กุลยา พิทักษ์โสภณ หญิงสาววัยยี่สิบสอง กำลังกดกริ่งหน้าบ้านของบิดาผู้ให้กำเนิดด้วยรอยยิ้ม พลางก้มลงมองตะกร้ามะม่วงที่ถือเอาไว้ในมือ เธอไม่รู้เลยว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์ที่จอดรถซุ่มอยู่ตรงทางเข้าบ้านของบิดากำลังมองมาที่เธอไม่วางตา
“คนนี้แน่นอนไม่ผิด ตามที่เจ้านายสั่งให้จับตัวไป” อังคารหันไปพูดกับไอ้ม่วงลูกน้องคนสนิท ก่อนจะพยักหน้าให้มันจัดการเอาผ้าโปะยาสลบอุดจมูกของกุลยาเอาไว้ หญิงสาวดิ้นรนเพียงไม่กี่ครั้งก็สงบลง ก่อนที่จะถูกอุ้มลากไปที่รถและขับออกไปอย่างรวดเร็ว
สาวใช้รีบวิ่งออกมาหน้าบ้านเพราะได้ยินเสียงกริ่งแต่ปรากฏว่าไม่เจอใคร มีเพียงตะกร้าใส่มะม่วงหล่นอยู่หน้าบ้านเท่านั้น เธอขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย ก่อนจะรีบเปิดประตูออกไปและกยิบตะกร้ามะม่วงมาถือเอาไว้อย่างเปรี้ยวปาก
“ใครมาน่ะสมใจ” พิมพ์ผกา คู่ขาคนใหม่ของเจ้านายเอ่ยถาม
“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะคุณผกา มีคนมากดกริ่งหน้าบ้าน พอสมใจออกมาดูก็ไม่เห็นมีใคร เห็นแต่ตะกร้าใส่มะม่วงอยู่หน้าบ้าน แต่สมใจคิดว่าอาจจะเป็นคุณกุลก็ได้ค่ะ เพราะคุณกุลชอบเอามะม่วงที่บ้านสวนมาฝากบ่อยๆ” สมใจแสดงความคิดเห็น
“ตายแล้วรีบเข้ามาเร็ว อาจจะเป็นพวกมิจฉาชีพหลอกแกก็ได้ เอาของมาแกล้งวางทิ้งไว้ พอกินเข้าไปตายยกครัวแล้วมันก็พาพวกมาปล้นจี้ ในมะม่วงอาจจะป้ายยาอยู่ก็ได้ รีบเอาไปทิ้งเลยไป นังหน้าโง่เอ๊ย ถ้าคุณกุลของแกจริงๆ เอามาจริงๆ แล้วไหนล่ะ ฉันไม่เห็นแม้แต่เงา” พิมพ์ผการีบตวาดสาวใช้ ทำเอาสมใจถึงกับสะดุ้งสุดตัว
“ค่ะ ๆ ๆ” สมใจรับคำหน้าตาตื่นก่อนจะรีบนำมะม่วงไปทิ้งในถังขยะหน้าบ้านด้วยท่าทีเสียดายไม่น้อย
“แล้วแกก็รีบไปล้างเนื้อล้างตัวเลยนะ ไม่แน่ว่าตอนนี้แกอาจจะโดนสารพิษเข้าแล้วก็เป็นได้ คนเดี๋ยวนี้น่ากลัวจะตายไป”
พิมพ์ผการีบไล่สาวใช้ไปอาบน้ำอาบท่าในทันที
“เอะอะโวยวายอะไรกันครับ” เสียงของพลเอ่ยถามในขณะเดินมาโอบกอดภรรยาเด็กคนใหม่ของตัวเองเอาไว้ ก่อนอุ้มร่างอรชรมานั่งบนตัก
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ สมใจบอกว่าลูกสาวของคุณมา แต่ผกาไม่เห็นนะคะ สงสัยมันจะคิดไปเอง คุณพลตื่นนานแล้วเหรอคะ” พิมพ์ผกาลูบไล้แผงอกกว้างของหนุ่มใหญ่วัยห้าสิบ บดเบียดกระแซะสะโพกเข้าหาด้วยท่าทียั่วยวน เสื้อเกาะอกสีเหลืองนวลขับให้ผิวของเธอขาวผุดผ่องเป็นยองใย ยั่วตายั่วใจของเขายิ่งนัก
พลมองแล้วต้องกลืนน้ำลายด้วยความกระหายสวาท พิมพ์ผกาเป็นสาวน้อยวัยสะพรั่งไปทั้งเนื้อทั้งตัว เธออายุสิบเก้า อยู่ในวัยกำลังกินกำลังนอน เขาจึงจัดการส่งเสียให้เล่าเรียนแลกกับการเป็นหมอนข้างให้เขากกกอดในยามค่ำคืนชั่วคราว ก่อนจะหมดประโยชน์
“คุณพลน่ะ เราเพิ่งจะอะไรกันไปเองนะคะ ตื่นอีกแล้วเหรอคะ” หล่อนแกล้งเบียดสะโพกสะบึมไปกับหน้าตักหนุ่มใหญ่วัยคึก รู้ว่าเขากำลังตื่นตัวแค่ได้สัมผัสเนื้อตัวของเธอ
“ผกาของฉันน่ารักแล้วก็น่ากินขนาดนี้ ใครจะอดใจไหว” พลอุ้มร่างสาวน้อยขึ้นห้องนอนอย่างรวดเร็ว ในขณะที่สมใจอาบน้ำอาบท่าเสร็จและกำลังเดินมาจากห้อง เพื่อจะถามว่าตอนเย็นจะรับประทานอะไร หล่อนส่ายหน้าไปมา พลนั้นอายุล่วงเลยเข้าวัยห้าสิบปีเข้าไปแล้ว แต่งงานมีครอบครัวกับภรรยาคนแรกคือแพรวพรรณและเลิกรากันไป มีลูกสาวฝาแฝดสองคน คนเล็กคือกุลธิดาอยู่กับบิดา ส่วนคนโตชื่อกุลยาอยู่กับมารดา ย้ายกันไปอยู่ที่บ้านสวนของคุณยายพิตรตั้งแต่เล็ก เธอทำงานที่นี่หลายปีเลยพอจะรับรู้เรื่องราวของครอบครัวนี้อยู่บ้าง
พี่น้องสองคนนิสัยไม่เหมือนกันเลย กุลยานั้นเรียบร้อยอ่อนหวาน ในขณะที่พลนั้นไม่ค่อยจะใส่ใจลูกสาวทั้งสองสักเท่าใดนัก ไม่ว่าจะเป็นคนโตหรือคนเล็ก แถมยังเปลี่ยนผู้หญิงไปเรื่อย ๆ เธอยังเคยคิดเลยว่าถ้าไม่แก่ตายก็คงติดโรคตาย
พี่น้องสองสาวมีความสวยไม่น้อยหน้าใคร กุลธิดาจึงได้เป็นดารานางแบบมีชื่อเสียง แต่ชื่อเสียก็เยอะเพราะว่าเปลี่ยนผู้ชายไม่ซ้ำหน้า ทำให้ผู้ชายอกหักมานักต่อนัก
สมใจได้ยินเสียงครวญครางโอดโอยมาจากบนห้องของเจ้านายแบบ ไม่อายฟ้าอายดินก็หน้าแดง รีบเดินหนีไปทางหลังบ้านในทันที เพราะ พิมพ์ผกานั้นหัวสูง อยากได้ของดีราคาแพงเลยคิดจะเกาะผู้ชายรวย ๆ เพื่อให้เลี้ยงดูตัวเอง จะได้ซื้อของแบรนด์เนมอวดคนอื่น ดังนั้นกับข้าวที่เธอทำหล่อนจะไม่กินเด็ดขาด จะโทร. ไปสั่งอาหารดัง ๆ หรู ๆ จากโรงแรมและภัตตาคารมารับประทานพร้อมถ่ายรูปอวดเพื่อน ๆ ในโลกโซเชียลว่ากินหรูอยู่แพง
อาทิตย์แรกสำหรับของใหม่ สมใจรู้ดีว่าพลจะทุ่มเททุกอย่างให้ตัวเองมีความสุขมากที่สุด เธอเป็นเพียงแค่สาวใช้จน ๆ เลยก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป ไม่อยากยุ่งเรื่องของเจ้านายให้ปวดกบาลมากนัก
“คุณพลขา... ผกากำลังจะขาดใจแล้วค่ะ” พิมพ์ผกาที่นอนแยกขาให้หนุ่มใหญ่กระแทกกระทั้นร้องร่ำคร่ำครวญด้วยความเสียวซ่านรัญจวนใจสุดขีด เสียงกระแทกตับ ๆ ดังสนั่นลั่นเตียงใหญ่แบบไม่ขาดสาย
“ฉันก็กำลังจะขาดใจแล้วเหมือนกัน” พลตะโบมจูบร่างอวบอัดของ สาวน้อยวัยสิบเก้าอย่างเร่าร้อนรัญจวนใจ ก่อนที่จะกระแทกกายเข้าหาร่อง ฉ่ำเยิ้มอย่างถวายหัว เพื่อต้องการที่จะเสร็จสมอารมณ์หมายไปพร้อม ๆ กัน
“ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าลูกสาวของฉันมาหาเหรอ” พลเอ่ยถามคู่ขาคนล่าสุดของตัวเองอย่างสนใจ
“ค่ะ แต่ผกาก็ไม่เห็นใครนี่คะ สมใจคิดไปเอง เพราะเห็นตะกร้ามะม่วงหล่นอยู่หน้าบ้านน่ะค่ะ”
“อย่างนั้นเหรอ”
“อย่าไปสนใจเลยค่ะ ถ้าเป็นลูกสาวของคุณจริงๆ ก็ต้องเห็นแล้วสิคะ ผกาว่าเราไปอาบน้ำกันดีกว่าค่ะ”
“คุณไปอาบก่อนเถอะ ผมจะคุยธุระกับปนัดดาสักครู่” พิมพ์ผการู้จักปนัดดาดี หล่อนเป็นผู้จัดการดารา ที่ดูแลกุลธิดาอยู่
“ค่ะ งั้นผกาไปอาบน้ำก่อนนะคะ” เธอหอมแก้มของเขาฟอดใหญ่ ก่อนจะยิ้มหวานเดินเข้าห้องน้ำไปด้วยกิริยายั่วยวน
พลเปิดภาพวงจรปิดย้อนหลังดู ก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากัน แล้วเขาก็ยิ้มร้ายออกมาแบบที่ไม่มีใครเคยได้เห็น
มันช่างเป็นรอยยิ้มที่อำมหิตยิ่งนัก!!!
กุลยาค่อย ๆ ปรือตาตื่นขึ้นมาด้วยความมึนงง เธอมองบรรยากาศรอบกายที่ไม่คุ้นตา ก่อนจะตกใจสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นร่างสูงของใครคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามา
ผู้ชายแปลกหน้าทำเอาหันรีหันขวาง เอ่ยถามออกไปเสียงสั่นระริก
“คุณเป็นใคร” เธอลุกจากเตียงไม้ไผ่ ถอยหนีไปอีกมุมหนึ่งของห้อง
“มันไม่สำคัญหรอกว่าผมเป็นใคร” กุมภ์พยายามทำเสียงให้เข้มเข้าไว้ ทั้งๆ ที่ในใจ
เวรเอ๊ย! ไอ้อังคาร มึงกำลังจะทำให้กูก้าวขาเข้าไปอยู่ในคุก ข้อหาลักพาตัว กักขังหน่วงเหนี่ยว มันไม่ใช่เล่นๆ เลยนะ มันผิดกฎหมายชัดๆ นี่ถ้ามารดารู้คงแพ่นกบาลเขาแน่ๆ เลย
“คุณมานี่เลยมา” กุมภ์ ธีรดล นายหัวหนุ่มแห่งเกาะแสนรัก วัยสามสิบเจ็ดปีเดินตรงเข้าไปจับข้อมือของเชลยสาวเอาไว้ รั้งให้เธอเดินตามออกไปจากห้อง
“นี่คุณจะพาฉันไปไหน ปล่อยนะ! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ” กุลยาร้องเสียงหลงเมื่อโดนดึงข้อมือให้เดินลงไปด้านล่างของกระท่อม เธอยิ่งตกใจเมื่อรอบกายเป็นป่าเขาลำเนาไพร และสถานที่ที่เธอยืนอยู่คือหน้ากระท่อมหลังหนึ่ง ริมลำธาร
“คุณอยู่ที่นี่ไปก่อน” กุมภ์บอกหญิงสาว
ที่เขาบอกให้เธออยู่ที่นี่ไปก่อน เพราะเขายังไม่รู้จะหาทางออกให้กับปัญหาที่ลูกน้องของเขาสร้างขึ้นมายังไงดี เธอเองก็คงตกใจ ที่จู่ๆ โดนจับตัวมาแบบนี้
“ฉันไม่เข้าใจ ทำไมฉันต้องอยู่ที่นี่ด้วย” กุลยาได้แต่งุนงง
“คุณยังไม่จำเป็นต้องรู้ตอนนี้” เขาไม่อยากอธิบายเพราะมันเป็นเรื่องน่าปวดหัวสำหรับเขาในเวลานี้