3

1101 Words
อาหารที่ขึ้นโต๊ะแต่ละวันมีของดีนับสิบอย่างแต่ของที่แม่ใหญ่โปรดปรานที่สุดนั้นคือขาหมูน้ำแดงกลิ่นหอมฉุย เนื้อยุ่ยๆ ละลายในปาก ในเมืองเกาซานแห่งนี้ ไม่มีผู้ใดที่ตุ๋นขาหมูน้ำแดงอร่อยเทียมนาง ฮูหยินใหญ่เคยหลุดปากพูดออกมา สูตรที่นางเคยทำขึ้นโต๊ะจนแม่ใหญ่ติดใจเห็นแล้วตะเกียบสั่น คีบไม่หยุดจนท่านพ่อมองหน้ามาแล้ว เป็นสูตรเดียวกับที่ห้องเครื่องในวังหลวงทำขึ้นโต๊ะเสวยฮ่องเต้ เพราะตระกูลฟากมารดานางหลายคนทำงานและมีตำแหน่งใหญ่โตในห้องเครื่อง “กลิ่นขาหมูน้ำแดง วันนี้เจ้าปรุงขาหมูน้ำแดงขึ้นตั้งโต๊ะหรือนังตัวดี” “ไม่เพียงแต่ขาหมูน้ำแดงเท่านั้น ข้ายังเตรียมอกไก่น้ำข้นไว้ขึ้นโต๊ะ พรุ่งนี้ข้าก็ตั้งใจจะตุ๋นเอ็นกวางที่ท่านสี่จวนสกุลหวังนำมาฝากท่านพ่อ” “พอไม่ต้องพูดแล้ว” หม่าอี้หวาแม้จะพยายามรักษาเรือนร่าง แต่ตะเกียบของนางไวกว่าใครทุกคน ทุกครั้งยามฮุ่ยชิงตุ๋นขาหมูน้ำแดงขึ้นโต๊ะหม่าอี้หวาจะกินจนหมด ยามนี้จมูกเจ้ากรรมของนางกลับได้กลิ่นหอมชวนน้ำลายสอทำให้ท้องนางร้องจ๊อกๆ กลิ่นของน้ำซุปคละเคล้ากับเครื่องเทศ นางจำได้ดียามคีบเนื้อของมันวางลงในปากนั้นแทบจะละลายทันที ฮุ่ยชิงเห็นสายตาโกรธเคืองของฮูหยินใหญ่เมื่อครู่ผ่อนลงจึงรีบรายงานเสียงหวาน “เมื่อเช้า สาวใช้ไปตลาด นางได้ขาหมูมา ขาอวบอ้วน ข้าเห็นว่าแม่ใหญ่ชอบกินเลยเอามาตุ๋นกับสมุนไพรด้วยไฟอ่อนๆ หากท่านสั่งโบยข้า เห็นทีวันนี้ข้าคงไม่มีเรี่ยวแรงปรุงขาหมูขึ้นตั้งโต๊ะให้ท่าน ช่างน่าเสียดายขาหมูเหล่านั้นที่ต้องถูกเททิ้งไป” ครั้งหนึ่งนางป่วยหนัก หม่าอี้หวาอยากกินขาหมูจึงให้สาวใช้ปรุง แต่แล้วกลับต้องเททิ้งทั้งหม้อเพราะไม่ถูกปากอย่างที่ฮุ่ยชิงทำ ฮูหยินใหญ่เหลือกตาใส่นางทีหนึ่ง “นังตัวแสบ เจ้าคิดว่าคนอย่างข้าเห็นแก่กินนักหรือไง ถึงได้เอาของกินมาล่อ” แต่มันก็ใช้ได้ผลไม่ใช่หรือเจ้าคะ ดวงตาตื่นตระหนกอย่างชัดเจน นางเงยหน้าขึ้นมองอย่างเจ็บปวด “ข้าไม่กล้าคิดเช่นนั้นเจ้าค่ะ” หม่าอี้หวามองฮุ่ยชิงที่นั่งกองอยู่ที่พื้นแล้วเหยียดยิ้ม ไม่ทันสังเกตถึงความเจ้าเล่ห์ที่ซ่อนอยู่ในสายตา เมื่อเห็นหลิ่งอี้กำลังจะกระชากฮุ่ยชิงไปรับโทษ นางกลับเสียดายขาหมูที่ต้องเททิ้งเพราะหาสาวใช้มีฝีมือดีกว่าฮุ่ยชิงไม่ได้ “ช้าก่อนหลิ่งอี้ ปล่อยมันเข้าครัวไป แต่สั่งสาวใช้ให้คุมนางให้ดี วันนี้ไม่ต้องส่งสำรับให้ฮุ่ยหลิง ลูกประพฤติชั่ว แม่ก็ต้องรับโทษตามไปด้วย” ดวงตานางเจิดจ้าขึ้นวูบหนึ่งเมื่อมองรังนกในมือ “ฮุ่ยชิง เจ้าอยากให้แม่เจ้าลิ้มรสรังนกถ้วยนี้ใช่หรือไม่” ฮุ่ยชิงเงยหน้าขึ้นประสานสายตาอย่างอ้อนวอน “เจ้าค่ะ หากท่านแม่ได้กินอาหารดีๆ อาการของนางจะต้องดีขึ้น” มุมปากของหัวหน้าแม่ไก่หยักขึ้นเป็นรอยยิ้มอย่างคิดใคร่ครวญ “เจ้าช่างมีความกตัญญู แต่รังนกถ้วยนี้มันคู่ควรกับข้าไม่ใช่หญิงชั่วแพศยาแบบแม่เจ้า” สิ้นเสียงตวาด นางกำลังหิวอยู่พอดีแล้วอยากกลั่นแกล้งฮุ่ยชิงจึงตักรังนกสีอำพันกินจนหมดถ้วยต่อหน้าฮุ่ยชิง ยิ่งเห็นสายตาแสนเสียดายที่มองนางกินรังนกอย่างเอร็ดอร่อย รสมือนางดีอยู่ เมื่อรังนกหมดถ้วย หม่าอี้หวากลับรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นแล้วตวาดไล่ร่างเล็กให้กลับไปทำงานในครัว แค่พ้นสายตาสาวใช้เรือนใหญ่ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องครัว ฮุ่ยชิงยกมือทาบอกแล้วโก่งคออาเจียนออกมาจนหมด เจียวมี่สาวใช้คนสนิทที่คอยช่วยเหลือนางรีบเข้ามาลูบหลังให้นาง แล้วยิ้มกริ่มที่มุมปาก สาวใช้เรือนใหญ่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องครัว พวกนางมักไม่เข้ามาในครัวเพราะเกรงจะถูกไหว้วานให้หั่นผัก หั่นเนื้อ ใบหน้าแย้มยิ้มก้มไปกระซิบกระซาบแล้วยัดถุงผ้าใส่ในมือคุณหนูรอง “คุณหนูรองเจ้าคะ น้ำปัสสาวะเด็กที่ใช้ต้มไข่ในหม้อหายไปไหนหมดเจ้าคะ” มุมปากบนใบหน้าอ่อนเยาว์หยักขึ้นทีละนิดๆ แล้วหันกลับมามองหน้าสาวใช้คนสนิทพร้อมรอยยิ้มซุกซน ส่วนหนึ่งอยู่ในรังนกที่ถือไปแต่แม่ใหญ่แย่งกินจนหมดถ้วย ส่วนหนึ่งนางมองไปที่เตาไฟ ภายในหม้อมีขาหมูอวบอ้วนตุ๋นกับเครื่องยาจีนอย่างดี ส่งกลิ่นหอมฟุ้งยั่วน้ำลาย “ข้าแค่เสียดายน้ำที่เหลือจากการต้มไข่ เลยเอามาปรุงเป็นขาหมูน้ำแดงให้แม่ใหญ่ ข้ากตัญญูต่อนาง เจ้าต้องชื่นชมข้าจึงจะถูก” เจียวมี่ลอบนำรังนกต้มน้ำตาลกรวดอย่างดีไปให้ฮุ่ยหลิงในช่วงที่คุณหนูของนางล่อหลอกถ่วงเวลาฮูหยินใหญ่เอาไว้ วันนี้ฮุ่ยหลิงได้กินรังนก อาการอิดโรยไร้เรี่ยวแรงคงจะค่อยๆ ดีขึ้น “คุณหนูรอง! ท่านช่างร้ายกาจนัก” รอยยิ้มบนใบหน้าทะเล้นแววตาซุกซนเมื่อครู่เลือนหายไป “คนร้ายกาจอย่างหัวหน้าแม่ไก่สกุลกุ้ยสมควรโดนแบบนี้แล้ว” ฮุ่ยชิงแบมือ ในมือมีต่างหูหยกหุ้มทองรงหูหลู่ข้างหนึ่ง เจียวมี่จำได้ว่าฮูหยินใหญ่ชอบต่างหูคู่นี้มาก เพราะนายท่านมอบให้ฮูหยินใหญ่เป็นของขวัญเมื่อหลายปีก่อน วันนั้นสาวใช้ในจวนได้รับรังนกคนละถ้วยทั่วทุกคน ท่ามกลางความสงสัยของเจียวมี่ เมื่อเห็นสิ่งนั้นในมือคุณหนูรองจึงเอ่ยถามเสียงเบา “ต่างหูของฮูหยินใหญ่ คุณหนูไปเอามาได้อย่างไรเจ้าคะ หากนางรู้เข้าท่านต้องถูกเล่นงานแน่” “ตอนที่นางตบข้า มันหล่นมา ข้าจึงเก็บไว้ ข้าคืนนางแน่ แต่จะคืนแบบไหนเจ้าคอยดูก็แล้วกัน” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ระบายทั่วใบหน้า “คุณหนูรองคิดจะทำอะไรหรือเจ้าคะ” ฮุ่ยชิงยิ้มแย้มน่ารัก มุมปากยกขึ้นอย่างน้อยๆ พลันแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าเด็ดเดี่ยว “แล้วข้าจะบอกเจ้าทีหลัง เจ้ารีบไปตักขาหมูขึ้นโต๊ะให้แม่ใหญ่ก่อน เดี๋ยวนางจะโมโหหิว อาละวาดใส่เจ้าอีก”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD