ในขณะเดียวกัน...
ริเอะเดินกรีดกรายผ่านห้องตรวจของโรงพยาบาลสะดุดตากับร่างสูงซึ่งกำลังยืนกอดอกพิงเสาอยู่พอดี เก้าอี้มีให้นั่งก็ไม่นั่ง ริเอะเดินเข้าไปทักชายหนุ่มอย่างไม่คิดจะปล่อยผ่าน เธอไม่รู้สึกแปลกใจที่เจอเขาที่นี่เพราะเมื่อครู่ก็เพิ่งพบกับซายูริ
“ไง งานบอดี้การ์ดที่ต้องคอยตามก้นเด็กผู้หญิงดูจะเหมาะสมกับนายดีนะ”
“ริเอะ” แววตาคมกริบหรี่ลงเล็กน้อย ตวัดมองสาวงามข้างกายด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนไปจากตอนแรก รู้ตัวแล้วแหละว่ามีคนเดินมาแต่แค่ไม่แสดงอาการ
“มาทำอะไร”
“อยากรู้เหรอ ถ้ายอมขึ้นเตียงด้วยฉันจะบอก”
“ไร้สาระ”
“หึ! ทำไม? หรือกลัวว่าจะติดใจจนถอนตัวไม่ขึ้น” ริเอะไต่นิ้วไปบนบ่าของคาวะอย่างเย้าแหย่ คาวะเพียงมองด้วยแววตานิ่งๆ ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาทางสีหน้า
ท่าทางเยือกเย็นของเขาเห็นแล้วก็ทำเอาริเอะหมดอารมณ์แกล้ง พลันรอยยิ้มบนใบหน้าก็เปลี่ยนกลายเป็นเลือดเย็น
“นายสบายใจไปเถอะ ระวังจะต้องเสียใจที่หักหลังฉัน โอ๊ย!”
ริเอะกำลังจะเดินออกมาแต่ดันถูกชายหนุ่มขัดขา ทำให้รองเท้าส้นสูงที่สวมลื่นเสียหลัก คะมำไปข้างหน้าหลายก้าว
“นี่!” ริเอะตั้งหลักได้หันกลับมาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่คาวะท่ามกลางสายตาที่มองมาอย่างประหลาดใจของคนรอบข้าง
“ทำไมฉันต้องเสียใจ”
คาวะเอ่ยถามเสียงยะเยือก สายตาดุดันอย่างไม่หวั่นเกรงของเขาริเอะเห็นแล้วถึงกลับเดือดอยู่ในใจ อยากจะเอาคืนให้สาสม ทั้งเรื่องที่โรงแรม และเรื่องซายูริ ไหนจะเรื่องก่อนหน้านี้ที่เธอถูกเขากวนโมโหนับครั้งไม่ถ้วน แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะเธอไปยั่วอีกฝ่ายก่อนนั่นเอง ถึงงั้นก็ไม่เคยเข็ดหลาบ
“เดี๋ยวก็รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น” ริเอะจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคมกริบของเขาก่อนจะแค่นยิ้มหยัน
คาวะหรี่ตาลงอย่างสงสัยแต่ริเอะก็เดินออกไปทันทีโดยไม่เปิดโอกาสให้เขาได้ถาม คาวะกำลังนึกจะตามไปแต่เสียงใสๆ ของอัยย์ก็ดังขึ้นมาซะก่อน
“พี่คาวะ”
“อัยย์... เสร็จแล้วเหรอ” คาวะหันกลับมาทางเสียงเรียก เห็นอัยย์เดินออกมาจากทางห้องตรวจ สีหน้ายังคงซีดเซียวเห็นแล้วชายหนุ่มก็นึกโกรธตัวเองขึ้นมา เป็นเพราะเขาอยากเอาชนะซายูริจึงยุให้อัยย์มาด้วย มันน่าโมโหตรงที่ซายูริเป็นต้นเหตุให้เขาเสียการควบคุมเนี่ยแหละ ปกติเขาไม่เคยทำอะไรแบบไม่มีเหตุผลเช่นวันนี้มาก่อน
ทั้งที่อัยย์ควรจะได้พักอยู่บ้านซูซาคุสบายๆ แต่เขากลับทำให้น้องต้องมาเหนื่อยโดยใช่เหตุ เพราะความที่อยากเห็นสีหน้าไม่พอใจของซายูริเท่านั้น
บ้าชะมัด!
“พี่คาวะเดี๋ยวอัยย์ไปรับยานะคะ”
“อ้อ อืม” คาวะรู้สึกตัวเพราะเสียงอัยย์ เขาพยักหน้า มองอัยย์ไปรับยาที่ช่อง สักพักน้องสาวก็เดินกลับมา
“เรียบร้อยค่ะ กลับกันเลยไหม ป่านนี้ซายูริน่าจะถึงบ้านแล้ว”
อัยย์ยังไม่ทราบว่าซายูริตามพวกตนมา คาวะลังเล แต่สุดท้ายก็ไม่ได้บอก สายตาเหลือบไปเห็นถุงยาในมือน้องสาวก็นึกสงสัยขึ้นมา
“คราวที่แล้วก็เพิ่งรับยาไปหนิ ได้ใหม่อีกแล้วเหรอ”
“เอ๊ะ เอ่ออื้อ คุณหมอสั่งเพิ่มค่ะ คงเห็นว่าช่วงนี้อัยย์ไม่ค่อยแข็งแรงก็เลยสั่งวิตามินให้ค่ะ”
“อืม ไปเถอะ”
“ค่ะ”
“อ้าวคุณอัยย์”
อัยย์กำลังจะตามคาวะไปหันกลับมามองด้านหลัง ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจเมื่อสบสายตาเข้ากับสองคนตรงหน้า
“คุณเคนมะ ซายูริ...”
อัยย์เบิกตากว้างอย่างประหลาดใจที่เจอทั้งสองคนที่นี่
“อัยย์เป็นยังไงบ้าง ได้ยินว่ารู้สึกไม่ดี”
“ซายูริ... อื้อ ตอนนี้ค่อยยังชั่วขึ้นแล้ว”
“คุณอัยย์คราวหลังถ้าไม่ไหวก็บอกนะครับ ไม่ต้องฝืน”
“ค่ะ” อัยย์หันไปมองเคนมะที่พูดกับเธออย่างใจดี ก่อนจะก้มหน้าลงอย่างขอบคุณที่เขาอุตส่าห์เป็นห่วง เคนมะทราบเรื่องอาการป่วยของอัยย์จากซายูริระหว่างทางกลับจากห้องจิน เขามองหญิงสาวท่าทางบอบบางตรงหน้าแล้วอดนึกถึงสาวน้อยในชุดกีฬาเมื่อเช้าไม่ได้ ตอนนั้นอัยย์ดูสุขภาพดีจนเขาไม่ทันสังเกตเห็นถึงอาการเจ็บป่วยของเธอเลย
รถสองคันขับตามกันกลับซูซาคุ ซายูริยังนั่นคันเดียวกับเคนมะ เธอบอกเขาไม่ต้องมาส่งเดี๋ยวนั่งกลับกับรถอีกคัน แต่เคนมะไม่ยอมและดึงดันจะมาส่งคู่หมั้นของตัวเองให้ถึงที่ ซายูริจึงไม่อยากทำร้ายน้ำใจอีกฝ่าย ยอมให้เคนมะมาส่งแต่โดยดี
“ขอบคุณนะคะพี่เคนมะสำหรับวันนี้”
การปรากฏตัวของเคนมะกะทันหันสำหรับซายูริ แถมเขายังอยู่กับเธอทั้งวัน ทำเอาซายูริแทบไม่อยากเชื่อและไม่เคยนึกฝันมาก่อนว่าจะมีวันนี้ ถึงแบบนั้นซายูริก็ยังไม่เชื่อใจเคนมะเต็มร้อย เวลาแค่วันเดียวมันเร็วเกินไป
“ไว้พรุ่งนี้ถ้าว่างพี่จะแวะมา”
“ค่ะ”
ซายูริบอกแค่นั้นและกำลังจะเดินเข้าบ้าน แต่เคนมะกลับเรียกเธอเอาไว้พร้อมกันนั้นมือบางก็ถูกคว้าไปจับ เสียงประท้วงของเคนมะดังขึ้น
“พี่นึกว่าจะได้ยินคำว่ารอนะจากซายูริซะอีก”
“อะไรกันคะ” ซายูริแสร้งขำกลบเกลื่อนมองมือที่ถูกจับแล้วดึงออกแต่เคนมะกลับยื้อเอาไว้ไม่ปล่อยง่ายๆ แก้มใสซับสีเลือดจางๆ อย่างรู้สึกอายบรรดาสาวใช้ที่ยืนเรียงแถวก้มหน้ารอรับอยู่หน้าทางเข้าบ้าน
“พี่เคนมะ... ซายูริต้องเข้าบ้านแล้วค่ะ”
เธอเริ่มอึดอัดกับความอุ่นที่มือ
“ขอฟังคำบอกลาหวานๆ จากซายูริก่อนไปไม่ได้เหรอ”
“พี่เคนมะ”
“นะ...”
“....”
ซายูริจ้องหน้าคู่หมั้นนิ่งครู่หนึ่ง ดวงตาคมเข้มของเคนมะดูดื้อดึงและมุ่งมั่นอย่างไม่ยอมแพ้ง่ายๆ จนเธอทอดถอนใจ จำต้องทำตามที่เขาร้องขออีกครั้ง
“กลับบ้านดีๆ นะคะ ฝันดีค่ะ”
“แค่นี้เหรอ”
“อื้อ”
เคนมะทำหน้าอึ้งๆ ไม่คิดว่าซายูริจะทื่อแบบนี้ เขามองรูปหน้าสวยหวานอย่างนึกเสียดาย ถ้าเธอขี้อ้อน อ่อนหวาน และเอาใจเขามากกว่านี้เขาคงจะพอใจมาก เฮ้อ... เอาเถอะ อย่างน้อยๆ การที่เธอไม่ทำตัวเป็นผู้หญิงราคาถูกก็คู่ควรกับตำแหน่งภรรยาในอนาคตของเขาดี ภรรยาที่เอาไว้เชิดหน้าชูตาน่ะนะ ส่วนภรรยาที่มีไว้ชูกำลังจะมีตอนไหนและมีเท่าไหร่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเคนมะ
“งั้นพี่ไปล่ะ”
“บ๊ายบายค่ะ”
“ค้าบ”
เคนมะหันมายิ้มก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในรถ
ซายูริยืนคอยจนกระทั่งเคนมะขับรถออกไปพ้นระยะสายตาก็หันหลังกลับเข้าบ้าน ไม่เห็นอัยย์กับคาวะอยู่รอบๆ จึงหันไปถามแม่บ้าน แม้พอจะเดาออกว่าสองคนนั้นน่าจะเข้าบ้านทางประตูที่เชื่อมต่อกับโรงจอดรถไปแล้ว และคำตอบก็ไม่ต่างจากที่คิดเท่าไหร่
“เมื่อครู่เห็นคุณหนูเดินแวบๆ เข้าไปในห้องครัวค่ะ”
“อ่อ”
“ท่านซายูริทานอะไรมาหรือยังคะ ให้ตั้งสำหรับไหม”
“ไม่เป็นไร ขอนมอุ่นๆ สักแก้วกับเค้กสักชิ้นก็พอ เอาขึ้นไปที่ห้องทำงานคุณพ่อนะ ฉันอาบน้ำก่อน เสร็จแล้วว่าจะเข้าไปดูงานสักหน่อย”
“ได้ค่ะท่านซายูริ”
แม่บ้านก้มหน้าลงรับคำสั่งก่อนเดินหายไปทางครัว
“คุณหนูอัยย์มาค่ะป้าช่วย”
“อ๊ะ ไม่เป็นไรค่ะ”
แม่บ้านเดินเข้ามาเห็นอัยย์กำลังเขย่งหยิบแก้วที่อยู่บนชั้นอย่างลำบากจึงรีบออกปาก อัยย์หันมาปฏิเสธได้ไม่ทันขาดคำแม่บ้านที่ตัวสูงกว่าก็มาหยุดอยู่ข้างๆ และหยิบแก้วให้อย่างง่ายดาย
“...ขอบคุณค่ะ แฮร่”
“หิวไหมคะเดี๋ยวป้าหาอะไรให้ทาน”
“ไม่เป็นไรค่ะ ป้าไม่ต้องเตรียมอาหารให้ซายูริเหรอ”
“ไม่ค่ะ ท่านซายูริบอกจะรับแค่นมกับขนม”
“อ่อ งั้น... เดี๋ยวอัยย์ขอเอาไปให้ซายูริเองค่ะ พอดีมีเรื่องจะคุยกับซายูริด้วย”
“ไม่เป็นไรค่ะ กว่าท่านซายูริจะอาบน้ำเสร็จก็อีกนาน”
“อ่าว งั้นจะเอานมไปให้ตอนไหนล่ะ”
“ท่านซายูริให้ยกไปที่ห้องทำงานของท่านไคดะค่ะ เห็นว่าจะทำงาน”
“อ๋อ...” อัยย์พยักหน้า แววตากลมสวยครุ่นคิดอะไรบางอย่างซึ่งแม่บ้านไม่ทันสังเกตเห็น
“แล้วนี่พี่ชายคุณหนูอัยย์อยู่ที่ไหนคะ ป้าจะได้เตรียมอาหารให้พร้อมกันเลย”
“พี่คาวะน่าจะอยู่ที่ห้องมั้งคะ เราแยกกันที่โรงจอดรถ”
“งั้นน่าจะทานที่ห้องครัวฝั่งโน้น” แม่บ้านทำหน้าครุ่นคิดเพราะที่บ้านซูซาคุมีครัวแยกระหว่างเจ้านายกับลูกน้องชัดเจน ก่อนจะหยิบอาหารในตู้ออกมาวางลงบนโต๊ะ อัยย์เห็นดังนั้นก็รีบห้ามเอาไว้ทันที
“ไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวอัยย์ทำเอง”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะแค่นี้ แล้วคุณหนูทานเสร็จก็ไม่ต้องล้างจานนะคะ เดี๋ยวสาวใช้ทำเอง”
“เอ๊ะ แต่ว่า...”
“ถือว่าป้าขอร้องนะคะ ถ้าท่านซายูริรู้เข้าพวกเราจะโดนเอ็ดเอาค่ะ”
แม่บ้านพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบายใจ เพราะเห็นอัยย์ชอบหยิบจับงานบ้านงานครัวอยู่บ่อยครั้งที่มีโอกาส พอแม่บ้านหรือสาวใช้เห็นก็จะรีบห้ามและหยุดไม่ให้เธอทำก่อนที่ซายูริจะมาพบ อัยย์ได้แต่ถอนหายใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องยำเกรงซายูริกันขนาดนี้
“ก็ได้ค่ะ อัยย์แค่ทานข้าวแล้วก็เก็บจานไปไว้ที่ล้างก็โอเคแล้วใช่ไหมคะ”
“ไม่ต้องเก็บก็ได้ค่ะ เดี๋ยวสาวใช้จัดการให้”
“....”
อัยย์พูดไม่ออก ได้แต่ยิ้มเจื่อนและส่ายหน้าไปมา เธอชักสงสัยว่าซายูริทำอะไรเองเป็นบ้างหรือเปล่า