารมณ์อยู่บนโซฟา
“กูมาเอาของกูคืน ญาติกูกลับไปแล้ว”
ชุนตกใจเล็กน้อยเมื่อทราบถึงเหตุผลในการมาของเพื่อนรัก เพราะสิ่งของที่เพื่อนนำมาฝากไว้นั้นตนได้เปิดซิงไปแล้ว ได้แต่ทำกระอึกกระอัก
“เอ่อ...คือ...คือว่า”
“มึงเป็นอะไรของมึง ไหนตุ๊กตากู”
“กู...กูใช้ไปแล้ว!”
“ไอ้ชุน! ไอ้เวร มึงปู้ยี่ปู้ยำตุ๊กตากูไปแล้วโธ่...โซเฟียของพี่น่าน”
น่านนทีเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สุดแสนเสียดาย เขากอดหมอนทำท่าเหมือนเด็กถูกแย่งของเล่น
“มึงอย่าโกรธกูนะ”
“.....”
“ไอ้น่าน กูขอโทษ วันนั้นกูเมา”
“พอ ๆ มึงไม่ต้องพูด ในเมื่อมึงจับน้องโซเฟียของกูทำเมียไปแล้ว มึงซื้อต่อกูไปเลย”
“ให้กูซื้อต่อ แล้วกูจะซื้อไปทำอะไร”
“ซื้อเอาไว้เฝ้าบ้านให้มึงมั้ง ไอ้นี่ มึงทำอะไรไว้ในทีแรกมึงก็เอาไว้ทำอย่างนั้นแหละ”
ชุนนั่งนิ่งไปสักครู่จึงมองหน้าเพื่อนพร้อมกับเอ่ยถามราคา
“เท่าไหร่”
“สี่หมื่น”
“หะ! สี่หมื่น มึงปล้นกูรึไงไอ้น่าน”
“ไอ้ชุน ตัวนี้รุ่นพรีเมี่ยม กูซื้อมาสีหมื่นห้าถ้ามึงไม่เชื่อมึงไปถามที่ร้านกับกูเลย”
ทั้งคู่คุยตกลงราคากันอยู่สักพักชุนจึงยอมซื้อต่ออย่างจำใจ ก่อนที่น่านนทีจะขอตัวกลับบ้านเพราะฝนเริ่มทำท่าจะตกลงมา
ชุนเดินกลับเข้าไปในห้องนอนหลังจากเดินไปส่งเพื่อนที่หน้าบ้านแล้ว เขาหย่อนกายนั่งลงบนเตียง มองตุ๊กตายางที่นอนนิ่ง เธอดูสวย แต่เป็นความสวยที่ไร้ชีวิตชีวา
ชายหนุ่มเอนกายลงนอน ความคิดเริ่มฟุ้งซ่านไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับขวัญข้าวเมื่อช่วงหัวค่ำ ในขณะที่ฝนเริ่มลงเม็ดเปาะแปะ อากาศเย็นลงจนสัมผัสได้
บรรยากาศที่เป็นใจทำให้อารมณ์ของเขาเริ่มฟุ้งซ่านตามความคิด ท่อนเอ็นกลางลำตัวเริ่มตื่นขึ้นอีกครั้ง ชุนหันมองตุ๊กตายางที่นอนนิ่งอย่างเชื้อเชิญ เขาอดใจไม่ไหว มือแกร่งยื่นไปสัมผัสกับอกอวบที่ตั้งชูชัน ยอดอกสีชมพูระเรื่อชวนให้เขาขยับเข้าไปลิ้มลอง
“ไม่ไหวแล้ว เอาวะ ไหน ๆ ก็จ่ายเงินเป็นของเราแล้วนี่หว่า ต้องใช้ให้คุ้ม”
เขาขยับเข้าไปหาตุ๊กตายาง ก่อนจะจับตุ๊กตาถอดเสื้อผ้าออกจนหมด
“ทำไมวันนี้เหมือนหอมและนิ่มกว่าเดิมวะ...นิ่มเหมือนตัวน้องขวัญเลย”
ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้าไปดอมดมที่เรือนกายขาวผ่อง เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลง
จมูกคมสันดอมดมไปทั่วร่างตุ๊กตาราวต้องมนตร์ ในขณะที่ฝนก็ตกลงมาราวกับฟ้ารั่วผสานเสียงฟ้าคำรามจนน่านอนซุกกายอยู่ใต้ผ้าห่มอุ่น แต่ไม่ใช่ชุนในตอนนี้
บรรยากาศบวกกับกลิ่นหอมรัญจวนใจเร่งเลือดในกายในพลุ่งพล่าน ชายหนุ่มถอดเสื้อผ้าออกจากร่างแล้วโยนไปกองอยู่ข้างเตียง แววตาเข้มหลุบมองท่อนเนื้อแข็งขึงจนเส้นเลือดนูนเด่นที่ยามนี้ชี้ไปทางร่างขาวเนียน เขาขยับจับสองขาตุ๊กตายางให้แยกออก มือข้างถนัดกำรูดท่อนเอ็นเข้าออกช้า ๆ ก่อนออกแรงดันเข้าสู่ร่องสวาทสีสวยแสนเชื้อเชิญ
“ซี๊ดด...โอวว..."
เขาสูดปากราวเคี้ยวพริกแสนเผ็ดร้อน ขณะเอวและสะโพกก็ขยับเข้าออกอย่างใจเย็นไม่เร่งรีบ รู้สึกมีความสุขจนอยากเก็บความรู้สึกนี้เอาไว้นาน ๆ
"ทำไมวันนี้เหมือนตอดรัดแน่น และทั้งอุ่นและนุ่มขึ้นนะ”
ชายหนุ่มเริ่มสัมผัสได้ถึงสิ่งผิดปกติบางอย่าง แต่ด้วยไฟแห่งราคะเขาจึงไม่สนใจสิ่งใดมากไปกว่าการหาความสุขจากเรือนร่างไร้ชีวิต ในขณะที่สะโพกแกร่งก็ขยับเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ และเร็วขึ้น แรงขึ้น ๆ
“ซี๊ดด...อู้วว...ตอดรัดถี่เหมือนของคนจริง ๆ เลย อย่างนี้สิถึงจะคุ้มกับเงินที่้เสียไป”
เสียงครางกระเส่าดังแข่งกับเสียงสายฝนดุดัน ขณะที่สะโพกก็โยกไปตามจังหวะของอารมณ์ร้อนเร่า ด้วยอารมณ์ที่กำลังกระเจิดกระเจิงหลงอยู่ในห้วงสวาท ทำให้เขาไม่ทันสังเกตถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตุ๊กตายางที่นอนนิ่งอยู่ใต้ร่างแกร่ง
สีผิวของตุ๊กตายางเริ่มเปลี่ยนไปเป็นสีเนื้อขาวอมชมพูเหมือนมนุษย์ ดวงตากลมโตกระพริบเบา ๆ แล้วหลับตาพริ้มเคลิ้มฝันไปกับท่วงทำนองแห่งรักที่มาจากกายแกร่ง ปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อห่อเข้าหากันราวกับกำลังข่มอารมณ์หวามที่คนบนร่างมอบให้อย่างเอาเป็นเอาตาย
“ซี๊ดด...อูยย...ตอดรัดดีจัง จะแตกแล้ว”
สะโพกแกร่งกระแทกกระทั้นเร็วขึ้นและแรงขึ้นอย่างไม่ปราณี มือร้อนยื่นไปบีบเคล้นขยำขยี้สองเต้าอวบที่กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะรักร้าย แรงบีบนั้นหน่วงหนัก
ตามแรงอารมณ์ จนชายหนุ่มเริ่มสัมผัสได้ถึงสิ่งที่ผิดปกติบางอย่างก่อนเขาจะกระแทกท่อนเอ็นครั้งสุดท้ายอย่างเต็มแรง พร้อมกับน้ำรักสีขาวขุ่นที่พรั่งพรูออกมา
“ทำไม...มันนิ่มเหมือนของคนจริง ๆ เลยวะ”
หลังอารมณ์หวามทุเลาลง ชายหนุ่มลืมตามองดูตุ๊กตายางที่อยู่ใต้ร่าง แววตาที่สบประสานทำให้เขาต้องอุทานออกมา
“เฮ้ย!”
ชายหนุ่มผงะถอยห่างจนเกือบตกเตียง เขาถอยกรูดไปตั้งหลักอยู่มุมห้องพร้อมหยิกตัวเองไปด้วย เมื่อเห็นเต็มสองตาว่าตุ๊กตายางที่เขาใช้เสพสมเพื่อบำบัดอารมณ์ใคร่ ตอนนี้ได้กลับกลายเป็นหญิงสาวที่มีชีวิต หล่อนผิวขาวผมสีดำขลับยาวสยายจนถึงกลางหลังร่างนั้นนอนหายใจหอบเหนื่อยหลังผ่านสังเวียนรักมาหมาด ๆ ชายหนุ่มมองตรงร่องสวาทสีสวย เขาเห็นน้ำรักของตัวไหลออกมาจนเลอะเปรอะเปื้อนที่นอน
“ทะ...เธอเป็นใคร ละ...แล้วมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!”
ถามทั้งที่รู้ ก็เขาเห็นกับตาว่าหล่อนกลายร่างมาจาก
ตุ๊กตายาง หาใช่ปีนเข้ามาทางหน้าต่างแต่อย่างใด แต่เพราะความตกใจผสานงุนงงทำให้ในหัวเขามึนตึบไปหมด
หล่อนคลี่ยิ้มมาให้ ใบหน้าหล่อนสวยคมราวกับนางฟ้าในเทพนิยาย แววตาคู่สวยมองจ้องมาแต่ไม่ยอมตอบคำถาม จนชุนต้องเรียกสติกลับมา
“ฉะ...ฉันถามว่าเธอเป็นใคร ทำไม... เอ่อ...ทำไมเธอกลายร่างได้ เธอไม่ใช่ผีใช่มั้ย!”
หล่อนขยับแขนเรียวยกขึ้นแล้วชี้มาทางแท่งร้อนตรงกลางกายของชุน จนเขาต้องก้มมองตาม จึงนึกขึ้นมาได้ว่าเขาเองยังเปลือยเปล่าล้อนจ้อนเช่นเดียวกับหล่อน
“สิ่งนั้นปลุกข้าขึ้นมาจากการหลับใหล..."
".....! "
เสียงนั้นช่างไพเราะเสนาะหูยิ่งนัก ชายหนุ่มก้มมองตัวเองอีกครั้ง สลับกับมองดวงหน้าหวานชวนให้ใหลหลง
"นายท่าน...ท่านเป็นคนปลุกข้าขึ้นมา ข้าเป็นหนี้บุญคุณของท่าน”
"นี่มัน...เรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย!"