“น่าจะ? แสดงว่าอาจไม่ใช่ก็ได้ เฮ้อ...ฉันหยุดความสงสัยของตัวเองไม่ได้จริงๆ” เสียงบ่นพึมพำของพริ้มเพราไม่สามารถดังเข้าไปถึงในห้อง ศศินั่งลงยังโซฟา มีร่างของมาร์คินนั่งลงพร้อมกัน “มาได้ไงฮึ นึกว่าจะไปรอรับนะโมซะอีก” “ศินึกขึ้นได้ว่าเอาชาติดรถมา เลยแวะเอามาให้ค่ะ กลัวลืม” น้องน้อยผู้น่าเอ็นดูหยิบเอากล่องชาและกาใสแจ๋ว รวมถึงแก้วลายสวยออกมาตั้ง “ชาดอกไม้ค่ะ สั่งซื้อในเว็บ ว่าจะเอาให้พี่ตั้งนานดันลืม” บอกเขาพลางแกะชาออกจากกล่อง “ขอบใจ ศินี่รู้ใจพี่จริงๆ” ว่าแล้วยกมือลูบหัวสาวน้อยราวกับว่าหล่อนคือเด็กหญิงอายุไม่กี่ขวบ เขาเอ็นดูศศิอย่างนั้นมาตลอด “แล้วนะโมเลิกเรียนกี่โมงนะ” “อีกสักชั่วโมงได้ค่ะ ศินั่งรถไปถึงแกคงเลิกเรียนพอดี” “พี่ไปด้วยดีกว่า” “หือ?” “คุณพริ้มเพิ่งมาทำงาน พี่อยากให้รู้จักทุกคนเอาไว้น่ะ” มาร์คินชี้แจง งานเลขานั้นไม่ได้จบแค่นั่งโต๊ะทำงาน มีอีกอย่างน้อยสามร้อยกว่าอย่างที่พริ้ม