เผียะ
ฝ่ามือหนาตวัดลงใบหน้านวลอย่างแรง หัวใจเหมือนโดนกระชากออกจากอกถูกบดขยี้จนไม่เหลือชิ้นดี
“เธอทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง” น้ำเสียงเจ็บปวดรวดร้าวของเมฆาถามเสียงดัง เขาอยากกระชากคนตรงหน้ามาถามว่าเขาทำผิดอะไร ถึงได้ทำกับเขาเช่นนี้
ความรักที่บ่มเพาะมานานหลายปี จับมือก้าวผ่านอุปสรรคทุก ๆ อย่างมาด้วยกันก็มาก และได้แต่งงานเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายได้เพียงแค่สามเดือนสุดท้ายต้องพังทลายลงไป
“ฮือ ๆ หนูจ๋าไม่ได้ทำ พี่เมฆต้องเชื่อหนูจ๋านะ” เสียงหวานสะอึกสะอื้น พลางสวมกอดเอวสอบไว้แน่นราวกับกลัวว่าเขาจะหายไป
“ทำไมเธอทำแบบนี้กับฉัน ถ้าไม่อยากอยู่ด้วยกันทำไมไม่บอกกันตรงๆ เสียแรงที่ฉันรักและไว้ใจ แต่เธอกับตอบแทนความรักของฉันด้วยการคบชู้!! แบบนี้น่ะเหรอ!!!” มือหนาพยายามแกะมือของคนตัวเล็กออกจากตัว ก่อนหันหน้ามาบีบต้นแขนเรียวแน่น แววตาที่ใช้มองเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“หนูจ๋าไม่ได้ทำ ไม่รู้เรื่องจริง ๆ ว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ ฮือ ๆ” หญิงสาวนามว่า “หนูจ๋า” ส่ายหน้าปฏิเสธ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองนั้นมานอนกับผู้ชายแปลกหน้าได้ยังไง จำอะไรไม่ได้จริง ๆ ว่าทำเช่นนี้ตอนไหน
“หลักฐานขนาดนี้แล้วเธอยังปฏิเสธอีกเหรอ ฉันน่าจะเชื่อคำพูดคุณแม่ตั้งแต่แรกว่าผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบเธอ เลี้ยงไม่เชื่อง! เสียใจจริง ๆ ที่มองเธอผิดไป ภาพลักษณ์แสนหวานดูไร้เดียงสาคงเป็นแค่การแสดงละครสินะ”
“พี่เมฆ...หนูจ๋าไม่ได้คบชู้นะ ขอร้องล่ะเชื่อกันบ้าง” อีกคนก็พยายามปฏิเสธสิ่งที่เขากล่าวหาทั้งหมด
“ขนาดนี้แล้วยังจะโกหกอีกเหรอ พรุ่งนี้เธอกับฉันเราไปหย่ากัน!!” สิ้นคำนั้นเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจ ทุกอย่างหยุดนิ่งอยู่กับที่ ไม่มีแม้แต่เสียงสะอื้น
“ไม่!!! ไม่หย่า หนูจ๋าไม่ทำอะไรผิด ทำไมไม่ให้พิสูจน์ความจริงบ้าง”
“ปล่อย!!! ฉันเชื่อสิ่งที่เห็น เราสองคนขาดกันตั้งแต่ตอนนี้” มือหนาแกะมือที่โอบรัดเอวออกสำเร็จ หลังเยื้อยุดกันอยู่นาน หากเป็นหญิงคนอื่นป่านนี้ถูกจับโยนออกไปในสภาพทุเรศแบบนี้แล้ว แต่นี้เขายังใจดีที่ไม่ทำแบบนั้น เพราะยังไงผู้หญิงคนนี้ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของเขา
“ไม่!!! พี่เมฆอย่าทิ้งหนูจ๋าไป” เสียงหวานตะโกนดังลั่น เธออยากลุกตามเขาไปซะตอนนี้ แต่สภาพไม่เอื้ออำนวย
ครึ่งชั่วโมงก่อน
ปัง
*! ปัง! ปัง!*
แอด
เสียงทุบประตูดังลั่นไปทั่วเรือน พร้อมกับร่างหนาที่พังประตูเข้ามาในห้องอย่างใจร้อน เมื่อมารดาโทรไปบอกว่าภรรยาพาชู้มาสมสู่เรือนหลังเล็ก
“หนูจ๋า!!!!”
มือหนากำแน่นจนเห็นเส้นเลือดนูน นัยน์ตาเต็มไปด้วยเพลิงไฟ ผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าภรรยานอนกับผู้ชายแปลกหน้าในสภาพเปลือยเปล่า ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้
“โอ้ย
*!!!!” ก่อนตรงเข้าไปกระชากร่างบางที่นอนอยู่อย่างแรง แล้วตวัดฝ่ามือเข้าใบหน้าจนขึ้นเป็นรอยแดง*
เผียะ
*!*
“เธอทำแบบนี้กับพี่ได้ยังไงห๊ะ!! หนูจ๋า” ตะคอกถามอย่างโมโห พลาง เขย่าร่างบางในสภาพที่เปลือยเปล่าให้ตื่นขึ้นมา เขาอยากบีบคอคนตรงหน้าเหลือเกิน
“หนูจ๋าทำอะไร” เสียงหวานว่าอย่างสะลึมสะลือ เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่อยู่ดี ๆ ตัวเองถึงมาอยู่ในสภาพนี้ แล้วไหนจะคนรักของเธออีก ที่อยู่ ๆ ก็มาตบหน้ากันแบบนี้
“ดูสารรูปของตัวเองบ้าง เธอกล้าดียังไงเอาชู้มานอนกกที่บ้านฉัน” น้ำเสียงที่ใช้เต็มไปด้วยความเจ็บปวด หัวใจดวงน้อยเหมือนถูกกระชากออกจากตัว ดวงตากลมโตสีดำสนิทคลอไปด้วยน้ำตา เขาอยากจะร้องออกมาเหลือเกิน แต่ต้องกลั้นเอาไว้ เพื่อไม่ให้ตัวเองน่าสมเพชไปมากกว่านี้
“หนูจ๋าไม่...” หนูจ๋าพยายามจะปฏิเสธ ทว่าต้องตกใจเมื่อรู้ว่าตัวเองไม่มีเสื้อผ้าอยู่บนร่างกาย มือบางรีบดึงผ้าห่มปิดร่างตัวเองไว้ แล้วหันไปมองเห็นชายหนุ่มแปลกหน้าที่นอนข้าง ๆ และยังไม่ทันได้พูดจบมือหนาก็กระแทกเข้าหน้าเธออีกครั้ง
“เธอมันผู้หญิงมักมาก!!! ฉันปรนเปรอให้ไม่ถึงใจหรือไง!!! ถึงได้แอบคบชู้แบบนี้!!” คำด่าที่พ่นออกจากปากช่างเสียดแทงใจคนโดนกระทำเป็นอย่างมาก
“หนูจ๋าไม่รู้เรื่อง พี่เมฆต้องเชื่อหนูจ๋านะ” หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธแต่คำซ้ำ ๆ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วผู้ชายคนนี้เป็นใคร
“เชื่อเหรอ...หลักฐานคาตาขนาดนี้จะให้เชื่ออะไรอีก วันนี้คงเป็นบุญที่ฉันได้รู้ถึงความสารเลวของเธอ...” ร่างสูงในชุดทำงานที่เมื่อเช้าเธอเป็นคนจัดเตรียมให้ชี้หน้าด่าอย่างไม่ไว้หน้า
“ใครที่อยู่ข้างนอกเข้ามาในห้องเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มตะโกนเรียกคนใช้ดังลั่นบ้าน
“มีอะไรครับ” คนใช้หนุ่มเดินเข้ามาในห้อง
“พาผู้ชายคนนี้ไปจัดการ!!!!”
คนใช้หนุ่มสองคนลากชายแปลกหน้าออกจากห้องตามคำสั่งเจ้านาย แม้จะสงสารหญิงสาวตรงหน้ามากแค่ไหน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี หากพูดอะไรไป ตัวเองนั่นแหละที่อาจจะโดนไล่ออก หรือไม่ก็โดนฆ่า เพราะนายหญิงสั่งไม่ให้พูดอะไรทั้งนั้นพวกเขาจึงต้องเอาชีวิตตัวเองให้รอดก่อนถึงแม้ว่าจะสงสารผู้หญิงตรงหน้ามากแค่ไหนก็ตาม..