ซาฟต่อสายถึงเซโตเพื่อพูดคุยเรื่องข้อตกลงที่เขาคิดขึ้น เขายังไม่อยากเสี่ยงอะไรเพราะบางทีตระกูลดีกาลโน่อาจจะกำลังลำบากถึงได้กู้เงินกับตระกูลของเขา
“สวัสดีครับ ผมเดเวนเต้ อัลเล็นโซ่ครับ”
“ครับ ไม่ทราบว่าคุณชายจะติดต่อกับใครหรือครับ?”ปลายสายถามเขา
“ขอเรียนสายคุณเซโตครับ”
ชายชรากำลังนั่งอ่านหนังสือในห้องกับลูกสาวคนเล็กขมวดคิ้วทันที เมื่อได้ยินว่าบุตรชายคนโตของตระกูลที่กำลังจะดองกันโทรมาหาเขา
“สวัสดีครับ”เซโตกรอกเสียง
“สวัสดีครับ ผมขอแนะตำตัวผมคือเดเวนเต้ อัลเล็นโซ่ครับ”
“ไม่ต้องพูดเป็นทางการมากก็ได้ซาฟ มีอะไรจะพูดกับอาเหรอ?”
“เอ่อ... ผมมีสัญญาที่จะตกลงกับคุณอาครับ”
“สัญญา... เรื่องอะไรเหรอ?”
“เกี่ยวกับเรื่องการแต่งงานของสองตระกูล”
“มีอะไรเหรอหรือว่าซาฟไม่สะดวก”
“เปล่าครับ ผมแค่ต้องการเวลาเพื่อทำความรู้จักว่าที่เจ้าสาวของผมก็แค่นั้น”
“แล้วซาฟต้องการให้อาทำอะไร”
“ผมต้องการให้เจ้าสาวของผมมาอาศัยอยู่ร่วมบ้านกับผมเป็นเวลาสองเดือนครับ”
เซโตนิ่งงันสมกับเป็นซาฟ คงกำลังจะดูว่าธุรกิจของเขามีปัญหาหรือเปล่าเลยชั่งใจที่จะแต่งงาน แต่ก็ดีเหมือนกัน บางทีเทียร่าและซาฟคงต้องทำความรู้จักกันให้แนบแน่นเสียก่อน
“อาขอถามลูกสาวอาก่อนนะซาฟ”
“ได้ครับคุณอา ผมขอตัวก่อนครับ”
บุตรสาวคนรองของตระกูลถูกตามมา เทียร่านั่งลงตรงข้ามกับบิดาที่โซฟากำมะหยี่สีขาวนวล เซโตจ้องลึกลงไปในดวงตาบุตรสาว เขารักลูกทุกคน แต่โมนาคือลูกที่เขาเฝ้าทะนุถนอมมากที่สุดเพราะโมนาสูญเสียแม่ไปจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกในขณะที่กำลังเดินทางมาหาบุตรสาวคนเล็กที่อิตาลี
โมนาเสียใจและตั้งแต่นั้นมานิสัยที่เคยสดใสก็เปลี่ยนไป เธอหวาดกลัว และยังเจ้าน้ำตาจนทำให้เขารู้สึกสงสาร จึงคอยปกป้องลูกเสมอ โมนาแทบไม่ออกไปไหนจากที่นี่นอกจากไปเรียนและออกไปซื้อของบ้างบางครั้ง และทุกครั้งช่างภาพจะสามารถจับรูปหญิงสาวที่ผู้คนขนานนามเทพธิดาแห่งเวนิช
“วันนี้ซาฟโทรมาหาพ่อ”
“เค้าว่ายังไงคะพ่อ” น้ำเสียงเทียร่าตื่นเต้น
“ซาฟต้องการให้ว่าที่เจ้าสาวไปอยู่ร่วมบ้านเพื่อศึกษานิสัยใจคอ”
เทียร่าหยุดคิดเธอนิ่งงันไปสักพัก แล้วหันมาสบตาบิดาต่อทำไมเขาจะต้องศึกษาด้วยนะในเมื่อตกลงว่าจะแต่งงานกับบุตรสาวตระกูลดีกาลโน่แล้ว
“เทียร่าไม่มีปัญหาหรอกค่ะ คุณซาฟจะว่ายังไงเทียร่าก็โอเคอยู่แล้วล่ะค่ะพ่อ”
“ถ้าอย่างนั้นลูกก็ไปเก็บกระเป๋าได้เลยพรุ่งนี้จะได้เตรียมตัวไป”
“ค่ะพ่อ”เธอบอกพร้อมกับยิ้มกว้างออมาแล้วรีบสาวเท้าไปเก็บกระเป๋าที่ห้อง
ในที่สุด...เธอก็จะกลายเป็นคุณหญิงแห่งตระกูลอัลเล็นโซ่ เธอไม่จำเป็นต้องมาแย่งสมบัติของดีกาลโน่ที่เทียบไม่ได้กับอัลเล็นโซ่เลยสักนิด
ทันทีที่รถเลี้ยวเข้าสู่พื้นที่ ที่ผู้คนกล่าวขานว่าเป็นเงาแห่งสรวงสวรรค์ เทียร่าถึงกับอ้าปากค้างกวาดสายตามองไปทุกที่ที่รถเคลื่อนไป สมคำล่ำลือที่นี่สวยเกินกว่าที่ใครจะจินตนาการได้ ที่พำนักของตระกูลอันเล็นโซ่อยู่ในพื้นที่กว่าพันไร่ ถูกดัดแปลงกลายเป็นที่อำนวยความสะดวกสารพัดรูปแบบ ทั้งสนามกอล์ฟ ทั้งสนามขี่ม้า ยิงปืน และอีกหลายอย่าง
เทพบุตรทั้งสี่อยู่ภายในคฤหาสน์ของตนเองถูกปลูกสร้างแบ่งเป็นสี่หลัง และทุกหลังต่างมีสไตล์เป็นของตัวเอง แม้แต่บ้านยังบ่งบอกลักษณ์นิสัยเจ้าของได้เป็นอย่างดี แต่ที่สะดุดแต่และทำให้ทุกคนต่างหยุดยืนราวกับต้องมนต์สะกดนั้นก็คือโอเอซิสขนาดใหญ่ที่รายล้อมด้วยดอกไม้นานาพรรณ และต้นไม้พันธ์หายากที่เขียวขจีทั่วบริเวณ น้ำสีเขียวมรกตจนเห็นเงาสะท้อนของตนเอง ตกกลางคืนเมื่อได้รับแสงจันทร์มันจะส่องระยิบระยับงามจับตา ผู้คนที่ทำงานให้ตระกูลอัลเล็นโซ่เรียกที่นี่ว่าอ้อมกอดแห่งมารดา
ไม่เคยมีใครได้เข้าไปในนั้นยกเว้นคนสวนเก่าแก่เพียงห้าคน และบุตรชายทั่งสี่แห่งตระกูลเท่านั้นเพราะโอเอซิสอ้อมกอดแห่งมารดาเป็นที่ฝังศพของผู้หญิงที่เป็นที่รักของทุกคน มาเรีย อัลเล็นโซ่ ผู้หญิงที่ให้กำเนิดเทพบุตรทั้งสี่
เทียร่าหยุดยืนหน้าคฤหาสน์หรูของซาฟ เธอจ้องมองด้วยความตกตะลึงคฤหาสน์ของเขาช่างมีมนต์ให้ความรู้สึกลึกลับเก่าแก่และดูมีอำนาจในตัว อิฐที่ใช้สร้างเป็นสีเทาตัวบ้านถูกจัดให้เรียบหรูเฟอร์นิเจอร์ดูเก่าแก่แต่ก็เป็นของราคาแพงทุกก้าวที่เดินจะเห็นดวงไฟระย้าที่ห้อยลงมาอย่างสวยงาม มีรูปบรรพบุรุษเก่าแก่ของตระกูลแขวนอยู่ตามผนังห้อง สาวใช้ประจำคฤหาสถ์เชิญเธอมานั่งที่โซฟาด้านในห้องรับแขก
เทียร่ากวาดตามองไปรอบๆ อย่างใจจดใจจ่อแต่อดไม่ได้ที่จะละลาบละล้วง เธอเดินสำรวจไปรอบๆก่อนจะหยิบโน้นหยิบนี่ดูโดยไม่ทันได้เห็นว่าร่างสูงใหญ่กำลังยืนอยู่ด้านหลัง
“สวัสดีครับ”เสียงทุ้มกล่าวทักทาย
เธอชะงักรีบหันมาหาเขาด้วยความตกใจ เทียร่านิ่งงันเมื่อได้เห็นเขาแบบเต็มตาครั้งแรกในชีวิต แข้งขาอ่อนแรงไปหมดไม่รู้เป็นเพราะอะไร
“สวัสดีค่ะ ฉันโมนา”เธอตอบพลางเดินไปหาเขาแล้วยื่นมือจับเพื่อทักทายแต่เขากลับเมินเฉยเดินไปนั่งที่โซฟา
ดวงตาคมกริบกวาดตามองไปยังผู้หญิงที่กำลังหย่อนกายนั่งลงตรงข้ามเขาด้วยท่าทีหวาดๆ ดวงตาสีเทาของเขาทำให้เธอรู้สึกหวั่นเกรง เขาช่างสมคำร่ำลือเธอแทบหยุดหัวใจตัวเองไม่อยู่อยู่แล้ว
“ข้อตกลงระหว่างเราคุณคงรู้ดีใช่ไหม?”
“ค่ะพ่อบอกดิฉันแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นผมจะให้คนของผมพาคุณไปที่ห้องพักก็แล้วกัน ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ”เขาบอกก่อนจะลุกขึ้นยืน
“เดี๋ยวก่อนค่ะ!”เธอรีบรั้งเขาไว้
เขามองมาที่เธอและหยุดยืนเพื่อรอฟังว่าจะพูดอะไรออกมา
“เราอยู่ห้องเดียวกันหรือเปล่าคะ?”เธอถามพร้อมกับยิ้มยั่วยวนเขาออกมา