บทที่ 4 คิดดีแล้วใช่ไหม / เข้าป่า

1477 Words
บทที่ 4 คิดดีแล้วใช่ไหม / เข้าป่า “ มุกแกคิดดีแล้วใช่ไหม? ที่จะไม่เอาโทรศัพท์ไปด้วยอะ ” ฟ้าถามย้ำเป็นรอบที่สาม “ อืม ไม่รู้จะเอาไปให้หนักกระเป๋าทำไม ” แต่ในความเป็นจริงก็โกรธคู่หมั้นตัวเองอยู่ ตั้งแต่เมื่อวานตอนวางสายไป พี่เขาก็ไม่โทรกลับมาง้อเลย รู้แหละว่าเราทั้งคู่ยังไม่รู้สึกอะไรกัน แต่มันก็ควรรักษาน้ำใจกันบ้าง! “ เข้าป่าไป ถ้าไม่มีอะไรทำมันน่าเบื่อนะ ถ้ามีโทรศัพท์มันดีกว่านะ เล่นอะไรก็ได้ ” ฝ้ายพูดเสริม ในขณะที่ฉันกำลังเช็ดปืนประจำตัวอยู่ เตรียมพร้อมจะออกเดินทางอีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้า “ ในป่ามันไม่ค่อยมีสัญญาณ เล่นอะไรก็สะดุดไปหมด สู้ไม่พาไปดีกว่า ” พูดจบก็หยิบโทรศัพท์ที่หัวเตียงมาปิดเครื่องไว้สะเลย แค่สิบวันเองไม่เห็นจะเป็นอะไร ปกติก็ไม่ได้ติดโทรศัพท์ขนาดนั้น แล้วตอนเข้าป่าไป เขาจะให้วิทยุสื่อสารคนละตัวด้วย “ ทะเลาะกับพี่ฉัตรเหรอ? ” เพื่อนทั้งสามพร้อมใจกันจ้องหน้าอย่างจับผิด “ เปล่านะ มีอะไรต้องทะเลาะกันอะ ปกติก็คุยกันบ้าง ไม่คุยบ้าง คุยกันก็ถามแค่ทำอะไรอยู่ กินข้าวหรือยัง แค่นั้นเอง ไม่เห็นเป็นอะไร ถ้าไม่ได้คุยกันนะ ” ฉันพูดพร้อมยักไหล่แบบไม่ยี่หระ “ สาวๆ เสร็จหรือยัง! ” เสียงของผู้หมวดดังขึ้นที่หน้าประตูห้องพักของเราทั้งสี่คน “ เสร็จแล้วค่ะ ” ฟ้าตอบกลับไป พวกเราทั้งสี่ต่างยกกระเป๋าของตัวเองที่ใหญ่และมีน้ำหนักห้ากิโลขึ้นแบก คิดดูว่าต้องอดทนแค่ไหน เดินลาดตะเวรเป็นเวลาสิบวัน วนเวียนอยู่แต่ในป่า เดินประมาณสิบกิโล ตอนเดินไปต้องคอยระแวดระวังการซุ่มโจมตีรอบข้างด้วย เป็นทหารพรานใครว่าทำงานสบายๆ แต่ฉันกลับชอบมัน เพราะท้าทายดีมาก อยู่มาปีกว่าแล้วยังไม่เคยได้ปะทะกับกลุ่มโจรเลยสักครั้ง เวลาอาบน้ำก็จะอาบน้ำจากลำธารไม่ก็ไปอาบในโรงเรียนประถมตอนมืดๆ ค่ำๆ แล้วประวัติที่ตั้งโรงเรียนใครไม่รู้บ้าง ว่ามันต้องมีสิ่งเร้นลับ มันน่ากลัวว่าโจรอีกนะ สำหรับฉัน สิ่งที่ฉันกลัวมากที่สุดคือผีรองลงมาก็คืองู ถึงจะไม่เคยเจอผีก็เถอะ แต่ก็ไม่เคยลบลู่ ก็คนมันกลัวอะแหละ โรงเรียนที่พูดถึง ก็มีหลายโรงเรียนที่พวกเราต้องไปซุ่มมอง เข้าป่าไปก็จริงแต่เหมือนว่าเราจะไม่ทำแบบโจ่งแจ้ง ลัดเลาะไปตามชายป่า ไปโผล่หลังโรงเรียนเดินไปเรื่อยๆ มันก็จะเจอโรงเรียนเดินทีข้ามตำบลกันเลยแหละ ที่ไปซุ่มมองหลังโรงเรียนเพราะกลัวโจรจะมาเผาโรงเรียน หรืออาจจะเจอที่พักของโจรก็เป็นไปได้ ที่น่ากลัวคือพวกเราอยู่ในที่แจ้ง ส่วนพวกมันอยู่ในที่ลับ โรงเรียนที่อยู่ในความดูแลของค่ายXX มีสามโรงเรียน มีมัสยิดสอง มีวัดอีกหนึ่ง ทั้งหมดนี้จะอยู่ในสามตำบล คิดดูว่าเดินกันขาลากเลยแหละ พอออกเดินทาง ทุกคนก็นิ่งเงียบเพราะทางข้างหน้ามันอันตราย ทุกคนมองซ้ายมองขวา ยกปืนขึ้นหันปลายกระบอกไปทั่ว ตามทำที่ฝึกกันมา ต้องมีจิตใจมุ่งมั่น ไม่วอกแวก ไม่ชวนคุยกัน เงียบชนิดที่ว่าได้ยินแต่เสียงนกเสียงกา ทุกครั้งที่เข้าป่า จะมีผู้ชายคนหนึ่งที่คอยสั่งการและเดินนำทาง ไม่ว่าจะเป็นหมู่ไหนๆ ก็เถอะ ในกระเป๋าใบโตที่ทุกคนต้องแบกกันมา จะมีของที่จำเป็น เสื้อผ้าอีกสองชุด เสื้อซับในมันบางๆอีกห้าตัว น้ำเปล่า ขนม มียาของแต่ละคน ของแห้ง มีกระสุนปืน ปืนสั้น มีเปลทหาร มีข้าวสารพกมาคนละนิด จาน ช้อน แก้วน้ำ แล้วมีกะทะ มีหม้อ แบ่งๆ กันไปในสิบคน และแต่ละคนต้องถือปืนยาวคนกระบอกตลอดการเดินทางด้วย คิดว่าหนักขนาดไหน หมวกที่สวมใส่คือหมวกปีกสั้นสีดำมีตราทหารพราน ชุดที่สวมใส่คือชุดสีดำของทหารพรานและผ้าที่พันคอเป็นสีดำแถบม่วง แต่ละค่ายสีจะต่างกัน ชุดดำว่าร้อนแล้วยังต้องใส่ชุดซับในที่คบ้ายเสื้อยืดบางๆข้างในด้วยนะ ร้อนอบอ้าวมาก รองเท้าที่ใส่คือคอมแบทสีดำมันก็หนักเหมือนกัน ทั้งตัวหนักเกือบร้อยได้มั้ง 13 : 50 น. “ พวกเราจะไปโรงเรียนG ก่อนนะ โรงเรียนK หมู่3ไปมาแล้ว เหตุการณ์ยังสงบ ไม่มีอะไรที่แปลกๆ ” ผู้หมวดนกพูดขึ้น พวกเราทั้งสิบคนพยักหน้าพร้อมกันอย่างรับรู้ แล้วพากันเดินตามหลังผู้หมวดไป โรงเรียนG 16:45 น. พอถึงหลังโรงเรียนผู้หมวดก็ให้หัวหน้าหมู่ก็คือพี่ส้มอายุมากกว่าฉันสองปี และรองหัวหน้าก็คือพี่ใจรุ่นราวคราวเดียวกับพี่ส้ม กระโดดข้ามกำแพงไปดูลาดเลาในโรงเรียนก่อน “ กล้วย หวาย หวาน กบ ไปตรวจดูรอบโรงเรียน ส่วน มุก ฟ้า ฝ้าย ฝน ตามผมมา พวกเราไปหาที่พักที่คิดว่าปลอดภัยที่สุดเพื่อจะพักคืนนี้นะ ประมาณหกโมงเย็นมาเจอกันที่เดิมตรงนี้นะทุกคน ” ผู้หมวดพูด พวกเราก็ตอบรับด้วยน้ำเสียงเบา และต่างแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย พวกเราสี่คนกับผู้หมวดอีกหนึ่งคนเดินหาที่ปลอดภัยกันไปทั่วจนเจอ คิดว่าตรงนี้น่าจะปลอดภัยที่สุด เพราะรอบๆ มีต้นไม้ทึบสามารถพลางกายได้บ้าง และมันก็ไม่ไกลจากโรงเรียนมากนัก พอเจอที่พักก็ช่วยกันก่อไฟเพื่อเตรียมทำอาหาร ตอนฝึกเคยฝึกกองไฟแบบไม่ให้มีควันออกมามากด้วย พวกเราจึงช่วยกันทำ ส่วนผู้หมวดก็เริ่มวางกับดักรอบๆ เพื่อความปลอดภัยยามพักผ่อน ถ้ามีใครพลีพลามเข้ามาก็จะโดนกับดัก มันสามารถทำให้คนที่นอนอยู่ตื่นขึ้นมาได้ ในป่าใช่ว่าจะสามารถหลับอย่างสบายใจได้นะ แค่มีเสียงดังก็พากันสะดุ้งตื่นแล้ว เพราะต้องตื่นตัวตลอดเวลา ไม่อย่างนั้นจะเป็นอันตรายได้ ถ้าหากหลับลึกเกินไป เจ็ดวันต่อมา ตลอดที่ผ่านมาราบรื่น ไม่มีเหตุการณ์อะไร แต่อุปสรรคที่หนักหนาคือลื่นตลอดทางและร่างกายก็เปียกช่ำ ชื้น เอือดไปหมด เพราะพายุเข้าฝนกระหน่ำ ต้องพักในโรงเรียนแห่งหนึ่งที่มีน้ำท่วมสูง โรงเรียนเลยปิดชั่วคราว วันนี้มีวิทยุสื่อสารวอมาขอความข่วยเหลือ ให้ไปช่วยอพยพประชาชนที่ติดอยู่ในบ้านเรือนและผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งพื้นที่นั้นอยู่ห่างจากที่พวกเราพักแค่หนึ่งตำบลระยะทางประมาณสองกิโลเมตร ตอนนี้พวกเราเลยพากันออกเดินทางทั้งที่ฝนตกมาพร้อมลมกระโชกแรง แต่มันโชคดีที่ฟ้าไม่แลบ หมู่บ้านN พอมาถึงที่นี้ก็ใกล้เที่ยงพอดี ฝนตกโปรยๆ มีชาวบ้านมากมายที่นั่งเรียงรายบนถนน เพราะพื้นที่ตรงนี้มันสูง น้ำเลยมาไม่ถึง ใช่ว่าจะมีแค่ทหารพรานมาช่วย ทหารบกก็มา ไม่รู้ว่าค่ายไหนเหมือนกัน เพราะสามจังหวัดมีหลายค่ายมาก ไม่ว่าจะค่ายทหารบกหรือทหารเรือและทหารพรานทั้งหญิงและชาย ค่ายไหนที่อยู่ใกล้เหตุการณ์มากสุดก็จะมาช่วยเหลือ แต่ทหารหญิงดูแล้วน่าจะมีแค่ค่ายพวกเรา ❤️__________❤️ นามปากกาผกายมาส ?⬇️❌❌ชี้แจง❌❌⬇️? ***ที่พิมพ์เกี่ยวกับทหารพราน ในค่ายทหาร การปฎิบัติหน้าที่ทุกอย่างที่พิมพ์ไป ไม่ได้อ้างมาจากความจริง ไรต์แค่เสริมเติมแต่งไปเอง มันคือการสมมุติขึ้นมาแต่ทางค่ายทหารพรานชายมันจะมีจริงๆนะถ้าจำไม่ผิด เรื่องนี้แต่งมาไม่ได้อ้างอิงจากความจริง พิมพ์ขึ้นมาเองล้วนๆ คนที่รู้จริงในเรื่องทหารอย่าว่ากันนะคะ ไม่ใช่ว่าไม่อยากเอาข้อมูลจริงๆมาเผยแพร่นะคะเพราะในกูเกิลจะมีให้คันหาอยู่แล้ว แต่ไรต์ไม่ได้แต่งเน้นความจริงหรือเกี่ยวกับทางราชการเยอะและกลัวจะไม่เป็นผลดีเลยเลือกจะสร้างขึ้นมาเอง เป็นเพียงการสมมุตินะคะ*** ***ขอแทนสามจังหวัดว่า จังหวัดA จังหวัดB จังหวัดC นะคะ ***
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD