ไฟรักเร่าร้อน?EP.6 ยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม

0 Words
เช้าวันต่อมา “อื้อ...ซี้ด อ๊ะ อุ๊ปส์!!” เสียงครางด้วยความเจ็บปวดเนื้อตัวไปหมดของเอยดังขึ้นเบา ๆ ภายใต้ความมืดของห้องนอน ก่อนที่เธอจะหันมาปะทะใบหน้าหล่อเหลาที่เธอนอนซบอกเขาทั้งคืนเธอยกมือเรียวสวยตะปบเข้าที่ปากปิดเสียงกรี๊ดที่เตรียมจะหลุดออกมาทันที What!! The!! Fu*k!!! อะไรของมึงวะเนี่ยเอย โอ๊ย เก็บซิงมาตั้งนานเสือกมาเสียตัวง่าย ๆ ให้กับคุณคิณ จะบ้าตาย มือสวยจิกทึ้งหัวตัวเองอย่างนึกโมโหก่อนจะค่อย ๆ ย่องลงจากเตียงด้วยเสียงที่เบาที่สุด เพราะกลัวคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่จะตื่นขึ้นมาเสียก่อน แต่เมื่อขาแตะถึงพื้นเธอก็นิ่วหน้าร้องซี้ดด้วยความเจ็บปวดทันที โอ๊ย อีดอก!! เสียซิงทำไมมันเจ็บแบบนี้ว่ะ ไม่เห็นฟินเหมือนหนังโป๊เลย เธอคิดในใจก่อนจะค่อย ๆ เก็บเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่ที่พื้นขึ้นมาสวมแบบลวก ๆ แล้วรีบย้ายตัวเองออกจากห้องของคิณทันที ก่อนที่เขาจะตื่นมาทันเห็นเธอนอนอยู่บนเตียงของเขาซะก่อน “ฮือ ทำไมคุณคิณซาดิสม์แบบนี้วะเนี่ย นมก็มีแต่รอย คอก็รอยแดงอย่างกับคนเป็นโรค” เอยบ่นพึมพำคนเดียวอยู่ในห้องพักหลังจากที่รีบออกมาจากห้องของคิณ เธอก็รีบกลับมาอาบน้ำที่ห้องทันทีเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพ นี่ก็เกือบแปดโมงเช้าแล้วแต่เธอยังสาละวนกับการใช้คอนซีลเลอร์ปกปิดร่องรอยดูดดึงบนคออยู่เลย มันเยอะจนเธอแต้มคอนซีลเลอร์จนเกือบหมดหลอด “เฮ้อ เสร็จสักทีอยากจะบ้าตายคนอะไรรุนแรงชะมัด ชิชิ” เอยบ่นคนเดียวอีกครั้งก่อนจะสำรวจดูความเรียบร้อยของตัวเองในกระจกแล้วเก็บเครื่ิองสำอางใส่กระเป๋าใบหน้าสวยเฉี่ยวเชิดขึ้น ปากสีแดงสวยสดอวบอิ่มแต่ดวงตากลับมีแววหม่นเศร้าเล็กน้อย สิ่งที่เธอสูญเสียไปมันเรียกกลับคืนมาไม่ได้เธอก็แค่ลืมมันไปซะและก้าวต่อไปข้างหน้าก็แค่นั้นเอง เธอเป็นคนเดินเข้าไปเล่นกับไฟเองเธอก็ต้องยอมรับผลที่เกิดขึ้นเสียตัวให้เขาก็ยังดีกว่าเสียตัวให้ไอ้ตากล้องบ้า ๆ นั้นแล้วกันคิดมาถึงตรงนี้สมองก็พลันนึกไปถึงบทรักที่แสนเร่าร้อนเมื่อคืนกับผู้ชายที่เธอแอบชอบหน้าก็อดเห่อร้อนแดงปลั่งราวกับลูกตำลึงสุกไม่ได้ งื้อ เขาไม่อ่อนโยนเอาซะเลย “อ้าวเอย ทำไมลงมาซะสายล่ะลูกเนี่ยแม่รอทานมื้อเช้าอยู่เลย” ซินดี้ร้องเรียกเอยทันทีที่ร่างสวยสมส่วนเดินเข้ามาในห้องอาหาร “โทษทีค่ะพี่ซินดี้ เมื่อคืนเอยดื่มหนักไปหน่อย” พูดไปพลางสายตาก็สอดส่ายหาน้ำฟ้ากับสิงห์ไปด้วยแต่ภายในห้องอาหารกลับไร้เงาของคนทั้งคู่ “เอ่อ พี่ซินดี้คะน้ำฟ้าล่ะคะหายไปไหน กลับแล้วเหรอคะ?” เอยหันหน้ากลับมาถามซินดี้ด้วยความสงสัยคิ้วสวยขมวดเข้าหากันจนยุ่งไปหมด “อืม เห็นพี่ช่างแต่งหน้าเขาบอกว่าบินกลับตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้วนะ ถามหาทำไมเหรอมีอะไรหรือเปล่า” ซินดี้ถามเอยด้วยความสงสัยเล็กน้อยสองคนนี้ไม่ถูกกันอยู่ดี ๆ มาถามหากันมันแปลก ๆ นะเธอว่า “เปล่าหรอกค่ะ เอยแค่แปลกใจว่าหายไปไหนไม่คิดว่าจะรีบบินกลับกรุงเทพไวขนาดนี้เอยไปหาอะไรกินก่อนนะคะ เดี๋ยวมา” เอยบอกซินดี้ก่อนที่จะไปหาอะไรมาทานฝากไว้ก่อนเถอะอีน้ำเน่าถ้าเธอยังไม่ตายอย่าหวังว่าจะได้อยู่ดี ๆ แบบสงบสุขแค้นนี้เธอไม่ลืมเธอจะจำเอาไว้จนตายเลยล่ะ ในขณะที่กำลังสาละวนกับการหยิบอาหารแบบบุฟเฟต์ใส่จานทีละนิด มือที่กำลังจะหยิบผลไม้มาใส่จานถึงกับชะงัก เมื่อมือแตะไปโดนมือเรียวยาวขาวผ่องของผู้ชายเข้า เธอสะดุ้งก่อนจะชักมือกลับทันทีรีบหันมาหาคนข้าง ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นเพื่อขอโทษ แต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อพบว่าคนที่เธอเผลอไปสัมผัสมือโดยไม่ตั้งใจเข้าคือใคร ดวงตากลมโตเบิกกว้างเล็กน้อยราวกับเห็นผีเมื่อเห็นคิณ อัคนี ยืนทำหน้านิ่งอยู่ข้าง ๆ แต่สายตาเขากลับแพรวพราวผิดกับท่าทางยิ่งนัก มันทั้งวิบวับทั้งเจ้าเล่ห์อย่างปิดไม่มิดเลยทีเดียว มุมปากหนากระตุกยิ้มเบา ๆ เอยถึงกับไปไม่เป็นคำขอโทษที่เตรียมพูดถูกกลืนหายลงคอไปทันที อีเหี้ย!!! จังหวะนรกอะไรของมึงเนี่ยเอย เหมือนเจ้ากรรมนายเวรตามติดชีวิตไม่ไปไหนสักทีเนี่ย เอยคิดเงียบ ๆ ในใจ ก่อนจะก้มหน้างุดลงทันทีไม่กล้าสบตาคนตรงหน้าเลยสักนิด เธอทั้งอายและไม่ไหวกับความหล่อนี้จริง ๆ ดาเมจแรงมากพ่อเอ๊ย Aura นี่ส่องเชียว ไม่หลงไม่ไหวอะจุด ๆ นี้ เพ้อรำพันในใจไปสักพักก่อนจะหยุดเพ้อและรีบดึงสติกลับมาก่อนที่จะเตลิดไปไกลมากกว่านี้ เธอเชิดหน้าขึ้นสวย ๆ ก่อนจะพูดเสียงเบา “ขอโทษนะคะเมื่อสักครู่ เอยไม่ได้ตั้งใจพอดีหยิบเพลินไปหน่อยเลยไม่ทันมองค่ะ” พูดเสร็จก็ยิ้มให้พอเป็นพิธีก่อนที่เตรียมจะชิ่งหนีหายไปจากตรงนี้ ในใจเธอบอกไม่เป็นไร ๆ แต่กลับรู้สึกอ่อนไหวจนแข้งขาสั่นไปหมดแล้วจ้าถ้าไม่เกาะขอบโต๊ะอาหารไว้มีร่วงอะจ้ะบอกเลย “หึ ฉันว่าเธออร่อยกว่าผลไม้พวกนั้นนะ เอย อรนลิน” คิณกระตุกยิ้มมุมปากเบา ๆ พร้อมกับก้มลงกระซิบเสียงแหบพร่าSexyข้างใบหูเล็กหอมกรุ่นก่อนจะเดินผ่านเธอไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โอ๊ย อีตาคุณคิณ อีตาบ้า เธอนี่อยากจะลืม ๆ เหตุการณ์เมื่อคืนไปจากสมองให้หมดแล้วเขาจะมาย้ำทำไมล่ะเนี่ย ฮึย เมื่อฉันอยากลืมแต่เธอกลับทำให้อยากจำ ทำเป็นไม่รู้จักกันก็จบยังจะมากระซิบให้ใจเธอสั่นไหวอยู่ได้คนบ้านี่หน้าสวยมุ่ยลงก่อนจะเดินกลับมาที่โต๊ะอาหารที่มีซินดี้รออยู่ “ทำไมหน้ามุ่ยแบบนั้นล่ะคะลูกสาว” ซินดี้เอ่ยถามอย่างแปลกใจอะไรกันยัยเอยของเธอวันนี้ดูแปลก ๆ ตั้งแต่เช้าแล้วนะ “เปล่าหรอกค่ะ เอยมีเรื่องไม่สบอารมณ์นิดหน่อย” เอยตอบซินดี้ด้วยอารมณ์เซ็ง ๆ ก่อนจะตักอาหารในจานเข้าปาก “เอาเถอะ ๆ อย่าไปใส่ใจมันมากนักล่ะ แล้วนี่เก็บของเรียบร้อยแล้วใช่ไหม” “เรียบร้อยแล้วค่ะพี่ซินดี้เอยเอากระเป๋าไปไว้ที่ล็อบบี้แล้วค่ะทานเสร็จก็ออกเดินทางไปสนามบินกันได้เลยเอยคิดถึงคอนโดแล้ว” เอยบอกซินดี้ก่อนจะตักอาหารทานอีกแค่สองสามคำก็รวบช้อนลงมื้อเช้าเธอทานไม่มากทานแค่พอดี เพราะเธอเป็นดาราเรื่องของรูปร่างจึงต้องมาก่อนเสมอต่อให้หิวแค่ไหนเธอก็ต้องทานแค่พอดีอิ่ม “อิ่มแล้วใช่ไหม ปะ ไปกันเถอะนี่ก็สายแล้ว” ซินดี้ลุกขึ้นก่อนจะเกี่ยวแขนเอยให้เดินออกไปพร้อม ๆ กันเพื่อไปเช็กเอาต์และเดินทางกลับกรุงเทพ แต่ในขณะที่เดินผ่านล็อบบี้ของโรงแรมสายตาเธอก็เผลอไปประสานเข้ากับดวงตาคมสีนิลของคิณ ที่กำลังนั่งดื่มกาแฟเงียบ ๆ คนเดียว คิณมองหน้าสวยเฉี่ยวนิ่ง ๆ ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย ในขณะที่เอยหัวใจของเธอเต้นตึกตักราวกับจะทะลุออกมานอกอก ใจเธอสั่นไหวอย่างรุนแรงทั้งที่พยายามบอกตัวเองว่าให้ ลืม แต่พอได้สบตาคมของเขาอีกครั้งเธอก็รู้สึกว่าเธอคงจะลืมเขายากเสียแล้วสิเอย หึ แม่กระต่ายน้อยเธอจะหนีเขาไปไหนพ้นรสชาติความหอมหวานจากร่างบางของเธอที่เขาได้ลิ้มลองเมื่อคืนนี้ทำเอาเขาชักจะรู้สึกติดใจซะแล้วสิ คนอะไรตัวเล็ก ๆ แต่เต็มไม้เต็มมือนุ่มนิ่มไปหมดทุกส่วนความสุขเมื่อคืนที่เขาได้รับยังติดตรึงในความทรงจำ รอให้เขากลับกรุงเทพก่อนเถอะเธอหนีเขาไม่พ้นแน่ แม่ดาวร้าย เอย อรนลิน คิณนั่งคิดในใจเงียบ ๆ ก่อนจะยกกาแฟขึ้นดื่ม คอนโด “เฮ้อถึงซะที เหนื่อยชะมัดเพลียมากเอยอยากนอน” เมื่อมาถึงคอนโดเธอก็บ่นน้อย ๆ อย่างอ่อนเพลียไปทำงานครั้งนี้เหมือนจะไม่มีอะไรหนักหนา เพราะแค่เข้าฉากละครไม่ได้ต้องทำอะไรมาก แต่มาหนักเอาวันสุดท้ายน่ะสิปวดไปทั้งตัว โดยเฉพาะที่ใจกลางความเป็นสาวเดินแต่ละก้าวเธอแทบร้องซี้ดแต่เธอก็ต้องอดทนจะหลุดพิรุธให้พี่ซินดี้รู้เรื่องไม่ได้ ฮึบเอาไว้จนมาถึงคอนโด มันเจ็บจริง ๆ นะคะทุกคน ครืด ครืด ครืด เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าแบรนด์ดังใบหรูดังขึ้นเอยที่นอนอยู่บนเตียงรีบเด้งตัวลุกขึ้นรับสายทันที สงสัยจะเป็นเพื่อนชะนีของเธอคอลมา และใช่ เมื่อกดรับสายหน้าเบนนี่กับเจนนี่ก็โชว์หราอยู่บนหน้าจอมือถือพวกนางวีดีโอคอลมา “ฮัลโหล ที่รักเป็นไงบ้างไปทำงานสนุกไหมมึงมีเรื่องแซบ ๆ ไรเมาท์มอยปะ กูอยากใส่ใจ” เบนนี่ถามพร้อมหัวเราะคิกคักในขณะที่เอยสะดุ้งนิด ๆ อีเบนมันเป็นหมอดูเปล่าวะโทรมาถามเหมือนตาเห็นเลย “ก็ไม่มีอะไรนี่ ปกติดี ทำงานก็สนุกไงมึงละครปิดกล้องแล้ว กูล่ะโล่งใจฉิบหายเลยไม่ต้องอดทนปั้นหน้าเข้าฉากกับอีน้ำเน่าแล้ว” เอยตอบพร้อมปั้นยิ้มแฉ่งให้เพื่อนสาวพร้อมทำหน้าซื่อ ๆ แต่สายตาแอบหลุกหลิกจนเจนนี่จับสังเกตได้ “หึ อีเอยมึงโป๊ะแล้ว สายตามึงหลุกหลิกมากแม่เอ๊ย มึงหยั่มมา ไหนอาการมันเป็นยังไง บอกหมอสิคะกูว่าต้องมีอะไรสนุกแน่ ๆ มึงเหลามาบัดเดี๋ยวนี้” เจนนี่ที่จับสังเกตรีบกดดันเพื่อนทันทีพวกเธอเป็นเพื่อนกันมาสามปีทำไมเธอจะไม่รู้จักเอย อรนลิน อีนี่อะถ้ามันโกหกสายตามันจะไม่มองใครมันจะเสไปมองทางอื่น นี่ไม่มองกล้องแต่มองไปทางไหนไม่รู้จ้าไม่มีอะไรมากเลยอีดอกโกหกแหละเจนนี่ดูออก “จะบ้าเหรออีเจน กูเนี่ยนะโกหกมึง บ้าเปล่าไม่เห็นมีเรื่องอะไรที่ต้องโกหกเลย” เอยหันหน้ากลับเข้ากล้องมาตอบเพื่อนตาใส เธอจะแถอะ แถมันจนสีข้างถลอกนี่แหละ กูยังไม่พร้อมมึงอย่ากดดันกูสิ เพื่อนเวรนี่ “โอเค อีกหนึ่งชั่วโมงเจอกันที่คอนโดมึง มึงเตรียมง้างปากได้เลยอีเอย บาย” ติ๊ด! เสียงวางสายพร้อมหน้าจอที่ดับไปในขณะที่เอยยังไม่ทันตั้งตัว ไหนพี่ข้าวบอกว่า Acting เธอดี นี่ก็แสดงสุด ๆ แล้วนะทำไมกะเทยยังจับได้ว่ะ เฮ้อ นี่เธอต้องเล่าใช่ไหมแต่เธอมีอะไรเธอก็ไม่เคยปิดบังเพื่อนเลยนี่นาหลาย ๆ เรื่องที่เธอมีทั้งสุขและทุกข์ทั้งสองคนจะคอยรับฟังและอยู่เคียงข้างเธอเสมอมา เวลาต่อมา ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด เสียงกดรหัสหน้าห้องดังขึ้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครนังสองคนนั้นแน่นอนไม่รอดแล้วแหละเอยเอ๊ย “ว่าไงยะชะนี นี่เพื่อนไม่ค่อยว่างหรอก แต่เสียสละเวลามาหาเลยนะเนี่ย” เบนนี่พูดประชดเบา ๆ ก่อนจะนั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นตรงข้ามเอย แต่เมื่อกวาดสายตามองไปยังเพื่อนสาวทั้งสองคนก็ต้องอ้าปากค้างทันทีที่เห็นรอยดูดจ้ำ ๆ บนคอของเพื่อนสาว โอมายก็อด! อะไรกันเนี่ย ไอ้รอยแดงบนคอของเพื่อนมันคืออารายย?? 0_0 0_0 “อีเอยมึงไปฟัดกับหมาที่ไหนมาวะ รอยดูดเต็มคอขนาดนั้น นี่มึงอย่าบอกนะว่าจิ้นที่เก็บไว้มานานจน 24 ปีโดนทะลายจิ้นไปแน้ว” เจนนี่ละล่ำละลักถามเพื่อนสาวด้วยความตกใจไม่เจอกันแค่ไม่กี่วันเพื่อนเธอถึงกับเสียซิงเลยหรือนี่ “...” TT “มึงโดนใครฟาดมาไหนพูดสิ พระเอก ผู้กำกับ ตากล้อง ช่างไฟ สไตลิสต์” เบนนี่ร้อนรนถามอย่างร้อนใจ แม่ชีเรื่องผู้ชายอย่างนังเอยทำไมวันนี้สภาพเป็นแบบนี้ไปได้เนี่ยแม่เจ้ากระเทยตกใจจนแทบเสียสติไปแล้ว “โอ๊ย อีเบน ชื่อที่มึงร่ายมาเนี่ย เหมือนกูเป็นดาวโป๊ที่เพิ่งกลับมาจากถ่ายหนัง AV เลยนะมึง” เอยแซะเพื่อนเบา ๆ ร่ายชื่อมาทีนึกว่าลิสต์คาแรกเตอร์รายชื่อนักแสดงหนัง AV อย่างไรอย่างนั้นเลย “แล้วใครล่ะไหนมึงพูดมาสิ โอ๊ย อีเจนรอยดูดที่คอทำกูซี้ดแทน มันเร่าร้อนขนาดนั้นเลยเหรอวะ? ซาดิสม์ฉิบหาย” เบนนี่ทำท่าซี้ดก่อนจะคิดไปถึงผู้ชายคนนั้นใครกันวะเนี่ยเธอเดาไม่ออกเลย “คิณ อัคนี” เสียงตอบกลับมาเบาหวิวราวกับสายลมทำเอาสองสาวหูผึ่งทันที “นะ ไหน มึงพูดใหม่สิอีเอย กูว่าหูกูฝาดว่ะได้ยินไม่ค่อยชัด” เจนนี่บอกเพื่อนก่อนจะยื่นหูไปฟังใกล้ ๆ อีกรอบอย่างไม่มั่นใจว่าสิ่งที่เธอได้ยินมันใช่ไหมหรือพวกเธอหูฝาดไป “คิณ อัคนี” เอ่ยตอบออกมาช้า ๆ ชัด ๆ อีกครั้งทำเอาเพื่อนสาวทั้งสองคนตาโตเท่าไข่ห่านด้วยความตกตะลึงกับสิ่งที่เอยพูดก่อนจะอุทานออกมาพร้อมกัน “โอมายก็อด 0_0” “อีเอย มึงไม่ได้ล้อพวกกูเล่นใช่ปะ” เจนนี่ถามด้วยความสงสัยเผื่อเพื่อนสาวล้อเธอเล่นไง “หน้ากูเหมือนคนที่ชอบล้อเล่นมากหรือไง” เอยสะบัดเสียงใส่เพื่อนด้วยความน้อยใจก่อนจะทำหน้ามุ่ยอย่างโมโหใครเขาล้อเล่นกันเรื่องแบบนี้ “ว้าย ตายแล้วลูกกะเทย มึงไปทำอีท่าไหนถึงเสียตัวให้เขาได้ ล่ะเป็นไงแซบมะ โอ้ว กูว่าคงไม่ต้องพูดหลักฐานคาตาแบบนี้” เบนนี่แซวเพื่อนก่อนจะเหลือบมองรอยดูดที่คอ เอิ่ม อีตาคุณคิณจะรุนแรงไปไหน โอ๊ย ทั้งตกใจ ทั้งอิจฉาเพื่อนในคราวเดียวกันอิจเพื่อน ๆ ได้ผู้หล่อ “เรื่องมันยาวอะมึง แต่เรื่องนี้กูต้องเอาคืนให้สาสมพวกมึงต้องช่วยกูนะ” หน้าสวยบึ้งตึงขึ้นทันทีเมื่อพูดถึงสาเหตุที่ทำให้เธอต้องเสียจิ้นแบบไม่ตั้งใจแถมเธอยังเป็นคนตอบตกลงด้วยความเต็มใจอีกด้วยเพราะสถานการณ์มันบังคับ “ทำแมะ คุณคิณเขาล่อมึงเหรอหรือเขาทำอะไรมึงไหนพูดสิ” เจนนี่ถามอย่างตกใจเมื่อเห็นเพื่อนสาวหน้าบึ้งด้วยความโมโห “เปล่าหรอก กูนี่แหละที่ไปขอความช่วยเหลือเขาเองจนเสียตัวแบบนี้อะ” เอยถอนหายใจเฮือกใหญ่ใส่เพื่อนก่อนที่จะนิ่งไปสักพักเพื่อทำใจอธิบายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้เพื่อนฟัง “นี่มันเรื่องเหี้ยไรวะเนี่ยอีดอก กะเทยงงว่ะไหนเหลามาพวกกูพร้อมฟัง พร้อมช่วยและพร้อมฟาดมึงว่ามาเลย” เบนนี่บอกเอยพร้อมตั้งใจฟังเรื่องที่เพื่อนเล่าถ้ามีใครมาทำให้เพื่อนเธอเป็นแบบนี้รับรองมันไม่ตายดีแน่กะเทยจะยำมันให้เละไปเลย รู้จักพวกเธอน้อยไปซะแล้วอีพวกชอบลองของเนี่ยเดี๋ยวมึงเจอ ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ในใจก่อนจะฟังเพื่อนเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วยความโมโห เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานถูกถ่ายทอดจากปากของเอยให้เพื่อนสาวฟังอย่างละเอียดยิบแต่ขอข้ามฉากบนเตียงไปแล้วกันค่ะเล่าไม่ออกมันเขินจนหน้าแทบไหม้ เล่าจบสีหน้าของเธอก็มีแต่ความคับแค้นใจเธอเพิ่งเข้าวงการมาได้สามปีไม่เคยเจอใครที่คิดร้ายกับเธอเลย ทุกคนดีกับเธอหมดอาจจะมีบ้างที่เขาเสแสร้งแกล้งดีกับเธอตามมารยาทแต่ก็ไม่เคยมีใครที่คิดร้ายกับเธอแบบนี้เลย สิ่งที่น้ำฟ้าทำมันเป็นสิ่งที่เลวร้ายเกินไปไม่น่าเชื่อว่านิสัยที่ว่าแย่แล้วสันดานมันยังต่ำทรามถึงเพียงนี้เรื่องเลว ๆ ที่คนอื่นไม่ทำแต่มันกลับทำกับเธอนี่ถ้าไม่ได้คุณคิณ เธอไม่อยากจะคิดเลยว่าชีวิตต่อไปข้างหน้าของเธอจะจบลงแบบไหนเธอคงไม่มีหน้าอยู่ในวงการนี้อีกต่อไปถ้าแผนของพวกมันสำเร็จขึ้นมา “เห้ย อีเอย กูว่าอีน้ำเน่ามันเหี้ยเกินไปว่ะมึง แม่งทำงี้ได้ไงวะ มึงกับมันแค่ไม่ถูกกันในกองมันถึงต้องทำขนาดนี้เลยเหรอกูงงใจ” เบนนี่ท้วงออกมาด้วยความสงสัยเมื่อได้ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นเธอนี่ควันออกหูทันทีรับรองว่าเธอจะตอบแทนมันอย่างสาสมแน่นอนอีน้ำเน่าเนี่ย “กูว่าจริง ๆ แล้วมันคงแค้นใจที่มึงไปวอแวคุณคิณเขามากกว่าว่ะ เพราะวันนั้นที่มึงเมา มันกำลังตกคุณคิณอยู่แต่ถูกคุณคิณแสกหน้าซะหงายเงิบมันคงนกเลยหันมาเล่นงานมึงแทนอะ” เจนนี่ออกความเห็นที่เธอคิดว่าน่าจะเป็นไปได้ค่อนข้างสูงเลยทีเดียวเชียวล่ะ เพราะดูจากท่าทางหัวฟัดหัวเหวี่ยงวันนั้นนังน้ำเน่าคงแค้นใจหนักมากทีเดียว เพราะผู้ชายระดับคิณ อัคนี โอกาสจะได้เจอเขาตัวเป็น ๆ ยากยิ่งกว่าอะไรเสียอีก “กูก็คิดว่าแบบนั้นแหละ กะอีแค่กัดกันบ้างในกองถ่ายมันคงไม่แค้นกูขนาดนี้หรอก” เอยออกความเห็นอีกคนสาเหตุหลัก ๆ คงมาจากคุณคิณ ของเธอนั่นแหละและเขาก็เป็นคนช่วยเธอไว้ซะด้วยสิ เฮ้อ คิดมาถึงตรงนี้ก็ได้แต่ถอดถอนใจด้วยความหน่วงในอก หัวใจเจ้ากรรมดันไปชอบเขาเข้า พอได้ตกเป็นของเขาเธอกลับรู้สึกโหยหาความอยากเป็นเจ้าของหัวใจของเขา แต่มันคงไม่มีวันนั้นหรอกเพราะเขาคงมองเธอเป็นแค่ผู้หญิงที่ได้ลิ้มลองแล้วเขาก็คงไม่แยแส เธอไม่มีอะไรน่าดึงดูดเลยสักนิดคนที่สวยกว่าเธอก็เยอะยิ่งความรวยความหรูหราเธอติดลบเลยล่ะ “เฮ้อ” T_T เสียงถอนหายใจยาว ๆ ดังชัดเจนจนเพื่อนสาวทั้งสองคนแอบมองหน้ากันก่อนที่ทั้งคู่จะหันกลับไปมองเอยที่นั่งเหม่อคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ “ล่ะมึงอะ เป็นไงบ้างฟีลตอนนี้มึงดูเศร้า ๆ ว่ะอีเอย พวกกูก็เข้าใจมึงนะเสียตัวให้คนที่ชอบมันก็ดีแต่เสียฟรีมันก็น่าเสียใจอยู่หรอก” เบนนี่เลียบ ๆ เคียง ๆ ถามเพื่อนรักเสียงเบาเห็นท่าทางเศร้า ๆ ของเพื่อนก็ให้นึกสงสารตั้งแต่รู้จักกันมาเรื่องดี ๆ ในชีวิตเอยก็มีแต่เรื่องไม่ดีมันมีมากกว่าน่ะสิเธอรู้สึกสงสารเพื่อนจับใจ “มึงไม่ลองไปจีบเขาดูวะมึง ลองดูสักตั้งสิว่ะเอยเสียตัวให้เขาไปแล้วกูก็อยากให้มึงมีเขาเป็นผัวแค่คนเดียวเหมือนกัน ดูท่าเขาจะสนใจมึงไม่ใช่น้อยอันนี้กูคิดเอง แหะ แหะ” เจนนี่แนะนำอีกหนึ่งทางเลือกให้เอยเผื่อเธออยากจะลองจีบคุณคิณเขาดูบ้าง “เฮ้อ ขอบใจพวกมึงมากนะเว้ยที่เวลามีปัญหาพวกมึงอยู่กับกูเสมอตอนนี้กูโอเคก็มีเสียใจนิดหน่อยที่เสียจิ้น แต่ก็ช่างแม่งถ้าเป็นคุณคิณกูก็ทำใจยอมรับได้ดีกว่าเสียให้ไอ้เหี้ยนั่น กูคงอยู่ไม่ได้ว่ะ แต่ถ้าจะให้กูไปจีบเขากูคงบายว่ะงานนี้ เขาอยู่สูงเกินไปอีกอย่างผู้หญิงที่สวย ๆ ก็เยอะแยะกูคงแพ้ตั้งแต่เริ่มอะ ช่างมันเหอะคิดซะว่ากูได้ประสบการณ์ชีวิตใหม่ ๆ ที่มันสอนให้กูแกร่งขึ้นมากกว่าเดิม ต่อไปกูคงไม่ไว้ใจใครง่าย ๆ อีกแล้ว” เอยยิ้มอย่างสดใสเพื่อให้เพื่อนทั้งสองคนสบายใจแต่ในใจนั้นกลับรวดร้าว ทำไมกันนะ เธอถึงยังลืมเขาไม่ได้สักทีมันเหมือนกับการที่เขาเป็นคนแรกของเธอจะทำให้เธอตัดใจจากเขายากยิ่งขึ้นไปอีก แต่ไม่เป็นไรค่อย ๆ ตัดใจทีละนิดวันหนึ่งเธอคงดีขึ้นได้โดยไม่นึกถึงเขาอีก “เออเลิศ!! ปรบมือรัว ๆ ถ้ามึงคิดได้แบบนี้พวกกูก็สบายใจหายห่วงช่างแม่งมันเหอะเอย แต่ถ้าไม่ไหวมีอะไรก็บอกพวกกูได้นะเว้ยพวกกูอยู่ข้างมึงเสมอ” เจนนี่เอ่ยออกมาอย่างห่วงใยเพื่อนด้วยความจริงใจไม่ว่าจะยังไงพวกเธอก็จะอยู่เคียงข้างคอยสนับสนุนเอยเสมอ “ส่วนเรื่องอีน้ำเน่ามึงไม่ต้องห่วงกูจัดการเอง อยู่ดี ๆ ไม่ชอบอยากดับมากชะ!! กูจัดการให้มึงไม่ต้องห่วงนะเอยมันไม่ได้ตายดีแน่อีน้ำเน่า” เบนนี่บอกเพื่อนให้วางใจเพราะเรื่องนี้เธอไม่ปล่อยไว้แน่บังอาจมาทำให้เพื่อนรักเธอเสียใจเพราะฉะนั้นอย่าหวังว่ามันจะอยู่ดีมีสุข “ขอบใจพวกมึงอีกครั้งนะขอบใจมากจริง ๆ อีเบนอีเจนที่ดีกับกูมาตลอด ฮึก กูรักพวกมึงนะ ฮึก ฮือ” เอยร้องไห้ออกมาอย่างรู้สึกซาบซึ้งใจในขณะที่เจนนี่กับเบนนี่รีบลุกไปกอดปลอบใจเพื่อนรักทันที หลังจากพ่อแม่เสียเธอก็ไม่มีใครที่รักและจริงใจกับเธอแบบนี้เลย จนมาเจอพี่ซินดี้กับพี่ข้าวทำให้เธอได้เริ่มต้นชีวิตใหม่และมาเจอกับเพื่อนทั้งสองคนที่คอยช่วยเหลือเธอมาตลอดตั้งแต่ปี 1 จนถึงปี 4 เธอดีใจที่เลือกคบคนไม่ผิดขอบคุณโชคชะตาที่พาให้เราได้มาเจอกันขอบคุณในความโชคร้ายที่ยังมีโชคดี ๆ ซ่อนอยู่เสมอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD