ตอนที่ 4 พนักงานใหม่ของไนต์คลับ

2363 Words
ดาว ดาราภัสมาทำงานที่ร้านเป็นประจำทุกเย็น เลิกงานก่อนเที่ยงคืนของทุกวัน เฟรนด์ที่เพิ่งจะหายเจ็บก็ได้มาทำงานที่นี่ด้วย แต่เธอก็ต้องตกใจยิ่งกว่าเมื่อได้เจอกับคนที่ขับรถเฉี่ยวเธอซึ่งดาว ดาราภัสนั้นเจอเขาตั้งแต่วันแรกที่มาทำงานแล้วจึงไม่ได้แปลกใจอะไร “ดาว ไม่เห็นบอกเฟรนด์บ้างว่าพี่คนที่ขับรถชนเฟรนด์เขาเป็นบอดี้การ์ดของบอสใหญ่” เพื่อนสนิทเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงนอยด์ๆ ซึ่งดาว ดาราภัสก็พอจะเดาออก “โอ๋ๆๆ อย่าโกรธดาวเลยนะเฟรนด์ พอดีช่วงนี้ยุ่งๆ ทั้งงานที่มหาวิทยาลัย ทั้งงานที่คลับ” ดาราภัสเอ่ยออกมาตามความจริง เธอไม่ได้ตั้งใจจะไม่บอกเพื่อน เพียงแต่ยังไม่มีโอกาสมากกว่า กลับถึงห้องก็หลับเป็นตาย “คิกๆๆ ดาว เฟรนด์ไม่โกรธดาวหรอก เรื่องแค่นี้จะโกรธไปทำไม ไปทำงานกันเถอะนะ” เฟรนด์หลุดขำออกมาเมื่อแกล้งอำเพื่อนสาวได้ ดาว ดาราภัสถึงกับส่ายหน้าไปมาให้กับความขี้แกล้งของเพื่อนสนิทก่อนที่จะเดินตามไปรับออร์เดอร์ตามโต๊ะที่เธอได้รับมอบหมาย สายตาคมจ้องมองร่างบางในชุดพนักงานเสิร์ฟของร้านไม่วางตา รอยยิ้มของเธอทำให้ท้องฟ้าที่ขาดแสงสว่างในหัวใจอย่างเขารู้สึกถึงท้องฟ้าในยามค่ำคืนที่มีหมู่ดาวมากมายกระจายไปทั่ว ความเหงาที่เคยมีกลับถูกทดแทนด้วยรอยยิ้มหวานๆ และเสียงหัวเราะใสๆ จากเด็กสาวธรรมดาๆ ที่มีโชคชะตาแสนอาภัพ รอยยิ้มผุดออกมาที่มุมปากเพียงเล็กน้อย การมาทำงานในช่วงนี้ของเขามันแปลกไป เพราะมาทำงานเมื่อไหร่ได้เห็นหน้าเธอก็ทำให้เขารู้สึกมีความสุขและอารมณ์ดีทุกครั้งไป สาวสวยวัยใสในชุดพนักงานเสิร์ฟของไนต์คลับที่กำลังก้มๆ เงยๆ เช็ดโต๊ะที่พนักงานผู้ชายเพิ่งจะมาเก็บไปก่อนหน้าตกเป็นเป้าสายตาจากหนุ่มๆ นักเที่ยวอยู่ได้ไม่น้อย ดาว ดาราภัสไม่เคยรู้เลยว่าความสวยของเธอนั้นช่างอันตราย ระหว่างที่เธอกำลังเก็บโต๊ะที่อยู่ใกล้ๆ กับโต๊ะของลูกค้าขาจรคนหนึ่งที่มานั่งดื่มเพียงคนเดียว จู่ๆ บั้นท้ายของเธอก็ถูกบางอย่างตกกระทบลงมาที่กระโปรงทำงานของเธอ ชุดของพนักงานรับออเดอร์และพนักงานเสิร์ฟที่ไนต์คลับแห่งนี้นั้นไม่ได้เปิดเผยสัดส่วนหรือโชว์เรือนร่าง แต่ทว่าพอมาอยู่บนร่างกายของดาว ดาราภัสมันกลับทำให้ดูน่ามองอย่างบอกไม่ถูก เธอหันหลังกลับไปมองก็พบว่ามีลูกค้าคนหนึ่งมองมาและส่งยิ้มมาให้ด้วยแววตาหื่นกระหาย แต่เธอยังไม่ทันจะได้ทำอะไร พี่ๆ บอดี้การ์ดก็เดินเข้ามาหาลูกค้าขาจรคนนั้น เขาถูกเชิญให้ออกจากร้านโดยไม่รู้ตัวว่าตนเองทำผิดอะไร แค่ตีก้นสาวเสิร์ฟมันก็น่าจะเป็นการทำผิดถึงขั้นต้องมาไล่ให้เขาออกจากที่แห่งนี้ไปได้ “พวกมึงรู้ไหมว่ากูลูกใคร!!!” เสียงประกาศกร้าวดังขึ้นขณะที่กำลังถูกห้อมล้อมด้วยเหล่าชายชุดดำสี่ห้าคน นักเที่ยวที่อยู่บริเวณโต๊ะใกล้เคียงต่างพากันหันมามองอย่างสนใจ ดาว ดาราภัสถึงกับงุนงง เธอยังไม่ทันที่จะส่งเสียงร้องหรือเอะอะโวยวายอะไรออกมา พี่ๆ เหล่านี้กลับสังเกตเห็นแล้ว ช่างใส่ใจพนักงานในร้านดีจริงๆ “คุณเป็นลูกใครพวกผมไม่สนหรอกครับ แต่ไนต์คลับแห่งนี้มีกฎว่าห้ามลวนลามพนักงานภายในร้าน ถ้าไม่ใช่สาวๆ ไซด์ไลน์หรือสาวๆ ที่คอยมาให้บริการแบบใกล้ชิด ไม่ว่าลูกค้าใหญ่มาจากไหนก็ห้ามยุ่งกับพวกเธอเด็ดขาด” หนึ่งในการ์ดของร้านประกาศกร้าว ดวงตาคมวาวโรจน์จนอีกฝ่ายต้องหลบสายตา “แล้วไงวะ แค่จับนิดๆ หน่อยๆ มันไม่สึกหรอหรอก แล้วผู้หญิงที่มาทำงานกลางคืนพวกนี้ก็หวังรวยทางลัดทั้งนั้นไม่ใช่หรือยังไงวะ!!” ลูกค้าขาจรผู้นั้นยังเอ่ยออกมาราวกับไม่เกรงกลัวใครจริงๆ ทั้งที่ความจริงนั้นเขาข่มความกลัวเอาไว้ เขาก็เป็นเพียงแค่ลูกชายของร้านขายยาฝั่งธน ไม่ใช่พวกไฮโซไฮซ้ออย่างลูกค้าคนอื่นที่มาเที่ยว ณ สถานที่แห่งนี้ แต่ทว่าคนฟังอย่างพนักงานสาวคนสวยกลับรู้สึกโกรธอยู่ภายในใจ ‘จับนิดจับหน่อยอย่างนั้นเหรอ…ไอ้โรคจิต!!! ทำงานกลางคืนแล้วต้องหวังรวยทางลัดกันทุกคนเลยหรือไง ไอ้บ้า!!!’ แต่ระหว่างที่กำลังครุ่นคิดด้วยความโมโหอยู่นั้น ร่างบางก็สะดุ้งทันทีเมื่อได้ยินเสียงของเพื่อนที่ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง “ดาว...เป็นอะไรไหม ลูกค้าทำอะไรเธอหรือเปล่า” เฟรนด์ จุฑารัตน์รีบวิ่งเข้ามาหาเพื่อนสนิท ก่อนที่จะสำรวจร่างกายของเพื่อนสาวและเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความเป็นห่วง “เปล่าจ้ะ พวกพี่ๆ เขาจัดการแล้ว สงสัยลูกค้าเมาน่ะ” หญิงสาวบอกเพื่อนเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายกังวลเรื่องเธอ “อ้อ...อย่างนั้นเหรอ ไม่เป็นไรก็ดีแล้วล่ะ” เพื่อนสาวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก สองสาวจึงช่วยกันเก็บโต๊ะโดยที่ไม่ได้สนใจลูกค้าโรคจิตที่ลวนลามเธออีก ทางด้านห้องเก็บเสียงข้างไนต์คลับ ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีดำยืนกอดอกหันหลังอยู่ท่ามกลางบอดี้การ์ดชุดดำสองคนที่มีรูปร่างสูงล่ำไม่แพ้กัน คนที่เพิ่งถูกการ์ดของร้านกึ่งลากกึ่งจูงออกมาจากร้านพยายามจะร้องเอะอะโวยวาย แต่ทว่าหาได้มีใครสนใจเสียงของเขาเลยสักคน “พวกมึงจะทำอะไรกูวะ!!! กูเป็นแขกของที่นี่นะเว้ย!!! ผู้จัดการคลับอยู่ไหนวะ เจ้าของก็ได้ ทำไมให้การ์ดของร้านมากักขังหน่วงเหนี่ยวลูกค้าอย่างนี้วะ ถ้ากูออกไปได้นะกูจะไปแจ้งความ” “แจ้งความ…. เชิญเลยครับ ถ้าไม่กลัวจะโดนข้อหาอนาจารณ์หึๆ” เสียงทุ้มติดเย็นชาที่ดังขึ้นมาทำเอาคนฟังรู้สึกหนาวเหน็บ จากแอร์คอนดิชันเนอร์ที่ว่าเย็นอยู่แล้ว น้ำเสียงที่ได้ยินกลับทำให้คนฟังหนาวยิ่งขึ้นไปกว่าเก่า “ม่ะ…มึง… มึงเป็นใคร!!! แล้วจับกูมาที่นี่เพื่ออะไรวะ” นักเที่ยวขาจรไม่ยอมแพ้ “เอาไงดีครับนาย ดูท่าจะปากดีอยู่ไม่น้อย ให้พวกผมจัดการเลยดีไหม” อรุณเอ่ยถามผู้เป็นนาย “คงจะไม่เคยเข้ามาที่ไนต์คลับที่นี่ล่ะสิ ถึงไม่รู้กฎว่าห้ามลวนลามพนักงานผู้หญิงในคลับ แล้วที่คุณบอกว่า ผู้หญิงพวกนี้มาทำงานในคลับเพราะหวังรวยทางลัด คุณมีปมกับผู้หญิงพวกนี้เหรอครับ” เสียงเย็นชาเอ่ยออกมาอย่างสุภาพแต่ทว่าคนฟังกลับรู้สึกถึงหวาดกลัวอยู่ภายในใจ เพราะเขาไม่มีทางรู้ได้เลยว่าคนตรงหน้านี้มีนิสัยอย่างไรกันแน่ “จะมีปมหรือไม่มีปมก็ไม่เกี่ยวพวกมึง พวกมึงจะเป็นใครก็ช่าง ปล่อยกูออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ไม่อย่างนั้นกูจะแฉให้คนนอกได้รู้ว่าที่คลับแห่งนี้มีมาเฟียคุม” หนุ่มนักเที่ยวขาจรขู่ออกมาราวกับว่าไม่ได้เกรงกลัวอันใด “ผ่านคืนนี้ไปแล้วก็จำชื่อฉันไว้ให้ดีว่าฉันชื่อ แผ่นฟ้า นิรันนุกุล คูเวอร์” เสียงเย็นชาแต่แข็งกร้าวดังขึ้นมา “สั่งสอนระดับหนึ่ง ถ้าพรุ่งนี้ยังโผล่มาให้ฉันเห็นหน้าแถวนี้อีก ส่งคนไปจัดการร้านขายยาของครอบครัวมันด้วย” คนก่อเรื่องถึงกับตาโต เขารู้สึกตกใจที่อีกฝ่ายรู้ข้อมูลของเขาทุกอย่าง แต่เขากลับไม่รู้จักคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย แม้จะรู้สึกคุ้นหูกับนามสกุลอยู่บ้างก็ตาม เหล่าลูกน้องพอได้ฟังเช่นนั้นก็รับคำสั่ง ร่างสูงโปร่งของฟ้า แผ่นฟ้าจึงเยื้องย่างออกจากห้องลับไปอย่างไม่เหลียวหลัง ได้ยินเสียงโวยวายดังเล็ดลอดประตูมาเพียงเล็กน้อยเขากลับแสยะยิ้มออกมา วิรุตที่เดินตามหลังมาถึงกับงุนงงอยู่ไม่น้อย ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น แต่ทว่านายหนุ่มกลับไม่ได้จัดการถึงขั้นลงไม้ลงมือแบบนี้ งานนี้ดูท่าเด็กสาวคนนั้นคงจะกลายมาเป็นคนสำคัญของเจ้านายของพวกเขาอีกในไม่ช้า ร่างระหงเดินมาที่ห้องของบอสตามคำสั่งของลุงผิน ผู้จัดการร้าน หัวใจดวงน้อยเต้นแรงเมื่อได้รู้ว่าบอสเรียกเธอไปพบ เธอเคยได้ยินจากรุ่นพี่ที่ทำงานที่นี่มาก่อนแล้วบอกว่าเขาไม่เคยเรียกพบพนักงานคนไหนเป็นการส่วนตัวเลย ทุกคนจะได้พบกับเชาเฉพาะวันแรกที่มารายงานตัวทำงานเท่านั้น จากนั้นเพียงแค่ได้เห็นเขาตอนเขามาที่ไนต์คลับเท่านั้น มือบางเคาะประตูหน้าห้องของบอสหนุ่มสามที เสียงเย็นชาที่เอ่ยปากอนุญาตดังออกมาจากภายในห้องทำเอาดาว ดาราภัสรู้สึกขนลุกแปลก เธอเปิดประตูออกแล้วเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงานของบอสหนุ่ม ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หนังสีดำ สายตาคมที่มองมาทำเอาเธอไม่กล้าที่จะสบสายตาของเขา ฟ้า แผ่นฟ้าใช้สายตาคมลอบสำรวจร่างกายของเธอก่อนที่จะรู้สึกขัดใจกับเครื่องแบบของพนักงานเสิร์ฟ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยสนใจไยดีมันมาก่อน “มาแล้วเหรอ” เสียงทุ้มดังออกมาจากริมฝีปากแดงอมชมพูดูเป็นธรรมชาติ “ค่ะ… บอสมีอะไรกับดาวหรือเปล่าคะ” เสียงหวานเอ่ยถามออกมา ก่อนที่จะพยายามเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตากลมโตจ้องมองไปยังคนเบื้องหน้าทั้งที่ใจกล้าๆ กลัวๆ “เมื่อครู่… ลูกค้าล่วงเกินเธอใช่ไหม” คำถามที่ถามออกมาจากบอสหนุ่มทำให้ดาว ดาราภัสรู้สึกแปลกๆ แต่เธอก็ตอบออกไปตามความจริง “ค่ะ… เขาตีก้นดาว" เธอตอบเขาตามความจริง สายตาของคนตรงหน้าทำให้เธอรู้สึกคันยุบยิบภายในหัวใจ ดวงตากลมจึงหลุบมองต่ำแทนการมองหน้าเขา ที่แม้จะดูเย็นชาแต่ทว่าสายตาของเขาที่มองมานั้นกลับดูอ่อนโยน “ฉัน… จัดการให้เธอแล้วนะ ต้องขอโทษด้วย ที่เพิ่งจะมาทำงานใหม่ดันต้องมาเจอเรื่องแบบนี้” คำพูดต่อมาทำเอาใบหน้างามต้องเงยหน้าขึ้นมามองเขาอีกที “จะ…จัดการเหรอคะ บะ….บอส จัดการเขายังไงคะ” เธอเอ่ยถามเขาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก “เรื่องนั้นเธอไม่ต้องรู้หรอก แต่ฉันแค่อยากจะบอกเธอว่า ในเมื่อตัดสินใจมาทำงานกลางคืนแบบนี้แล้ว เธอต้องทนต่อการดูถูกดูแคลนจากสายตาคนนอกให้ได้” เขาตอบก่อนที่จะเอ่ยออกมาราวกับว่าอยากเตือนเธอ “ดาวรู้เรื่องนั้นค่ะ ดาวมาทำงานเพื่ออะไรดาวรู้แก่ใจของดาวดี” แม้จะรู้สึกแปลกใจและสงสัยว่าที่ผ่านมาเขาเรียกใครมาถามไถ่ตักเตือนแบบนี้บ้างหรือเปล่า “ดี… ถ้าอย่างนั้นก็ไปทำงานต่อเถอะ” เสียงเย็นชาดังออกมาอีกครั้งก่อนที่เขาจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินไปหยุดที่ตรงหน้ากระจกใสที่มองผ่านทะลุเข้าไปในไนต์คลับได้อย่างทั่วถึง เมื่อเห็นเช่นนั้นดาว ดาราภัสจึงเดินออกจากห้องของเขาไปอย่างเงียบๆ เธอผ่อนลมหายใจออกมาหนักๆ เมื่อมือบางปิดประตูลง จากนั้นจึงเดินกลับไปทำงาน พนักงานในร้านต่างพากันแอบซุบซิบนินทาพนักงานใหม่ที่เพิ่งจะเข้ามาทำงานได้ไม่นาน ก็ถูกบอสเรียกเข้าไปพบตามลำพังซึ่งผิดวิสัยของเจ้านายเย็นชามองเห็นผู้หญิงเป็นเพียงอากาศผ่านตาเท่านั้น “พวกเธอว่าบอสเรียกน้องดาวไปพบทำไม” พนักงานสาวที่เป็นพีอาร์เอ่ยถามเพื่อนๆ ในกลุ่มของเธอ “คงจะเรื่องที่มีคนแต๊ะอั๋งนางแหละมั้ง พนักงานคนอื่นก็เคยโดน แต่ไม่เห็นบอสจะจัดการขั้นเด็ดขาดขนาดนี้เลย หรือว่า….” พีอาร์สาวในกลุ่มเอ่ยขึ้นบ้าง แต่พอจะเอ่ยประโยคที่เธอสงสัยออกมาเพื่อนอีกคนก็รับหน้าที่เอ่ยถามแทน “บอสสนใจยัยเด็กใหม่อย่างนั้นเหรอ” พีอาร์สาวอีกคนในกลุ่มนี้อุทานออกมาก่อนที่จะรีบปิดปากของตนเมื่อหมิวรุ่นพี่ของเด็กใหม่เดินผ่านมาทางนี้พอดี จนเมื่อหมิวเดินผ่านไปสาวๆ จึงคุยกันต่อ “ไม่จริงหรอก ถึงยัยเด็กใหม่นั่นจะสวย แต่บอสก็ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนมาก่อน พวกเธอไม่รู้หรือไงว่าบอสเป็นเกย์” พีอาร์สาวคนแรกกระซิบเบาๆ “ไม่ทำงานกันหรือไง ลูกค้ามาโน่นแล้ว” แต่แล้วเสียงเข้มของอรุณก็ดังขึ้นมา เขาเพิ่งเดินกลับมาจากจัดการคนที่มันบังอาจลวนลามผู้หญิงที่เจ้านายสนใจซึ่งเขาได้ยินประโยคที่สาวๆ ว่าเจ้านายของเขาเป็นเกย์พอดี กลุ่มสาวพีอาร์วงแตก รีบแยกย้ายกันไปรับแขกกันอย่างรวดเร็ว อรุณส่ายหน้าไปมาก่อนที่จะมองไปยังร่างระหงของเด็กสาวต้นเหตุที่ทำให้นักเที่ยวคนนั้นต้องเจ็บตัวในคืนนี้ อรุณไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้หญิงตรงหน้าถึงดึงดูดสายตาของฟ้า แผ่นฟ้าได้ ก็เธอดูสดใส อ่อนหวาน แข็งกระด้างบ้างเป็นบางที แต่รวมๆ ก็ดูน่าสนใจอยู่ไม่น้อย ร่างสูงโปร่งของอรุณจึงเดินขึ้นไปรายงานฟ้า แผ่นฟ้าถึงผลของงานที่เขาสั่งให้ทำเมื่อครู่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD