Chapter 1
ความร้อนแรงของดวงตะวันอ่อนแสงลงในยามเย็น หลายคนเริ่มทยอยกลับสู่ที่พักของตนรวมถึงชุนที่กำลังเดินทางกลับคอนโดด้วยหัวใจที่พองโต
เขากลับมาจัดเตรียมสถานที่เพื่อรอรับคนสำคัญของหัวใจ หลังจากจัดพื้นที่เสร็จได้ไม่นานเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น
“จะใช่น้องขวัญมั้ยนะ”
เขาคิดในใจพร้อมเดินไปเปิดประตู
“จ๊ะเอ๋ไอ้ชุน”
เพียงประตูห้องเปิดออกเสียงทักทายจากน่านนทีก็ถูกส่งออกมาทันที ซึ่งสร้างความผิดหวังให้กับเจ้าของห้องเล็กน้อย
“ทำไม ทำหน้าหงอยเลยนะมึง คงคิดว่ากูเป็นน้องขวัญล่ะสิ”
“มึงนี่ ชอบแกล้งกูอยู่เรื่อย”
ชุนเอ่ยตัดพ้อเพื่อนรัก แต่ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะเดินเข้าห้อง ขวัญข้าวก็เดินมาถึงพอดี
“สุขสันต์วันเกิดนะคะพี่ชุน”
หญิงสาวยิ้มหวาน พร้อมกับส่งกล่องของขวัญให้เจ้าของวันเกิด
“ขอบคุณครับ”
ชายหนุ่มยื่นมือไปรับของขวัญมาถือไว้ แววตาซุกซนจ้องมองใบหน้าที่แต่งแต้มสีสันจนดูสวยสดใสเป็นพิเศษ หล่อนมาในชุดเดรสรัดรูปจนเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างชัดเจน จนชุนอดคิดแบบลามกในหัวไม่ได้
'น้องขวัญ...ไม่ได้ตั้งใจจะยั่วเราใช่มั้ย'
เลือดในกายชายหนุ่มฉีดพล่านไปทั่วร่าง ท่อนเอ็นกลางลำตัวเริ่มตื่นตัว เมื่อความคิดเขาเริ่มเตลิดไปไกล เขาไม่ปฏิเสธความคิดเรื่องบนเตียง เพราะเขาเป็นผู้ชายที่กำลังอยู่ในวัยเจริญพันธุ์ เจอแบบนี้เข้าไปใครไม่มองก็บ้าแล้ว
“พี่ชุน อย่าจ้องอย่างนี้สิ ขวัญเขินนะ”
เหมือนชุนจะเผลอจ้องนานไปหน่อย เสียงใส ๆ ทำให้สติของชายหนุ่มกลับมาอีกครั้ง
"พะ พี่ขอโทษ ก็วันนี้ขวัญสวยเซ็กซี่มากเลยรู้มั้ย เอ่อ...เข้ามาข้างในก่อนสิครับ”
เขากลบเกลื่อนด้วยการคว้ามือนุ่มเอาไว้ก่อนจะออกแรงดึงพาหล่อนเข้ามาในห้อง โดยไร้การขัดขืนจากอีกฝ่าย
แล้วปาร์ตี้ก็เริ่มขึ้นเมื่อได้เวลาเหมาะสม บรรยากาศ
ภายในห้องเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขสนุกสนาน โดยเฉพาะชุน แต่เมื่อเริ่มก็ต้องมีจุดจบ หลังปาร์ตี้จบลงเพื่อนที่มาร่วมงานก็เริ่มทยอยกลับ เพราะพรุ่งนี้ยังคงเป็นวันทำงาน
“พี่ชุน ทุกคนกลับกันไปนานแล้ว ขวัญคิดว่าขวัญควรจะกลับเหมือนกัน”
ขวัญข้าวเอ่ยขณะสายตาเหลือบมองเวลาที่ผนังห้อง
“น้องขวัญรู้ไหมว่าทำไมพี่ถึงขอให้น้องขวัญอยู่ต่อ”
ชุนที่กำลังเมาเอ่ย เขาเดินมานั่งลงข้าง ๆ กับขวัญข้าวบนโซฟา แววตาเข้มฉ่ำเยิ้มเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์
“น้องขวัญรู้ไหม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพี่รู้สึกอย่างไรกับน้องขวัญ”
ไม่มีคำตอบจากฝ่ายตรงข้าม หญิงสาวเอาแต่นั่งนิ่ง
ขณะที่ใบหน้าของหล่อนเริ่มแดงขึ้นเรื่อย ๆ จากถ้อยคำเชิงจีบแบบตรงไปตรงมา
“พี่รักน้องขวัญนะครับ”
เสียงทุ้มนุ่มกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหู การที่หล่อนนั่งนิ่งยิ่งเปิดทางให้ชุนขยับเข้าใกล้ร่างยั่วใจจนแนบชิด ขวัญข้าวไม่เอ่ยคำพูดใด ๆ และไม่มีท่าทีปัดป้อง หล่อนนั่งจ้องมองใบหน้าคมคร้ามด้วยแววตาพราวระยับ ทุกอย่างเงียบงันราวกับว่าเวลาถูกหยุดเอาไว้จากใครบางคน
ชุนยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าเนียนจนสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมละมุนแสนรัญจวนใจ หัวใจของเขาเริ่มเต้นเร็วขึ้นเมื่อริมฝีปากร้อนแตะเข้ากับเรียวปากนุ่มอย่างแผ่วเบา การที่หล่อนไม่ขัดขืนเขาจึงย่ามใจ มือร้อนคว้าหมับลงบนสองเต้าอวบใหญ่แล้วเคล้นคลึงอย่างเมามัน เขารู้สึกว่าหล่อนเองคงมีใจให้เขาเช่นกัน
จากจูบแสนหวานเขาเริ่มเปลี่ยนไปซุกไซร้ตามซอกคอขาวเนียนหอมกรุ่น ขณะที่สองมือแกร่งเริ่มเคล้นคลึงเต้าอวบหนักขึ้น ๆ
“ชุน...ชุน..."
"อือ...อืม..."
"ไอ้ชุน!”
เสียงเรียกดัง ๆ พร้อมอาการเจ็บที่หัวไหล่ทำให้ชุนสะดุ้งจนสุดตัว
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมา เขาทำหน้างงเมื่อเห็นหน้าน่านนทีลอยอยู่ตรงหน้า
“มึงเป็นอะไรวะไอ้ชุน เมาแล้วปล้ำหมอนข้างเหรอมึงน่ะ!”
น่านนทีหัวเราะออกมา เพราะเมื่อก่อนหน้าเขาเห็นเพื่อนรักกอดจูบลูบคลำอยู่กับหมอนข้างบนโซฟา
“กูทำอะไรเหรอ”
ชุนลุกนั่งแล้วเกาหัวแกรก ๆ มองไปรอบ ๆ อย่างงุนงง เมื่อรวบรวมสติได้จึงรู้ว่าที่แท้เขาเมาแล้วหลับไปจนฝันนั่นเอง
“ช่างเถอะ ๆ เพราะกูจะกลับแล้ว”
“แล้วทุกคนล่ะ รวมถึง...”
“น้องขวัญของมึงกลับไปพักใหญ่แล้ว ตั้งแต่ที่มึงหลับไปนั่นแหละ แม่ง รู้ว่าคออ่อนแต่ก็เสือกดื่มซะเยอะ เป็นไงล่ะอดแดก”
“เออ ๆ จะกลับก็กลับไป ไม่ต้องมาว่ากู”
เสียงกึ่งรำคาญมาพร้อมการโบกมือไล่เพื่อน ร่างสูงลุกขึ้นจากโซฟาเพื่อไปหาน้ำดื่มแก้คอแห้ง
“เอ้านี่ ของขวัญจากกูไอ้เพื่อนรัก จงเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉิน”
น่านนทีเอ่ยพร้อมกับโยนกล่องของขวัญลงบนโซฟา ก่อนเขาจะคว้าเสื้อคลุมมาสวม
“อะไรของมึงวะ เก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉิน”
“เอาน่า เดี๋ยวมึงเปิดออกดูก็จะรู้เองแหละ กูกลับก่อนล่ะ”
“เออ ๆ ขอบใจมากเพื่อน กูไม่ส่งนะ”
ชุนเอ่ยพลางยกมือขึ้นอำลาน่านนที ก่อนที่อีกฝ่ายจะเปิดประตูห้องแล้วเดินออกไป ชายหนุ่มเดินกลับมาที่โซฟาอีกครั้งหลังจากดื่มน้ำเสร็จ เขาเลือกที่จะหยิบของขวัญของขวัญข้าวขึ้นมาดูเป็นกล่องแรก ก่อนจะแกะออกด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
ชายหนุ่มคลี่ยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าของขวัญที่หญิงสาวซื้อให้คือนาฬิกาข้อมือ และหล่อนเลือกมาได้ถูกใจเขาพอดี
“ขอบคุณนะน้องขวัญ”
เขากระซิบฝากสายลมไปบอกเจ้าของ และลองสวมนาฬิกาเรือนนั้น ตั้งใจว่าจะใส่ไปให้หล่อนเห็นในวันรุ่งขึ้น
ชายหนุ่มวุ่นวายอยู่กับการแกะกล่องของขวัญจนเกือบหมด จะเหลือก็เพียงแต่ของน่านนทีเท่านั้นที่เขายังไม่ยอมแกะออกมาดู
“ของมึงกูจะยังไม่แกะตอนนี้ เพราะมึงต้องกวนตีนกูแน่ไอ้น่าน”
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นขณะที่สายตาเหลือบมองกล่องของขวัญจากเพื่อนรักที่วางอยู่บนโซฟา ก่อนที่เขาจะเดินไปยังห้องนอน ทิ้งกายลงบนที่นอนหนานุ่มเพื่อพักผ่อนร่างกายที่กำลังอยากหลับเต็มที