โลกส่วนตัว…6/1

1379 Words
ปกเกศกับคีติกากลับมาถึงห้อง สีหน้าของชายหนุ่มก็ยังบึ้งตึง อารมณ์ขุ่นมัวไม่พอใจเข้มข้นแผ่กระจาย ระหว่างทางเขาไม่เอ่ยอะไรแม้แต่คำเดียว บรรยากาศกดดันจนคีติกาแทบหายใจไม่ออก เจ้าของห้องเดินมาหยุดที่ส่วนของห้องนั่งเล่นแล้วหมุนตัวกลับมาจ้องหน้าเธอ หญิงสาวที่เดินก้มหน้าตามหลังเข้ามารู้สึกได้ถึงสายตาขุ่นเคืองที่มองมา คีติกาเหลือบตาขึ้นมองแล้วก็ต้องรีบหลุบตามองพื้น รู้ตัวว่าตนเองผิดที่ไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขา “เคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่ามายุ่งเรื่องส่วนตัวกันฉันให้พื้นที่ส่วนตัวเธอ ไม่เคยก้าวก่าย เธอก็ต้องให้พื้นที่ส่วนตัวฉันด้วย ฉันไม่ได้มีความคิดจะสร้างโลกใบที่สอง แต่ฉันมีโลกส่วนตัวของฉันและไม่ต้องการให้ใครเข้ามาล่วงล้ำ อย่าทำให้คิดว่าโลกที่อยู่กับเธอมันไม่น่าอยู่ จนฉันต้องมองหาโลกใบใหม่” ด้วยความโกรธกรุ่นในใจ ปกเกศไม่ได้แทนตัวเองว่าเฮียและไม่ได้เรียกเธอด้วยชื่อเหมือนที่เคย คีติกาสะอึก ก่อนจะอธิบายในส่วนของตนเอง “ผิงผิงชวนหลิวไปค่ะ หลิวไม่เคยคิดจะก้าวล่วงชีวิตส่วนตัวของเฮียเติ้งเลยนะคะ” “แล้วทำไมไม่ปฏิเสธ แค่ชวนไปก็ไปรึไง ใครชวนไปไหนก็ต้องไปกับเขาหมดงั้นสิ พรุ่งนี้เธอเองก็ต้องไปทำงาน ฉันคิดว่าเธอจะรู้อะไรควรไม่ควรและมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ ไม่ต้องอ้างคนอื่น ถ้าเธอไม่อยากไปก็แค่ปฏิเสธ ไม่ต้องมาอยากรู้อยากเห็นเรื่องฉันให้มากนัก หวังว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ให้ต้องพูดเรื่องเดิมนะไผ่หลิว” เขาสวนกลับมาด้วยน้ำเสียงห้วนกระด้าง ประโยคท้ายเน้นเสียงต่ำจนคีติกาสะดุ้ง เธอลืมไปได้อย่างไรว่าตัวเองอยู่ในฐานะอะไรสำหรับปกเกศ แต่ตอนที่ปรียาดาชวนไปด้วยกันเธอกลับลืมข้อนี้เสียสนิท! เขาถึงได้มีปฏิกิริยามากขนาดนี้ การที่เขาไม่โทษน้องสาวไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะถึงปรียาดาจะเป็นคนชวนเธอไปที่ผับนั่นจริง ไม่ต้องคิดให้เสียเวลาว่าใครจะต้องถูกตำหนิ ปรียาดาเป็นน้องเล็กของบ้านที่คนทั้งครอบครัวทั้งรักและตามใจเป็นที่สุด ไม่ว่าจะมีเรื่องขัดเคืองใจกระทบกระทั่งกันเพียงใดคนในครอบครัวก็ยังรักใคร่ปกป้องกันอย่างเหนียวแน่น ส่วนเธอนั้นต่างไปอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าเป็นที่รู้กันระหว่างสองครอบครัวว่าเธอเป็นสะใภ้ของครอบครัวเกียรติยั่งยืน แต่ในความเป็นจริงเธอไม่ต่างอะไรกับสาวใช้อุ่นเตียงในนิยายจีนโบราณที่เคยอ่าน การที่เธอเข้าไปก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของปกเกศนั้นเขาคงไม่อาจยอมรับได้ หรือ...การที่เขาโกรธมากมายขนาดนี้อาจจะเป็นเพราะเธอเข้าไปขัดจังหวะความสำราญของเขา เพราะหากเธอไม่ไปที่นั่นในคืนนี้ เขาก็คงยังสนุกอยู่ในโลกส่วนตัวที่เขาขีดเส้นแบ่งชัดเจนไม่ให้เธอเข้าไปยุ่งเกี่ยว หากเธอไปช้ากว่านี้พวกเขาสองคนคงจะไปต่อที่ไหนสักแห่ง เธอไม่ควรโผล่ไปขัดขวางความสุขของเขา คีติกาหลับตา ไม่ว่าที่ไหน เมื่อไร เธอก็ยังเป็นสิ่งที่ไม่มีความสำคัญและไม่เป็นที่ต้องการ แผลในใจนี้ไม่ว่านานแค่ไหนก็ยังทำให้เธอเจ็บปวดเสมอ “กลับเข้าไปนอนได้แล้วหลิว” เขาสั่ง ไม่ได้สังเกตว่าหญิงสาวมีอะไรผิดปกติ เขาอยากกดเธอไว้ใต้ร่างระบายความไม่พอใจที่เธอทำเหมือนพูดไม่รู้ภาษา แค่อยู่ในที่ทางของตัวเองอย่างสงบเสงี่ยมมันยากนักหรือไง แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ เขาไม่ได้ทำกิจกรรมอย่างว่ากับเธอถี่เหมือนช่วงแรก ๆ เพราะเห็นว่างานที่ร้านของเธอค่อนข้างยุ่งและไม่อยากให้เธอเหนื่อยจนเกินไป คีติกายังหลุบสายตามองพื้นจึงไม่เห็นสายตาของเขาที่มองเธอ รับคำเบา ๆ แล้วหมุนตัวกลับเข้าไปห้องของตัวเอง เช้าวันต่อมาคีติกาก็ลุกขึ้นมาเตรียมอาหารเช้าให้เขาตามปกติ เธอไม่คิดจะทำตัวให้มีปัญหา ในฐานะผู้อาศัยอย่างเธอจะมีสิทธิ์ทำอะไรได้มากไปกว่าทำตัวให้เจ้าของบ้านพอใจ หญิงสาวนั่งรอเขาตื่นจนกระทั่งสิบเอ็ดโมงเธอต้องออกไปดูร้านแต่ตอนนี้ปกเกศยังไม่ออกมาจากห้อง ไม่แน่ใจว่าเขาตื่นแล้วหรือยังเพราะวันนี้เป็นวันหยุดของเขา ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาเธอไม่เคยไปเคาะประตูห้องเพื่อเรียกหรือปลุกเขา เพราะทุกเช้าชายหนุ่มจะออกมาจากห้องตรงเวลาเสมอ ยกเว้นวันหยุด ยิ่งเกิดเรื่องเมื่อคืนเธอยิ่งต้องเลี่ยงที่จะไม่ไปแตะต้องอะไรที่คิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวหรืออาจจะรบกวนเวลาส่วนตัวของเขา เรื่องเคาะประตูห้องเขาจึงลืมไปได้เลย คีติกาจึงตัดสินใจเขียนโน้ตแปะไว้ที่หน้าตู้เย็นบอกว่าอาหารเช้าทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนเธอออกไปที่ร้านอาหาร แต่ก่อนที่หญิงสาวจะเดินออกจากห้อง เสียงเปิดประตูจากห้องนอนของปกเกศก็ดึงขาเธอไว้ ใบหน้าสวยหันมายิ้มให้เขาอย่างสดใส แต่ชายหนุ่มที่ก้าวออกมากำลังก้มดูโทรศัพท์ด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างเคร่งขรึม ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาสนใจสิ่งใด คีติกาจึงไม่ได้ส่งเสียงรบกวนคิดว่าคงเป็นเรื่องงานหรือไม่ก็เรื่องสำคัญของเขา วาวา:อรุณสวัสดีค่ะเฮีย ตื่นนอนรึยังคะ ถ้าเฮียเห็นข้อความนี้ตอนไหน ส่งข้อความตอบกลับวาวาด้วยนะคะ เผื่อวาวายังไม่นอน เราจะได้คุยกัน (สติกเกอร์กระต่ายทำท่ารอ) กว่าปกเกศจะตื่นนอนก็เป็นเวลาสิบโมงเช้าแล้ว เขานั่งเช็กงานจากไอแพดอยู่พักใหญ่ ไม่ได้หยิบโทรศัพท์มาดูข้อความจากแอปพลิเคชันสนทนา เพราะถ้าเป็นเรื่องด่วนคนที่ต้องการจะติดต่อคงใช้วิธีโทร. หา ตอนนี้เวลาที่ดีซีห้าทุ่ม ต่างกันสิบสองชั่วโมง แม้จะยังไม่ดึกมากสำหรับหลายคนแต่เขาก็คิดว่าวลิตาคงนอนแล้ว เขามองหน้าจอที่ข้อความปรากฏอยู่แล้วครุ่นคิด จะตอบกลับเธอไปตามที่อีกฝ่ายบอก หรือจะปล่อยผ่าน ขณะนั้นเสียงที่ดึงสติเขาออกมาจากหน้าจอมือถือก็ดังขึ้น “เฮียคะ” ใบหน้าที่คิ้วขมวดเล็กน้อยเงยขึ้น ร่างสูงใหญ่สมบูรณ์แบบสวมแค่กางเกงนอนขายาวเนื้อนิ่มตัวเดียว เหมือนเพิ่งลุกจากที่นอน เธอไม่เคยเห็นเขาตอนตื่นนอนมาก่อนเพราะที่ผ่านมาแม้เขาจะมาที่ห้องของเธอในชุดพร้อมนอนก็จริงแต่ก็กลับไปนอนที่ห้องของตัวเองเสมอ และจะเห็นอีกทีคือตอนเช้าที่เขาแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวเกรงว่าเขาคงไม่คิดว่าเปิดประตูออกมาแล้วจะเจอเธอเพราะเวลานี้ส่วนใหญ่เธอจะต้องออกไปร้านแล้ว เขาอาจจะไม่ชอบใจที่เธอเห็นเขาในสภาพไม่เรียบร้อยก็เป็นได้ คีติกาจึงเสมองไปที่โต๊ะอาหาร ก่อนจะพูดว่า “คือ หลิวกำลังจะออกไปที่ร้าน หลิวเตรียมอาหารไว้ให้เอียแล้วนะ แต่มันคงจะเย็นหมดแล้ว เฮียจะทานเลยมั้ยคะ เดี๋ยวหลิวไปอุ่นให้ใหม่” ทำท่าจะเดินกลับไปในครัวอีกครั้ง แต่มือหนาก็คว้าข้อมือเรียวของเธอรั้งไว้เบา ๆ แล้วบอกว่า “ไม่ต้อง เดี๋ยวเฮียจัดการเอง หลิวไปที่ร้านเถอะ” คีติกายิ้มรับ “ค่ะเฮีย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD