เริ่มวันทำงานของสัปดาห์ใหม่นับจากที่อหัสกรได้ไปพูดคุยรับประทานอาหารกับมารดาและพิมพ์พิศาเขาก็ไม่คิดว่าคุณอรรฆมณีจะมัดมือชกพาหญิงสาวเข้ามาที่บริษัทในวันนี้
“คุณแม่”
คุณอนรรฆมณีเดินเข้ามาในห้องรองประธานบริษัทเตชะกิจพร้อมกับพิมพ์พิศาที่แต่งตัวมาอย่างเรียบร้อยดูดีในลักษณะที่พร้อมทำงานวันแรกโดยไม่ได้ส่งสัญญาณให้รับรู้หรือเตรียมตัวส่งผลให้ใบหน้าคมตึงขึ้นเล็กน้อย
“คุณโซล แม่พาน้องมาทำงานกับคุณโซลวันนี้เลยค่ะ”
“มันไม่เร็วไปหน่อยเหรอครับ ผมคิดว่าคุณแม่จะพามาต้นเดือนหน้า เท่าที่คุยกัน”
ผู้เป็นแม่ไม่สนใจท่าทีอึดอัดของลูกชาย ส่วนพิมพ์พิศาเพียงแต่ยืนยิ้ม ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณอนรรฆมณี
“น้องเพิร์ลอยากเรียนรู้งานแล้วน่ะลูก อีกอย่างน้องก็ไม่อยากอยู่บ้านเฉย ๆ และแม่ก็คิดว่าลูกไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว จะเริ่มวันไหนก็เหมือนกันนั่นแหละ”
“ผมยังไม่ได้สั่งให้เตรียมโต๊ะทำงานหรืออะไรไว้เลยนะครับ”
เขายังไม่ได้บอกเรื่องที่ยอมตามใจมารดาให้พิมพ์พิศาเข้ามาทำงานในบริษัทอีกคนกับใครเลย แม้กระทั่งเรื่องที่ถ้ารับพิมพ์พิศาเข้ามาทำงานแล้วคงจะต้องย้ายนึกรักไปทำงานที่แผนกอื่น
“ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ โต๊ะทำงานข้างนอกยังไม่มี งั้นก็ให้มานั่งทำงานกับคุณโซลข้างในห้องก่อนก็แล้วกัน ใครจะกล้าว่า แม่ว่าก็ดีนะหน้าห้องนั่นคนนั่งกันแออัดแล้ว ให้น้องเพิร์ลมานั่งทำงานกับลูกข้างในนี้ก็ดี”
คุณอนรรฆมณีถูกอกถูกใจกับความคิดของตัวเอง หันมองพิมพ์พิศาที่ยืนกุมมือส่งยิ้มบาง ๆ ขณะที่สองแม่ลูกตกลงกัน เสียงเคาะประตูดังขึ้นส่งสัญญาณก่อนผู้ที่เคาะจะเปิดเข้ามา
“ขออนุญาตค่ะ”
เป็นนึกรักที่นำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟให้ที่โซฟารับแขกตามคำสั่งของจิตรี แต่ละก้าวย่างของหญิงสาวตกอยู่ในสายตาของผู้หญิงสองคนรวมถึงอหัสกรเองด้วย ที่มองเธอด้วยความรู้สึกลำบากใจ
เมื่อวางเครื่องดื่มที่นำมาเสิร์ฟให้เรียบร้อยผู้ช่วยเลขาที่บิดานำมาฝากให้เป็นคนแรกก็หันมาบอกด้วยกิริยาเรียบร้อยว่า
“อีกครึ่งชั่วโมงท่านรองมีประชุมกับฝ่ายต่างประเทศที่ห้องประชุมสองค่ะ”
น้ำเสียงหวานกับใบหน้าอ่อนเยาว์ของนึกรักสะดุดตาของพิมพ์พิศา สาวสวยอีกคนที่มีพร้อมทั้งรูปสมบัติและทรัพย์สมบัติพิจารณาหญิงสาวหน้าตาสวยหวานแปลกตาไม่ใช่แบบพิมพ์นิยมที่เข้ามาเสิร์ฟเครื่องดื่มและของว่างตรงหน้า พลางคิดในใจว่าหากลูกชายของคุณน้าอนรรฆมณีจะเก็บผู้หญิงคนนี้ไว้แก้ขัดก็ไม่แปลกนัก เพราะถึงหล่อนจะสวยต่างจากผู้หญิงอื่นแต่ก็แค่ดอกหญ้าริมทาง ถ้านำมาปักแจกันก็เป็นได้แค่ไม้ประดับที่เสริมให้ราชินีแห่งดอกไม้อย่างกุหลาบโดดเด่นขึ้นเท่านั้นเอง
ดอกหญ้าหาเมื่อไหร่ก็ได้ มันเกิดขึ้นทุกฤดูทุกที่แต่ดอกกุหลาบที่งดงามต้องทะนุถนอมบำรุงรักษาอย่างดีถึงจะผลิดอก ทำให้มันเลอค่าและราคาของมันต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะฉะนั้นถึงอหัสกรจะมีอะไรกับผู้หญิงคนนี้ตามที่มารดาของเขาเปรยกับเธอ จะจริงจังหรือไม่ก็ตามแต่ เธอนี่แหละที่จะทำให้มันอยู่ไม่ได้เอง
นึกรักกลับออกไปทำงานต่อด้วยสีหน้าสงบ จิตรีชำเลืองตามองเงียบ ๆ แต่แอบถอนใจข้างในอก แน่นอนว่าเรื่องที่อดีตภรรยาของท่านประธานวีระพาหญิงสาวสวยมาทำงานที่นี่เธอต้องรายงานแน่นอน เพราะหน้าที่หนึ่งของจิตรีที่ท่านประธานสั่งไว้ก็คือคอยจับตามองความสัมพันธ์ระหว่างอหัสกรกับนึกรักให้ท่านทราบเงียบ ๆ เลขาสาวใหญ่รู้ว่าท่านประธานคิดอย่างไรที่ส่งนึกรักมาอยู่ตรงนี้และคงจะเห็นดีหากทั้งสองมีความสัมพันธ์กันเป็นไปในทิศทางที่ท่านหวังไว้ แต่เมื่ออดีตภรรยาพาผู้หญิงอีกคนเข้ามาคราวนี้เรื่องมันคงจะยุ่งเหยิง มันก็ขึ้นอยู่กับท่านรองแล้วล่ะว่า จะเลือกใครหรือทำอย่างไร
จิตรีระบายลมหายใจออกมาแรงจนนึกรักหันมาถาม
“มีอะไรรึเปล่าคะพี่จิตรี”
สีหน้าเธอยังยิ้มสดใจ เหมือนไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรที่เห็นว่าจะมีผู้หญิงอีกคนมาทำงานในตำแหน่งเดียวกัน
“อ้อ เปล่าจ้ะ ไม่มีอะไร ทำงานต่อเถอะ”
คนข้างในจะคุยอะไรกันนั้นนึกรักไม่ได้อยากสนใจอะไรนักหญิงสาวเพียงทำงานของตัวเองที่ได้รับมอบหมายให้ดีก็พอ พักใหญ่จึงเห็นว่าคุณอนรรฆมณีเปิดประตูออกมา เดินตรงมาที่โต๊ะทำงานของเลขาหน้าห้องจิตรีลุกขึ้นยิ้มให้อย่างความนอบน้อม สายตาของหญิงสูงวัยที่มีรัศมีความน่าเกรงขามแผ่ออกมาปรายมองไปที่นึกรัก ริมฝีปากบางแสยะยิ้มออกก่อนจะพูดว่า
“ฉันฝากดูแลหนูเพิร์ลด้วยนะคุณจิตรี เธอเพิ่งจะจบมาจากอังกฤษ อาจจะยังไม่คุ้นกับระบบงานที่ไทย ช่วยแนะนำสอนงานให้ด้วย แต่คิดว่าคงไม่ยากเกินมือคนระดับนี้”
“อ้อ ค่ะ ได้ค่ะคุณอนรรฆมณี”
จิตรีรับคำตามมารยาทไปก่อน ทั้งที่ความจริงคนที่สามารถออกคำสั่งได้เห็นจะเป็นท่านประธาน นั่นก็คือคุณวีระกับท่านรองเท่านั้น ฝากฝังเรื่องงานและกระทบข่มผู้หญิงอีกคนแล้วสตรีสูงวัยที่ไม่เคยละวางจากอำนาจก็เดินเชิดหน้ากลับออกไป
ทุกอย่างเข้าสู่สภาวะปกติอีกครั้งเหมือนไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น จิตรีจึงลุกไปเข้าห้องน้ำ เป็นจังหวะที่พอดีกับที่พิมพ์พิศาเปิดประตูเดินหอบแฟ้มเอกสารที่ผู้บริหารหนุ่มเซ็นแล้วออกมาวางบนโต๊ะ
“พี่โซลเซ็นแล้ว ต้องทำยังไงต่อคะ”
น้ำเสียงหวานแหลมดังขึ้นส่งผลให้นึกรักที่กำลังนั่งพิมพ์งานหันไปมอง หญิงสาวมองแฟ้มงานก่อนจะพูด
“กรุณารอพี่จิตรีสักครู่นะคะ เรื่องงานพี่จิตรีจะเป็นคนบรีฟให้ค่ะ ดิฉันเป็นผู้ช่วยเพิ่งเข้ามาใหม่ยังไม่รู้ครอบคลุมงานทั้งหมด”
นึกรักตอบกลับไปอย่างสุภาพน้ำเสียงน่าฟัง แต่ทำให้อีกคนกลับยิ้มหยันออกมาโต้กลับอย่างไม่มีความเกรงใจว่า
“ถ้าคิดจะมาทำงานแล้วความรู้ไม่มีก็ไม่ควรจะมาทำไหม คนเรามีสมองก็น่าจะรู้ตัว”
นึกรักรู้สึกหน้าชาเหมือนโดนน้ำเย็นสาดใส่ไปชั่วขณะ สูดลมหายใจเข้าแล้วรวบรวมสติ
“ดิฉันมีความรู้ในการทำงานค่ะ แต่เรื่องสอนงานให้เป็นหน้าที่ของเลขาโดยตรงจะดีกว่า เพราะดิฉันเป็นเพียงผู้ช่วย แต่ถ้าดิฉันได้รับคำสั่งให้ทำหน้าที่สอนคุณดิฉันก็ยินดีค่ะ”
“อ้อ ต้องให้มีคำสั่งก่อนเหรอถึงจะสอน”
พิมพ์พิศาย้อน นึกรักยังคงรักษาสีหน้าด้วยการยิ้มตอบ
“ใช่ค่ะ”
อหัสกรเห็นว่าพิมพ์พิศาออกไปนานผิดปกติประกอบกับรู้สึกไม่สบายใจเรื่องเด็กฝากของมารดานักจึงเปิดประตูออกมา เห็นหญิงสาวสองคนยืนประจันหน้ากันอยู่ก็เอ่ยแทรก