นาธาเนียลขยับนั่งหลังตรงเมื่อเห็นสีหน้าของหญิงสาวที่สะท้อนอะไรบางอย่างออกมา ชาคริยาเม้มปากเข้าหากันขณะหรุบตาลงต่ำที่หนังสือในมือ เธอรู้สึกอับอายเขายิ่งนัก นี่เป็นหนังสือที่ในความรู้สึกของเธอแล้วมันช่างสูงส่งสมกับที่นักธุรกิจใหญ่อย่างเขาจะเสพมันเพื่อความรื่นรมย์ หากสำหรับตัวเธอแล้วมันเหมือนคัมภีร์อะไรสักอย่างที่เธอไม่มีวันเข้าใจด้วยการศึกษาน้อยบวกกับที่เธอแทบไม่รู้จักเรื่องเหล่านี้ก็ยิ่งทำให้หญิงสาวยิ่งรู้สึกต่ำต้อย
“นาธาเนียล...ฉันกลัวว่าถ้าฉันอ่านแล้วเกิดคุณหลับ”
“โอ...สาวน้อยของฉัน มันเป็นเรื่องธรรมดาที่คนมีอายุต้องพักผ่อนอยู่แล้ว”
“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นค่ะ แต่ฉันหมายถึงถ้าฉันอ่านแล้วมันทำให้คุณง่วง เพราะจริง ๆ แล้วคุณต้องการให้ฉันอ่านหนังสือให้ฟัง”
“ฉันแค่อยากฟังเท่านั้น...บอกแล้วยังไงว่าเธอมีหน้าที่อ่านหนังสือให้ฉันฟังก่อนนอน และบางครั้งถ้าฉันจะหลับตั้งแต่เธอยังไม่เริ่มอ่านหน้าที่สองมันก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่าง”
“โอเคค่ะ...ถ้าอย่างนั้นฉันจะเริ่มอ่านให้คุณฟังเลยนะคะ”
“พลิกไปที่...เอ้อ...เรื่องการมีอยู่ที่ไร้จุดเริ่มต้น...อา...ใช่แล้วสาวน้อย และเธอก็เริ่มอ่านให้ฉันฟังได้”
นาธาเนียลเอนหลังพิงหมอนอีกครั้งและฟังหญิงสาวอ่านหนังสือเล่มนั้นด้วยท่าทีสบาย ๆ ก่อนที่เวลาจะผ่านไปยังไม่ทันถึงชั่วโมงชาคริยาก็เห็นว่าเขาวางแก้วไวน์และหลับตาลงเหมือนเด็กที่หลับหลังจากได้ฟังนิทานก่อนนอน เธออ่านเบาลงในช่วงหลังและจ้องมองดูชายสูงวัยที่หลับตาและเงียบไป ไม่มีรอยยิ้มพึงพอใจแต่เธอได้ยินเสียงลมหายใจที่ดังสม่ำเสมอ
“นาธาเนียล...นาธาเนียลคะ”
ชาคริยาลองเรียกเขาหลายครั้งแต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมานั่นเองที่ทำให้เธอแน่ใจว่าเขาคงหลับไปแล้ว หญิงสาวปิดหนังสือและวางมันกลับที่เดิมอย่างเบามือพลางหันมองนาฬิกาผนังบอกเวลาเลยสามทุ่มไปเล็กน้อย ร่างเล็ก ๆ ค่อย ๆ ขยับลุกขึ้นหากเขาก็ยังไม่รู้สึกตัวและมันทำให้เธอตัดสินออกจากห้องนั้นและปิดประตูบานใหญ่ลงอย่างเบามือที่สุด
ร่างแน่งน้อยยืนอยู่ที่หน้าประตูชั่วครู่กับความคิดที่ว่านี่เป็นงานที่ไม่ได้ยากลำบากอะไรสำหรับเธอเลย แค่การมาดูแลชายวัยหกสิบกว่าและเขาก็ไม่แสดงทีท่าว่าจะทำอะไรเกินเลยกับเธอแม้แต่น้อย นาธาเนียลออกจะเป็นสุภาพบุรุษแม้วัยจะล่วงเลยมาป่านนี้ ชาคริยายิ้มกับตัวเองก่อนหันหลังกลับไปที่ห้องของเธอซึ่งอยู่อีกด้านของคฤหาสน์ แต่เมื่อเดินไปไม่ทันถึงสิบก้าวหญิงสาวก็ต้องตระหนกเมื่อจู่ ๆ ก็ถูกมือหนาหนักของใครคนหนึ่งกระชากจนเซเข้าไปชนกับอกกว้าง เธอเงยหน้าขึ้นมองและถึงกับเบิกตาด้วยความตกใจ
“อีธาน!”
บทที่ 3 ตอบแทนด้วยความเกลียดชัง
ชาคริยาไม่ทันได้อุทานอะไรออกมามากกว่าการเรียกชื่อของคนที่กอดเกี่ยวร่างของเธอเอาไว้ก็ถูกคนตัวใหญ่ลากเข้าไปในห้องอีกห้องก่อนประตูจะถูกปิดตามหลัง
“อีธาน...นี่คุณจะทำอะไรน่ะ!...โอ๊ย!”
หญิงสาวร้องเสียงแหลมเมื่อถูกร่างสูงใหญ่ล็อคตัวเอาไว้ด้วยการดันตัวเธอจนติดผนัง เธอตัวเล็กกว่าอีธานมากทำให้ไม่อาจต้านแรงจากลำตัวหนาที่ดันเข้าหาและใช้มือทั้งสองค้ำยันบนผนังห้องไว้ ชาคริยาตาโตและปากสั่นระริกเมื่อมองข้ามไหล่กว้างไปด้านหลังก็เห็นว่ามันเป็นห้องนอนอีกห้องหากแต่อะไรก็ไม่ทำให้เธอกลัวมากไปกว่าการที่เขาถือสิทธิ์ฉุดตัวเธอเข้ามาในห้องนี้
“อีธาน!”
“เป็นไง...เสร็จหน้าที่ของเธอแล้วเหรอ เห็นเดินหน้าระรื่นออกมาจากห้องของพ่อฉัน”
ชายหนุ่มเอียงหน้าถาม นัยน์ตาของเขาสาดประกายขุ่นข้นและใบหน้าหล่อเหลานั้นก็อยู่ห่างจากหญิงสาวไม่ถึงคืบ ชาคริยาแทบกลั้นหายใจ เธอเบือนหน้าหลบไปอีกทางและตอบโดยไม่ยอมสบนัยน์ตาคู่นั้น
“ฉันเข้าไปอ่านหนังสือให้พ่อของคุณฟังก่อนนอน”
“งั้นเหรอ...เวลาพูดคุณต้องมองหน้าผม!”
อีธานถือสิทธิ์อันหยาบร้ายด้วยการใช้มือข้างหนึ่งบีบคางมนและบังคับให้เธอหันกลับมายังเขา ชาคริยาตื่นตกใจกับการกระทำนั้นแต่ไม่อาจตอบโต้อะไรได้แม้รู้สึกเจ็บที่สันกรามเพราะนิ้วแกร่งกดไว้แน่น เรียวปากอิ่มที่เผยอออกด้วยแรงบีบสั่นระริก แม้ความกลัวจะแล่นเข้าจับขั้วหัวใจหากหญิงสาวก็ฝืนพูดออกไปด้วยเสียงสั่นสะท้าน
“อีธาน...มันเป็นหน้าที่ของฉันนะคะ นาธาเนียลให้ฉันอ่านหนังสือให้เขาฟังก่อนนอน”
“อ่านหนังสือให้พ่อผมฟังก่อนนอน”
เขาทวนคำนั้นก่อนเสียงหัวเราะจะดังอยู่ในลำคอก่อนเลื่อนสายตาหยามหมิ่นไปทั่วร่างเล็กตั้งแต่ศีรษะและมองลงต่ำ แววตาคู่นั้นฉายความเย้ยหยันและดูแคลนออกมาชัดแจ้ง ชายหนุ่มขบกรามและเสียงนั้นดังเข้าไปในหูของหญิงสาว
“ไม่ทราบว่ามันเป็นหนังสืออะไร...หนังสือปลุกเซ็กส์หรือกามสูตรกันล่ะ...อ้อ...จริง ๆ แล้วพวกผู้หญิงอย่างคุณไม่จำเป็นต้องหลอกล่อคนแก่ด้วยวิธีการนี้หรอกนะ...หึ...แค่ผ้าหลุดออกจากตัวผู้ชายอายุขนาดไหนก็อยากจะกระโดดเข้าใส่อยู่แล้ว”