===}ตัดภาพมาที่สระน้ำ{===
หญิงสาวร่างระหงสัดส่วนอวบอั๋นผิวสีน้ำผึ้งอกสวยเอวคอดสะโพกผายเท้าเล็กที่ใส่ชุดว่ายน้ำบิกินี่สะท้อนแสงสีน้ำเงินมีวงแหวนเกาะผ้าชุดว่ายน้ำนั้นอย่างสวยงาม เธอว่ายในสระอย่างสนุกสนานเหมือนเงือกน้อยว่ายบนสระน้ำอย่างสง่างาม...
.
เดี๋ยว! นั่นน้องสาวนายไม่ใช่เหรอ!
.
ก็ใช่แหละ ผมที่อดดูไม่ได้ก็ไปบ่นให้แก่ทอมมี่ที่ยิ้มแก้มตุ่ยนอนอยู่ข้างผมว่า
"ให้ดิ้นตายซิวะ! ฉันละอิจฉาแกจริงๆที่มีน้องฉันเป็นแฟนเนี่ย"
"หึงทั้งที่มีเมียแล้วเหรอครับพี่เขย"
ผมที่โดนแซวอย่างงั้นจึงได้เข้าไปในโรงแรมเพื่อเปลี่ยนชุดบนห้อง แต่พอขึ้นไปได้ก็ปรากฏว่า
กรี๊ด!!!
เสียงกรีดร้องดังขึ้นจากด้านล่าง ผมจึงมองออกไปนอกหน้าต่าง พบว่ามีหญิงสาวชาวอเมริกันซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวอีกคนหนึ่งกำลังจมน้ำ ผมที่ได้เห็นจึงจะไปช่วย!
"...แกคิดจะไปช่วยอีนังคนนั้นรึไง..."
จู่ๆผมก็ได้ยินเสียงของใครคนหนึ่ง ผมหันซ้ายแลขวา มองไปในห้องนั้นก็ไม่มีใครอยู่เลย แต่ครั้นจะเปิดประตู กลับพบว่าประตูถูกปิด ทำอย่างไรก็ไม่เปิดให้ ผมจึงได้หันไปที่หน้าต่างหวังจะโดดลงไป คิดได้ดังนั้นผมก็วิ่งหมายจะโดดจากในห้องเพื่ออิสรภาพแม้ว่าจะต้องเจ็บตัวจนถึงขั้นขาแข้งหักก็ตาม แต่เมื่อผมวิ่งไปหมายจะโดดออก หน้าต่างเจ้ากรรมก็ดันปิดไว้ทุกบ้าน ผมทำเท่าไหร่ จะถีบหน้าต่างรึว่าจะร้องขออย่างไรก็ไม่สามารถออกไปได้ ทันใดนั้นเอง ประตูจากทางด้านหลังก็ได้เปิดออก แต่สิ่งที่ทำให้ผมตกใจคือ ชายร่างพิการเข็นรถเข็นเข้ามาในห้อง หน้าตาหล่อเหลา แต่สีหน้าและแววตากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่น่ากลัว
ไม่ผิด...
ไม่ผิดแน่ๆ!
ชายคนนี้คือนายอาร์ม
ผู้คอยจองล้างจองผลาญคนต่างชาตินั่นเอง!!!
" กะ แก แกคือ..."
ปีศาจที่ผมเห็นได้กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นแต่ดุดันว่า
"...สายัณห์สวัสดิ์ สหาย..."
" ก กะ กะ แก แกต้อง ต้องการอะไร"
ผมตอบอย่างไม่เป็นภาษา ปีศาจผู้ไม่กลัวเวลากลางวันตนนั้นจึงกล่าวว่า
"ฉันต้องการฆ่าพวกชาวต่างชาติทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนผิวขาว ผิวดำ หรือแม้กระทั่งพวกเอเซียก็ตาม...!!"
"คุณจะฆ่าพวกเราทำไมกัน! ผมไม่...ไม่เคยทำให้คุณเดือดร้อนอะไร..."
"เพราะฝรั่งอย่างพวกแกมันเจ้าเล่ห์ ป่าเถื่อน ฉันจึงต้องล้างแค้นพวกแกให้สมกับที่พวกแกทำระยำเอาไว้ตั้งแต่ฉันยังมีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะชาวอเมริกันอย่างแกนี่แหละที่ฉันจะฆ่า..."
ปีศาจตนนั้นมองมาที่มือที่สวมแหวนของผม มันจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่กราดเกรี้ยว
"แต่แกเสือกเอาแหวนอัปรีย์ใส่ไว้ ฉันจึงฆ่าแกไม่ได้ แต่จำไว้ จำไว้ใส่ในสมองของแกไว้ ฉันจะฆ่าพวกแก ฆ่าพวกแก ฆ่าพวกแกให้หมดทุกคน!"
ความว่างเปล่าบังเกิดขึ้นในห้องของผม มีเพียงลมที่ตีเข้ามาในห้องซึ่งมันเย็นผิดเวลามาก อย่างไรก็ตามผมก็รีบตั้งสติเปิดหน้าต่างไปมองที่สระก็พบว่าชายที่น่าจะเป็นพนักงานในโรงแรมคงจะไปช่วยเธอไว้ได้ทัน แต่ว่า คำพูดของปีศาจตนนั้นก็ยังคงดังก้องอยู่ในหัว
"ฉันจะฆ่าพวกแก ฆ่าพวกแก ฆ่าพวกแกให้หมดทุกคน!"
เมื่อผมคิดได้ดังนั้น ผมจึงรีบวิ่งลงมาที่ข้างล่างเพื่อเล่าในสิ่งที่ผมได้ประสบพบเจอมากับคุณประไพ เราจึงวางแผนที่จะกำจัดปีศาจตนนั้น
ผมกับคุณประไพเดินทางมาที่วัดใกล้โรงแรมในตอนค่ำเพื่อปรึกษากับพระสงฆ์ไทยในเรื่องนี้ เมื่อผมเดินทางผมและคุณประไพก็ได้มาที่กุฏิของเจ้าอาวาสแห่งนี้ซึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสือพระอยู่ เมื่อเข้านมัสการคุณประไพเธอก็เล่าเรื่องให้เจ้าอาวาสฟัง ท่านจึงหันมาตอบกับเธอว่า
"อาตมาภาพก็ไม่ใช่พวกร่ำเรียนเวทย์มนต์หรอกโยม อีกอย่างมันไม่ใช่กิขของสงฆ์ แต่ว่าน่าจะมีคนหนึ่งที่สามารถปราบผีตนนี้ได้"
"แล้วคนๆนั้นเป็นใครเหรอค่ะหลวงพ่อ"
เมื่อเธอถามท่าน หลวงพ่อเขาจึงมอบบัตรของนายคนนั้น เธอมองไปที่บัตรนั่น ผมเองก็ไม่ทราบด้วยว่าข้อความนั้นเป็นอย่างไร รู้แต่เพียงเบอร์ที่อยู่ เราโทรติดต่อแล้วจึงเดินทางไปหาเขา ซึ่งมันก็อยู่ไม่ไกลจากที่โรงแรมบ้านสินอมรมากนัก เราไปที่นั่นก็พบกับคุณอินทร เทวรักษ์ คุณอินทรเป็นคนมีชื่อเสียงทั้งในเรื่องธุรกิจและเรื่องส่วนตัว เอาเป็นว่า เขาตกลงที่จะไปปราบวิญญาณตนนี้ แต่ว่าเขาขอให้คนใช้ไปด้วยสามสี่คน
ในคืนนั้น ผมและคุณอินทรที่พาคนของเขาไปที่ป่าช้าของวัด โดยมีสัปเหร่อสินเป็นผู้นำทาง บรรยากาศภายในป่าช้าไทยนั้นวังเวงไม่น้อยไปกว่าป่าช้าที่นิวแฮมป์เชียร์เลย มิหนำซ้ำตอนกลางคืนของที่นี่ยังเย็นยะเยือกจนถึงกระดูกเลยก็ว่าได้ เสียงหมาหอนต่างรับหอนกันเกรียวราวกับว่ามันกำลังทำให้ค่ำคืนไม่เงียบเหงาทั้งที่เราที่เดินมาในป่าช้าไม่เคยต้องการเสียงของพวกมันเลย จนมาถึงหลุมศพของนายอาร์มซึ่งเป็นฮวงซุ้ยแบบจีน เราจึงจัดการทุบฮวงซุ้ยแล้วลากเอาหีบศพออกมา แต่ความประหลาดก็ได้เกิดขึ้น เมื่อเราได้เปิดหีบ กลับพบว่าสิ่งที่อยู่ในหีบกลับเป็นชายแก่ร่างเล็กเหี่ยวย่นใส่ชุดไทยสีขาว นอนตายอยู่ในโลงนั่น ผมจึงได้ถ่ายรูปส่งไปให้คุณประไพก็ทราบว่าเป็นร่างของทวดเธอ ทันใดนั่นลมเย็นก็พัดตีหน้าพวกเราจนบังวิสัยทัศน์ไม่เห็นไปพักใหญ่ เมื่อลมหยุดพัดเราจึงมองกลับไปในหีบศพอีกครั้งแต่กลับพบว่าร่างของเขาหายไป เราจึงต้องกลับไปที่วัดอีกครั้งเพื่อหาหรืออีกหน
เมื่อมาถึงวัดพวกเราก็หารือกัน คุณอินกล่าวอย่างหัวเสีย
" ให้ตาย! ไอ้ปีศาจตนนั้นมันเจ้าเล่ห์นัก "
"แล้วคุณมีความเห็นยังไงเหรอครับ"
คุณอินทรคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวถามกับคุณประไพว่า
"คุณประไพมีแบบแปลนของบ้านสินอมรรึเปล่าครับ"
ประไพจึงได้เดินมาที่รถ หยิบเอากระดาษม้วนหนึ่งมาให้เขา คุณอินทรคลี่ออกมาดู กลับพบว่ากระดาษถูกฉีกหายไป คุณอินทรจึงถามคุณประไพว่า
"คุณประไพครับ ใต้กระดาษมันถูกฉีกนี่ครับ คุณประไพมีกระดาษต่อกันมั้ยครับ"
" ไม่มีค่ะ ตอนที่ได้รับมาจากคุณพ่อมันก็เป็นอย่างนี้แล้ว"
เธอตอบคุณอินทรอย่างจนใจ สัปเหร่อสินจึงได้วิ่งออกไปแล้วกลับมาพร้อมกับกระดาษอีกม้วนหนึ่ง
" นี่ครับ! ปู่ผมให้ผมก่อนตาย คุณปู่ท่านกับชับผมว่า...ถ้าจะกำจัดผีนายอาร์มจะมีเพียงสิ่งนี้เท่านั้นที่จะนำทางไปกำจัดมัน!"
Ead Jams part
Begins Jinni part
ฉันอาบน้ำเสร็จ ฉันก็มาคุยกับทอมมี่ที่เล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง
"ทำไมเธอถึงไม่ไปช่วยเจมส์หละ"
เมื่อฉันพูดเช่นนั้น เขาก็รีบทิ้งโทรศัพท์ในมือแล้วกุมหัวตัวเองไว้อย่างน่าสงสาร
"ฉันไม่อยากจะไปเจอกับวิญาณตนนั้น! ผีนายอาร์มนั่น! มันน่ากลัว...นายอาร์มนั่น มันหวังจะฆ่าพวกเรา ฆ่า!"
ฉันเห็นเขาเสียสติอย่างนั้นจึงได้เข้าไปปลอบเขา แต่ว่าที่ประตูมีคนเคาะ ฉันจึงเดินไปดูเพราะคิดว่าคงเป็นพี่ที่กลับมา แต่ดันพบว่าเป็น...
.
.
.....อึก นี่ฉัน นี่ฉันอยู่ที่ไหนกันนี่? มันเป็นห้องใหญ่ ใหญ่มาก แต่ดูสกปรก ดูเก่า จนน่ากลัว ใยแมงมุมหลายเส้นหรือแม้กระทั่งฝุ่น รวมถึง
โลงศพ
ฉันเดินไปที่โลงศพนั้น แต่ฉันก็นึกขึ้นมาได้ว่า ตัวเองถูกขังในห้องใต้ดินแน่แล้วจึงวิ่งไปที่ทางออกซึ่งเป็นบันไดหิน แต่ว่า กำแพงสีดำก็มาตันทางจนได้ จากนั้น...ฉันก็เดินลงมาร้องให้อยู่ข้างล่าง ที่นั่นฉันมองไปที่โลงศพอีกครั้ง
"คุณอยากออกไปจากที่นี่เหรอ?"
มันเป็นร่างของชายหนุ่มวัยสามสิบปี หน้าตาคมสัน แต่ว่า เขาไม่มีขา! เขาไม่มีขา ใช่หละ! เขาเป็นผี!!
"เธออยากจะมีอิสรภาพจากที่นี่เหรอ"
ฉันที่อยากออกไปจึงตอบว่า
"ขอร้องเถอะค่ะ ดิฉันไม่รู้เรื่องอะไร ดิฉันอยากจะให้คุณปล่อยดิฉันไปเถอะค่ะ"
"อย่างนั้นเหรอ"
แต่ปีศาจตนนั้น ได้เปิดโลงศพแล้วเอากริชที่อยู่ด้านในเหาะมาที่ฉัน
" อยากจะออกไปจากที่นี่ แต่ต้องแลกกับชีวิตของเธอ..."
" ชีวิต...ของดิฉัน"
ดิฉันทวนคำอย่างหวาดกลัว
" กรุณาเถอะค่ะ ปล่อยดิฉันให้เป็นอิสระเถอะนะคะ เราสองคนไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย"
อาร์มเขาจึงโยนรูปฉบับหนึ่งมาให้ฉัน ฉันเห็นก็ตกใจอย่างมาก
เพราะรูปที่ปรากฏเป็นผู้หญิงชาวอเมริกันถือร่มซึ่งรูปนั้นมีอายุมากกว่าร้อยปี
พูดเท่านี้หลายคนคงไม่ประหลาดใจ
แต่เพราะรูปเธอดันเป็นคุณย่าทวดผู้เป็นพี่ของปู่ของฉันเมื่อยังสาวนั้นเอง!!! เราถึงได้รู้ว่าทำไมเรื่องนี้ถึงเกี่ยวพันกับเรามากขนาดนี้!!
" ในชาติก่อนย่าของเธอหนีฉันไปโดยเอาลูกฉันไปด้วย! ฉันอุตส่าห์ไว้ชีวิตแม่กับย่าของเธอให้อยู่กับฉันให้อยู่อย่างสุขสบาย! แต่ย่าของเธอก็หนีฉันกลับไปอเมริกา! เธอรู้รึเปล่าว่าฉันออกตามหาย่าของเธอให้วุ่น! ห่วงทั้งย่าเธอที่กำลังตั้งท้องลูกของเรา! ห่วงว่าเธอจะตายเพราะไอ้ลูกระเบิดที่ชาติของเธอมาทิ้งบอมบ์ที่แผ่นดินของฉัน ฉันจึงต้องออกไปหาย่าของเธอ แต่เคราะห์หามยามร้ายฉันจึงประสบรถพลิกคว่ำทำฉันพิการในช่วงเวลาสุดท้าย ก่อนตายฉันจึงวางแผนแอบเอาน้ำมันเผาบ้านตัวเองฆ่าตัวตายซะ ฉันเฝ้าปราวณาที่จะฆ่าชาวต่างชาติทุกคนที่มาเกี่ยวข้องกับเมียของฉัน!!!"
ฉันที่ทนฟังไม่ได้หมายจะวิ่งออกไป แต่เพราะเขาเป็นวิญญานเลยสะกดจิตฉันให้ตกอยู่ในภวังค์
" มาซิ มาซิ มาเป็นคู่รักของฉัน มาร่วมอยู่ด้วยกันเถอะนะที่รัก ฉันจะมอบชีวิตใหม่ให้แก่เธอ..."
Ead Jinni part
Begins Jams part
ผม คุณอินทรและคุณประไพที่กลับมาจากป่าช้าก็ได้รับข่าวจากทอมมี่ว่าเธอถูกปีศาจอาร์มกักขังไว้ ผมจึงได้รีบขว้าแปลนบ้านสินอมรที่ได้จากคุณสินมาคลี่ดู พบว่ามีทางไปที่ห้องใต้ดินอยู่ ผมและคุณอินทรจึงได้หาอีเตอร์ขุดดินมาขุดทางไปห้องใต้ดินซึ่งเป็นใต้บันไดนั้นเอง ผมพยายามขุดก็เจอจึงได้รีบขุดจนทางเปิดไปได้ จากนั้นเราจึงได้รีบวิ่งไปโดยมีทอมมี่ไปด้วย เราวิ่งลงไปจนถึงห้องใต้ดินก็พบกับกำแพงดำ อินทรจึงได้เห็นตัวลดกำแพงซึ่งเป็นเหมือนพวงมาลัยขับเรือจึงได้กดไป กำแพงดำจึงลดลงไปจนเราเดินลงไปได้ ก็พบกับผีที่ตายในบ้านสินอมรมาอยู่ที่นี่ คุณอินทรจึงเสกมนต์แล้วใช้มีดหมอลงอาคมแตะไปที่ร่างของผีร้ายพวกนั้นให้แตกไปจนเห็นทางข้างหน้า ทันใดนั้นเราก็เห็นร่างของหญิงสาวที่กำลังยื่นแขนที่กรีดเลือดส่งไปให้ร่างคนตายในโลง ผมที่รู้ว่าเธอคือใครจึงได้ตะโกนไปว่า
" อย่านะจินนี่!!! "
ผมวิ่งไปหาเธอในทันที ผมใช้มือที่สวมแหวนมุกดากอดเธอให้ออกห่างจากศพนั้น แต่มันก็สายไปแล้ว ร่างของปีศาจที่ต้องเลือดก็เริ่มค่อยๆ มีเลือด มีหนังและมีเนื้อมากขึ้น จนเนื้อที่ดำเป็นตอตะโกเพิ่มเนื้อหนังราวกับเป็นน้ำแข็งแห้งใส่ในบ่อสบู่จนฟองทะลักออกมา ร่างสีดำกลับกลายร่างเป็นมนุษย์ปรกติอีกครั้งหนึ่ง เมื่อมันกลายเป็นมนุษย์อีกครั้ง มันก็เหาะออกจากพวกเราเพื่อไปยังทางออก ผมกับคุณอินทรหมายจะออกไปจับมัน แต่มันดันมาก้อนอะไรก็ไม่รู้ คล้ายๆกับเม็ดแบงสแนป(ที่ไทยเรียก"เม็ดกระเทียม")แต่มันแตกควันออกมากแล้วควันมันเป็นพิษพวกผมไปต่อไม่ได้
Ead Jams Part
Begins Demons Arm Part!!!!!
ตอนนี้ข้ากลายเป็นอิสระอีกครั้งหนึ่งแล้ว นับตั้งแต่ร้อยปีก่อน ข้าก็ได้สั่งให้สัปเหร่อเซ่นซึ่งเป็นสัปเหร่อของวัดในขณะนั้นและเพื่อนๆที่รู้จักกันเอาข้ามาไว้ที่ใต้บ้านหลังนี้ ข้ารอคอยชาวต่างชาติทุกคนในบ้านนี้เพื่อที่จะมาเป็นเชื้อพลังให้แก่ข้า แม่ข้าตายเพราะพวกมัน ข้าสาบานอย่างนั้น เพราะแม่ข้าไม่เคยไปฆ่าใคร พ่อข้าก็ด้วย ตอนนั้นข้าอายุได้สิบเอ็ดปี แม่ของข้ากำลังรดน้ำต้นไม้ตามกิจวัตร ทันใดนั้นกระสุนปริศนาก็เจาะมาที่อกของแม่ข้า ข้าที่อยู่ในบ้านจึงวิ่งออกมา ภาพที่ข้าเห็นคือผู้หญิงร่างเล็กนอนหายใจรวยรินอย่างน่าสงสาร ข้าจึงได้ถลากอดแม่ของข้าเป็นครั้งสุดท้าย แม่ของข้าเอามือน้อยๆเรียวบางจับมาที่ใบหน้าของข้า แล้วนางก็จากข้าไป...
พ่อของข้าแจ้งจับนายคนนั้นจนทราบว่าเป็นลูกน้องของเจ้าพ่อคนหนึ่งที่พำนักในไทย ข้าจึงได้เรียนต่อฝึกฝนตัวเองให้แข็งแกร่งเพื่อหวังว่าซักวันโอกาสที่จะได้ล้างแค้นไอ้พวกฝรั่งพวกนั้น โดยเฉพาะชายคนนั้น มันพรากความสุขของข้า และเมื่อข้ากลับมาข้าก็ได้ออกตามล่ามันอย่างพลิกแผ่นดินจนเจอครอบครัวมันที่ปะดังเบซาร์ด้วยความบังเอิญ ข้าจึงจับมันทั้งโคตรกลับไทย ในคราวแรกข้าทดสอบมันว่ามันจะเอาชีวิตไว้โดยทิ้งครอบครัวให้ตายไปหรือว่าจะให้ฆ่ามันเพื่อที่จะปล่อยครอบครัวมันไป มันตอบว่าไงรู้มั้ย มันตอบว่าให้ฆ่าพวกนางแล้วปล่อยมันไป ข้าจึงต้องฆ่ามันแล้วจับเอาสองนางมาไว้ที่บ้าน ความจริงแล้วทั้งสองนางต่างหน้าตาสวยมาก สวยจริงๆ โดยเฉพาะลูกสาวของนาง โจนส์ ไวท์เฮาท์สันท์ นางเปรียบเสมือนเพชรเม็ดงามที่เข้ามาในชีวิตของข้า นางเป็นสาวอเมริกันผิวสีน้ำผึ้งที่เข้ามาในชีวิตของข้า ข้ารักนางมาก แต่นางก็ทรยศข้า หักหลังข้าทิ้งข้าไป ข้าออกตามหานางจนเกือบจะตามเจอแต่ข้ากลับถูกระเบิดฝ่ายสัมพันธมิตรบอมบ์ที่ถนนที่ข้าขับด้วยความบังเอิญ ข้าจึงเกลียดชาวต่างชาติทุกคนเพราะพวกมันคือต้นเหตุที่ข้าต้องกลายเป็นคนพิการเช่นนี้...
Ead Arm Part
เมื่อปีศาจนายอาร์มไปจากที่โรงแรมนั่นแล้ว ผม น้องผม ทอมมี่ และคุณอินทรจึงลากลับบ้านของตนไป ความหวังของเราสิ้นสุดลงแล้ว และมันยังคงอยู่ หากเราไม่กำจัดมัน พวกเราจะไม่สามารถหยุดการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นนี้ได้อีก ผมนั่นจึงต้องการผู้ที่จะปราบมัน จงหยุดมันไว้เถอะ! เพื่อการมีอยู่ของมนุษยชาติ จงหยุดมันไว้! ไอ้ปีศาจหนุ่มอันตรายมันอยู่ทุกที่นั่นแหละ มันจะเป็นอะไรขอแต่เพียงนึกคิดมันทำได้ทั้งนั้น ผมต้องไปแล้ว ผมต้องดำรงอยู่เพื่อรอมันกลับมาอีกครั้ง พวกคุณอ่านเรื่องของผมก็ช่วยกันติดประกาศด้วย มัน...มันน่ากลัวจริงๆ ถ้าอยุดมันได้จงหยุดมันเพื่อพวกเราเถอะ เรากลัว กลัวจริงๆ.....
Jams WhitehouseSant
May God be with you
good luck by "สตีรอรรถ"
.สวัสดี.