อาวุธมารอเธออยู่ที่ร้านอาหารก่อนเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ตามประสาคนใจร้อน เขาคงดื่มเบียร์สดหมดไปหลายแก้วแล้ว เพราะหน้าหล่อเหลาคมเข้มแบบหนุ่มเชื้อสายอิตาลี่ชักมีสีเลือดฝาด และมีกลิ่นแอลกอฮอลล์ผสมกลิ่นเหงื่อผู้ชายโชยมาปะทะโสตประสาทสาวช่างจับผิดอย่างลดา
“พี่ดีใจที่ลดายอมออกมาคุยกันดีๆ นะ”
เขาลุกขึ้นมาขยับเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามให้เธอนั่งด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ และสั่งน้ำส้มคั้นสดของโปรดเผื่อลดา เพราะรู้ว่าเธอชอบดื่มอะไรประจำ
“พี่วุธอยากคุยกับลดาเรื่องอะไรคะ ?”
เธอพยายามเข้าเรื่องสนทนา เพื่อจะได้จบปัญหาที่คาใจเขาเร็วๆ เพราะก่อนออกมาจากบ้านลดาได้บอกมารดาว่าจะออกมาเคลียร์กับเจ้านายเรื่องการลาออกด่วน โดยปกติเธอจะไม่ค่อยออกจากบ้านยามวิกาลนัก ยกเว้นมีเพื่อนมาขออนุญาตกับทางบ้านเท่านั้น
“เรื่องเธอลาออกจากงาน เพราะอะไร ?”
น้ำเสียงที่แฝงความเผด็จการของคนเคยเป็นนายยังหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ระหว่างเขากับเธอนั้น สามารถคุยกันสนิทสนมกว่าพนักงานคนอื่นๆ
เพราะอาวุธแสดงออกว่าสนใจเธอตั้งแต่วันแรกที่รับสัมภาษณ์งานเอง ซ้ำยังทำตัวสนิทสนมไม่ถือยศกับลดาและชอบพาเลขาสาวติดสอยห้อยตามออกไปข้างนอกด้วยบ่อยเกินความจำเป็น จนกลายเป็นข่าวคาวลือหนาหูในบริษัทมาตลอด
“ลดาจะแต่งงานค่ะ”
เธอกล่าวปดเขา ทั้งที่อยากสานสัมพันธ์ต่อ แต่จำใจต้องตัดขาดความสัมพันธ์ แม้จะมีเยื่อใยต่ออาวุธมากแค่ไหน มันคงเป็นไปได้ยากเพราะฐานะและสังคมอันแตกต่าง รวมถึงครอบครัวอาวุธซึ่งเป็นชาวอิตาลี่หัวโบราณค่อนข้างเจ้ายศเจ้าอย่างอยู่ไม่น้อย เท่าที่เธอได้รู้จักมาบ้าง
“โกหก! โดนคนในออฟฟิศแกล้งรึปล่าว ?”
“ลดาความพูดจริงค่ะ เดือนหน้าลดาจะส่งการ์ดเชิญไปให้ถ้าหากพี่วุธไม่รังเกียจมาร่วมงานด้วย”
“เจ้าบ่าวเป็นใคร ? ทำไมพี่ไม่รู้จัก”
เขายังซักไซร้ต่ออย่างคนช่างสังเกต
“เพื่อนที่เรียนจบมหาลัยมาด้วยกันค่ะ”
เธอทำเนียนตอบพลางดื่มน้ำส้มคั้นสดหลบสายตาจับผิด ตามประสาคนพูดปดคำโต
โชคดีที่พนักงานเสริฟ์นำอาหารจานโปรดของลดาซึ่งอาวุธสั่งไว้ก่อนหน้าเผื่อเธออย่างเอาใจมาวางบนโต๊ะ จึงมีคนบดบังสายตาคมดุราวกับพญาเหยี่ยวของเขาไว้ เปิดโอกาสให้หญิงสาวทำจิตใจที่เริ่มวอกแวกให้สงบลง
“สั่งอาหารมาเยอะขนาดนี้..พี่วุธชวนเพื่อนมาด้วยรึไงคะ”
ไม่น่าเชื่อว่าคำถามนอกเรื่องของลดาสามารถดึงความสนใจคนอย่างอาวุธให้เปลี่ยนบทสนทนาได้ เธอเลยคิดเข้าข้างตัวเองอย่างเดียวคือเขาเริ่มเมา!
“พี่สั่งของโปรดลดาทั้งนั้น ทานสิ! มาพี่ตักให้”
“ขอบคุณค่ะ”
การที่เขาเลิกสนใจเรื่องเธอลาออกจากงาน ไม่ได้ทำให้ลดาดีใจนัก กลับกลายเป็นว่าเธอผิดหวังที่อาวุธ หมดความพยายามจะจีบตัวเองเสียแล้ว
“ดึกแล้วเดี๋ยวพี่ไปส่งลดานะ”อาวุธเสนอตัวขึ้นหลังจากทานอาหารเสร็จและพากันลุกเดินออกมาจากโต๊ะ
“พี่วุธขับไหวเหรอคะ ?”
“พี่ดื่มเบียร์เหยือกเล็กนิดเดียว แค่นี้ไม่เมาหรอก! ถึงตำรวจจับเป่าก็ไม่โดน.. เชื่อพี่สิ”
“งั้นก็ได้ค่ะ”
ลดาบอกทางไปบ้านซึ่งไม่ไกลจากร้านอาหารแห่งนี้นัก เพียงแค่ต้องไปกลับรถใต้ทางด่วนสายบางนาเท่านั้น
ขณะที่หญิงสาวกำลังให้ความสนใจตอบข้อความจากมารดาว่ากำลังจะกลับบ้าน อาวุธก็ขับรถผ่านทางเข้าบ้านลดา พาเธอล่วงเลยไปยังเส้นทางมอเตอร์เวย์ด้วยความเร็วเกินร้อยไมล์ต่อชั่วโมงเสียแล้ว!
“พี่วุธจะพาลดาไปไหน ? จอดรถเดี๋ยวนี้นะ”
เมื่อเห็นว่าเส้นทางนั้นไม่ใช่ทางกลับบ้านตนเอง หญิงสาวก็เริ่มโวยวายขึ้นมา
“พี่ยังคุยกับลดาไม่จบ !”
“เราไปคุยกันต่อที่บ้านลดาก็ได้นะคะ”
เธอพยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบ ด้วยความคิดที่ว่าเขาอาจจะวู่วามเนื่องจากฤทธิ์แอลกอฮอลล์
“ลดาบอกว่า พ่อแม่ไม่อนุญาตให้พาผู้ชายเข้าบ้าน !”
อาวุธกล่าวยอกย้อนอ้างอิงถึงข้อความของเธอเมื่อก่อนหน้านี้ แสดงให้รู้ว่าเขามีสติความทรงจำอย่างดีครบถ้วน
เร็วเท่าความคิดลดารีบยกโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหามารดาทันที หวังขอความช่วยเหลือ แต่ก็ช้ากว่ามือใหญ่ของอาวุธที่คว้ามันมาจากมือเธอแล้วกดปิดเครื่อง ก่อนจะยัดลงในเป้ากางเกงเสียอย่างนั้น
ทำเอาหญิงสาวอึ้งกับการกระทำอันอุกอาจที่เธอคาดไม่ถึงว่าสุภาพบุรุษเยี่ยงอาวุธจะกล้า!
“พี่วุธจะพาลดาไปไหนคะ ?”
เธอยังพยายามชวนเขาคุยเพื่อเบี่ยงเบนเจตนาร้าย ด้วยความใจเย็น
“บ้านพักตากอากาศที่พี่เคยเล่าให้ฟังยังไงล่ะ !”
คำตอบของอาวุธแทบจะทำให้ลดาลมจับ ก็นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาพยายามชวนเธอไปที่นั่น และเห็นได้ชัดว่าเจตนาแต่ละครั้งของอาวุธคือการรวบหัวรวบหางลดานั้นเอง
ก่อนหน้านี้เขาก็เคยชวนหญิงสาวไปค้างคืนวันหยุดยาวด้วยกันสองต่อสอง แต่เธอก็ได้ตอบปฏิเสธอย่างนุ่มนวล
ถึงคราวครั้งนี้แม้แต่ซุปเปอร์แมน ก็คงบินมาช่วยให้ลดารอดจากเงื้อมมือของอาวุธไม่ทันเสียแล้ว นอกจากตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
ดังนั้นตลอดทางลดาจึงพยายามรวบรวมสติเพื่อมองหาหนทางช่วยเหลือตัวเองจากสถานการณ์อันคับขันนี้ให้ได้
จนกระทั่งรถเบนซ์ของอาวุธแล่นมาจอดสนิทที่หน้าบ้านพักตากอากาศ ลดาทำทีเป็นมองรอบๆ บ้านดูความสวยงาม แต่ที่จริงคือมองหาถนนหนทางจะวิ่งหนีเอาตัวรอดไปขอความช่วยเหลือจากบ้านใกล้เรือนเคียง เธอค่อยๆปลดเข็มขัดออกแล้วพยายามเปิดประตูอย่างใจเย็น แต่!
“พี่ตั้งระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับเด็กน่ะ ลดาต้องให้พี่ปลดล็อคที่เปิดประตูให้เองนะครับ!”
อาวุธฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา อย่างรู้เท่าทัน พร้อมหัวเราะขบขันเธอเบาๆ เหมือนมันเป็นเรื่องตลก
“งั้นไปเปิดสิคะ ถ้าพี่วุธอยากจะคุยกับลดาในรถก็ไม่น่าขับมาไกลถึงขนาดนี้”
ลดาสงวนท่าทีหวาดกลัวเอาไว้ ทั้งที่ฝ่าเท้ามีเหงื่อเริ่มผุดพรายซึมออกมา
แทนที่จะออกไปเปิดประตูรถ อาวุธกลับยกที่วางแขนขึ้นแนบกับตัวเบาะรถเพื่อไม่ให้มีอะไรกางกั้นระหว่างเขาและเธอ
“ให้พี่หอมแก้มลดาก่อน แล้วจะลงไปเปิดประตู”
เขาเอ่ยคำเจรจาต่อรองอย่างคนเจ้าชู้
ลดาลอบถอนหายใจเบาๆ เธอไม่เคยรังเกียจเขา แต่ไม่ชอบวิธีรวบรัดมัดมือชกแบบที่อาวุธกำลังทำอยู่สักนิด
“ก็ได้ค่ะ”
ร่างสูงใหญ่คร่อมลงมาที่เบาะข้างคนขับซึ่งลดานั่งอยู่ แถมกดปรับเบาะเอนราบโดยไม่จำเป็นเพื่อจะทำการหอมเธอ
“พี่วุธ !”
มือน้อยพยายามดันร่างกายใหญ่โตที่คร่อมทับตัวเองออกไปให้พ้น
“พี่ยังไม่ได้หอมลดาเลย..อื้ออ!”
“อื้ออ... อย่านะ !”