วันต่อมานึกรักแต่งตัวรอให้ชายหนุ่มพาไปโรงพยาบาลตั้งแต่เช้าเพราะเขาไม่ได้ระบุเวลาว่าจะพาเธอไปตอนไหนหญิงสาวจึงเผื่อเวลาไว้ มือเรียวบางยกขึ้นมาลูบหน้าท้องที่ยังแบนราบของตัวเองเป็นบางครั้งยามเผลอ ดวงตามองเหม่อไปที่ประตูหน้าบ้าน เธอไม่ได้ส่งข้อความไปถาม เพราะเขาเคยบอกไว้ว่าห้ามโทร. หรือส่งข้อความหาเขาหากไม่จำเป็นจริง ๆ และเท่าที่ผ่านมาเธอก็ไม่เคยโทรศัพท์หรือส่งข้อความหาเขา ยกเว้นตอนที่เขาโอนเงินมาให้และเมื่อวานนี้ที่เธอส่งข้อความขอให้เขามาหาที่บ้านเพราะมีเรื่องสำคัญจะบอก ตั้งแต่ที่มีความสัมพันธ์กันมาเขาจะเป็นฝ่ายที่ส่งข้อความมาทางแอปพลิเคชันสนทนาซึ่งก็ไม่บ่อยนัก
ทว่าช่วงเช้าผ่านไปจนถึงเที่ยงเขาก็ยังไม่มา หญิงสาวนั่งรอจนกระทั่งบ่ายโมงเศษคนที่บอกว่าจะมารับไปโรงพยาบาลก็ขับรถมาจอดหน้าบ้าน อหัสกรไม่ได้ลงจากรถ นึกรักที่เตรียมตัวพร้อมอยู่แล้วเมื่อเห็นเขามาก็รีบหยิบกระเป๋าก่อนจะก้าวเร็ว ๆ ออกมาจากบ้านเพราะไม่อยากให้เขารอนาน จังหวะที่เดินมาเปิดประตูเท้าของเธอก็สะดุดเข้ากับแผ่นกระเบื้องที่แตกเป็นหลุมบริเวณหน้าบ้านทำให้เสียการทรงตัวเล็กน้อย เธอร้องออกมาด้วยความตกใจ คนที่นั่งอยู่ในรถหันไปเห็นเหตุการณ์นั้นเข้าพอดีก็พลอยตกใจไปด้วย
เมื่อหญิงสาวก้าวขึ้นมานั่งบนรถแล้วเขาจึงหันมาพูดเสียงกระด้าง
“เดินให้มันระวังหน่อยไหม เกิดอะไรขึ้นก็เป็นเรื่องอีก อยากให้คนอื่นรู้หรือไง”
นึกรักนิ่วหน้าหันมองคนที่จ้องหน้าเธอด้วยสายตาตำหนิ
“แอลแค่เดินสะดุด ทำไมถึงไปเกี่ยวกับเรื่องที่อยากให้คนอื่นรู้หรือไม่รู้ด้วยล่ะคะ”
“ถ้ามันเป็นแค่นี้ก็ไม่เกี่ยวหรอก แต่ถ้าเป็นมากกว่านี้ถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาลพ่อผมก็ต้องรู้ คุณติดต่อกับพ่อผมอยู่ตลอดไม่ใช่หรือไง”
อ้อ ที่แท้เขาก็คิดแบบนี้ กลัวคนอื่นรู้จะแย่แล้วสินะ
“ก็พูดคุยบ้างค่ะ แต่แอลยังไม่ได้บอกเรื่องระหว่างเราให้ท่านทราบ เพราะคุณบอกว่าจะเป็นคนบอกท่านเอง แต่...ถ้าท้องแอลโตขึ้นยังไงก็ปิดท่านไม่ได้”
“ก็อย่าเพิ่งให้รู้ไง ถ้าคุณบอกพ่อผมเรื่องท้องก่อนที่ผมจะอนุญาต คุณก็ให้พ่อผมจัดการเรื่องทุกอย่างแล้วผมจะไม่ยุ่งอะไรด้วยเลย จะเอาแบบนี้หรือเปล่าล่ะ ยังไงคุณก็เป็นเด็กของพ่อผมอยู่แล้วนี่”
นึกรักนั่งเงียบ เข้าใจดีแล้วว่าตอนนี้เธอกับลูกเหมือนของแสลงที่ทิ่มตำในอกของเขาก่อนจะเอ่ย
“ถ้าคุณโซลไม่ต้องการขนาดนั้น แอลจะดูแลลูกของแอลเองค่ะ”
ชายหนุ่มหัวเราะออกมากึ่งสมเพชกึ่งเยาะเมื่อได้ฟังเธอพูดประโยคนี้
“คุณมีรายได้จากทางอื่นนอกจากเงินเดือนหรือไง ถ้าออกจากงานจะเอาปัญหาที่ไหนมาเลี้ยงลูก หรือว่าจะแบมือรอรับเงินจากพ่อผมเหมือนที่เคย ผมคิดผิดไปเอง คิดว่าคุณคงจะรู้จักคิด ตัวเองอายุยังน้อยยังไม่สมควรปล่อยให้ท้อง แต่คุณก็ปล่อย จะบอกว่าไม่รู้เรื่องป้องกันก็ไม่น่าใช่ ไม่ใช่เด็กไม่กี่ขวบ ปกติก็ออกจะหัวไว”
“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ได้ปล่อยให้ท้อง ถ้าคุณคิดจะให้ฉันเป็นแค่นางบำเรอแล้วกลัวว่าฉันจะปล่อยให้ท้องเพื่อจับคุณ คุณก็ควรจะป้องกันตัวเองให้ดี ไม่ใช่หวังให้ฉันรู้จักคิดแล้วป้องกันตัวเอง”
นึกรักหันกลับมาย้อนเสียงดัง เปลี่ยนสรรพนามแทนตัว น้ำตาเอ่อคลอจวนจะไหลด้วยความอัดอั้นแต่มือก็รีบเช็ดมันออก กลั้นสะอื้นไว้ อหัสกรหน้าตึงเพราะถูกหญิงสาวที่ไม่เคยมีปากเสียงย้อน แม้มันจะจริงอย่างที่เธอพูดเรื่องที่เขาไม่ได้ป้องกันตัวเองให้ดี ที่จริงแล้วกับคนอื่นเขาไม่เคยละเลยเรื่องนี้ แต่กับเธอเขากลับไม่ได้สวมถุงยางทุกครั้ง ในความคิดของเขาหากเธอไม่ได้ตั้งใจให้เขาพลาดเธอก็ควรจะหาทางป้องกันด้วย ถึงจะไม่พอใจแต่ชายหนุ่มไม่อยากให้โต้เถียงกันไปจนถึงโรงพยาบาลจึงเลือกที่จะเงียบ
อหัสกรพานึกรักมาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เขาไม่ได้เข้าไปด้านในเพื่อดำเนินการเรื่องต่าง ๆ พร้อมกับเธอ โดยบอกว่าที่นี่เป็นโรงพยาบาลเอกชนการให้บริการลูกค้านั้นดีอยู่แล้วไม่ต้องกังวลและยื่นบัตรเครดิตให้เธอหนึ่งใบสำหรับเป็นค่าใช้จ่าย เมื่อเรียบร้อยแล้วให้มาเจอกันที่รถ
หญิงสาวรับฟังคำสั่งนั้นเงียบ ๆ รับบัตรที่มีมูลค่าเท่าใดไม่ทราบมาไว้กับตัวก่อนจะเปิดประตูลงจากรถไป คล้อยหลังเธอชายหนุ่มก็ลงจากรถและเดินไปนั่งรอในร้านกาแฟชื่อดังที่ตั้งอยู่ในโรงพยาบาล
นึกรักเข้ามาในแผนกสูตินรีเวช พยาบาลเข้ามาให้การต้อนรับเธอเป็นอย่างดีทุกขั้นตอน เธอรับการตรวจการตั้งครรภ์อีกครั้งและผลมันก็ออกมายืนยันสิ่งที่เธอตรวจด้วยตัวเองมาก่อนหน้านี้แล้ว คุณหมอพูดคุยให้คำแนะนำเรื่องการดูแลตนเองเบื้องต้นพร้อมกับให้ยาบำรุงครรภ์และแนะนำเรื่องการฝากครรภ์ที่นี่ ใช้เวลาทั้งหมดเกือบสามชั่วโมง ที่จริงการฝากครรภ์ต้องใช้บัตรประชาชนของผู้เป็นพ่อด้วย แต่นึกรักแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าเธอมาคนเดียวเพราะพ่อของลูกไม่สะดวกและอยากจะทำเรื่องฝากครรภ์เลยซึ่งทางโรงพยาบาลก็ยินดีจัดการให้
หญิงสาวเดินกลับมาที่ช่องจอดรถที่ชายหนุ่มจอดไว้ตอนขามาแต่กลับไม่ใช่รถคันที่เธอนั่งมา ขณะกำลังจะยกโทรศัพท์เพื่อส่งข้อความ อหัสกรก็โทร. เข้ามา
“ฮัลโหล ตรวจเสร็จแล้วค่ะ ฝากครรภ์แล้วด้วยคุณอยู่ไหนคะ”
อหัสกรได้ยินนึกรักบอกแบบนี้แสดงว่าเธอคงเดินไปหาเขาที่รถแล้วแต่ไม่เจอ
“คุณ...กลับแท็กซี่ได้เลยนะ พอดีผมมีธุระด่วน”
ยังไม่ทันที่นึกรักจะได้พูดอะไร ก็ได้ยินเสียงหวานแทรกเข้ามาในสาย
“กระเป๋าใบนี้สวยจังเลยค่ะพี่โซล”
แม้ไม่เห็นหน้า ได้ยินเพียงเสียงนึกรักก็คิดออกว่าเจ้าของเสียงหวานออดอ้อนนั้นเป็นใครก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะเอ่ยสรรพนามแทนตัวเองออกมาเพื่อย้ำว่าที่เธอคิดนั้นถูกต้องแล้ว
“พี่โซลว่าใบนี้เหมาะกับเพิร์ลไหมคะ”
นึกรักถือโทรศัพท์แนบหูนิ่งค้าง กระทั่งปลายสายถูกตัดไปเองจึงค่อยลดมือลง กำโทรศัพท์แน่น บอกตัวเองให้เข้มแข็ง ถึงเธอจะเศร้าเสียใจหรือเจ็บปวดเพียงใดเขาก็ไม่ได้มารับรู้หรือใส่ใจ เธอควรจะกำหนดจดจำสถานะของตัวเองให้ดี หญิงสาวยืนสูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ อยู่ครู่หนึ่งจึงเดินไปเรียกแท็กซี่กลับบ้าน