สองวันต่อมา ณ บ้านวาสน์วนากุล รุ่งรัตน์ ชัยอนันต์และยุพเรศนั่งมองชายร่างสูงใหญ่ที่เดินเข้ามาในห้องรับแขกนิ่ง ทั้งหมดมีความรู้สึกเดียวกันคือ หายใจไม่ทั่วท้อง ทั้งที่อยู่ในบ้านของตัวเองแท้ๆ แต่รู้สึกราวกับว่า อยู่ในห้องพิพากษา รอการลงทัณฑ์ก็ไม่ปาน ที่ทั้งสามรู้สึกเช่นนั้นอาจเป็นเพราะสายตาดุกร้าวของพยัคฆ์ที่มองมา มันแสดงให้เห็นถึงพลังอำนาจและความอำมหิต “เชิญนั่งค่ะคุณพยัคฆ์” รุ่งรัตน์ต้อนรับขับสู้พยัคฆ์อย่างดี ต่างกับตอนที่ไม่รู้ว่าเขาคือใคร “ดิฉันจะให้เด็กหาน้ำหาท่ามาต้อนรับนะคะ” ก่อนจะหันไปสั่งสาวใช้ที่นั่งรอรับคำสั่ง “ผมจะพูดธุระเลยก็แล้วกัน จะได้ไม่เสียเวลา” พยัคฆ์เริ่มต้นเรื่องที่ตนตั้งใจ การเดินทางมาบ้านหลังนี้ในวันนี้ เขามีเรื่องสำคัญจะตกลงกับรุ่งรัตน์ จึงได้นัดหมายมาพูดคุยที่นี่ เรื่องที่ว่านั้นคือ เรื่องทายาทตระกูลวาสน์วนากุลที่ยืดเยื้อมานาน “ค่ะ คุณพยัคฆ์ว่า