อหัสกรกลับมานั่งที่โต๊ะภายในห้องทำงาน สีหน้าติดบึ้งโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ ก็ดีแล้วที่เธอไม่งอแงหรือร้องขอสิ่งใดมากเกินไป มันก็เป็นเรื่องที่ดีกับตัวเธอเองหากยังต้องการทำงานที่นี่ ทว่าในใจเขาก็ยังไม่คิดจะสลัดนึกรักออกไปตอนนี้ หากไม่มีมารดาเข้ามายุ่งเขายังอยากมีความสุขกับเธอต่อไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีกำหนดระยะเวลา ส่วนเรื่องของเขากับพิมพ์พิศาที่มารดาต้องการจับคู่ให้ เขาเองก็ไม่ปฏิเสธที่จะพาหญิงสาวไปรับประทานมื้อเย็นต่อหลังเลิกงานและส่งเธอกลับบ้าน ทว่าพิมพ์พิศาก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาคิดจะทำอะไรแล้วเก็บไว้เงียบ ๆ แบบนึกรัก และที่สำคัญเขาไม่อยากมีปัญหากับมารดา หากว่าพิมพ์พิศาไม่ได้แค่อยากสนุกชั่วคราว
ชายหนุ่มสลัดความคิดเรื่องนึกรักออกจากหัว แต่มันก็ยังกลับมาวนเวียนในทุกนาทีที่เผลอจนไม่เป็นอันทำงาน ตั้งแต่วันนั้นที่ระยองก็ผ่านมาเกือบสามเดือนแล้ว เขายอมรับว่าติดใจเธอ...แต่มันก็แค่ความอยากตามประสาของใหม่สดที่ยังไม่เบื่อก็เท่านั้น...เขาไม่เคยพลาดที่จะไปหาเธอทุกวันหยุด ไม่นับวันธรรมดาที่ทนไม่ไหว หลังจากที่คุณอนรรฆมณีพาพิมพ์พิศาเข้ามาที่บริษัท เขาก็แทบจะไม่ได้ไปหานึกรัก เพราะมารดาจะเจ้ากี้เจ้าการนัดหมายให้เขาพาเด็กฝากของท่านไปกินข้าวบ้าง ดูหนังบ้าง หรือร่วมงานสังคมต่าง ๆ และด้วยความที่ไม่อยากขัดใจผู้เป็นแม่ อีกอย่างเขาก็อยากจะลองศึกษานิสัยใจคอของพิมพ์พิศาดูด้วยว่าจะสามารถทำตามความประสงค์ของคุณอนรรฆมณีเรื่องที่อยากให้เขาแต่งงานกับเธอได้หรือไม่ ชายหนุ่มจึงไม่ได้ปฏิเสธหรือบ่ายเบี่ยงเรื่องที่มารดาจัดการให้
ขณะที่อหัสกรกำลังดินเนอร์มื้ออาหารหรูเคล้าเสียงเพลงคลาสสิกในโรงแรมกับพิมพ์พิศาก็ได้รับข้อความจากนึกรักส่งมาบอกว่า
‘มาหาแอลที่บ้านคืนนี้ได้ไหมคะ มีเรื่องสำคัญจะบอก’
คิ้วหนาของชายหนุ่มขมวดเข้าหากันเล็กน้อยทำให้สาวสวยที่นั่งมองหน้าเขาด้วยแววตาฉ่ำหวานอยู่ฝั่งตรงข้ามสังเกตเห็น เธอจึงถามขึ้น
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ”
ดวงตาคมดูล้ำลึกเหลือบมองใบหน้าสวยเย้ายวนเบื้องหน้า
“เพิร์ลเห็นพี่โซลอ่านข้อความแล้วขมวดคิ้ว”
“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก แค่อ่านข่าวน่ะ”
หญิงสาวคลี่ยิ้มบาง ๆ ไม่เซ้าซี้มากไปกว่านี้ ไม่ว่าสิ่งที่เขาบอกจะเป็นจริงหรือเท็จเธอก็ไม่เห็นต้องสนใจ
ก่อนเที่ยงคืนเล็กน้อยอหัสกรขับรถไปส่งพิมพ์พิศาที่บ้าน จากนั้นจึงขับรถมาที่บ้านของนึกรัก ซึ่งก็เป็นเวลาล่วงเข้าวันใหม่มาราวสี่สิบนาทีแล้ว ทว่าเหมือนเธอยังคงรอคอยเขาอยู่ ทันทีที่ได้ยินเสียงกดออดหญิงสาวก็เดินออกมาเปิดประตู ได้สบตาพบหน้าในรอบหลายวัน
อหัสกรเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่หน้าโซฟาตรงที่เขากับเธอเคยร่วมรักกันอย่างดูดดื่ม อารมณ์ปรารถนาที่เก็บกดไว้ก่อตัวขึ้น แต่เมื่อมองหน้าหญิงสาวที่ค่อนข้างเงียบงันเหมือนมีเรื่องไม่สบายใจจึงถามถึงเรื่องที่เธอส่งข้อความหา
“คุณมีเรื่องอะไรถึงให้ผมมาหาถึงบ้าน”
น้ำเสียงที่เอ่ยถามค่อนข้างเย็นชาในความรู้สึกคนฟัง ดวงตากลมโตแต่ยามนี้หม่นแสงเหลือบขึ้นพร้อมกับมือที่บีบกันแน่น เอ่ยว่า
“แอลมีเรื่องจะบอกพี่โซลค่ะ”
“เรื่องอะไร”
อหัสกรเริ่มจับสัญญาณแปลก ๆ จากสีหน้าแววตาและน้ำเสียงของเธอ นึกรักก้มหน้ารวบรวมความกล้าให้ตัวเองอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจบอกในเรื่องที่เธอควรจะบอกให้เขารู้ว่าตอนนี้เธอกำลัง...
“แอลท้องค่ะ”
สิ้นคำนั้นสีหน้าของชายหนุ่มก็เปลี่ยนเป็นกระด้างขึ้นในทันที เธอคงไม่ต้องถามแล้วว่าเขาดีใจไหมที่จะได้เป็นพ่อคน เห็นจากสีหน้านั้นแล้วนึกรักก็โยนคำถามนั้นทิ้งไปทันที
“พี่โซลไม่พอใจหรือเปล่าคะ”
นึกรักเอ่ยถาม ดวงตาจ้องมองริ้วอารมณ์บนใบหน้าและแววตาอีกฝ่าย ก่อนจะพูดเสียงดังหนักแน่นขึ้นว่า
“แต่ถ้า...จะให้ทำลายเขา แอลไม่ทำนะคะ”
อหัสกรชะงักเมื่อได้ยินประโยคนี้จากเธอ สูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงราบเรียบออกมา
“ถ้าจะเอาไว้ต้องดูว่าจะทำยังไง...ว่าแต่แน่ใจแล้วใช่ไหมว่าท้อง”
เขาหันมามองสีหน้าเข้ม ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ นึกรักจึงก้มหยิบที่ตรวจครรภ์ที่วางอยู่บนโต๊ะซึ่งเขาไม่ได้สังเกตในตอนแรกขึ้นมาให้ดูเป็นเครื่องยืนยัน
“ใช้ที่ตรวจสามอัน ผลตรงกัน คิดว่าแม่นยำ”
ยิ่งเธอย้ำ สีหน้าของอหัสกรยิ่งดูแย่ลง
“ผมไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น”
น้ำเสียงเยียบเย็นสะท้านเข้าไปในหัวใจคนฟัง อีกทั้งแววตาที่ดูเฉยชาต่อเธอและสิ่งที่เธอเพิ่งจะบอกเขาไปด้วย นึกรักเจ็บแปลบในอกรู้อยู่แล้วว่าเขาไม่ต้องการ
“แล้วคุณจะให้แอลทำยังไงต่อคะ แต่อย่างที่บอก แอลไม่ทำลายเขา”
“ขอเวลาผมคิดก่อนว่าจะทำยังไง”
เสียงระบายลมหายใจออกหนักพอ ๆ กับความรู้สึกที่หนักอึ้งของเขาในตอนนี้ ชายหนุ่มมองหน้าเธอเป็นคำถาม ก่อนจะถามออกไปว่า
“คุณไม่เคยป้องกันเลยใช่ไหม”
นึกรักที่จ้องมองเขาอยู่แล้ว หลบสายตาไปทางอื่น กลืนก้อนแข็ง ๆ ฝืดเฝื่อนลงลำคอก่อนจะหันมาบอกว่า
“ไม่เคยค่ะ เพราะพะ...คุณหลั่งข้างนอกทุกครั้ง แอลไม่เคยคิดจะท้องเพื่อจับคุณ แต่ที่บอกคุณเพราะคิดว่าบางทีคุณอาจจะต้องการเขา แต่ตอนนี้แอลเข้าใจแล้ว”
นึกรักเปลี่ยนสรรพนามเรียกเขา ปิดเปลือกตาลงอย่างเชื่องช้า ความผิดหวังเสียใจอย่างรุนแรงกำลังเสียดแทงอยู่ในอก
อหัสกรไม่ใช่คนใจร้ายขนาดจะให้เธอไปทำลายเด็กในครรภ์ แต่เขาไม่ได้เตรียมใจไว้ว่าจะถึงขั้นพลั้งพลาดมีลูกกับเธอขึ้นมาจริง ๆ เขาพลาดเองที่ไม่ได้ป้องกันให้รัดกุม และเขาก็ไม่เคยบอกเธอให้ป้องกันอีกทางด้วย หลังจากนิ่งไปครู่ใหญ่เขาจึงตัดสินใจบอกกับเธอไปก่อนว่า
“โอเค ผมจะรับผิดชอบ แต่คุณยังไม่ควรเปิดเผยเรื่องของเราให้ใครรู้ เพราะ คนจะมองคุณไม่ดี ถ้าตอนนี้คุณไปทำงานได้ก็ทำงานไปก่อน ถ้าท้องโตค่อยพักงานไปอยู่บ้านผมจะดูแลค่าใช้จ่ายเอง หรือคุณว่าไง จะออกไปเลยหรือจะทำงานต่ออีกสักพักก่อน”
“แอลยังอยากทำงานค่ะ”
“ตามใจคุณ”
“เอ่อ...ถ้าคลอดแล้ว จะยังไงต่อคะ”
“ก็บอกแล้วไงว่าค่อยคิด คุณจะมารบเร้าอะไรตอนนี้”
นึกรักเงียบเมื่อน้ำเสียงเขากระด้างและดังขึ้นอีกระดับ สายตาที่จ้องมองเธอตอนนี้เหมือนว่าเธอเป็นตัวสร้างปัญหา หญิงสาวก้มหน้ากลืนก้อนสะอื้น กลั้นใจถามอีกว่า
“คุณกับคุณเพิร์ลกำลังคบกันอยู่ใช่ไหมคะ”
ดวงตาคมตวัดกลับมามองคนที่กำลังจ้องหน้าเขาอย่างรอคอยคำตอบ
“ไม่ใช่เรื่องของคุณที่ต้องรู้ ตอนนี้อย่าเพิ่งทำอะไร พรุ่งนี้วันหยุดผมจะมารับไปโรงพยาบาล”
“ค่ะ”
เมื่อเขากลับไปแล้วหญิงสาวก็ยังคงนั่งซึมอยู่ตรงโซฟาที่เดิม เหมือนกับช่วงเย็นที่เธอรู้ผลตรวจการตั้งครรภ์ของตัวเอง หญิงสาวที่อายุยี่สิบสามย่างเข้ายี่สิบสี่ปีกำลังตั้งท้องโดยที่ไม่อาจบอกได้ว่าพ่อของลูกเธอจะให้ทำอย่างไรต่อ จะโทษเขาทั้งหมดคงไม่ได้ เขาไม่ได้บังคับเธอ ไม่รู้อะไรทำให้เธอใจอ่อนพยักหน้าเมื่อเขาขอ...เป็นเพราะเขาบอกว่าจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง หรือจริง ๆ ผิดที่เธอมีใจให้กับเขาและง่ายเอง ทั้งที่เขาก็แสดงท่าทีรังเกียจเธอตั้งแต่แรก แล้วผู้หญิงที่ไม่มีอะไรเลยอย่างเธอจะหวังอะไรจากเขาอีก
นึกรักคิดไปถึงบิดาที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุตั้งแต่ตอนที่เธอยังเรียนอยู่มัธยมต้น โชคดีในความโชคร้ายที่คนกระทำผิดรับผิดชอบการกระทำ เธอได้รับการอุปถัมภ์ดูแลทั้งในเรื่องที่พักอาศัย เงินค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน รวมถึงการศึกษาจนกระทั่งให้เธอเข้ามาทำงานในบริษัทใหญ่โต แล้วตอนนี้เธอก็ทำให้สิ่งดี ๆ ที่ผู้มีพระคุณมอบให้ต้องสูญเปล่าเพราะความไม่ยั้งคิดของเธอเอง