Hi, Darling 10

1746 Words
Hi, Darling 10 “เฟื่องกินนมไหม...” “ไม่ค่ะ ขอบคุณค่ะ” เอ่ยปฏิเสธพร้อมกับเดินขึ้นชั้นสองอย่างไม่คิดรอเจ้าของบ้านตัวจริง ฉันยังไม่พร้อมจะคุยกับเขาตอนนี้หรอก เรื่องที่ร้านอาหารฉันก็ตกใจยังไม่ทันหายทั้งเรื่องที่ผู้หญิงคนนั้นพูด ทั้งเรื่องที่เพิ่งได้ยินพี่กริชพูด ฉันทั้งสับสนและมึนงงไปหมดแล้ว “เฟื่องมาคุยกันก่อน” อีกฝ่ายพยายามรั้งไว้แต่ฉันเองก็ยังไม่พร้อมจะคุยกับเขาตอนนี้จริง ๆ นะ เข้าใจฉันหน่อยนะ “หนูเหนื่อย ขอไปนอนก่อนนะคะ วันนี้เหนื่อยจริง ๆ” มองอีกฝ่ายอย่างอ้อนวอน พี่กริชมองอย่างชั่งใจก่อนจะยอมพยักหน้าเข้าใจและปล่อยให้ฉันได้ไปพัก ฉันแทบจะไม่รู้ตัวเลยว่ากลับเข้าห้องตอนไหน อาบน้ำขึ้นเตียงนอนได้ยังไง มันทั้งมึนและเบลอไปหมด เมื่อได้นอนพักไปความขุ่นเคืองใจก็เบาบางลงแต่ก็ยังไม่ได้หายไปเสียทีเดียว อีกอย่างสถานะของเราทั้งสองก็ไม่ได้ชัดเจนอะไรมากขนาดนั้น คนที่ควรจัดการความรู้สึกตัวเองไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก เป็นฉันเองนี่แหละ เที่ยงของวันถัดมาโทรศัพท์ฉันมีสายเรียกเข้าจากพี่กริช ที่ติดต่อมาหลายสาย ฉันงัวเงียตื่นขึ้นมารับไม่ทันสายจึงตัดไปก่อน สายถัดมานั่นแหละถึงได้รับสายเขาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความงัวเงียบ่งบอกได้อย่างดีว่าฉันยังไม่ตื่น (ตื่นหรือยัง) “ยังค่ะ มีอะไรหรือเปล่า” (ต้องมีอะไรด้วยเหรอพี่ถึงจะโทรหาได้) น้ำเสียงที่ตัดพ้อนั้นเต็มไปด้วยความน้อยอกน้อยใจ “ค่ะ” แต่ฉันไม่พร้อมจะคุยอะไรกับเขาไปมากกว่านี้จริง ๆ นะ ไหนจะเรื่องที่ค้างคาใจอยากจะถามเขานั่นอีก บ้าจริงทั้งที่คิดว่าพอตื่นมาแล้วจะลืมทุกอย่างไปเองแต่ไม่เลยฉันยังจำได้ดี เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน (ยังไม่หายโกรธอีกเหรอ เลิกงานแล้วพี่จะรีบกลับไปหานะ) “...” (อยากกินอะไรไหม ก่อนกลับเข้าบ้านพี่จะซื้อเข้าไปให้) “ไม่เป็นไรค่ะ” (เฟื่อง...) “จริง ๆ หนูไม่เป็นอะไร พี่ไม่ต้องคิดมากหรอกนะคะ” (แต่ที่เป็นอยู่แบบนี้จะบอกว่าไม่มีอะไรได้ยังไง จะอยู่ด้วยความเข้าใจผิดแบบนี้น่ะเหรอ) “...” (ตอนเย็นเรามาคุยกัน มาคุยกันให้เข้าใจ พี่ไม่ชอบให้หนูเมินพี่แบบนี้ ตื่นแล้วก็ไปกินข้าวนะครับ พี่ให้คนเอาไปส่งให้แล้ว ทั้งก๋วยเตี๋ยวไก่และกุ้งแช่น้ำปลา) “...” ช่างแสนรู้จังเลยนะ รู้ว่าถ้าฉันหงุดหงิดหรือโกรธเอาอะไรมาง้อถึงจะหายโกรธ แน่นอนว่าต้องเป็นของกินเขาจับทางฉันถูกเสียทุกอย่างเลย หลังจากวางสายฉันก็เข้าไปอาบน้ำแต่งตัวลงไปข้างล่างก็เห็นแม่บ้านกำลังทำความสะอาดอยู่ “สวัสดีค่ะป้า” “สวัสดีค่ะคุณเฟื่อง” ป้าแม่บ้านส่งยิ้มกลับมาอย่างคุ้นเคย หลังจากทะเลาะกันบ่อยครั้งเรื่องจ้างคนเข้ามาทำความสะอาดบ้าน ทีแรกฉันก็ไม่ยอมหรอก แต่ก็ยกเหตุผลมาอ้างไม่ได้กลายเป็นเรื่องนี้พี่กริชจัดการเองทุกอย่าง “คุณเฟื่องจะกินข้าวเลยไหมคะเดี๋ยวป้าอุ่นให้” ป้าแม่บ้านอาสาอย่างใจดี แต่ฉันยิ้มและส่ายหน้ากลับไป “ไม่เป็นไรค่ะ ป้าทำความสะอาดต่อเถอะ เดี๋ยวหนูจัดการเองค่ะ” “ถ้ามีอะไรให้ป้าช่วยบอกได้เลยนะคะ” “ค่ะป้า” เดินเลี่ยงจากห้องนั่งเล่นมาที่ห้องครัว กับข้าวที่ฉันชอบวางอยู่บนโต๊ะฉันหยิบก๋วยเตี๋ยวไก่ไปอุ่นในไมโครเวฟ จากนั้นก็เอากุ้งแช่น้ำปลาเมนูสุดโปรดมาเทใส่จาน เมื่อทุกอย่างพร้อมฉันก็นั่งลงที่เก้าอี้หยิบตะเกียบขึ้นมาจัดการอาหารตรงหน้าอย่างใจเย็น ผ่านไปสักพักใหญ่ก็กินก๋วยเตี๋ยวเสร็จฉันล้างจานเก็บเข้าที่เป็นอันเสร็จเรียบร้อย “คุณเฟื่องคะ ให้ป้าทำมื้อเย็นให้เลยไหมคะ” “ได้ค่ะป้า ทำสักสองอย่างก็พอค่ะ” ฝีมือป้าแม่บ้านอร่อยมาก ๆ เลยนะ ฉันชอบมากเลยล่ะ สองอย่างให้พี่กริชส่วนฉันจะกินก๋วยเตี๋ยวไก่ เดี๋ยวส่งข้อความบอกพี่กริชไว้ก่อนดีกว่าเดี๋ยวเขาจะซื้อกับข้าวมาชนกับที่ป้าแม่บ้านทำ คิดได้แบบนั้นก็กดเข้าแอพลิเคชันไลน์เข้าช่องแชทที่ถูกปักหมุดไว้บนสุด เมื่อกดพิมพ์ข้อความที่ต้องการบอกอีกฝ่ายเสร็จก็กดส่งไปทันที แต่ไม่คิดว่าทันทีที่ส่งไปข้อความจะถูกเปิดอ่านทันที ฉันยังไม่ทันจะกดออกจากช่องแชทพี่กริชก็วีดีโอคอลกลับมาอย่างรวดเร็ว “อะไรกันคะ” ฉันกดรับสายและถามกลับอย่างไม่เข้าใจ (อารมณ์ดีแล้วใช่ไหม) อีกฝ่ายถามกลับมายิ้ม ๆ ใบหน้าที่อยู่ในโทรศัพท์ดูอ่อนล้าอยู่ไม่น้อย “ก็ นิดหน่อย” (หึ เดี๋ยวเย็นนี้ซื้อเข้าไปให้ครับ เอาชาเย็นด้วยไหม) “ไม่เอาชาเย็นแล้วค่ะ” (งั้นเดี๋ยวเอาช็อกโกแลตเย็นดีไหม) ฉันพยักหน้า พี่กริชยิ้มอย่างพอใจก่อนจะวางสายไปเพราะมีเคสเข้ามา เมื่อทำทุกอย่างที่ชั้นล่างเสร็จ หมายถึงกินข้าวล้างจานนั่นแหละฉันก็กลับขึ้นมาชั้นสองและเริ่มทำงานตัวเองทันที ช่วงนี้มีกลุ่มแฟนคลับทักเข้ามาในทวิตเตอร์เกี่ยวกับการทำของแจกในงานคอนเสิร์ตที่จะถึงนี้ด้วย ฉันเองก็เลือกรับเป็นบางรายเพราะกลัวจะทำไม่ทัน ไหนจะยังต้องทำของตัวเองไปแจกอีก ตื่นเต้นมากเลยล่ะ ฉันได้บัตรโซนด้านหน้าเลยกว่าจะกดได้ก็ยากไหนจะต้องจ้างกดด้วยเพราะกลัวกดไม่ทัน พี่กริชที่ว่างฉันก็ดึงมากดช่วย เพื่อนทั้งสองของฉันอีก ฉันต้องได้บัตรเท่านั้นนับว่าดีมาก ๆ ที่ความตั้งใจของฉันเป็นจริงเพราะในที่สุดฉันก็ได้บัตรมาครอบครอง งานที่ต้องส่งฉันทำเสร็จภายในสามวัน ตอนนี้รอแค่คอมเม้นจากทางบริษัทที่เซ็นสัญญาด้วยว่าโอเคไหมหรือต้องแก้ในส่วนไหนเพิ่มเติมบ้าง ตลอดช่วงบ่ายเมื่อเคลียงานที่รับมาเสร็จก็เริ่มทำงานที่รับจากแอคทวิตเตอร์เป็นการวาดแฟนอาร์ตเพื่อทำเป็นโพลาลอยด์ โดยส่วนที่จ้างฉันทำคือทำแค่แฟนอาร์ตที่เหลือลูกค้าจะจัดการต่อเอง ฉันวาดรูปไปนานมากทีเดียว อาการปวดหลังเริ่มกลับมาอีกครั้งเมื่อนั่งทำงานนาน ๆ ฉันรีบบันทึกงานและไปเอนหลังบนโซฟาเบดที่อยู่มุมห้องทันที นอนเล่นโทรศัพท์ไปสักพักท้องฟ้าที่เคยสดใสเริ่มถูกเมฆสีดำเคลื่อนตัวเขามาพร้อมกับลมกรรโชก ฉันค่อย ๆ ขยับลุกนั่งตั้งใจจะเดินลงไปที่ชั้นล่างเช็คดูว่าแม่บ้านกลับไปหรือยัง หากยังฉันจะได้ไปส่งท่านเพราะป้าแม่บ้านเองก็อายุไม่น้อยแล้วกลัวว่าหากถูกฝนจะไม่สบายเอาได้ “ป้าคะ กลับยังไงคะฝนจะตกแล้วให้หนูไปส่งนะคะ หนูจะออกไปซื้อของด้วยค่ะ” ฉันก้าวลงจากขั้นบันไดก็เอ่ยบอกแม่บ้านที่กำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว “ถ้าอย่างนั้นป้ารบกวนด้วยนะคะ” “ด้วยความยินดีค่ะ เดี๋ยวรอหนูสักครู่นะคะ เดี๋ยวรีบลงมาค่ะขอไปเอากระเป๋าก่อน” เกือบห้าโมงเย็นฉันไปส่งป้าแม่บ้านที่บ้านเสร็จแล้วก็แวะซื้อของใช้เข้าบ้าน ขนาดซื้อของเสร็จฝนก็ยังไม่หยุดตก ดีที่ว่าบ้านไม่ได้ไกลจากห้างสรรพสินค้าทำให้ฉันกลับถึงบ้านเร็วอยู่พอควร แต่ก็ยังช้ากว่าเจ้าของบ้านอย่างพี่กริช ที่พอฉันกลับไปถึงจอดรถเสร็จพี่กริชก็เดินออกมารับถุงข้าวของไปถือไว้เอง “ไปไหนมา” เมื่อกลับเข้ามาอยู่ในบ้านพี่กริชก็เอ่ยถามทันที ราวกับว่าก่อนหน้านี้เขารอคอยการกลับบ้านของฉัน “ไปส่งป้าแม่บ้านค่ะ แล้วก็ไปซื้อของด้วยของใช้หมด” “ไม่บอกพี่ก่อน” “ลืมค่ะ กินข้าวเลยได้ไหมคะ หิวแล้ว” “ครับ เดี๋ยวอุ่นก๋วยเตี๋ยวให้” เราช่วยกันหิ้วถุงของเข้าไปวางที่ห้องครัวและช่วยกันเตรียมมื้อเย็น “เฟื่อง...” “คะ?” ฉันที่กำลังตักข้าวใส่จานให้พี่กริชถึงกับชะงักเมื่อถูกเรียกด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถ้าหากแม่จะขอมาอยู่ด้วยสักพักใหญ่ หนูอึดอัดไหม” “ไม่ค่ะ ดีเสียอีกหนูชอบกับข้าวฝีมือแม่หมี่” ฉันเล่าอย่างร่าเริง ที่พูดไปฉันรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ และที่พูดไปก็ไม่อยากให้พี่กริชกังวลเรื่องฉันเข้าไปอีกก็แค่นั้น “พ่อยังทำแบบเดิม เหมือนยังแคร์ผู้หญิงคนนั้น แม่บอกจะหย่าน่ะเพราะท่านทนไม่ไหวแล้ว” “พี่โอเคไหม” ห่วงก็แต่ความรู้สึกของพี่กริช เรารักทั้งพ่อและแม่มาก เทิดทูนท่านทั้งสองด้วยซ้ำ แต่พอเจอเรื่องแบบนี้พี่กริชคงจะเขวอยู่ไม่น้อย “ความรู้สึกพี่ไม่โอเคเลย เพราะพี่รู้ว่าแม่รักพ่อมากแค่ไหน แต่เพราะเรื่องแบบนี้ทำให้แม่เหนื่อย ถ้าแม่จะถอยออกมาพี่ก็จะพยายามเข้าใจและอยู่กับท่าน แต่พ่อก็ยังคงเป็นพ่อ พี่เองก็ยังรักท่านแต่ความเชื่อใจมันก็อาจจะลดลง” “พี่กริช” “พี่ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราอาจจะได้ไปรับแม่ด้วยกันนะครับศุกร์นี้” “ค่ะ ขากลับเราแวะเที่ยวด้วยได้ไหม” “ได้ ดูไว้เลยอยากเที่ยวไหน แต่ถ้าเป็นเราไม่ใช่เที่ยวหรอก แวะร้านอร่อยมากกว่า” พี่กริชแซวอย่างรู้ทัน “อย่ามารู้ทันกันเลยน่า” “หึ น่าตี เอาละ กินข้าวกันเสร็จแล้วพี่มีเรื่องคุยด้วย” “คะ? ยังมีอีกเหรอ” “มีสิ เรื่องของเรา ยังไม่ได้คุยกันเลยนะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD