บทที่ 1 พรหมลิขิตทำงาน
งานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสระหว่างนักธุรกิจหนุ่มสุดหล่อกับนางเอกสาวแสนสวยถูกจัดขึ้นในโรงแรมสุดหรูย่านพร้อมพงษ์ของกรุงเทพมหานคร ทำให้เหล่าเซเลบคนดัง ดารา นางแบบ นักร้อง นักแสดง รวมไปถึงไฮโซทั้งหลายต่างตบเท้าเข้างานกันอุ่นหนาฝาคั่ง และหนึ่งในคนที่มางานก็คือ จีน่า จินันยา จิรัชวานิช นักแสดงสาวที่รับบทนางร้ายซึ่งเล่นละครกับเจ้าสาวอยู่หลายเรื่องจึงได้รับการ์ดเชิญด้วย
“งานสวยมากเลยนะคะพี่หวานใจ จีน่าอยากจัดแบบนี้บ้างจัง”
หลังจากเดินไปถ่ายรูปกับเจ้าของงานเสร็จแล้วจึงเข้ามาในห้องจัดเลี้ยง นางร้ายหน้าเหวี่ยงก็หันไปกระซิบกระซาบกับผู้จัดการส่วนตัวซึ่งเป็นสาวประเภทสองด้วยความชื่นชม และอดไม่ได้ที่จะวาดฝันถึงงานแต่งของตนเอง งานแต่งงานแสนสวยที่มีเจ้าบ่าวสุดหล่อกับเจ้าสาวแสนงามเคียงคู่กัน
“ว้ายยย คุณน้องจีน่าขา ก่อนจะจัดงานหาสามีให้ได้ก่อนเถอะ”
หวานใจ หญิงสาวในร่างชายจีบปากจีบคอเอ่ยอย่างติดตลก
“จีน่าก็มาหาในงานนี้ไงคะ ดูสิ คนหล่อ คนดังเต็มไปหมด”
หล่อนตาวาวมองรอบ ๆ กายด้วยความสนอกสนใจ แววตาแพรวพราวเต็มไปด้วยความซุกซน
“ให้มันจริงเถอะค่ะ ไม่ใช่มีคนมาจีบแล้วทำเชิดใส่เหมือนครั้งก่อน ๆ อีก”
“แหมก็คนพวกนั้นไม่ใช่สเปก จีน่าจะสนใจไปทำไม”
หล่อนส่ายหน้ายามนึกถึงคนที่เข้ามาจีบ มีแต่พวกเ*******ูทั้งนั้นเพราะหวังแค่เรื่องบนเตียง ซึ่งเธอไม่ต้องการ
“จ้ะ แม่คนสวยเลือกได้ พี่หวานใจว่าเราไปหาอะไรกินดีกว่า พี่หิวมาก”
“จีน่าก็หิว งั้นเราแยกกันนะคะ แล้วไปเจอที่โต๊ะ”
“โอเคค่าคุณน้อง ขอให้ได้ขอให้โดน”
“สาธุ”
หลังจากแยกกับผู้จัดการหัวใจสาว จินันยาก็ตรงไปหาของกินในโซนที่จัดวางทันที ในระหว่างที่เธอกำลังตักอาหารใส่จานก็เหลือบไปเห็นน่องไก่ทอดชิ้นสุดท้ายซึ่งนอนแอ้งแม้งอยู่ในถาด จึงเอื้อมมือไปคีบเพราะถือคติชิ้นสุดท้ายแฟนหล่อ แต่ไม่ทันจะได้มาก็มีคนคีบไปเสียก่อน ทำให้หล่อนเดือดเพราะตัวเองเล็งไว้แล้ว หญิงสาวหันมาตั้งท่าจะต่อว่า แต่พอได้เห็นใบหน้าหล่อ ๆ ของโจรชิงไก่ ความตั้งใจก็พังทลายเป็นอันต้องหุบปากโดยฉับพลันแล้วฉีกยิ้มหวานแทน
“ขอโทษนะครับ คุณกำลังจะเอาไก่ชิ้นนี้หรือเปล่า” น้ำเสียงทุ้มสุขุมเอ่ยถามคนตรงหน้าที่กำลังยิ้มด้วยความไม่สบายใจ เพราะไม่สังเกตจึงไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ยืนอยู่ก่อนหน้ากำลังจะคีบน่องไก่ชิ้นสุดท้ายหรือไม่
“หล่อ” จินันยาเผลอพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา โชคดีที่หล่อนแค่พึมพำทำให้คนฟังไม่ได้ยิน
“อะไรนะครับ คุณพูดว่าอะไรผมไม่ได้ยิน” ชายหนุ่มขมวดคิ้วถามอีกครั้งเนื่องจากได้ยินไม่ชัดเจน
“อ้อ คือ คุณเอาน่องไก่ไปได้เลย จีน่ายกให้คุณค่ะ” ตอบด้วยน้ำเสียงหวานหยดย้อยพร้อมกับบิดตัวไปมาด้วยความขัดเขิน
“งั้นก็ขอบคุณมากครับ พอดีหลานอยากกิน”
“ค่ะ ไม่เป็นไร”
“ผมขอตัวก่อนนะครับ”
“ดะ เดี๋ยวค่ะ คุณชื่อ...”
“มาร์ครับ มาวิน หยาง”
“ฉันชื่อ จีน่า จินันยาค่ะ”
“ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก”
ชายหนุ่มกำลังจะก้าวเท้าไปข้างหน้าแต่ถูกหญิงสาวเรียกเอาไว้เสียก่อน เมื่อได้ยินหล่อนถามถึงชื่อก็รีบตอบทันทีโดยไม่ได้คิดอะไรและไม่รู้ด้วยว่าคนที่กำลังแนะนำตัวนั้นเป็นใครจึงตอบกลับตามมารยาท แต่ก็แอบไม่พอใจหญิงสาวอยู่ไม่น้อยเมื่อได้ยินหล่อนแนะนำชื่อโดยที่เขายังไม่ทันขยับปากถาม จากนั้นชายหนุ่มก็ขอตัวเพราะหลานสาวกำลังรออยู่โดยไม่ทันสังเกตรอยยิ้มและแววตาของจินันยา
มาร์ หรือ มาวิน หยาง ไฮโซหน้าหล่อลูกครึ่งไทย-ฮ่องกง ลูกชายคนเดียวของตระกูลเดินกลับมาหาหลานสาวซึ่งนั่งรอคุณอาสุดหล่อ ใจดี ไปเอาไก่มาให้กิน
วันนี้เขากับครอบครัวได้รับการ์ดเชิญจึงมาร่วมงานด้วย เขายิ้มเอ็นดูเมื่อเห็นหลานสาวตัวน้อยทำหน้ามุ่ยเพราะคุณอาไปเอาไก่มาให้ไม่ทันใจ โดยมีพ่อกับแม่ของเด็กน้อยซึ่งเป็นพี่สาวกับพี่เขยกำลังส่ายหัวด้วยความเอ็นดูลูกสาวเช่นกัน
“มาแล้วครับ น่องไก่แสนอร่อยที่เจ้าหญิงของอาอยากกิน”
“โป้ง ไม่กินแล้วค่า”
หลานสาวทำหน้างอพร้อมกับสะบัดไปอีกทาง
“น่าเสียดายจัง ไก่น่ากินมากกกกก ถ้าเจ้าหญิงไม่อยากกิน งั้นอากินเอง”
“อย่านะคะ ไก่ของน้องพิมมี่”
“ฮ่า ๆ แล้วใครกันไม่อยากกินเมื่อกี้”
“คุณพ่อขา คุณอาไม่ยอมเอาไก่ให้น้องพิมมี่”
“โธ่ แพ้แล้วก็ฟ้องพ่อทันที เอาไปครับ คุณอาสุดหล่อยกให้”
“ขอบคุณค่าคุณอาสุดหล่อ”
เด็กน้อยรีบไหว้อย่างสวยงามตามที่ถูกสอนมา สร้างเสียงหัวเราะให้พ่อแม่แล้วก็คุณอาสุดหล่อได้เป็นอย่างดี
“เมื่อกี้พี่เห็นเรายืนคุยสาว เขาเป็นใครเหรอ” พี่สาวเห็นน้องชายยืนคุยกับสาวนิรนามอยู่นานสองนานจึงอดไม่ได้ที่จะตั้งคำถาม เพราะรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาผู้หญิงคนนั้นอย่างไรชอบกล
“ไม่รู้ครับพี่มิ้น”
“อ้าว เห็นคุยกับเขาอยู่นานสองนาน”
“คือผมหยิบไก่มา ไม่เห็นว่าเขากำลังจะเอาเหมือนกัน เลยหันไปถามว่าเขาจะเอาไหมแต่เขายกให้ครับ พี่มิ้นมีอะไรเหรอ”
“เปล่า ๆ พี่แค่คุ้นหน้าน้องเขา”
“เหรอ เขาบอกว่าชื่อ จีน่า จินันยา” ทั้งที่ไม่ได้ใส่ใจแต่ไม่รู้ทำไมสมองของเขาถึงไม่ลืมชื่อของหญิงสาวคนนั้น มาวินสงสัยตัวเองไม่น้อยแต่ขี้เกียจคิดมากจึงปัด ๆ เดี๋ยวก็ลืมเอง
“จีน่า จินันยา อ้อ นางร้ายที่กำลังดังอยู่ในตอนนี้ไง มาร์ไม่รู้จักเหรอ” มิ้น หรือ มิ้นนี่ หยางถามน้องชายด้วยความสงสัย เพราะจีน่า จินันยา คือนางร้ายตัวท็อปที่กำลังโด่งดัง เป็นไปได้เหรอมาวินจะไม่รู้จัก
“ครับ ผมไม่รู้จัก” เขาตอบตามความจริง ไม่รู้จักผู้หญิงคนนั้นจริง ๆ เพิ่งจะมารู้ว่าหล่อนคือใครก็ตอนที่พี่สาวบอก
“น้องคุณรู้จักแต่นางเอกเท่านั้นแหละที่รัก” พี่เขยได้ทีก็รีบแซวน้องชายของภรรยาทันที เพราะรู้ดีว่ามาวินนั้นชอบผู้หญิงหวาน ๆ สวย ๆ น่ารัก เรียบร้อย แบบจีน่าน่ะเหรอ ไม่มีทางได้อยู่ในสมองของชายหนุ่มหรอก แต่งตัวเปรี้ยวจนเข็ดฟัน ผู้ชายน้ำลายหกกันเป็นแถว ไม่ใช่สเปกของมาวินอย่างแน่นอน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะไม่รู้จักหล่อนถึงจะเป็นนางร้ายคนดังก็เถอะ
“จริงเหรอมาร์ เราไม่รู้จักจีน่าจริง ๆ เหรอ”
“ครับ ไม่รู้จักจริง ๆ เพิ่งรู้จักวันนี้แหละ”
“โอ๊ยพี่ก็คิดว่ารู้จัก กะเป่าหูให้จีบสักหน่อย เราจะได้มีเจ้าของเป็นตัวเป็นตนเสียที”
“หึ ไม่เอาหรอก ผู้หญิงที่ดูร้าย ๆ แบบนั้นไม่ใช่แนวผม โสดแบบนี้แหละ ผมชอบ”
“จ้ะ ๆ เอาที่สบายใจ ระวังนะมาร์ เกลียดสิ่งไหนจะได้สิ่งนั้น”
“ไม่ใช่กับผมแน่นอนครับพี่สาว”
คนเป็นน้องชายหัวเราะอยู่ในลำคอด้วยความมั่นใจ เขาไม่มีทางชอบผู้หญิงที่ดูร้าย ๆ แบบนั้นหรอก โดยไม่รู้เลยว่าพรหมลิขิตได้ทำหน้าที่ของมันแล้ว เกลียดสิ่งไหนจะได้สิ่งนั้น ประโยคคุ้นหูที่ชายหนุ่มต้องจำไปชั่วชีวิต ส่วนพี่สาวเมื่อได้เห็นใบหน้ามั่นอกมั่นใจของน้องชายก็รู้สึกหมั่นไส้เล็กน้อยจึงแอบภาวนาอยู่ในใจขอให้มาวินได้ในสิ่งที่เกลียดและขอให้ได้ในเร็ววัน