เหอจิ้นเค่ออุ้มร่างบางเข้าไปยังห้องของตนเองและบรรจงวางอย่างระมัดระวัง เขาสั่งคนให้ไปตามหมอมาดูอาการให้หยางจิวเมิ่งในทันที ร่างบางนอนไม่ได้สติสีหน้าซีดเซียวจนดูน่ากังวลนัก เมื่อท่านหมอมาถึงก็รีบเข้าตรวจอาการให้กับร่างบางโดยพลัน แต่คำตอบของสาเหตุอาการที่ร่างบางเป็นนี้ทำเอาเหอจิ้นเค่อต้องนิ่งอึ้งไปชั่วอึดใจ เรื่องราวครั้งนี้ช่างแปลกประหลาดและน่าอัศจรรย์ยิ่งนักสำหรับเขา
"แน่ใจนะท่านหมอ"
"ไม่ผิดขอรับคุณชาย คุณชายน้อยผู้นี้มีชีพจรมงคลเขากำลังตั้งครรภ์จริงๆ อายุครรภ์เกือบสองเดือนแล้ว "
"เป็นไปได้อย่างไรกัน ก็เขาเป็นชายมิใช่หรือ" หากนับแล้วจากวันนั้นที่เขาล่วงเกินเด็กหนุ่มผู้นี้ก็กินเวลามาเกือบสองเดือนเห็นจะได้แล้วเหมือนกัน ดูท่าแล้วเด็กในท้องนี้คงเป็นลูกเขาไม่ผิด เหอจิ้นเค่อมองคนตรงหน้าด้วยความสับสน ทั้งแปลกใจและดีใจยิ่งนักที่เกิดเรื่องมงคลเช่นนี้ขึ้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
"ข้าน้อยเพิ่งมีโอกาสได้อ่านตำราแพทย์ประหลาดอยู่หนึ่งเล่มในนั้นระบุว่าเคยมีบุรุษตั้งครรภ์ได้ ข้าน้อยจึงได้ลองศึกษาอ่านดูพบว่า บุรุษบางคนก็เกิดมามีสองเพศในคนเดียว แม้จะหายากแต่ก็พอจะมีอยู่นะขอรับ เพียงแต่เรามักไม่ค่อยได้พบเจอ อ่า..คุณชายน้อยผู้นี้ช่างพิเศษนัก ตระกูลข้าน้อยเป็นหมอมาสามชั่วคนเคยแต่อ่านตำราโบราณเก่าแก่ แต่ก็ยังไม่เคยพบเจอบุรุษที่ตั้งครรภ์ได้จริงๆ เลยสักครั้ง ชายลักษณะพิเศษเช่นนี้สามารถให้กำเนิดด้วยตนเองได้หรือทำให้ภรรยามีทายาทได้ ข้าคิดว่าเขาคงเป็นเช่นนั้นเป็นแน่ คงต้องตรวจให้ละเอียดอีกทีขอรับ แต่ยืนยันได้เลยว่าตอนนี้เขาตั้งครรภ์แน่นอนข้าน้อยขอเอาเกียรติในฐานะที่ทำอาชีพนี้มายี่สิบปีเป็นประกัน" ท่านหมอให้รายละเอียดเพิ่มเติม แต่คุณชายเหอนั้นกำลังดีใจระคนสับสน และกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี
"ตั้งครรภ์ ตั้งครรภ์อะไรกัน" เสียงอ่อนแรงของคนพี่เพิ่งเริ่มรู้สึกตัวแทรกขึ้นมากลางวงสนทนา เมื่อตื่นขึ้นมาได้ยินเสียงพูดคุยตรงหน้า ร่างบางพยายามฝืนหยัดกายลุกขึ้นนั่งอย่างลำบากเพราะยังไร้เรี่ยวแรงอยู่มาก เขายังไม่หายเวียนศีรษะแม้แต่น้อย
"ท่านกำลังตั้งครรภ์ขอรับคุณชายน้อย" ท่านหมอกล่าวกับเขาด้วยสีหน้ายินดีแต่ทว่าคนที่ได้รับฟังกลับไม่รู้สึกเช่นนั้น
"อะไรนะ อย่ามาล้อเล่นนะท่านหมอข้าไม่ตลกด้วยกับท่าน"ร่างบางกล่าวอย่างตระหนก เขาจะท้องได้อย่างไรเขาเป็นชายแท้ๆ กลับตั้งครรภ์นี่มันจะไม่น่าขบขันไปหน่อยหรือ
"ข้ามิได้ล้อเล่นนะขอรับ ท่านกำลังตั้งครรภ์เป็นเช่นนั้นจริงๆ" ท่านหมอกล่าวอย่างจริงจัง ร่างบางได้ฟังเพียงเท่านั้นก็เป็นลมล้มลงหมดสติอีกคราจนแทบร่วงลงจากเตียง ทำเอาคุณชายเหอและท่านหมอวุ่นวายกันยกใหญ่เพราะวิ่งเข้าคว้าตัวคนหมดสติกันแทบไม่ทัน ขณะที่คนที่เป็นลมหมดสติไปนั้นกำลังฝันเห็นสถานที่บางแห่ง สถานที่งดงามสว่างไสวดุจสรวงสวรรค์ก็ไม่ปาน
"ไงหนุ่มน้อย ข้าให้พรเจ้าสำเร็จสมปรารถนาเจ้าแล้วนะเจ้ากำลังจะมีลูกสมใจแล้วใช่มั้ยล่ะ" หยางจิวเมิ่งเพ่งมองไปตามเสียงนั้น ก็ได้พบกับชายแก่ผู้นั้นที่เขาจำได้อย่างแม่นยำ กำลังนอนอยู่บนกิ่งไม้บนต้นไม้ใหญ่ตรงหน้า ยกไหสุราดื่มอย่างอารมณ์ดี
"ท่านเซียนที่ให้พรข้าตอนนั้นนี่ ใช่ท่านให้พรข้า แต่ทำไมจึงเกิดเรื่องเช่นนี้ได้เล่า" หยางจิวเมิ่งทวงถามด้วยความรู้สึกน้อยใจในชะตาชีวิต เพราะรู้สึกว่านับตั้งแต่ได้รับพรมันก็ไม่ช่วยให้เขาได้พบเจอสิ่งดีๆเลย
"ก็เจ้าอยากมีลูกข้าก็ให้มีแล้วไง แถมหาคู่รักที่ดีให้เจ้าอีกด้วย เจ้าหนุ่มนั่นเป็นคนดีนะ ที่จริงวันนั้นเขาเมามากถูกหญิงคณิกาวางยาปลุกกำหนัดนางหวังจะเป็นสะใภ้บ้านเศรษฐี แต่ข้าไปพบซะก่อนจึงช่วยเอาไว้ดลใจให้เขาไปเจอเจ้าเร็วขึ้น ให้หลงไปเมาอยู่แถวนั้น ข้ายังแถมสุราสูตรพิเศษของข้าให้เขาไปอีกไหนึงแน่ะ สุราสูตรนี้เป็นยาบำรุงชั้นดีดื่มแล้วลูกหลานเต็มบ้านแน่นอน ฮ่ะๆๆ ได้ผลจริงๆ ด้วยเห็นไหมเล่าเจ้าได้มีลูกสมใจแล้ว" เซียนเฒ่าเอ่ยอย่างชอบใจ เขายังคงอยู่ในความมึนเมาเช่นเดิม แต่เพราะเป็นเซียนคอทองแดงนักดื่มตัวยง แม้เมาแค่ไหนท่าทางตาเฒ่าก็ไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย มีเพียงใบหน้าแดงเล็กน้อยให้พอได้เห็น
"เพ้ย ตาแก่ที่แท้เป็นฝีมือเจ้าหรอกหรือ นี่เจ้าให้พรข้าหรือแช่งข้ากันแน่ ข้าอยากมีคนรัก อยากมีลูก แต่ก็มิใช่มีลูกแบบที่ต้องตั้งท้องเองเช่นนี้ ข้าควรได้พบหญิงสาวที่ดีมาตั้งท้องลูกให้ข้ามิใช่รึ เหตุใดท่านจึงส่งบุรุษมาย่ำยีข้า ทั้งยังต้องตั้งท้องให้เขาอีกกันเล่า นี่เจ้าจะให้ข้าใช้ชีวิตเช่นไรกัน" ร่างบางที่ไม่เคยโกรธใครมาก่อนในชีวิตกำลังเดือดดาลต่อว่าเซียนเฒ่าด้วยความโมโห เมื่อรู้ว่าเรื่องวุ่นวายทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะตาแก่ตรงหน้า จนแทบหมดความนับถือกันเลยทีเดียว
"ฮือ..กรรมอันใดของข้ากันหนอถูกบุรุษด้วยกันย่ำยีไม่พอ ยังต้องมาตั้งท้องเช่นนี้อีก" หยางจิวเมิ่งร่ำไห้ออกมาด้วยความเจ็บใจ
"อ้าวเจ้าหนุ่มก็เจ้าพูดไม่ชัดเจน ข้าก็คิดว่าเจ้าอยากมีลูก อยากเป็นผู้ให้กำเนิดเองเสียอีก ก็ดวงเจ้าน่ะ ตามดวงชะตา ลิขิตฟ้าเจ้าหนุ่มเหอจิ้นเค่อ เป็นคู่แท้ของเจ้า ข้าเพียงช่วยให้พวกเจ้าพบกันเร็วขึ้น และช่วยให้เจ้าสามารถมีลูกกับเขาได้ก็เท่านั้นเอง นั่นมินับว่าตัดปัญหาเรื่องไร้ทายาทในอนาคตหรอกหรือ จากนี้ก็ขอให้เจ้ามีครอบครัวอย่างมีความสุขตามที่เจ้าหวังไว้ก็แล้วกันนะ ข้าไปล่ะ" ชายแก่ยิ้มร่าไม่สนใจคำก่นด่าของคนตรงหน้าก่อนจะร่อนลงมาจากต้นไม้แล้วเดินหนีหายไปในหมอกควันเสียดื้อๆ
"เดี๋ยวสิ กลับมาก่อน ตาแก่ กลับมานะ กลับมา"
"กลับมา" ร่างบางเผลอละเมอออกมาก่อนจะสะดุ้งสุดตัวจนรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง
"เป็นอย่างไรบ้าง ดีขึ้นหรือยัง" เหอจิ้นเค่อรีบเข้ามาประคองหยางจิวเมิ่งขึ้นนั่งอย่างใส่ใจ ร่างบางพอลุกขึ้นนั่งได้ก็ขยับกายหนีห่างออกไปทันที เพราะเมื่ออยู่ใกล้คนตรงหน้าทีไรกลับทำให้เขารู้สึกพะอืดพะอมไม่สบายตัวไปเสียหมด
"ข้าฝัน ฝันว่าเจ้าบอกว่าข้าท้อง" ร่างบางกล่าวด้วยสีหน้างุนงงเมื่อครู่เขาคงเพียงแค่ฟันไปใช่หรือไม่ นั่นคือสิ่งที่เขาอยากจะถาม
"เจ้าไม่ได้ฝัน" ชายหนุ่มเผยยิ้มบางๆ กล่าวอย่างใจเย็น
"ห๋า"
"มันคือเรื่องจริง"คำตอบที่ได้รับด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่จริงจังของเหอจิ้นเค่อ ทำเอาร่างบางอึ้งไปครู่นึงก่อนที่จะปล่อยโฮออกมาอย่างน่าสงสาร
"ฮือ...ไม่จริง..ไม่จริงใช่มั้ย ข้าแค่ฝันไป มันไม่ใช่เรื่องจริง" หยางจิวเมิ่งร่ำไห้ออกมาอย่างหนักเมื่อได้ยินเรื่องราวนั้น เรื่องที่เกินจริงเหนือธรรมชาติเช่นนี้ เพียงถูกคนตรงหน้าย่ำยีก็ทำให้เขาอับอายเต็มทนแล้ว กว่าจะใช้ชีวิตได้อย่างปกติเช่นทุกวันนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เขาต้องพยายามลืมเลือนเรื่องราวคืนนั้นไม่ให้ตามมาหลอกหลอนอยู่นานเป็นเดือน พอจิตใจเขาเริ่มดีขึ้นและรับได้กับเรื่องที่เกิดกับตัวเอง กลับต้องมาพบเจอเรื่องเช่นนี้อีก จะให้เขาใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างไรกัน บุรุษตัดแขนเสื้อไม่เป็นที่ยอมรับและถูกรังเกียจจากสังคมเช่นนี้ทั้งยังตั้งท้องได้ ชีวิตเขาครานี้คงต้องจบสิ้นแล้วจริงๆ
"นี่คือเรื่องจริง ไม่ต้องกังวลข้าจะรับผิดชอบเจ้ากับลูกเอง" เหอจิ้นเค่อพยายามปลอบร่างบางที่ร่ำไห้อย่างหนักในเวลานี้อย่างไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรดีเหมือนกัน ชายหนุ่มเพียงจับมือปลอบคนตรงหน้าลูบมันเบาๆ เพื่อช่วยปลอบให้ใจเย็นลง
"รับผิดชอบหรือ ฮึก รับผิดชอบอะไรกัน" ร่างบางมองคนตรงหน้าด้วยความสับสน คนระดับเขากับเหอจิ้นเค่อต่างกันราวฟ้ากับเหวเช่นนี้จะให้มารับผิดชอบอย่างไรได้ เรื่องนี้หาใช่เล็กน้อยต่อให้เอาเงินทองมากองตรงหน้าก็ใช่ว่าจะแก้ปัญหานี้ได้โดยง่าย
"ข้าจะสู่ขอเจ้าแต่งเป็นฮูหยินข้า" เหอจิ้นเค่อกล่าวออกมาด้วยท่าทีที่จริงจัง เขาต้องการรับผิดชอบหยางจิวเมิ่งตั้งแต่เมื่อเกือบสองเดือนก่อนแล้ว แต่เพราะร่างบางยืนยันหนักแน่นว่าไม่ต้องการอะไรเขาจึงไม่คิดขัดใจ แม้ว่าการเริ่มต้นของพวกเขาไม่ดีนัก แต่นับตั้งแต่วันนั้นเขาก็กลับคิดถึงเด็กหนุ่มผู้นี้มาตลอดด้วยความรู้สึกผูกพันประหลาด ราวกับว่าเขานั้นรู้จักคนผู้นี้มานานชั่วชีวิต
"ไม่ อย่ายุ่งกับข้า ฮึก.. ลูกข้าเขาเป็นลูกของข้าเพียงคนเดียวเท่านั้น เขาไม่เกี่ยวอันใดกับเจ้า" ร่างบางกล่าวออกไปด้วยความโกรธและรู้สึกหวาดกลัว โอบกอดท้องของตนเองไว้อย่างหวงแหน ด้วยกลัวว่าคนตระกูลเหอที่มีอำนาจในมือมากมายจะมาแย่งลูกของเขาไป ทั้งกลัวความจริงที่เปิดเผยออกมาหากบิดาและคนที่บ้านทราบเข้าจะเป็นเช่นไรกัน แค่คิดหยางจิวเมิ่งก็รู้สึกแทบไม่อยากมีชีวิตต่อไปอีกแล้ว เพียงแต่เด็กในท้องนั้นบริสุทธิ์ไม่รู้เรื่องราวอะไรด้วย เขาจึงต้องทนมีชีวิตจากนี้ต่อไปให้ได้
"อย่าโกรธมันไม่ดีกับเด็กในท้องเจ้า" ร่างหนาพยายามปลอบใจคนที่กำลังร้องไห้อย่างขาดสติในเวลานี้อย่างอ่อนโยน
"รับปากมา ฮึก.. อย่าบอกเรื่องนี้ อึก.. กับใคร เจ้าต้องทำตามสัญญา ห้ามยุ่งเกี่ยวกับข้า ฮึก.. ปล่อยข้าไป" น้ำเสียงสั่นเครือสะอื้นไห้ต่อรองสุดชีวิต ทั้งที่เขายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าวันข้างหน้าเขาจะทำเช่นไรต่อไปดี ลำพังตัวเองคนเดียวก็ลำบากแล้วนี่เขากำลังจะมีชีวิตน้อยๆ ให้ดูแลอีก เขาเองก็คงอยู่ในบ้านสกุลหยางจากนี้ได้อีกไม่นาน
"แล้วเจ้าจะทำอย่างไร อย่างไรเสียวันหนึ่งทุกคนต้องรู้ ท้องเจ้าต้องโตขึ้นทุกวัน เขาเองก็เป็นลูกของข้า ข้ามีสิทธิ์รับผิดชอบพวกเจ้าในฐานะที่ข้าเป็นพ่อของลูก" คุณชายเหอพยายามอธิบายและให้เหตุผลแต่ดูเหมือนคนตัวเล็กจะไม่รับฟังเอาเสียเลย หยางจิวเมิ่งยังคงร่ำไห้ใจจะขาดและหวาดระแวงไปหมด
"เรื่องของข้า ฮึก.. เขาเป็นลูกข้าคนเดียว ไม่เกี่ยวอันใดกับเจ้า" ร่างบางยังคงดื้อรั้นไม่ยอมเลิก กอดกายตนเองแน่น หนีไปจนสุดมุมเตียงด้วยท่าทางหวาดกลัว ร่างหนาได้แต่มองอย่างทอดถอนใจเพราะไม่รู้จะทำเช่นใดอีกฝ่ายจึงจะยอมใจอ่อนลงได้บ้าง
"ให้ข้ารับผิดชอบเถอะนะ ข้าสัญญาจะดูแลทั้งเจ้าและลูกอย่างดี" ร่างหนากล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพยายามปลอบใจเพราะเขารู้ดีว่าคนท้องคงมีอารมณ์แปรปรวนจนทำให้พูดจากันรู้เรื่องยากเช่นนี้ อีกทั้งหยางจิวเมิ่งคงยังหวาดกลัวกับสิ่งที่ถูกเขากระทำมาก่อนหน้านี้ไม่หายจึงได้ยังคงดื้อดึงนัก
"ไม่จำเป็น ฮึก.. ท่านอย่ายุ่งกับข้าอีกอยู่ให้ห่างข้าไว้"
ร่างบางลุกขึ้นปาดน้ำตาแล้วเดินเลี่ยงหนีออกไปทันที ทิ้งให้อีกฝ่ายนั่งขบคิดหาทางออกเรื่องนี้ตามลำพังเขาไม่มีวันปล่อยจิวเมิ่งพร้อมสายเลือดของเขาไปง่ายๆ แน่ อย่างไรเสียลูกเขาต้องมีพ่อและต้องอยู่อย่างสุขสบายไม่ลำบาก ร่างหนาคิดหาแผนการเพื่อจัดการแต่งงานกับเด็กน้อยจอมดื้อดึงคนนี้ให้ได้
หยางจิวเมิ่งรีบเดินกลับไปรอบิดาเขาที่หน้างาน ขณะที่งานเลี้ยงเลิกพอดี ทั้งหมดจึงกลับบ้านพร้อมกัน โดยที่ไม่มีใครรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น ร่างบางขบคิดหาทางออกอย่างหนักตลอดทางกลับบ้านว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไปดี
แผนเดียวที่จิวเมิ่งคิดออกยามนี้มีเพียงแค่หนีออกจากบ้านให้เร็วที่สุดเท่านั้น ก่อนที่อีกฝ่ายจะรู้ตัวและก่อนที่ใครในบ้านจะรู้เรื่องนี้ เขาไม่มีวันยอมให้อีกคนได้อ้างฐานะความเป็นพ่อเด็ดขาด หากเมื่อเขาคลอดแล้วเกิดถูกพรากลูกไปจากอก คนจากตระกูลเล็กๆ ต่ำต้อยเช่นเขาจะมีอะไรไปต่อสู้คุณชายสูงศักดิ์จากตระกูลใหญ่ได้
ตอนนี้เขาคิดได้เพียงแค่พาลูกหนีออกไปให้ไกลที่สุดจากคนใจร้ายที่เคยทำร้ายเขาอย่างสาหัสในคืนนั้น กลางดึกคืนนั้นเด็กหนุ่มเก็บเสื้อผ้าข้าวของที่จำเป็นและเงินส่วนหนึ่งติดตัวออกมา พร้อมทิ้งจดหมายไว้ให้บิดาว่าจะไปเที่ยวบ้านเกิดมารดาสักหลายเดือน เพื่อไม่ให้คนที่บ้านติดตามหาตัวเขา
เขาย่องออกจากบ้านคนเดียวกลางดึกแบบไม่รู้จุดหมายปลายทาง แม้จะรู้สึกกลัวไม่น้อย แต่ในเมื่อต้องทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเด็กในท้องเอาไว้ เขาก็ยินดีจะไปตายเอาดาบหน้าแม้ว่าหนทางข้างหน้าจะลำบากแค่ไหนก็ต้องอดทนให้ได้ ร่างบางได้แต่ออกเดินเรื่อยเปื่อยอย่างไร้จุดหมาย แม้ว่าครอบครัวจะไม่ร่ำรวยนักแต่ว่านับแต่เกิดมาหยางจิวเมิ่งเองก็ไม่เคยต้องร่อนเร่ไปไหนมาก่อน ถึงจะรู้สึกกลัวไปบ้างแต่เขาก็พยายามอดทนเพื่อไม่ให้เรื่องนี้รู้ไปถึงทุกคน
เพราะไม่รู้ว่าจะบอกเรื่องราวน่าอับอายเช่นนี้ให้บิดาทราบได้อย่างไร ว่าตนเองถูกชายคนนั้นย่ำยีจึงตั้งท้องลูกคนนี้ขึ้นมาเช่นนี้ ยิ่งต้องให้เขาแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักกัน เพียงเพื่อให้อีกฝ่ายรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นเขายิ่งไม่มีวันยินยอมเด็ดขาด เด็กคนนี้อย่างไรเสียก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา ซึ่งเขาไม่มีวันจะทำลายทิ้งและไม่มีวันยอมให้ใครมาพรากลูกไปแน่นอน
ชายหนุ่มคิดฟุ้งซ่านต่างๆ นานาไปเรื่อยๆ พาตนเองลัดเลาะชายป่าจนผ่านมาถึงเมืองข้างเคียงในตอนย่ำรุ่ง ร่างกายที่เริ่มเหนื่อยล้าจึงแวะพักผ่อนในวัดร้างแห่งหนึ่งสักครู่ เพื่อให้คลายความเหน็ดเหนื่อยที่เร่งเดินทางมาทั้งคืน ชายหนุ่มนั่งพักอย่างอ่อนแรงเผลอหลับไปได้เพียงไม่นานก็ต้องตื่นมาอาเจียนตามเวลาดังเช่นทุกวัน เขาแพ้ท้องอย่างหนักอีกทั้งยาบำรุงครรภ์ที่ช่วยแก้อาการแพ้ท้องก็กลับไม่มีติดตัวแม้แต่น้อยเพราะรีบร้อนจากบ้านมาจึงไม่ได้เตรียมตัวในเรื่องนี้
เวลานี้คิดได้อย่างเดียวคือเช้านี้เขาคงต้องเข้าเมืองไปหาที่พักและหาอะไรทานรวมทั้งหาซื้อยาบำรุงครรภ์มาแก้อาการแพ้ท้องของตนเองในตอนนี้เพราะหากเป็นเช่นนี้ต่อไปเขาคงไปไหนไม่ได้ไกลเป็นแน่ ร่างบางหยัดกายขึ้นด้วยความอิดโรยออกเดินทางเข้าเมืองไปโดยไม่ทันได้สังเกตว่าตลอดการเดินทางของเขามีเงาหนึ่งเฝ้าจับตาดูเขามาตลอด
หยางจิวเมิ่งเดินทางมาถึงโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งในเมืองก็ติดต่อขอเข้าพักโดยทันที หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางมาทั้งคืน เขาก็ทิ้งตัวลงนอนหลับไปอย่างรวดเร็ว เพราะหมดเรี่ยวแรงด้วยความเหนื่อยอ่อนจากการเดินทางจนถึงบ่ายคล้อย เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็หาอาหารทานทันที เพราะเมื่อเช้าอาเจียนออกมาจนหมดและยังไม่ได้ทานอะไร ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้เขาก็ไม่ใช่ตัวเปล่าเช่นเมื่อก่อนเมื่อในท้องมีชีวิตบริสุทธิ์ให้เขาต้องดูแล กับข้าวสองสามอย่างง่ายๆ ถูกสั่งเข้ามาเพื่อกินให้มีแรงก่อนที่เขาจะออกไปหาซื้อยาบำรุงครรภ์...
.
.
.
การตื่นมาอาเจียนตอนย่ำรุ่งกลายเป็นสัญญาณการเข้าสู่เช้าวันใหม่ของหยางจิวเมิ่งไปแล้ว แม้ว่าจะดื่มยาบำรุงครรภ์ที่ออกไปซื้อมาเมื่อวานนี้เข้าไป แต่ก็ดูเหมือนว่าอาการแพ้ท้องของเขาจะไม่ลดลงไปเลยแม้แต่น้อย ร่างบางยังโก่งคออาเจียนเช่นเดิมจนอ่อนเพลีย
พอเตรียมตัวพร้อมสำหรับการเดินทางในวันนี้เสร็จ เขาก็ออกเดินทางต่อแต่เช้าก่อนที่แดดจะร้อนเกินไป เพื่อจะได้เร่งเดินทางไปยังเมืองต่อไป หลังจากที่เมื่อวานเสียเวลานอนพักที่นี่ทั้งวันเพราะอาการแพ้ท้องอย่างหนักของตนเอง แต่อากาศวันนี้ช่างร้อนนักร่างบางเดินทางรอนแรมมาตามลำพังอย่างอ่อนล้า หลายครั้งรู้สึกเวียนศีรษะจนต้องหยุดพักก่อนจะฝืนสังขารเดินทางต่อ
จนถึงเขตชานเมืองก่อนถึงด่านเมืองถัดไป ด้านหน้าของเขาก็มีกลุ่มคนตรงเข้ามาขวางทาง ชายฉกรรจ์ห้าหกคนที่รุมล้อมเข้ามาตรงหน้าเขานี้พวกมันกำลังหวังจะปล้นชิงทรัพย์สินที่เขานำติดตัวมา พวกมันแอบตามหยางจิวเมิ่งมาระยะหนึ่งแล้วและแน่ใจว่าเขามาคนเดียว คุณชายน้อยที่ดูบอบบางทั้งยังผิวพรรณหน้าตาดีและดูพอมีฐานะจึงเป็นที่หมายปองให้พวกมันคิดเข้าปล้นชิง
"เฮ้ จะรีบไปไหนกันเจ้าหนุ่มน้อย" หนึ่งในพวกมันที่รุมล้อมเข้ามากล่าวด้วยท่าทีเย้ยหยันดูน่าหวาดกลัว
"พะ..พวกเจ้า ต้องการอะไร มาขวางข้าไว้ทำไมกัน" ร่างบางทำใจดีสู้เสือกล่าวออกไปอย่างไม่กลัวเกรง ทั้งที่ในใจกลัวจนสั่นไปหมด
"เก่งจังนะเจ้านี่ ตัวก็แค่นี้" ชายสูงใหญ่ตรงหน้ารุมเข้าหาหนึ่งในนั้นใช้มือหยาบของมันเชยคางร่างบางขึ้นมองพินิศดูความงดงาม
"ส่งของมีค่ามาซะดีๆ เจ้าหน้าหวาน!! " พวกมันอีกคนกล่าวออกมาอย่างน่ากลัว และเริ่มลงมือฉุดกระชากแย่งชิงทรัพย์สินที่เขาติดตัวมา ร่างบางแม้อยากจะยื้อแย่งคืนแต่เวลานี้ในกายเขามีสิ่งสำคัญยิ่งกว่าจึงยอมมันแต่โดยดี เพราะกลัวลูกจะได้รับความกระทบกระเทือนไปด้วย หยางจิวเมิ่งได้แต่มองพวกมันฉกชิงข้าวของตนเองไปรื้อค้นอย่างกระจัดกระจาย
"ค้นตัวมันดูซิมีของมีค่าอะไรอีกหรือไม่" คนที่กำลังรื้อข้าวของอยู่หันมาสั่งคนที่ล้อมเขาเอาไว้ มือหยาบของคนเหล่านั้นจึงเริ่มจะลูบคลำไปบนตัวเขาจนทั่วทันที มันเริ่มแสยะยิ้มและคิดทำความชั่วบางอย่างขึ้นมือหยาบนั้นเริ่มรุนแรงและพยายามดึงทึ้งเสื้อผ้าเขาออก เพราะมันกำลังเริ่มมีจุดหมายอื่นนอกเหนือจากการค้นตัวหาของมีค่าจากหนุ่มน้อยตรงหน้า
"อย่า อย่านะ" ร่างบางปัดป่ายหนีมือหนาหยาบกร้านที่กำลังจะเข้ามาดึงทึ้งเสื้อผ้าเขาออกอย่างสุดกำลังเพราะกลัวว่าบุตรในครรภ์จะได้รับอันตราย
"เจ้านี่ตัวหอมนัก"หนึ่งในพวกมันรั้งข้อมือบางเข้ามาหาตนก่อนจะซุกหน้าเข้าไปใกล้ต้นคอขาวของจิวเมิ่งที่กำลังหลับตาปี๋ด้วยความหวาดกลัว
"อยากได้ของมีค่าอะไรก็เอาไป ยะ...อย่าทำอะไรข้าเลย" ร่างบางกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเพราะกลัวพวกมันจนแทบจะยืนไม่อยู่
แต่มีหรือพวกโจรที่กำลังได้ใจอยู่จะยอมเมตตาเหยื่อน้อยที่น่าสงสารเช่นนี้ได้ ยิ่งได้ยินคำขอร้องพวกมันก็ยิ่งนึกอยากแกล้ง มันทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามทันที เมื่อพวกมันนึกสนุกขึ้นมาอยากลองร่วมรักกับบุรุษรูปงามตรงหน้าดูสักครา หนุ่มน้อยตรงหน้าที่มีรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นทั้งดวงหน้ายังงดงามราวสวรรค์ปั้นแต่งเช่นนี้ หากมองดูเผินๆ ก็ไม่ต่างจากสตรีแม้แต่น้อย หากไม่ใช่ร่างกายเป็นบุรุษพวกมันคงต้องคิดว่าเป็นผู้หญิงไม่ผิดเป็นแน่ สายตาน่ากลัวพวกนั้นมองร่างบางอย่างโลมเลีย มือหนาหยาบกร้านตรงเข้าฉุดกระชากพยายามดึงร่างบางลงนอนบนพื้นหมายจะล่วงเกินด้วยความคึกคะนอง
"ไม่... ฮือ... อย่า...." ร่างบางกรีดร้องสุดเสียงดิ้นรนสุดชีวิตเพื่อหาทางเอาตัวรอด เมื่อถูกชายสองคนในกลุ่มนั้นจับเขาลงนอนขึงพืดอยู่บนพื้นจนดิ้นไม่หลุด ชายอีกสี่คนตรงหน้ากำลังปลดเสื้อของตนออกมองเขาด้วยสายตาที่น่าหวาดกลัวยิ่งนัก หยางจิวเมิ่งเริ่มสั่นสะท้านไปทั้งกายหวาดกลัวจนแทบสิ้นสติ เมื่อการกระทำที่กำลังจะเกิดขึ้นทำให้ภาพในอดีตเมื่อสองเดือนก่อนวนเข้ามาในหัวน้อยๆ อีกครั้ง
TBC.
#พรวิเศษ