หุ่นทรมานกาย (นานโอ) 1.3

1608 Words
“คุณใส่ชุดนี้สวยมากเลยนะ ทำให้ชุดว่ายน้ำของผมน่าใส่มากขึ้น” เขาเอ่ยชม รู้สึกปวดร้าวไปทั้งตัว โดยเฉพาะท่อนเอ็นใหญ่ที่ดูเหมือนจะเต้นเร้าเป็นจังหวะ อยากจะออกมายลโฉมภายนอกกางเกง “ขอบคุณค่ะ” “ผมตกลงให้คุณเป็นพรีเซนเตอร์ชุดว่ายน้ำคอลเลคชั่นใหม่ พรุ่งนี้มาทำสัญญาตอนสิบโมงนะ” นานโอพูดจบก็รีบลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องทันที ปล่อยให้วารุณียืนงงกับท่าทางของเขา ที่คล้ายกับว่า กำลังเดินหนีอะไรสักอย่าง เดินลิ่วๆ ไม่หันมามองหลัง วารุณีก้าวเดินไปหยิบเสื้อคลุมมาสวมทับร่างกาย ก่อนเดินออกไปจากห้องรับรองเพื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกห้องหนึ่ง จากนั้นจึงเดินทางกลับอพาร์ตเมนต์พร้อมธารทิพย์ ส่วนนานโอเมื่อเดินออกจากห้องรับรอง เขาก็รีบเดินจ้ำอ้าวกลับห้องทำงานของตน พอถึงห้องส่วนตัว เขาทำบางอย่างที่จะปลดปล่อยอารมณ์สวาทที่พวยพุ่งยิ่งกว่าไฟโหมไหม้อาคารบ้านเรือน บางอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน สำเร็จความใคร่ด้วยมือของตนเอง...   ..................................... วันรุ่งขึ้น วารุณีเดินทางมาบริษัทการ์รัซเซียร์เพียงคนเดียวเนื่องจากธารทิพย์ติดทำงานพิเศษ หล่อนเดินเข้าไปในอาคารสำนักงานของบริษัท ตรงไปยังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ที่อยู่ด้านหน้า แจ้งความจำนงในการมาของตน “เชิญคุณแอรี่ที่ห้องท่านประธานค่ะ” เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์บอกวารุณีที่ทำหน้าตกใจเล็กน้อย “ไปทำไมที่ห้องท่านประธานคะ ฉันมาเซ็นสัญญาเป็นพรีเซนเตอร์นะคะ” วารุณีทวนบอกอีกฝ่ายอีกรอบ เกรงว่าอาจเกิดความเข้าใจผิด หล่อนคิดว่าคนที่ดูแลเรื่องการทำเซ็นสัญญาด้วยคือไอริส “ไม่ผิดค่ะ การเซ็นสัญญาเกิดขึ้นในห้องนั้นค่ะ” “อ๋อค่ะ ขอบคุณค่ะ” วารุณีรับรู้อย่างไม่คิดอะไร “คุณแอรี่ขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นเจ็ดนะคะ พอออกจากลิฟต์เลี้ยวซ้ายแล้วเดินไปจนสุดทางค่ะ ห้องท่านประธานจะอยู่ขวามือค่ะ” “ขอบคุณค่ะ” วารุณียิ้มให้ประชาสัมพันธ์สาว ก่อนเดินไปยังลิฟต์โดยสารของอาการ ไปตามทางที่อีกฝ่ายบอก จนพบเจอกับห้องประธานบริษัท และเมื่อมาถึงห้องดังกล่าว หล่อนก็ได้พบกับเลขาหน้าห้อง “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อแอรี่ค่ะ มาเซ็นสัญญาเป็นพรีเซนเตอร์ค่ะ” “ค่ะ คุณนานโอรออยู่ค่ะ เชิญค่ะ”  เลขาลุกขึ้นยืน ผายมือเชิญแขกคนพิเศษของเจ้านาย เคาะประตูห้องเป็นสัญญาณบอกให้นานโอรับรู้ “เชิญค่ะ” เลขารู้หน้าที่ เปิดประตูห้องและกล่าวบอกด้วยน้ำเสียงสุภาพ วารุณีกล่าวขอบคุณก่อนเดินเข้าไปในห้องทำงานอันแสนโอ่อ่าของนานโอ “สวัสดีค่ะคุณนานโอ” วารุณีกล่าวคำทักทายตามมารยาท คลี่ยิ้มให้หนุ่มหล่อบาดใจ “สวัสดีครับแอรี่ นั่งสิครับ เราจะได้เซ็นสัญญากัน” นานโอยิ้มตอบกลับ เชื้อเชิญหล่อนนั่ง “จากที่ผมอ่านประวัติคุณ คุณอายุ 22 ปี ห่างกับผมตั้ง 25 ปีแน่ะ” “คุณอายุ 47 หรือคะ” วารุณีทำเสียงตกใจเมื่อรู้อายุเขา “ใช่ครับ ผมดูแก่สำหรับคุณใช่ไหมครับ” “ไม่เลยค่ะ คุณยังไม่แก่เลย ถ้าบอกว่าอายุ 30-40 ฉันก็เชื่อนะคะ” วารุณีกล่าวจากใจจริง ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอนานโอ หล่อนไม่รู้สึกเลยว่าเขามีอาบยุสี่สิบเจ็ดปี ในความรู้สึกของหล่อน เขายังหนุ่ม ดูดี ดูสมาร์ทและภูมิฐาน เป็นผู้ชายที่น่ามองมากที่สุดคนหนึ่งก็ว่าได้ “ขอบคุณนะครับสำหรับคำชม” นานโอยิ้มให้สาวตรงหน้าที่ใจเต้นแรงทุกครั้งที่เห็นรอยยิ้มมหาเสน่ห์ และนั่นทำให้จิตใจหล่อนหวั่นไหวได้อีกด้วย “นี่ครับสัญญา คุณอ่านดูก่อนนะครับ” นานโอวางเอกสารสัญญาลงตรงหน้าวารุณีที่รับมาอ่านรายละเอียดที่ระบุไว้ หญิงสาวตาโตเมื่อเห็นจำนวนเงินค่าว่าจ้างเป็นพรีเซนเตอร์ชุดว่ายน้ำ เพ่งมองราวกับว่าจะให้แน่ใจว่า นี่คือค่าจ้างจริงๆ “ค่าจ้างทำไมเยอะจังคะ” จำนวนเงินค้าจ้าง สามแสนยูโร ถือว่ามากทีเดียว คิดเป็นเงินไทยไม่ต่ำกว่าสิบสองล้านบาท เทียบเท่ากับค่าจ้างพรีเซนเตอร์ซุปเปอร์สตาร์ของเมืองไทยเลยทีเดียว “ตามความเหมาะสมครับ” นานโอตอบ “แล้วมันก็อยู่ในเกณฑ์ที่ทางบริษัทฯ ให้กับพรีเซนเตอร์ด้วยครับ” “อ๋อค่ะ” วารุณีหายสงสัย ก้มหน้าอ่านสัญญาต่อ แต่แล้วก็ต้องย่นคิ้วสงสัยอีกครั้ง กับข้อหนึ่งที่เขียนไว้บนสัญญา “แล้วทำไมต้องไปนอนบ้านคุณด้วยคะ” “บ้านผมในที่นี้หมายถึง ที่เกาะชิชิลีครับ เราจะไปถ่ายภาพยนตร์โฆษนาที่นั่น เพราะโลเคชันที่นั่นเหมาะสุดครับ ต้องใช้ระยะเวลาหลายวันหรืออาจเป็นอาทิตย์ ทีมงานกับคุณต้องพักที่นั่นเพื่อความสะดวกครับ” นานโอมีคำตอบเสมอ “อ๋อค่ะ” วารุณีทำเสียงรับรู้ เลิกสงสัยในข้อนี้ “เป็นไงครับ สัญญาโอเคไหมครับ” นานโอถาม เมื่อหล่อนวางสัญญาลงบนโต๊ะ “ค่ะ โอเคค่ะ” “ถ้าโอเคงั้นเซ็นสัญญาเลยนะครับ เราจะได้ไปฉลองกัน” “ฉลองอะไรคะ” วารุณีถามทันที “ก็ฉลองที่คุณเป็นพรีเซนเตอร์ชุดว่ายน้ำของผมไงครับ” นานโอบอก มองหญิงสาวตรงหน้าตาพราว คนถูกมองยิ้มเขิน อายม้วน “คุณฉลองแบบนี้ให้กับพรีเซนเตอร์ทุกคนหรือเปล่าคะ” วารุณีถามอย่างเสียมิได้ “ไม่ครับ คุณเป็นคนแรกและเป็นคนสุดท้ายครับ” ทั้งน้ำเสียงและแววตา บอกเลยว่า ใครเห็นก็ต้องรู้ทันทีว่า คนที่เขาพูดด้วยคือคนพิเศษ ยกเว้นวารุณีที่ยังไม่รู้ตัว หล่อนคิดว่าเป็นการชวนทานอาหารตามปกติ “ขอบคุณค่ะที่ให้เกียรติฉัน แต่ฉันไม่สะดวกค่ะ เพราะฉันมีเรียนช่วงบ่าย” วารุณีไม่ได้โกหก หล่อนมีเรียนจริงๆ “ถ้างั้นเป็นตอนเย็นหรือค่ำดีไหมครับ ผมไปรับคุณที่มหา’ ลัยแล้วเราก็เลยไปฉลองกันเลย” นานโอไม่ยอมแพ้ เขารุกช้าๆ อย่างไม่รีบร้อน เพราะเกรงว่า ไก่จะตื่น “นะครับ ได้โปรดให้เกียรติไปดิน-เนอร์กับผมนะครับ ผมจะได้เอาภาพชุดว่ายน้ำคอลเลคชั่นใหม่ให้คุณดูด้วย คุณจะได้รู้ได้เห็นว่า ต้องใส่ชุดไหนบ้าง” วารุณีได้ยินน้ำเสียงและสายตาเว้าวอนของเขาแล้วก็ใจอ่อนยวบ ยิ่งเขานำเรื่องงานมาเกี่ยวข้องด้วย มีหรือหล่อนจะไม่ยินยอม  “ค่ะ ได้ค่ะ” “ไม่ทราบว่า เบอร์โทรศัพท์ที่คุณเขียนไว้ในใบสมัคร ใช่เบอร์ของคุณหรือเปล่าครับ เพราะตอนที่ไอริสโทรไปแจ้งข่าว คนที่รับสายบอกว่าเป็นเพื่อนของคุณ” “เบอร์นั้นเป็นของเพื่อนฉันเองค่ะ” “ถ้าอย่างนั้นผมขอเบอร์โทรคุณได้ไหมครับ มีอะไรจะได้ติดต่อได้สะดวก” นานโอเข้าโหมดขอเบอร์มือถือวารุณีแบบเนียนๆ             “ได้ค่ะ” ปกติแล้ววารุณีไม่ค่อยแจกเบอร์มือถือตนให้ใครมากนัก โดยเฉพาะคนแปลกหน้า ทว่ากรณีนี้เป็นกรณีพิเศษ หล่อนจึงให้เบอร์ส่วนตัวเขาอย่างง่ายดาย             “ผมโทรเข้าไปที่เบอร์มือถือคุณนะครับ คุณช่วยเมมเบอร์และชื่อผมลงไปในเครื่องคุณด้วย เผื่อผมโทรไปแล้วคุณเห็นว่าเป็นเบอร์แปลก คุณอาจไม่รับสาย ถ้าไม่รับผมเสียใจแย่” นานโอทำตาปริบๆ ส่งท้าย วารุณีเห็นแล้วไม่รู้ว่าจะรู้สึกสงสารหรือขำดี             “ค่ะ ฉันจะเมมเบอร์คุณไว้ค่ะ” หล่อนบอกพร้อมทำตาม “เรียบร้อยค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะคะ”             “ได้ครับ เจอกันเย็นนี้นะครับ ผมจะไปรับที่มหา’ ลัย”             “สักห้าโมงนะคะ ฉันมีเรียนสองวิชาและจะเข้าห้องสมุดอีกสักชั่วโมง” ยังไงเสียหล่อนก็ต้องเอาเรื่องเรียนเป็นหลัก             “ได้ครับ ไม่มีปัญหา” วารุณียิ้มให้นานโออีกครั้ง ก่อนลุกเดินออกจากห้องทำงานของเขา เพื่อเดินทางไปมหาวิทยาลัย             นานโอมองตามร่างหุ่นสะเทือนอารมณ์ของวารุณีไปจนเดินออกไปจากห้อง ก่อนก้มมองดูมือถือของตนเอง เขารีบเมมเบอร์มือถือของวารุณีลงในเครื่อง โดยใช้ชื่อแทนตัววารุณีว่า เบบี๋             จากการประเมินวารุณีเมื่อครู่ หล่อนไม่ใช่ผู้หญิงที่จะกินได้ง่ายๆ แต่ถึงไม่ง่ายเขาก็ไม่ยอมแพ้ เพราะในชีวิตเขาไม่เคยพอใจผู้หญิงคนไหน วารุณีเป็นคนแรกที่เขาทั้งถูกใจและหมายกาย ต่อให้ยากเขาก็จะพยายาม ปลายทางของความพยายามคือความสำเร็จ             นานโอหวนนึกถึงคำพูดที่เคยบอกราซิเอลโล่หลานรักที่ว่า ‘อย่าปล่อยให้อายุเลยมาไกลเหมือนฉัน เพราะแกอาจจะเสียโอกาสอะไรไปในชีวิตก็ได้’ แน่นอนว่า นานโอไม่ปล่อยให้วารุณีเลยผ่านไป เขาต้องรีบคว้าโอกาวสุดท้ายของชีวิตไว้ จะว่าไปคำพูดที่ว่า เรือด่วนขบวนสุดท้าย อาจไม่ได้หมายถึงผู้หญิงเพียงอย่างเดียว เขาก็ต้องฉวยเรือด่วนขบวนนั้นเช่นกัน นานโอจึงขุดมุขจีบสาวที่ขุดหลุมฝังดินไว้ขึ้นมา เดินหน้าจีบวารุณีมาเป็นเมียและแม่ของลูก ก่อนที่เขาจะเสียโอกาสดีๆ ไปจากชีวิต  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD