ด้วยฟามยินดีคับคุณผู้หญิง

1949 Words
"ดูแลคนป่วยเหรอ เรื่องหมู ๆ" อันเล่อเริ่มถอดเสื้อผ้าของซูจือหยวนออก แล้วเริ่มทำความสะอาดร่างกายให้คนป่วยอย่างคล่องแคล่ว ทั้งสระผม อาบน้ำ เช็ดตัว ทำความสะอาดสิ่งปฏิกูลให้โดยไม่รังเกียจ กว่าเธอจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้ย่อมต้องผ่านความลำบากมาไม่น้อย เด็กกำพร้าอย่างเธอต้องรับจ้างทำงานมาหลากหลายอย่าง กว่าจะมีหน้ามีตาในสังคมนักแปลงโฉมได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย "แม่คับ มีอะไรให้พวกเราช่วยไหม" "ใจ๋ใจ๋ขึ้นไปบนเตียงเตาแล้วเอาเสื้อผ้าเก่าผืนนั้นเช็ดน้ำที่กระเด็นให้แม่หน่อยลูก ส่วนจือจือรออยู่ข้างล่างก่อนนะลูก เดี๋ยวตก" "ได้เลยคับ" "ค่ะแม่ ข้าวต้มอร่อยมากเลย มีหมูชิ้นโต ๆ จือจือแบ่งไว้ให้แม่ด้วยนะคะ" เด็กหญิงตัวน้อยเดินมาใกล้ ๆ มารดา พร้อมกับช่วยหยิบจับคอยส่งผ้าเช็ดตัวให้ตามที่ผู้เป็นแม่ต้องการ "อร่อยก็กินเยอะ ๆ ไว้ตอนเย็นแม่จะลงมือทำของอร่อยให้หนูกับพี่ชายกิน ส่งเสื้อชุดใหม่ของพ่อให้แม่ทีจือจือ" "นี่ค่ะ แม่ดีที่สุด" "ปากหวานนะเรา" หลังจากจัดการใส่แพมเพิสให้ซูจือหยวนพร้อมกับทาแป้งใส่ชุดใหม่ให้เสร็จเรียบร้อย อันเล่อก็รีบไปชงอาหารเสริมของคนป่วยแล้วรีบกลับเข้ามา ระหว่างที่รอให้อาหารมีอุณหภูมิที่พอดี เธอจึงเริ่มปัดกวาดเช็ดถูห้อง พร้อมกับเปิดหน้าต่างระบายอากาศ อยู่ ๆ จดหมายที่ได้รับในวันที่สามีของเธอถูกส่งตัวกลับบ้านก็หล่นลงจากเตียงเตา อันเล่อจึงหยิบขึ้นมาดูเธอจำได้ว่าร่างนี้ไม่สนใจจะเปิดอ่านเลยสักนิด "ถึงภรรยาของซูจือหยวน ผมผู้พันเจียงเฟยหรง เป็นหัวหน้าในสังกัดที่ซูจือหยวนทำงานอยู่ รบกวนคุณช่วยติดต่อกลับมาที่เบอร์นี้ 589146xxxx เมื่อได้รับหนังสือฉบับนี้ ผมจะรอการติดต่อกลับ ผู้พันเจียงเฟยหรง" "คงต้องหาเวลาเข้าเมืองซะแล้ว" อันเล่อพับจดหมายเก็บกลับเข้าซอง ก่อนจะนำเครื่องนอนชุดใหม่ออกมา ในสมองของเธอยังครุ่นคิดว่าจากนี้ไปต้องทำยังไงกับชีวิตต่อ แต่ที่แน่ ๆ เธอไม่ยอมอยู่ที่นี่ต่อไปเป็นอันขาด พื้นที่ห่างไกลความเจริญแบบนี้ หากถึงเวลาที่ลูก ๆ ของเธอต้องไปโรงเรียนจะทำยังไงต่อ "ว้าวว ที่นอนใหม่ มีผ้าห่มใหม่ด้วย" แล้วหนูน้อยต้องตกตะลึงอีกครั้งเมื่อแม่ของเธอเอาที่นอนอันใหม่ออกมา อันเล่อมองลูกสาวที่ยิ้มจนตาหยี่ด้วยความเอ็นดู นี่แค่ที่นอนปิกนิกเท่านั้นยังทำให้ซูเสี้ยงจือตื่นเต้นได้ขนาดนี้ ถ้าหนูน้อยได้ไปเห็นห้องนอนในตึกของเธอจะตื่นเต้นขนาดไหน "เดี๋ยวแม่จะตะแคงพ่อทีละข้าง ลูกทั้งสองช่วยกันดันที่นอนอันใหม่เข้ามาใต้แผ่นหลังพ่อนะเข้าใจไหม?" "คับ" "จือจือก็เข้าใจ เดี๋ยวจือจือจะช่วยพี่ใหญ่เอง" ร่างน้อย ๆ รีบปีนขึ้นเตียงเตาก่อนจะรีบดันที่นอนเข้ามาตามที่ผู้เป็นแม่บอก ไม่นานทุกอย่างก็เข้าที่อันเล่อจึงใช้หมอนใบใหม่หนุนศีรษะของสามีให้สูงขึ้นหน่อย เพื่อเตรียมให้อาหารทางสายยาง เมื่ออุณหภูมิความร้อนได้ที่แล้วอันเล่อจึงเริ่มให้อาหารทางสายยางอย่างคล่องแคล่วจนหมดแล้ว จากนั้นจึงตามด้วยน้ำเปล่าอีกเล็กน้อย หลังจากจัดการเสร็จไปหนึ่งห้อง รวมไปถึงคนที่นอนอยู่ในห้อง เด็ก ๆ นอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนที่นอนอันใหม่จนหนำใจ เมื่อแม่เริ่มเปิดห้องส่วนตัวที่แม่นอนอยู่คนเดียวเป็นประจำ ทั้งคู่จึงรีบเข้าไปช่วยอย่างกระตือรือร้น "ใจ๋ใจ๋ ลูกไปหยิบกะละมังให้แม่ที แม่จะเอามาใส่ถ้วยพวกนี้" "คับ" ครู่เดียวซูเสี้ยงใจก็กลับมาพร้อมกับกะละมัง หนุ่มน้อยกับน้องสาวรีบเก็บถ้วยจานที่มารดากองไว้ข้างเตียงเตาอย่างเบามือ ก่อนจะช่วยกันยกคนละข้างเอาไปไว้หลังบ้าน ส่วนอันเล่อก็รีบเก็บมุ้งกับเครื่องนอนที่มีอยู่ไม่กี่ชิ้นเข้ามิติเพื่อเตรียมเข้าไปใช้เครื่องซักและอบแห้งให้เสร็จภายในทีเดียว "จือจือ เดี๋ยวแม่กวาดเองลูก พวกลูกไปนอนเฝ้าพ่อเถอะ อากาศเย็นสบายแบบนี้ถ้าง่วงก็นอนต่อได้ แม่เติมฟืนไว้ให้แล้ว ใจ๋ใจ๋ก็ไปด้วยนะลูก มาเอานี่ไปนอนดูเล่น ๆ ไปก่อน ถ้าอยากวาดรูประบายสีก็ทำได้เลย" หนังสือนิทานหลายเล่มพร้อมสมุดวาดเขียน สีและดินสอถูกส่งให้เด็กน้อยทั้งสอง ทั้งคู่มองหน้ามารดาก่อนจะเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง "จือจือกับพี่ใหญ่วาดรูปได้จิงจิงเหรอแม่จ๋า?" "ต้องได้อยู่แล้วสิลูก จือจือกับใจ๋ใจ๋ของแม่จะวาดกี่หน้าก็ได้ ไว้รอแม่ทำความสะอาดเสร็จแม่จะเข้าไปสอนหนูกับพี่ชายวาดรูปดีไหม" "ดีค่า แม่ดีที่สุด" "ใช่ แม่ของเราดีที่สุด" หลังจากชมจนคนเป็นแม่ต้องยิ้มหน้าบาน เด็กน้อยทั้งสองก็รีบเข้าไปนอนข้างพ่อแล้วเปิดหนังสือนิทานดูอย่างมีความสุข ส่วนอันเล่อก็เร่งมือทำความสะอาดในห้อง รวมไปถึงโถงบ้านลากยาวไปจนถึงหลังบ้าน ตามด้วยการล้างครัวและถ้วยจานจนเสร็จ จากนั้นก็เข้ามิติไปเก็บเสื้อผ้ายัดเข้าเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ของเธอ ที่มาคู่กับโปรแกรมอบผ้าให้แห้งสนิทในทันที ระหว่างนั้นอันเล่อก็หาเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมาให้สามีและลูกคนละ 3 ชุด เพื่อไม่ให้แปลกตาผู้คนเกินไป ระหว่างทำงานบ้านอันเล่อก็ได้ทำความเข้าใจกับเรื่องราวในยุคสมัยนี้ผ่านความทรงจำของร่างนี้ ครอบครัวซูถือว่ามีการเป็นอยู่ที่ดีกว่าบ้านอื่นเพราะมีเงินจากซูจือหยวนส่งกลับมาเดือนละ 50 หยวน แต่อันเล่อยอมแบ่งให้บ้านใหญ่เพียง 10 หยวนเท่านั้น สิ่งที่อันเล่อไม่เข้าใจก็คือ ทำไมนางซูหลี่ถึงรักลูกชายคนรองมากกว่าลูกชายคนโต ทั้งที่คนยุคนี้มักจะให้ลูกชายคนโตเลี้ยงดูพ่อแม่ จะว่าซูจือหยวนทำตัวไม่มีดีหรือไม่เคารพพ่อแม่ก็ไม่ใช่ ต่างจากผู้เป็นพ่อที่ปฏิบัติกับลูกชายคนโตดีกว่าคนอื่น "แม่..แม่คับ..แม่อยู่ไหน" ขณะที่อันเล่อกำลังยืนพับผ้าที่เอาออกมาจากเครื่องอบผ้า เสียงของซูเสี้ยงใจ๋ก็ดังขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ อันเล่อจึงรีบออกจากมิติมาพร้อมกับผ้ากองใหญ่ "ใจ๋ใจ๋เป็นอะไรลูก แล้วร้องไห้ทำไม" "ฮึก..จะ..ใจ๋ใจ๋นึกว่าแม่จะทิ้งพวกเราไปแล้ว" "ไม่ร้องลูก ไม่ร้อง แม่แค่ไปซักผ้ามา นี่ไง หอมไหม?" อันเล่อจำต้องวางผ้ากองโตแล้วดึงลูกชายเข้ามากอด เธอมัวแต่ซักผ้าเพลินจนลืมว่าหายเข้าไปในมิตินานแล้วจนทำให้ลูกชายตัวน้อยต้องตกใจ เมื่อมองไปนอกหน้าต่างในช่วงเที่ยงวัน ถึงฟ้าจะสว่างขึ้นแต่ฝนก็ยังตกหนักอยู่ดี "ฮึก หอมคับ ฮื้อออ" "แล้วน้องล่ะลูก" "จึ..อึก..จือจือนอนหลับอยู่บนเตียงคับ" "งั้นเราเอาผ้าไปเก็บในห้องแม่ เสร็จแล้วไปทำกับข้าวกันต่อนะ" "คับ" เก็บผ้าเสร็จอันเล่อก็เข้าครัวแล้วนำข้าวกับเครื่องปรุงออกมาเติมไว้อย่างละครึ่งกระปุก พร้อมด้วยของสดที่เตรียมจะเอามาทำอาหารเมนูหมูหวานกับแกงจืดเต้าหู้หมูสับให้เด็ก ๆ โดยมีลูกชายคอยปอกเปลือกกระเทียมช่วยอยู่ไม่ห่าง "แม่หุงข้าวเสร็จแล้ว อีกหม้อนึงกำลังต้มน้ำแกง วันนี้แม่จะให้ใจ๋ใจ๋เป็นพ่อครัวตัวน้อยดีไหม?" "ดีคับ ใจ๋ใจ๋ทำกับข้าวเก่งนะ" "จริงเหรอ แบบนี้ต้องยกหน้าที่ให้เป็นของพ่อครัวเสี้ยงใจ๋ซะแล้ว" "ด้วยฟามยินดีคับคุณผู้หญิง" ยังไม่ทันข้ามวันอันเล่อก็เริ่มละลายพฤติกรรมของลูกน้อยได้สำเร็จ เด็ก ๆ กล้าพูดคุยกับเธอมากขึ้น มีรอยยิ้มเยอะขึ้น มันทำให้เธอมีความสุขจนลืมอาการปวดแสบปวดร้อนบริเวณด้านหลังไหล่ไปเสียสนิท เธอไม่รู้เลยว่าหยกที่ห้อยคอเธออยู่มีความพิเศษอย่างไรบ้าง "จ้ะพ่อหนุ่มน้อย พูดยังไม่ชัดก็เก่งขนาดนี้แล้ว ต่อไปคงต้องยกหน้าที่ให้ใจ๋ใจ๋ดูแลครอบครัวเรา ดีไหมลูก" "ฮะ ฮะ ฮะ ถึงจะยังเด็กอยู่ แต่ใจ๋ใจ๋จะทำให้สุดฟามสามารถคับ" สองแม่ลูกช่วยกันทำอาหารอย่างขะมักเขม้น ในห้องครัวเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ต่างจากในห้องนอนที่มีพ่อนอนป่วยอยู่ ข้าง ๆ มีร่างเล็กของเด็กหญิงตัวน้อยที่นอนอ้าปากหว๋อเมื่อเจอบรรยากาศที่ชวนให้หลับใหล เสียงกรนของคนตัวเล็กดังขึ้นเป็นจังหวะอย่างน่าเอ็นดู หลังจากทำอาหารเสร็จอันเล่อรีบเอาอาหารเสริมที่ชงไว้ไปป้อนคนป่วยก่อน จากนั้นจึงออกมานั่งกินข้าวกับลูกชายแล้วปล่อยให้ลูกสาวนอนให้เต็มอิ่มก่อน "เป็นยังไงบ้าง ฝีมือตัวเองอร่อยไหม?" "อร่อยคับ กับข้าวมื้อนี้ดีที่สุดในชีวิตเลยคับแม่" คนฟังที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ปิกนิกถึงกับลำคอตีบตันเมื่อมองดูอาหาร แค่หมูหวานกับแกงจืดเต้าหู้หมูสับธรรมดา ๆ ก็กลายเป็นอาหารที่ดีที่สุดในชีวิตของลูกเธอไปแล้ว "อร่อยก็กินเยอะ ๆ นะ อีกเดี๋ยวแม่ต้องเข้าไปซักผ้าต่อให้เสร็จ ถ้าน้องตื่นก็บอกน้องว่าแม่ไปไหน อย่าให้น้องร้องไห้รู้ไหมลูก เสร็จแล้วแม่จะรีบออกมา หรือถ้ามีใครมาก็ให้เรียกแม่ดัง ๆ จำไว้ว่าอย่าเปิดประตูให้ใครถ้าแม่ยังไม่ออกมา" "คับ" อันเล่อเห็นว่าที่บ้านหลังนี้ไม่มีโต๊ะ เธอจึงเอาโต๊ะเก้าอี้แบบพับที่ไม่สูงมากออกมาให้เด็ก ๆ นั่ง หลังจากกินข้าวเสร็จอันเล่อจึงรีบเข้าไปทำงานต่อในมิติ เธอซักที่นอนกับผ้าห่มเสร็จแล้วจึงเอาเสื้อผ้าของร่างนี้ที่เปียกชุ่มอยู่ในกระเป๋าออกมาซัก "1 2 3 4 5 6 7 8 9 980 หยวน หึ! ลูกไม่มีจะกินเธอก็ยังจะหอบเงินหนีไปอย่างหน้าตาเฉย ใจเธอมันทำด้วยอะไร" พอค้นกระเป๋าออกมาพบว่าข้างในมีเงินเก็บของร่างนี้ซ่อนอยู่ อันเล่อถึงกับละเหี่ยใจกับคนเห็นแก่ตัวคนนี้ ระหว่างนั้นเธอจึงรีบเข้าไปจัดการกับตัวเองในห้องน้ำ พอได้ใช้ห้องน้ำของตัวเองเธอจึงรู้ว่าเธอโชคดีมากแค่ไหนที่สามารถเข้ามาในมิติและมีพื้นที่แบบนี้เป็นของตัวเอง หากต้องไปใช้ส้วมรวมกับชาวบ้านคนอื่น ๆ เหมือนปีก่อน เธอคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ไม่แน่อาจจะไม่กล้าเข้าส้วมเสียด้วยซ้ำ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD