หลังจากวันที่อหัสกรพานึกรักออกไปพบมิสเตอร์ฉีและภรรยาเขาก็เริ่มพูดจาดีกับเธอมากขึ้น หญิงสาวได้ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเลขาของรองประธานบริษัท ไม่ใช่เด็กเดินเอกสารหรือพิมพ์งานตามที่จิตรีมอบหมาย และหลายครั้งที่ต้องออกไปพบลูกค้าหรือไปประชุมข้างนอกพร้อมกับเขา
“คุณแอล เข้ามาพบผมด้วย” เสียงที่ช่วงนี้ได้ยินจนเจนหูดังมาตามสายโทรศัพท์ภายใน เขาไม่เรียกชื่อจริงของเธอไม่ใช่เพื่อแสดงความเป็นกันเองกับลูกน้องแต่เพราะ ‘ไม่สะดวกใจ’
นึกรักในชุดมิดชิดเรียบร้อยเข้ามายืนกุมมืออยู่หน้าโต๊ะทำงานของเขารอฟังคำสั่ง มือหนาตวัดลายเซ็นลงบนเอกสารแผ่นสุดท้ายก่อนพลิกแฟ้มปิดแล้วดันออกมาด้านหน้าให้หญิงสาวรับไปดำเนินการต่อ ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าสวยที่เขาเริ่มรู้สึกมีอารมณ์กรุ่น ๆ อยู่ข้างใน เอ่ยว่า
“พรุ่งนี้เราจะออกไปดูโรงงานผลิตชิ้นส่วนที่ระยอง หกโมงเช้าผมจะไปรับคุณที่บ้าน” บริษัทเตชะกิจของครอบครัวเตชะบดีทั้งผลิต นำเข้าและส่งออกชิ้นส่วนรวมถึงอะไหล่รถยนต์ มีโรงงานผลิตตั้งอยู่ที่จังหวัดระยอง
ดวงตาคู่สวยสบมองตาคมดุหลังจากที่รวบแฟ้มเอกสารมากอดไว้
“ไปเช้าเย็นกลับหรือค้างคืนคะ” นึกรักเริ่มเรียนรู้วิธีการทำงาน การถามรายละเอียดเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อการเตรียมความพร้อม
“กลับเลยไม่ค้าง”
“มีเอกสารพิเศษที่ต้องเตรียมไปสำหรับโรงงานที่ระยองมั้ยคะ”
“ไม่มี...อ้อ ผมจะขับรถไปเอง”
“ค่ะ”
คืนนี้เธอต้องศึกษาเส้นทาง จุดพักรถ ร้านอาหาร ข้อมูลของโรงงาน และเรื่องปลีกย่อยสำหรับการไปดูโรงงาน ร่างบางเตรียมจะหมุนตัวกลับออกไป เสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้นทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวถึงกับหยุดชะงักลง
“รอกลับพร้อมกัน เดี๋ยวไปส่ง”
นึกรักผินหน้ากลับมามอง นัยน์ตามีหลากหลายความรู้สึกซ่อนอยู่ หลายครั้งแล้วที่เขาขับรถไปส่งเธอที่บ้าน
คนถูกมองเลิกคิ้วขึ้น
“ช่วงนี้ฝนตกเกือบทุกวัน อีกสิบนาทีจะเลิกงานนี่ฝนก็ทำท่าจะตกอีกแล้ว คุณจะนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปสถานีรถไฟฟ้าหรือ อีกอย่างพรุ่งนี้ต้องเดินทางแต่เช้า คุณป่วยขึ้นมาจะยุ่ง”
อาการบึนปากเล็กน้อยกับแววตาที่แฝงความดื้อรั้นอยู่ภายในทำให้อหัสกรเกิดความรู้สึกแปลก ๆ
เธอดูน่ารัก
วันรุ่งขึ้น อหัสกรไปรับนึกรักตรงตามเวลา แม้จะใช้เวลาประมาณเกือบสามชั่วโมงในการเดินทางแต่เขาก็เลือกที่จะขับเองมากกว่าจะนั่งไขว่ห้างปัดไอแพดดูงานอยู่เบาะหลัง
ทั้งคู่ใช้เวลาที่โรงงานจนกระทั่งสี่โมงเย็นจึงเสร็จเรียบร้อย ฟ้ามืดครึ้มฝนเริ่มตั้งเค้าราวกับรู้เวลาเลิกงาน ผู้จัดการโรงงานที่เดินออกมาส่งอหัสกรกับเลขาสาวจึงบอกด้วยความเป็นห่วงว่า
“ฝนตั้งเค้าแล้ว ดูเมฆแล้วผมเกรงว่าจะตกหนัก พรุ่งนี้ก็เป็นวันเสาร์ ถ้ายังไงแวะค้างสักคืนก่อนแล้วค่อยกลับก็น่าจะดีนะครับเพื่อความปลอดภัย”
“ลองดูก่อนครับ ถ้าตกหนักมากไปไม่ไหวจริง ๆ ค่อยว่ากันอีกที วันนี้ขอบคุณคุณวิษณุมากนะครับ”
อหัสกรกล่าวตอบผู้จัดการโรงงาน สีหน้าไม่ยิ้มไม่บึ้งตามบุคลิก นึกรักพนมมือไหว้และยิ้มให้ผู้จัดการหนุ่มใหญ่วัยกลางสี่สิบตามประสาคนอัธยาศัยดี ส่งผลให้คนที่พาเธอมาจับจ้องมองรอยยิ้มนั้นอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก
ขับรถออกมาจากโรงงานได้ไม่ถึงสิบนาทีฝนก็ลงเม็ดและหนาขึ้นเรื่อย ๆ คนที่นั่งหลังพวงมาลัยก็พูดขึ้นมาว่า
“ตอนกลางวันกินไปนิดเดียว”
หญิงสาวหันไปมองคนที่พูดลอย ๆ ออกมา สมองประมวลผลว่าเขากำลังจะบอกอะไร ก่อนจะถามกลับ
“ท่านรองหิวหรือคะ”
“อืม แล้วผมก็เหนื่อยด้วย ฝนดูท่าจะตกหนัก ทัศนวิสัยแบบนี้ขับรถอันตราย ไม่อยากขับรถฝ่าฝน ผมว่าน่าจะหาโรงแรมพักสักคืนพรุ่งนี้ค่อยกลับ”
นึกรักเงียบไป ถ้าให้พูดตามจริงคือเธอไม่สะดวก แต่ถ้าเป็นความต้องการของเขามีหรือที่เธอจะขัดใจได้
“แล้วแต่ท่านรองค่ะ”
คนฟังยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยจนแทบจะมองไม่ออกว่าเขากำลังยิ้ม การจะค้างแรมหนึ่งหรือสองคืนโดยไม่ได้วางแผนล่วงหน้ามาก่อนนั้นไม่เป็นปัญหาสำหรับอหัสกรเพราะเขามีกระเป๋าเสื้อผ้าสำรองและของใช้ส่วนตัวอยู่ในรถเสมอ แต่สำหรับนึกรักนั้นไม่ใช่ เธอจึงขอแวะซื้อของใช้จำเป็นที่ร้านสะดวกซื้อก่อนจะถึงโรงแรม
ไม่กี่นาทีต่อมารถคันหรูก็วิ่งเข้ามาจอดในโรงแรมระดับห้าดาวซึ่งตั้งอยู่ติดกับชายหาด อหัสกรเปิดห้องพักสองห้องแบบ Connecting Room ซึ่งมีประตูเชื่อมต่อกันภายในสามารถเปิดเข้าหากัน หญิงสาวรู้สึกไม่สบายใจนัก แต่เมื่อมองดูท่าทีที่ไม่ได้สนใจอะไรของเจ้านายเธอก็พยายามเก็บความรู้สึกที่เกิดขึ้น
ทำงานกับอหัสกรมาเกือบสามเดือนนึกรักเห็นอะไรหลายอย่างในตัวเจ้านายยิ้มยากคนนี้ นอกจากหน้าตาที่มีเครื่องหน้าทุกส่วนรับกันแบบที่เรียกว่าลูกรักของพระเจ้าแล้ว รูปร่างของเขายังผึ่งผายน่ามองด้วยส่วนสูงเกินหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซ็นติเมตรไม่มีไขมันส่วนเกินอย่างคนออกกำลังกายสม่ำเสมอ บุคลิกโดดเด่น และที่สำคัญเป็นผู้บริหารหนุ่มที่เก่งอย่างหาตัวจับยาก ไม่น่าแปลกใจที่บรรดาสาว ๆ ลูกหลานไฮโซรวมถึงบรรดาดารานางแบบจะพยายามเข้าหา แต่เขาก็ไม่มีชื่อเสียเรื่องผู้หญิง แม้แต่กับไคร่านางแบบสาวลูกครึ่งตัวท็อปที่เขาเคยพาไปดินเนอร์และเจอกับเธอ สื่อสังคมก็ไม่ได้จับตามองนักเพราะตั้งแต่วันนั้นก็เหมือนเขาจะไม่ได้นัดเจอกับนางแบบสุดฮอตคนนั้นอีก รอยยิ้มที่เขาเผลอยิ้มออกมาให้เห็นในบางครั้งหัวใจของนึกรักก็เหมือนจะยิ้มตาม เขาเป็นผู้ชายที่ยิ้มได้มีเสน่ห์แต่ไม่ค่อยได้เห็นนัก สิ่งที่เห็นเป็นปกติที่สุดคือใบหน้าเรียบเฉย
เมื่อแยกกันเก็บของเสร็จเรียบร้อยทั้งคู่ก็ลงมารับประทานอาหารที่ห้องอาหารของโรงแรม แม้จะเป็นหน้ามรสุมก็ยังมีแขกที่ชื่นชอบบรรยากาศหม่น ๆ เข้าพักในโรงแรมไม่ขาดสายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ชื่อเสียงและราคาห้องพักช่วยคัดกรองแขกแล้วส่วนหนึ่ง
ขณะนั่งรับประทานอาหารอหัสกรก็สั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เขาพยักหน้าเป็นเชิงถามว่าเธอจะดื่มด้วยไหม นึกรักปฏิเสธเพราะเธอไม่ค่อยถูกกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์นัก ถ้าดื่มเนื้อตัวจะแดง ซึ่งอหัสกรก็ไม่ได้คะยั้นคะยอ บรรยากาศในห้องอาหารรื่นรมย์ด้วยเสียงเพลงเบา ๆ หลังอิ่มอาหารอหัสกรตั้งใจจะนั่งดื่มต่ออีกเล็กน้อยก่อนกลับขึ้นห้องพัก และบังเอิญสายตาเหลือบไปเห็นกลุ่มคนที่กำลังเดินเข้ามาในห้องอาหารซึ่งสายตาของหนึ่งในนั้นปะทะเข้ากับเขาพอดี
ไคร่าส่งยิ้มหวานและเดินตรงมายังโต๊ะที่อหัสกรนั่งอยู่
“คุณโซล บังเอิญจังเลยนะคะที่เจอกันที่นี่ ไคร่ามาทำงานพอดีเลยค่ะ”
พูดจบนางแบบสาวสุดฮอตในขณะนี้ก็ชายตามองคนที่นั่งร่วมโต๊ะกับเขา หญิงสาวถึงกับนิ่วหน้าครุ่นคิดบางอย่าง ก่อนจะเหยียดริมฝีปากเป็นรอยยิ้มออกมาแล้วพูดขึ้นว่า
“เอ๊ะ นี่คุณพนักงานเสิร์ฟที่ห้องอาหารบนโรงแรมวันนั้นนี่ ไม่นึกเลยว่าจะมาจะนั่งกับคุณโซลได้ รับงานทานข้าวกับแขกด้วยหรือคะ”
นึกรักแอบถอนหายใจ เธอเข้าใจความหมายที่นางแบบหุ่นสวย เนื้อ นม ไข่ พูดถึงเธอ แต่หญิงสาวไม่อยากต่อความยาว ผู้หญิงคนนี้ดูจะไม่ค่อยเป็นมิตรกับเธอนักและเหมือนจ้องจะหาเรื่อง เธอไม่อยากจะมีปัญหาจึงเลือกที่จะเงียบ เป็นอหัสกรที่พูดขึ้นแทน
“เธอเป็นผู้ช่วยเลขาของผม ที่เห็นวันนั้นเธอแค่ไปทำงานพิเศษ”
ไคร่าหัวเราะอย่างมีจริต “หรือคะ? ไม่ยักรู้ว่าระดับผู้ช่วยเลขารองประธานบริษัทยังต้องขวนขวายทำงานพิเศษ”
อหัสกรนิ่วหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ
นางแบบสาวแสยะยิ้ม เหยียดสายตามองหญิงสาวที่นั่งเบือนหน้าไปทางอื่นทำเป็นไม่สนใจด้วยความหมั่นไส้ สัมผัสของผู้หญิงบอกเธอว่าสองคนนี้ไม่ได้เป็นแค่เจ้านายกับเลขาอย่างที่เขาบอกแน่ มันต้องมีอะไรลึกซึ้งไปกว่านั้น แต่ผู้หญิงหน้าตาบ้าน ๆ ดาษดื่นตามท้องถนนกับเธอที่กำลังเป็นที่นิยมมีคนรักคนเอ็นดูทั่วประเทศ นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่คำนึงถึงผลประโยชน์มาเป็นอันดับแรกอย่างเขาจะเลือกใครมาเสริมบารมี ถ้าเป็นอย่างที่เธอคิดจริง อย่างมาก เลขาหน้าซื่อคนนี้ก็คงถูกกินเงียบ ๆ ไม่มีทางที่จะได้ออกหน้าออกตา
“คุณโซลกำลังดื่มพอดีเลย งั้นไคร่าขอนั่งดื่มด้วยได้ไหมคะ”
อหัสกรเหลือบตามองไคร่าก่อนตวัดสายตามองนึกรักที่หันมามองเขาคล้ายกำลังรอคำสั่ง ก่อนชายหนุ่มจะเอ่ย
“คุณขึ้นไปพักได้เลย ผมจะนั่งดื่มต่อ”
“ค่ะ ท่านรอง”
นึกรักรับคำอย่างโล่งอก เธอเองก็ไม่อยากนั่งอยู่ท่ามกลางหญิงชายสองคนนี้เท่าไร
เกือบหนึ่งชั่วโมงต่อมานึกรักที่อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยกำลังนอนคว่ำหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงนอนนุ่มก็ได้ยินเสียงเคาะประตูบานที่เชื่อมต่อกับห้องของอหัสกร ร่างบางในชุดคลุมอาบน้ำของโรงแรมเพราะส่งชุดที่ใส่วันนี้ไปซักเพื่อเตรียมใส่กลับในวันพรุ่งนี้ถึงกับกระเด้งขึ้นมานั่งนิ่งไม่ขยับอยู่บนเตียง ก่อนจะได้ยินเสียงเคาะประตูรอบที่สอง จึงตัดสินใจก้าวลงจากเตียงเดินมาหยุดที่หน้าประตู ค่อย ๆ เอื้อมมือไปเปิด อหัสกรยืนอยู่ตรงหน้า มองเธอด้วยแววตาประหลาดดูล้ำลึก
“ผมขอเข้าไปหน่อย”
เขาฉวยจังหวะที่หญิงสาวยืนมองเขาเงียบ ๆ ก้าวเข้ามาในห้องของเธอและเดินไปนั่งลงบนโซฟาปลายเตียง ก้มหน้าซบกับฝ่ามือใหญ่และลูบหน้าตัวเองหนัก ๆ พยายามข่มอาการร้อนรุ่มที่กำลังเพิ่มระดับขึ้นเรื่อย ๆ
“ผมขอผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นหน่อย”
นึกรักที่ยืนอึ้ง แขนข้างหนึ่งยกขึ้นปิดช่วงอกส่วนอีกข้างกอดส่วนของลำตัวไว้เพราะใต้เสื้อคลุมอาบน้ำนั้นไร้อาภรณ์ห่อหุ้มทั้งบนและล่าง เมื่อเขาต้องการเธอก็รีบไปนำผ้าขนหนูชุบน้ำมาส่งให้
“นี่ค่ะ ท่านรองต้องการอะไรอีกหรือเปล่าคะ”
เสียงถามค่อนข้างกังวลเพราะท่าทางของเขาดูแปลก ๆ อหัสกรที่เริ่มรุ่มร้อนขึ้นเรื่อย ๆ แทบจะควบคุมความต้องการของตัวเองไม่ได้เงยหน้าจากผ้าชุบน้ำเย็นจ้องมองเธอ พลันจมูกเขาก็ได้กลิ่นกายสาวลอยฟุ้งเข้ามาอย่างรุนแรง จินตนาการว่าภายใต้เสื้อคลุมตัวใหญ่นั้นเธอจะงดงามเพียงไหน
“แอล”
เสียงเรียกทุ้มพร่า
“ค่ะ คะ”
“ผม...กำลังทรมาน คุณช่วยผมได้ไหม”
“หะ...ให้ดิฉันช่วยอะไรคะ”
ร่างบางกล้า ๆ เกรง ๆ อยากจะช่วยแต่ไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรตอนนี้
“ผมโดนยา”
“ยา? ยาอะไรคะ”
“ยาปลุกเซ็กส์”
นึกรักเบิกตากว้าง ใจข้างในเต้นกระหน่ำ เขาเข้ามาหาเธอ จ้องหน้าเธอแบบนี้ บอกแบบนี้มันหมายความว่าอย่างไร
“แล้วยังไงคะ ต้องไปหาหมอไหม”
“ไม่”
เขาปฏิเสธทันควัน พร้อมกับร่างสูงลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับเธอที่มีความสูงเพียงระดับไหล่กว้างของเขาเท่านั้น นึกรักตัวสั่นแขนสองข้างกอดตัวเองแน่น
น้ำเสียงแหบแห้งคล้ายคนพูดกำลังอดทนอดกลั้นต่อสู้กับความต้องการที่มากล้นอยู่ข้างในดังขึ้น
“นึกรัก”
ขายาวก้าวเข้ามาประชิดตัว หญิงสาวถอยหลังกรูดโดยอัตโนมัติแต่ก็จนมุมอยู่กับผนัง ดวงตาสั่นไหวสบตากับดวงตาที่มองเธอด้วยความต้องการ
“คุณรู้ว่าผมต้องการอะไร”
“ดะ ดิฉันไม่”
“ผ่านพ้นคืนนี้ไปผมจะรับผิดชอบทุกอย่าง”
หญิงสาวส่ายหน้า “ดิฉันไม่ได้ต้องการแบบนั้น”
“ไม่ต้องห่วงเรื่องพ่อผม ผมจะอธิบายให้พ่อฟังเอง ท่านจะเข้าใจ หรือว่าคุณมีใครอยู่แล้ว”
“มะ ไม่”
หญิงสาวหลุบตาลง สะดุ้งโหยงเมื่อถูกวงแขนแข็งแรงกักขังไว้ในอ้อมกอด ไร้ทางหนี อึกอักถามว่า
“ทำไมท่านรองไม่ไปหาแฟนของท่านล่ะคะ”
“ใคร” เขาถามเสียงเข้ม
“ก็คุณนางแบบคนนั้น”
“ไคร่าไม่ได้เป็นอะไรกับผม”
ทันใดนั้น แขนทรงพลังข้างหนึ่งก็ตวัดรัดรอบเอวบางเข้ามาแนบชิดกับแผงหน้าท้องเกร็งแน่น พร้อมกับโน้มใบหน้าลงมาใกล้จนปลายจมูกโด่งเป็นสันคมไล้สัมผัสกับผิวแก้มนุ่มเบา ๆ นึกรักรับรู้ถึงกระแสลมหายใจที่อุ่นร้อน ส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกข้างในของเธอไม่น้อย มันวูบวาบหวามหวานอย่างที่เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อน ครั้นเขากดปลายจมูกโด่งลงมาที่ลำคอหอมกรุ่นเป็นการหยั่งเชิง นึกรักก็หดคอเกร็ง กัดริมฝีปากจนรู้สึกเจ็บ เบือนหน้าออก สถานการณ์ตอนนี้ลำบาก อึดอัดแทบจะหายใจไม่ออก สมองเริ่มลดทอนสติลงไปทีละน้อยเมื่อริมฝีปากและจมูกเขายังไม่ถอนขึ้นจากซอกคอ แถมยังแทะเล็มไปตามลาดไหล่จนสาบเสื้อข้างหนึ่งหลุดร่นลงมาเผยให้เห็นผิวกายขาวเนียนละเอียดน่าสัมผัส
“ผมเริ่มจะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วนะนึกรัก แค่คุณบอกมาคำเดียวว่ายินยอมพร้อมใจ ผมจะทำมันให้จบเร็ว ๆ และรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไป แต่ถ้าไม่ คืนนี้คุณก็อาจจะต้องยืนมองผมทรมานแทบจะตายลงต่อหน้าคุณ”
เสียงแหบพร่าพูดชิดริมฝีปากนุ่ม นึกรักฟังไม่ได้ศัพท์ด้วยซ้ำว่าเขากำลังพูดอะไรกับเธอ ระหว่างขาเรียวถูกช่วงตัวของเขาค่อย ๆ แทรกเข้ามา กดแนบความแข็งชันเสียดสีที่จุดอ่อนไหวของเธอเบา ๆ เขาเป็นผู้ชำนาญกว่าย่อมรู้ว่าต้องทำอย่างไร เรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้จะไม่ใช่การบังคับขืนใจ แต่เป็นการยินยอมพร้อมใจของเธอเอง
หญิงสาวหลับตาแน่น ดวงตาพร่าเลือน รู้สึกถึงความวาบหวิวในช่องท้องแบบนี้หรือที่เขาเรียกว่ากำลังมีผีเสื้อนับพันบินวนอยู่ในท้อง ก่อนที่ความรู้สึกนั้นจะถูกฉุดลงมาเมื่อเขาตรึงข้อมือทั้งสองข้างของเธอขึ้นเหนือศีรษะ จ้องตาแล้วถามอีกครั้ง
“คุณต้องการมันหรือยัง”
นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่หญิงสาวเหมือนถูกมนตร์สะกดให้นิ่ง ก่อนที่เธอจะพยักหน้าเป็นการตอบรับ ยินยอมพร้อมใจไปกับเขา เพียงเสี้ยววินาทีที่อหัสกรเห็นปฏิกิริยานั้นริมฝีปากแดงก็ฉกวูบลงมาประกบเข้ากับกลีบปากนุ่มที่เผยออยู่ เขามอบจูบที่เร่าร้อนให้แก่คนที่ยังไม่ประสีประสาดูดดึงอย่างเอาแต่ใจในคราแรกก่อนจะค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนละมุนละไมด้วยการค่อย ๆ ดันปลายลิ้นแทรกผ่านแนวฟันเรียงสวยเข้ามาเกี่ยวพันกับเรียวลิ้นอุ่นชื้นในปากของเธอตวัดดูดดึงเชื้อเชิญให้เธอลองทำบ้าง ขณะเดียวกันก็ใช้มืออีกข้างดึงปมเชือกที่ผูกรัดตรงช่วงเอวคอดกิ่วออก เท่านี้ร่างกายขาวเนียนได้สัดส่วนแบบที่ผู้หญิงหลายคนปรารถนาก็ปรากฏสู่สายตา เป็นความงามชนิดที่ทำให้อหัสกรตะลึงมองนิ่งนาน
นึกรักเห็นดวงตาที่ไล้มองเรือนร่างเปล่าเปลือยของเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า และกลับขึ้นมาสบกับดวงตาสั่นไหวระริกของเธอก็ยกมือปิดหน้าอกและของสงวนส่วนกลางลำตัวด้วยความกระดากอาย เบือนหน้าหนี แต่ไม่ทันไรใบหน้าคมก็โน้มลงมาซุกไซ้ที่กลางหน้าอก มือหนากอบกุมเต้าสวยพอดีมือและเคล้นคลึง
“อื้อ...อึก”
เรือนกายของเธอไหวสะท้านกับสัมผัสที่ไม่เคยเจอมาก่อนแต่อวัยวะบางจุดมันก็ตั้งชันเหมือนพร้อมจะสู้มือของเขา ชายหนุ่มจึงอดใจไม่ไหวครอบริมฝีปากลงมาที่ยอดอกชูชันแบบเต็มคำแล้วดูดดื่มราวกับคนที่กำลังหิวกระหายได้พบแหล่งน้ำ
“อื้อ...”
นึกรักแทบจะยืนไม่อยู่ แข้งขาอ่อนแรงไปหมด อหัสกรรู้ดีจึงช้อนร่างกลมกลึงสวยงามได้สัดส่วนราวกับศิลปินบรรจงวาดขึ้นเข้าเอว นึกรักตกใจรีบยกแขนคล้องคอเขาเรียวขาเกี่ยวกับเอวสอบไว้แน่น ริมฝีปากหยักจึงกดจูบที่ริมฝีปากอิ่มหนัก ๆ ปลอบคนเสียขวัญก่อนจะหมุนตัวอุ้มร่างนั้นไปวางที่เตียงนอนโดยที่ริมฝีปากยังไม่ละออกจากกัน