เอวาไฮโซสาวสวยทายาทเจ้าของโรงแรมห้าดาว หญิงสาวเป็นที่หมายตาของผู้ชายหลายคนในสังคม ด้วยรูปร่างหน้าตาและความร่ำรวยผู้คนต่างพากันเข้ามาขายขนมจีบ ทว่ากลับไม่เคยมีใครได้ครอบครองหัวใจสาวสวยเลยสักคน
หญิงสาวกำลังนั่งหน้างอเมื่อบิดาบังคับให้ไปหัดงานที่ไร่ล้อมรักเป็นเวลาสามเดือนเต็ม ไร่ที่ว่านี่มันน่าอยู่เสียที่ไหนกัน บิดาคงมีอย่างอื่นแอบแฝงมากกว่าการไปฝึกงานแน่นอน
“คุณพ่อคะ เอวาไม่ไปหรอกนะคะที่นั่นบ้านนอกกันดารมากแน่ ๆ เลย เอวาหัดงานในกรุงเทพนี่ก็ได้ไม่เห็นต้องไปอยู่ไร่ชาอะไรนั่นเลย บ้านเราเปิดโรงแรมนะคะพ่อไม่ใช่การเกษตร” เอวาคัดค้านบิดาสุดฤทธิ์เมื่อจู่ ๆ ก็ถูกสั่งให้ไปฝึกงานที่ไร่ชาทางภาคเหนือของเพื่อนพ่อ
หล่อนเรียนจบมาด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง หากท่านอยากให้ทำงานเก่งจริงก็แค่สอนเท่านั้น ไม่เห็นจำเป็นต้องดั้นด้นไปถึงที่ไร่ล้อมรักเลย
“แต่ลูกต้องไป ที่นั่นมีโฮมสเตย์ของพี่ปักษา ลูกต้องไปหัดทำงานในนั้นก่อน แต่ก่อนตอนพ่อเริ่มธุรกิจนี้ใหม่ ๆ ก็หัดบริหารโฮมสเตย์ก่อนเหมือนกัน อีกอย่างพี่ปักษาลูกชายลุงภาคเขาจะคอยสอนงานลูก” อดิสรชี้แจงให้ลูกสาวรับรู้ถึงเหตุผลของการไปฝึกหัดงานที่นั่น
ปักษารับผิดชอบบริหารงานเองทั้งหมด หลานชายคนนี้มีความสามารถ หากเอวาได้เรียนรู้ด้วยจะดีมากและถ้าผูกพันกันจนเกิดความรักจะดียิ่งกว่า
“เหอะ น่าเบื่อแย่เอาจริงเอวาบริหารงานได้อยู่แล้ว ตอนปิดเรียนก็มาช่วยพ่อตลอด ไม่เห็นต้องไปที่บ้านนอกแบบนั้นเลย” เอวาบ่นกระปอดกระแปดอย่างไม่ชอบใจที่ต้องทิ้งชีวิตไฮโซไปอยู่ที่ชนบทแบบนั้น
การใช้ชีวิตจะเป็นแบบไหนก็ไม่มีใครรู้มาก่อน หล่อนแค่คิดก็เบื่อจะแย่
“ที่นั่นสวยนะลูก เอวาไปอาจจะชอบก็ได้ พี่ปักษาเขาจะรอรับลูกที่สนานบินวันอาทิตย์หน้า เตรียมตัวให้พร้อมนะลูก” ท่านยิ้มให้ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนที่หวงห่วงดั่งแก้วตาดวงใจ ท่านทำทุกอย่างก็เพื่ออนาคตลูกสาวทั้งนั้น
ผู้ชายแบบปักษาหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว รูปหล่อ พ่อรวย ขยันทำมาหากิน
“เอวาไม่ไปไม่ได้เหรอคะพ่อ เอวาไม่อยากไปเลย” มือน้อยกอดท่อนแขน
ใบหน้าสวยเหมือนมารดาอ้อนบิดาที่ตั้งใจส่งหล่อนไปหัดงานที่ไร่ชา ฟังเท่าไหร่ก็ดูไม่สมเหตุสมผลสักนิด
“ไม่ได้ เอางี้ถ้าลูกบริหารงานช่วยพี่ปักษาโฮมสเตย์จนเป็นที่รู้จักยอดทะลุเป้าได้ พ่ออนุญาตให้กลับดีมั้ย จะถือว่าลูกมีความพร้อมแล้ว” ท่านไม่ยอมใจอ่อนแต่ก็เลือกข้อเสนอให้ลูกสาวสุดที่รัก
คนได้ฟังถึงกับพยักหน้ารับรัว ๆ ก่อนจะบ่นถึงคนที่หล่อนต้องไปอยู่ด้วย
“นายนั่นทำแต่ไร่จะมาสอนอะไรเอวาได้ วัน ๆ คงเก็บแต่ยอดชาเขียว ชิ แต่เอาเถอะค่ะเอวาจะพิสูจน์ให้คุณพ่อเห็นว่าสามารถดูแลกิจการของเราได้” เสียงหวานสะบัดเล็กน้อย
แค่ได้ยินชื่อลูกชายเพื่อนบิดาหล่อนก็นึกเกลียดเข้าไส้ เพราะบิดาชอบเอาปักษามาชื่นชมว่าเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ บางทีก็บอกว่าถ้าได้เป็นลูกเขยคงดี
หยี๊ แค่คิดก็สยองแล้วใครจะเอาตานั่นมาเป็นสามีกัน หล่อนไม่เอาด้วยหรอก…
“อย่าเรียกพี่เขาแบบนั้นสิลูก เขาทำไร่ชาก็จริงแต่ธุรกิจอื่น ๆ พี่เขาก็บริหารจนเจริญหลายอย่าง เชื่อพ่อเถอะว่าพี่เขาจะสอนงานลูกได้แน่นอน อีกอย่างพี่เขาหล่อนะลูกเจอแล้วอาจจะชอบก็ได้” ท่านอดิสรเอ่ยอย่างมีหวังขึ้นมาในใจว่าลูกสาวท่านจะได้ลงเอยกับปักษา
แต่ดูท่าแล้วคงจะเป็นได้แค่ความฝันจริง ๆ ลูกสาวท่านดูไม่ชอบอีกฝ่ายเหลือเกิน
“พ่อหยุดคิดได้เลยค่ะ เอวาไม่มีทางไปสนใจชาวไร่ชาวดอยนั่นแน่นอน เอวาอยู่กินกับเขาไม่ได้หรอกค่ะชีวิตเรามันคนละสไตล์กัน” เอวารีบยกมือปรามบิดาที่คิดอะไรแผลง ๆ ออกมาทันที
เอวาพอจะรู้แล้วว่าบิดากับลุงภาคคงคิดวางแผนจับคู่แน่ ๆ เลย พวกท่านเล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ ไปได้
มนุษย์เราจะรักกันง่ายดายอย่างนั้นเชียวเหรอ ขนาดเธอเจอผู้คนมากมายยังไม่คิดอยากคบหาดูใจกับใคร การอยู่เป็นโสดมันดีเสียยิ่งกว่าดี