ทั้งสองถูกลากไปพบกับมาติช บอดี้การ์ดหนุ่มมองด้วยสายตาไม่เข้าใจ
“สองคนนี้บอกว่าเป็นหลานของไอ้ไมเคิลครับ”ลูกน้องรายงาน
มาติชมองสองสาวเขาหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรไปรายงานเจ้านายตนเอง ลุคส์ขบกรามแน่นสั่งให้มาติชพาสองสาวไปที่บ้านของเขา
ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาภายในบ้าน เขาทอดกายนั่งลงบนโซฟาพร้อมกับจ้องมองไปยังทั้งคู่ เขาชะงักเมื่อพบว่าหนึ่งในสองคนนั้นคือสาวที่เขาเคยให้ความสนใจ แต่เขาไม่มีความปราณีให้ใคร เมื่อไมเคิลบังอาจเล่นตลกกับเขา ก็จะไม่ปราณีต่อหลานสาวของมันเช่นกัน
“พวกคุณเป็นใครจับเรามาทำไม?” พินอาภาถามเขาเสียงสั่น
ปรางค์ปรียานั่งมองหนุ่มหน้าตาคมเข้มนัยน์ตาสีฟ้าดุจน้ำทะเล หากเธอเห็นตามท้องถนน คงคิดว่าเขาเป็นนายแบบแน่นอน แต่สถานการณ์ตอนนี้ เธอกลับไม่คิดว่ามันเป็นเช่นนั้นเพราะสายตาที่เขาส่งมามันทำให้เธอรู้สึกกลัว
“พิน...พวกเขาต้องการอะไรถึงพาตัวเรามา” หญิงสาวกระซิบถามเพื่อน
ลุคส์หรี่ตามองเมื่อได้ยินเสียงกระซิบของหญิงสาว พวกเธอเป็นคนไทย... เขามีเรื่องมากมายอยากจะถาม แต่ไม่คิดว่าตัวเองใจดีพอที่จะไม่ทำอะไร หากต้องเค้นถามกันก็จะทำ เพราะเขาไม่สนว่าจะเป็นหญิงหรือชาย หากทำให้เขาไม่พอใจก็ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าเหมือนกัน
“พวกเธอเข้าไปทำอะไรกันที่บ้านหลังนั้น” เขาถามเสียงเย็น
พินอาภาหน้าซีดปากสั่น แววตาของเขา ทำให้เธอรู้สึกกลัวจับใจ แข้งขาสั่นและอ่อนแรง มือไม้แทบยกไม่ขึ้น
“อย่าให้ฉันถามซ้ำครั้งที่สอง เพราะไม่อย่างนั้นเธออาจจะไม่มีปากไว้ตอบฉันอีกก็ได้!” เสียงกร้าวตามมา
“ฉันไปหาลุง บ้านหลังนั้นเป็นของลุงฉัน!” เธอรีบตอบ
“เธอสินะที่เป็นหลานไอ้ไมเคิล!”ลุคส์เปรยแล้วสบตากับพินอาภา คนถูกสบตาหวาดกลัวร่างกายสั่นเทา
ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืนพร้อมกับสาวเท้ามาหยุดตรงหน้าพินอาภา คว้าท่อนแขนกระชากร่างเข้ามาหาตนเอง ปรางค์ปรียาอ้าปากค้างด้วยความตกใจ รีบถลาเข้าขวาง
“อย่ามายุ่งกับเพื่อนฉัน!” เธอตวาดเขาลั่น
ชายหนุ่มมองสายตากร้าว ผลักร่างหญิงสาวจนล้มลงกระแทกพื้นอย่างไม่แยแส ออกแรงบีบท่อนแขนพินอาภาไว้แน่น แล้วโน้มใบหน้าเข้าหา สั่งเสียงกร้าว
“ติดต่อลุงเธอซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะให้เธอได้ลิ้มรสความกลัวจนถึงขั้วหัวใจเลยล่ะ!”
พินอาภารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหาลุง ใบหน้าเธอซีดเซียวมือสั่น แต่มันไม่ได้ผล เครื่องถูกปิด
“ติดต่อลุงเธอได้ไหม?”เขาถามแล้วยิ้มเหี้ยมออกมา
“ฉะ...ฉันติดต่อไม่ได้ค่ะ”หญิงสาวตอบเขาน้ำตาคลอ
เขาถอนหายใจแล้วยิ้มออกมาราวกับปีศาจ คนกลัวมองหน้าน้ำตาไหลริน ลุคส์จับท่อนแขนเธอไว้แน่น แล้วลากให้ร่างของพินอาภา หญิงสาวรีบขืนตัวเอาไว้ แต่เรี่ยวแรงกลับสู้เขาไม่ได้เลย ลูกน้องลุคส์ยืนดูเงียบ
ปรางค์ปรียารีบวิ่งตามเพื่อนไป โถมกายกระแทกจนชายหนุ่มเซ
“ปล่อยเพื่อนฉันนะไอ้สารเลว!”ปรางค์ปรียาตวาดเขา สายตาจ้องไปอย่างไม่เกรงกลัว
ชายหนุ่มขบกรามแน่น มองหญิงที่เคยประทับใจ มันหมดแล้วความรู้สึกนั้น จับปลายคางแล้วบีบแน่น จนหญิงสาวเบ้หน้าออกมาด้วยความเจ็บปวด
พินอาภารีบรั้งท่อนแขนเพื่อนไว้ แต่คนอย่างปรางค์ปรียาไม่กลัวอะไรอยู่แล้วชีวิตเธอไม่มีอะไรจะเสีย แต่สำหรับพินอาภาชีวิตของเพื่อนเธอยังมีคนมากมายที่รออยู่ และเธอก็เป็นหนี้ชีวิตเพื่อนคนนี้มากมายจนแทบชดใช้ไม่หมด เธอจะไม่มีวันยอมให้เพื่อนเป็นอะไรเป็นอันขาด หากมีคนต้องตายเธอควรเป็นคนแรก
“แกมันโง่ หลานลุงไมเคิลคือฉันไม่ใช่เพื่อนของฉัน!”
คำพูดที่ออกมาจากปรางค์ปรียาทำให้เขาหยุดชะงักไปชั่วครู่ จ้องมองคนพูดทันที
“เธอเป็นหลานของไอ้ไมเคิล แล้วยังกล้าดีมาหลอกฉันอย่างนั้นเหรอ!”ชายหนุ่มตวาด
ร่างบางถูกกระชากให้ลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับเขา
เพียะ!
ฝ่ามือเขาฟาดลงไปบนแก้มเนียนจนนูนขึ้นเป็นรอยนิ้วทั้งห้า ปรางค์ปรียาทรุดกายลงกับพื้นตามแรงฝ่ามือของเขา
“ปรางค์!”พินอาภาร้องเรียกเพื่อนตนเองแล้วรีบผวาเข้ามาหา
“อย่าทำร้ายเพื่อนฉัน เขาไม่ใช่หลาน...”
“หยุดนะพิน!”หญิงสาวตวาดลั่นเพื่อป้องกันไม่ให้พินอาภาเปิดเผยเรื่องที่ ต้องการปกปิดออกมา
“ปรางค์...”
หญิงสาวส่ายหน้า สบตาเพื่อน เธอยินดียอมรับโชคชะตานี้
“ฉันจะปล่อยเพื่อนเธอไป แต่เธอต้องอยู่กับฉัน ฉันจะจัดการให้เธอยอมเปิดปากเรื่องไมเคิลเอง!”
มาติชรีบลากพินอาภาออกไป หญิงสาวดิ้นรนทั้งน้ำตา
“อย่าทำแบบนี้ปรางค์ เราไม่ได้ต้องการให้ทำแบบนี้...”พินอาภาสะอื้นออกมาอย่างหนัก สายตาของเธอจดจำได้แค่เพียงสีหน้าของเพื่อนที่หันมายิ้มให้ ก่อนโดนลากออกมาจากห้องนั้น
“ปากดีนักนะ อยากช่วยเพื่อน เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ อยู่เฉยๆ ก็ไม่มีปัญหาแล้วแส่หาเรื่องดีนัก!”เขาบอกแล้วสะบัดมือออกจากปลายคางมน ก่อนหันไปสนใจพินอาภาอีกครั้ง
พินอาภาตัวสั่น ลุคส์ก้าวเข้าหา หญิงสาวรีบถอยหนี ทว่าไม่ทันได้ดั่งใจลุคส์กระชากร่างบางเข้าหา เธอกรีดร้องดิ้นทุรนทุรายด้วยความหวาดกลัว ปรางค์ปรียามองหน้าเพื่อนด้วยความสงสารริมฝีปากบางเม้มแน่น
หญิงสาวใช้เท้าที่ว่างอยู่ยันไปที่เขา ส่งผลให้ร่างสูงใหญ่เซลงไปเล็กน้อย ชายหนุ่มชะงักเพราะไม่ทันตั้งตัวเขาหันไปมองด้วยความโกรธ
“ไม่เข็ดเลยใช่ไหม!”เขาตวาดลั่น