10.ผูกปิ่นโต

1020 Words
หลังจากที่ชายหนุ่มกลับไปแล้ว เธอก็เก็บถ้วยชามล้างจนสะอาดจากนั้นก็ไปจัดการขุดแปลงผักหลังบ้าน เพื่อที่จะเตรียมแปลงผักเอาไว้ก่อนที่จะลงมือปลูกในตอนเย็น เพราะเธอมีน้ำพุวิญญาณจึงไม่จำเป็นต้องตากแดดดินเอาไว้ แค่ลงเมล็ดปลูกตอนเย็นก็พอ เป่ยลู่ทำทุกอย่างเสร็จสิ้นในตอนเย็น และเตรียมเมล็ดผักเอาไว้ปลูกเรียบร้อยแล้ว เธอนำอ่างไม้ที่บังเอิญเจอในห้องเก็บของหลังบ้านมาใส่น้ำพุวิญญาณผสมกับน้ำปกติแช่เมล็ดเอาไว้ชั่วครู่ แต่เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นต้นออ่นจากเมล็ดผักก็งอกออกมาแล้ว เธอจึงต้องนำไปลงปลูกที่แปลงดินแล้วใช้น้ำที่เหลือค่อยๆลดลงในดินเล็กน้อยเท่านั้น เพราะกลัวว่าผักจะโตเร็วเกินไป และหากคนอื่นมาเห็นเข้าคงไม่ดีแน่ จากนั้นก็นำไม้มาปักเอาไว้ นำผ้าออกมาคุลมด้านบนเอาไว้เพื่อปิดบังสายตาเพื่อนบ้านหลังอื่นๆเอาไว้ก่อน อีกสัก2-3วันค่อยมาเปิดผ้าออกเพื่อให้ผักได้รับแสงแดด เช้าวันนี้เป่ยลู่เตรียมการส่งปิ่นโตให้ชายหนุ่มเป็นวันแรก เธอตั้งใจทำอาหารสามอย่างด้วยกัน เพราะเขาบอกแก่เธอว่าต้องกินสองมื้อ เธอแค่ทำในปริมาณที่มากกว่าเดิมนิดหน่อยก็ถือว่าเพียงพอแล้ว หลังทำอาหารเสร็จไม่นานเขามารอที่รับปิ่นโตอาหารเพื่อไปทำงานต่อทันที แม้ว่าจะไม่ทันได้ทักทายอะไรกันมากมายนักแต่เธอก็ไม่ได้คิดมากอะไร เพราะถึงยังไงก็เป็นเพียงคนรู้จักกันเท่านั้นเอง วันนี้เธอไปดูการทำรถเข็นว่าคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว เพราะนี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว ไม่รู้ว่าคุณตาจะทำเสร็จหรือยัง แต่เมื่อมาถึงก็ต้องยิ้มกว้างเพราะรถเข็นประกอบเสร็จพร้อมใช้งานแล้ว เป่ยลู่ลูบคลำรถเข็นของเธออย่างดีใจ พรุ่งนี้เธอจะเริ่มขายอาหารแล้ว เธอตั้งใจว่าะเข็นไปขายที่หน้าสถานีรถไฟ ซึ่งห่างจากบ้านเช่าของเธอไปไม่มาก ใช้เวลาเดินไปแค่ 10นาทีเท่านั้นเอง ซึ่งเธอเห็นว่าที่สถานีมีคนขายของน้อยกว่าบริเวณตลาดมากนัก นี่จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเธอ แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือกระดาษไข สำหรับห่ออาหารไม้รู้ว่ามีขายบ้างหรือเปล่า เพราะถ้าหากขายทั้งชามราคาอาจจะแพงจนเกินไปเนื่องจากชามที่เธอซื้อมาราคาใบละ 10 เหมาแล้ว ในยุคที่ราคาไข่ไก่นั้น 2ฟองต่อ1เหมา หากเธอขายแพงมากเกินไปใครจะซื้อากหารของเธอกินกันล่ะ เป่ยลู่เข็นรถเข็นของเธอกลับมาที่บ้าน จากนั้นก็เช็ดล้างทำความสะอาด จากนั้นก็นำถ้วยชามและของใช้ที่สั่งทำมาล้างจนหมด ก่อนจะจัดเรียงเอาไว้ใต้รถเข็นที่เช็ดแห้งแล้ว “ ทำอะไรอยู่หรอครับ “ อี้เหมินที่กำลังเดินเข้ามาเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าเธอก้มๆเงยๆอยู่ “พี่นั่นเอง ฉันกำลังเตรียมของจะไปขายค่ะ “ “ ขายของ ?” “ ใช่ค่ะฉันจะขายอาหารที่หน้าสถานีรถไฟ ช่วงเช้าถึงบ่ายค่ะ “ “ อ้อ ” “ ว่าแต่พี่มาหาฉันมีอะไรหรือเปล่าคะ “ “ ไม่ๆ ไม่มีอะไร แค่ซื้อผลไม้มาฝาก พอดีว่าไปต่างเมืองมา แล้วนึกถึงคุณ “ “ ขอบคุณนะคะ “ เป่ยลู่รีบผลไม้จากเขามาแล้วเดินเข้าไปในบ้าน พร้อมกับแก้วน้ำในบ้านที่เธอนำมาให้เขาดื่มแก้กระหาย ซึ่งชายหนุ่มก็รับแก้วน้ำไปอย่างยินดี เขาดื่มรวดเดียวหมดแก้ว ก่อนจะขอตัวกลับไปทำงานของตนเองต่อ ตกเย็นเป่ยลู่ออกไปตลาดเพื่อซื้อเนื้อสัตว์และผักมาทำอาหารที่จะทำไปขายที่สถานีรถไฟในวันพรุ่งนี้เช้า เธอเลือกซื้อของที่จำเป็นหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรุงรส และอุปกรณ์ วัตถุดิบอื่นๆจนเสร็จแล้วก็กลับบ้านของเธอเพื่อที่จะเตรียมข้ายของสำหรับพรุ่งนี้เช้า และแน่นอนว่าเธอนำซาลาเปาออกมาเตรียมเอาไว้เรื่อยๆจนได้จำนวนที่มากพอแล้วหยุดได้หยุดและอาบน้ำเข้านอน เป่ยลู่ตื่นขึ้นมาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างดีเธอเคี้ยวโจ๊กหมูเอาไว้รอ ส่วนซาลาเปาก็นึ่งเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนที่เหลือใส่ไว้ในหม้อและวางไว้ใต้รถเข็น ส่วนข้าวสวยและอาหารอื่นๆก็เตรียมพร้อมจนเสร็จแล้ว เธอเข็นรถออกไปทันที ส่วนอาหารของอี้เหมินนั้นเธอวางเอาไว้ที่เก้าอี้ในรั้วบ้านซึ่งเธอได้บอกเขาเอาไว้แล้ว อาจเพราะยังไม่สว่างมากนัก ผู้คนจึงน้อย เพราะบางส่วนนอนรอที่จะขึ้นรถไฟในตอนเช้าไปยังเมืองอื่นๆ เธอมาจอดรถเข็นแล้วเปิดฝาหม้อต้มโจ็กออกเล็กน้อย เพื่อให้ส่งกลิ่นออกไปข้างนอก ชาวบ้านที่มารอรถไฟได้กลิ่นหอมของโจ๊กในตอนเช้าเช่นนี้ก็พากันมาที่รถเข็นของเธอ “ กลิ่นหอมมากเชียวล่ะ น้องสาวโจ๊กของเธอขายยังไง “ ลูกค้าหญิงสาวเอ่ยถาม “ ไม่แพงค่ะ ไม่ใส่ไข่ 8เหมา ใส่ไข่ 10 เหมา แต่ถ้าหากจะซื้อชามไปด้วยราคา คิดเพิ่ม 10 เหมาค่ะ “ “ ของฉันไม่ใส่ไข่เอาชามด้วย กลัวไม่ทันขึ้นรถไฟน่ะ “ “ ได้เลยค่ะ “ “ น้องสาวในหม้อนั่นใส่อะไรหรอ “ ลูกค้าคนที่สอง “ อ้อ ซาลาเปาค่ะ มีทั้งใส้ผัก ใส่หมู ใส่ผักลูกละ 5 เหมาค่ะ ใส่หมู 8 เหมาค่ะ “ “ ฉันเอาใส่ผักกับใส้หมูอย่างละลูก “ ลูกค้าคนที่สาม “ ได้เลยค่ะ “ “ ฉันเอาซาลาเปาด้วย ใส้ผักสองลูก “
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD