บทที่ 8/2 สงครามที่เพิ่งเริ่มต้น

2838 Words
หลังทานอาหารเสร็จทุกคนต่างแยกย้ายกันไปทำงาน คุณชายเหอไปจัดการตรวจดูกิจการของตระกูล ส่วนจิวเมิ่งนั้นถูกสั่งให้พักผ่อนอยู่บ้านเฉยๆ โดยให้เสี่ยวไป๋เด็กรับใช้ในบ้านมาทำหน้าที่เป็นผู้คอยติดตามดูแลรับใช้ คอยปรนนิบัติฮูหยินน้อยตามคำสั่งคุณชายใหญ่อย่างใกล้ชิด ร่างบางที่เคยชินกับการทำงานตลอดพออยู่เฉยนานเข้าก็เริ่มเบื่อ หลังจากได้ทานยาตัวใหม่เข้าไปอาการของเขาจึงเริ่มดีขึ้น หยางจิวเมิ่งจึงชวนให้เสี่ยวไป๋ไปเดินเล่นในสวนเพราะไม่มีอะไรให้ทำ สวนตระกูลเหอนั้นมีอาณาบริเวณกว้างขวางไม่น้อยทั้งยังสวยงามยิ่งนัก หากเทียบกับขนาดบ้านเดิมของจิวเมิ่งเฉพาะสวนดอกไม้นี้ก็ใหญ่กว่าบ้านเขาถึงสามเท่าแล้ว ร่างบางเดินเล่นอย่างเพลิดเพลินไปเรื่อยๆ ก่อนไปหยุดนั่งพักผ่อนที่ศาลาริมน้ำเมื่อเริ่มรู้สึกเหนื่อย "เสี่ยวไป๋ ถ้าข้าจะไปหาท่านย่าที่เรือนได้หรือไม่" ร่างบางหันมาถามเสี่ยวไป๋หลังจากได้ทำความรู้จักกับเด็กตรงหน้ามาระดับหนึ่งแล้วทั้งคู่คุยกันเพียงไม่กี่ชั่วยามก็เริ่มสนิทสนม ด้วยเสี่ยวไป๋นั้นยังเด็กอายุเพียงสิบสี่ปีเท่านั้น หยางจิวเมิ่งจึงเห็นเหมือนน้องชายคนนึง เขาทั้งคู่เข้ากันได้ดีเพราะเสี่ยวไป๋เป็นเด็กว่าง่ายและสดใสน่ารัก แถมยังเชื่อฟังคำสั่งคุณชายเหออย่างมาก เพราะนับตั้งแต่ได้รับคำสั่งให้คอยดูแลหยางจิวเมิ่งมา เสี่ยวไป๋ก็ทำหน้าที่อย่างไม่บกพร่องคอยประคองดูแลเขาตลอด "ได้สิขอรับฮูหยินน้อย ฮูหยินเฒ่าท่านคงดีใจมาก ปกติไม่ค่อยมีใครไปหาท่านนอกจากคุณชายใหญ่ กลางวันฮูหยินเฒ่าจะอยู่คนเดียว และมีท่านป้าชุยที่เป็นคนสนิทของท่านเท่านั้นที่คอยดูแลขอรับ"  "เช่นนั้นข้าไปอยู่เป็นเพื่อนท่านย่าดีกว่า ข้าอยู่คนเดียวเช่นนี้น่าเบื่อนัก เจ้าว่าดีหรือไม่" "ดีขอรับ" "งั้นเราไปกันเถอะ" "ขอรับ" จิวเมิ่งเดินไปเรื่อยๆ ตามทางที่เสี่ยวไป๋คอยบอกเป็นระยะ เด็กน้อยยังคงคอยประคับประคองร่างบางตลอดเวลาเพราะกลัวว่าผู้เป็นนายจะล้มไป ด้วยคุณชายใหญ่สั่งนักสั่งหนาว่าฮูหยินน้อยของเขา มักมีอาการหน้ามืดบ่อยให้คอยดูแลให้ดี เด็กน้อยทำตามได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย เรือนฮูหยินเฒ่าแม้ตั้งอยู่ทางด้านหลังเรือนใหญ่แต่ก็ไม่ห่างจากเรือนหลักมามากนัก ที่แห่งนี้ค่อนข้างจะสงบและดูร่มรื่นงามตาด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ที่ปลูกรายล้อม ร่างบางเดินลัดเลาะมาตามทางเชื่อมที่สองข้างทางเต็มไปด้วยไม้ประดับตกแต่ง เพียงไม่นานก็มาถึงหน้าประตูเรือน "ท่านย่าขอรับ" "อ้าวมายังไงกันลูก เข้ามาก่อนเข้ามา"หญิงชราเอ่ยทักด้วยความยินดีก่อนที่คนสนิทของนางจะจัดการเปิดประตูให้ "ท่านย่าทำอันใดอยู่หรือขอรับ" "ทำชุดให้ลูกเจ้าอย่างไรเล่า น่ารักหรือไม่ ย่าตั้งใจตัดไว้ให้เหลนใส่" หญิงชราหยิบชุดทารกตัวเล็กขึ้นมากางให้ร่างบางได้ดู "งดงามมากขอรับ น่ารักจังตัวนิดเดียวแค่นี้เอง" จิวเมิ่งทอดมองชุดสีแดงที่ปักลายด้วยไหมทองชั้นดีและบรรจงตัดเย็บอย่างประณีตด้วยความรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก คิดคิดไปเรื่องนี้ก็อัศจรรย์ใครจะรู้จู่ ๆ เขาต้องมากลายเป็นแม่คนเช่นนี้ อีกไม่นานเขาก็จะได้พบลูกน้อยของเขาแล้ว "ท่านย่า สอนข้าทำบ้างได้หรือไม่ขอรับ" หยางจิวเมิ่งส่งยิ้มหวานให้อย่างประจบ เขาอยากมีทำอะไรบ้างมิใช่อยู่เฉย ๆ ไปวัน ๆ เช่นนี้ "เจ้าทำงานพวกนี้เป็นหรือ" "ขอรับ ข้าต้องช่วยแม่เลี้ยงตัดเสื้อผ้าให้น้องๆ บ่อยๆ ข้าพอทำได้ขอรับ เสื้อผ้าของข้ากับคนในบ้านข้าตัดเย็บด้วยตัวเองตลอดแต่ข้าไม่เคยทำชุดสำหรับทารกเลยขอรับ" ร่างบางเล่ายิ้ม ๆ อย่างมีความสุขเมื่อพูดถึงเรื่องที่บ้านของตน แม้ว่าจะเหนื่อยมากตอนอยู่บ้านตัวเอง แม้แม่เลี้ยงจะใจร้ายกับเขา แต่ก็มีบางมุมที่มีความสุขบ้างแม้จะเล็กน้อยแต่มันก็คือครอบครัว "แต่เจ้ายังแพ้ท้องอยู่ ย่าไม่อยากให้เจ้าเหนื่อยไป" หญิงชรากล่าวอย่างเป็นห่วงเพราะกลัวว่าร่างบางจะหักโหมเกินไป "ข้าทำได้ขอรับท่านย่า ถ้าข้าเหนื่อยข้าจะพักค่อย ๆ ทำไปเรื่อย ๆ ข้าจะได้มีอะไรทำไม่เบื่อ นะขอรับ" ร่างบางยิ้มเอาใจทำสีหน้าขอร้องจนคนแก่เช่นนางปฏิเสธไม่ลง "ได้เช่นนั้นย่าจะสอนให้" "ขอบพระคุณที่เมตตาขอรับท่านย่า" ร่างบางยิ้มอย่างยินดีเมื่อหญิงชรายอมให้ทำตามที่ต้องการ จิวเมิ่งเป็นคนไม่ชอบอยู่เฉยๆ นัก เขาจึงหางานทำแก้เบื่อเพราะคุณชายเหอไม่ให้เขาทำงานอะไร งานที่สวนผักของเขาตอนนี้เหอจิ้นเค่อก็จัดการส่งคนของตระกูลเหอไปคอยดูแลแทนเพราะกลัวฮูหยินจะแอบหนีไปทำงาน ร่างบางจึงกลายเป็นคนว่างงานทันทีที่แต่งเข้าตระกูล เขานั่งว่างมาได้ครึ่งวันก็ทนไม่ไหวจนต้องมาหาฮูหยินเฒ่าและได้งานใหม่เป็นการหัดตัดเย็บชุดสำหรับลูกที่กำลังจะเกิดมานี้ หยางจิวเมิ่งคิดว่าอย่างน้อยเขาจะได้มีอะไรทำแก้เบื่อและจะได้อยู่เป็นเพื่อนท่านย่าบ้าง ฮูหยินเฒ่าเองก็เอ็นดูหลานสะใภ้ยิ่งนัก จิวเมิ่งดูเป็นเด็กเรียบร้อยน่ารักและว่านอนสอนง่าย ยิ่งหน้าตาที่งดงามน่าเอ็นดูจนเห็นทีไรก็อดนึกชื่นชมหลานชายตนเองไม่ได้ หลานชายของนางช่างตาแหลมยิ่งนัก แม้เป็นบุรุษกลับงดงามราวดอกไม้แรกแย้มกิริยามารยาทก็ดีไร้ที่ติเหมาะสมกับหลานชายของนางอย่างยิ่ง ฮูหยินเฒ่ารู้สึกเอ็นดูจิวเมิ่งเสียยิ่งกว่าหญิงมักใหญ่ใฝ่สูงที่สลัดหลานชายนางทิ้งอย่างไม่ไยดีอย่างเจียวหวงนั่นเสียอีก นางนึกขอบคุณสวรรค์ยิ่งนักที่หญิงคนนั้นทิ้งหลานชายของนางไปจนนางได้จิวเมิ่งผู้งดงามมาเป็นหลานสะใภ้แทน "เด็กดีเหนื่อยก็พักสักหน่อยนะลูก"หญิงชราเห็นท่าทางอ่อนเพลียของร่างบาง หลังนั่งตัดเย็บเสื้อผ้าให้ทารกไปได้ระยะหนึ่ง ก็เริ่มมีท่าทางง่วงงุนพาให้นึกเอ็นดู นางจึงยกมือขึ้นลูบหัวทุยเบา ๆ  "ท่านย่าข้าง่วงจังเลยขอรับ ฮ้าว.."ร่างบางขยี้ตาพร้อมหาวเล็กน้อย "เห็นอาเค่อบอกย่าว่ายาบำรุงครรภ์ที่เจ้าดื่มจะทำให้เจ้าง่วงนอนยาคงออกฤทธิ์แล้วกระมัง" "ขอรับ" ร่างบางรับคำตาแทบจะปิด ด้วยง่วงเต็มที "เอนหลังเสียหน่อยเถิดไปนอนที่ตั่งนั่นก็ได้เดี๋ยวได้เวลาทานอาหารย่าจะปลุกเจ้าเอง" "ขอบคุณขอรับท่านย่า" หญิงชรายิ้มอ่อนโยนให้ ขณะที่ร่างบางล้มตัวลงนอนเพียงครู่ก็หลับลงไปอย่างรวดเร็ว เหอจิ้นเค่อจัดการงานต่างๆ เสร็จก็รีบกลับบ้านมาดูแลฮูหยินทันทีเมื่อกลับถึงเรือนชายหนุ่มกลับพบเพียงความว่างเปล่าเขาจึงถามหาฮูหยินจากบ่าวไพร่ในบ้านสุดท้ายก็ได้ทราบว่าฮูหยินของตนไปหาท่านย่าที่เรือน เหอจิ้นเค่อเดินมาถึงเรือนของท่านย่าพบหญิงชรานั่งเย็บเสื้อผ้าเด็กอยู่กับภรรยาที่หลับไปพร้อมกับเสื้อผ้าที่กำลังเย็บในมือ "ทำอะไรกันอยู่หรือขอรับท่านย่า" เหอจิ้นเค่อร้องทักเมื่อมาเห็นสภาพของร่างบางที่นอนทั้งผ้าที่เย็บค้างเอาไว้ มือหนาหยิบชุดนั้นออกจากมือให้อย่างแผ่วเบาก่อนยกผลงานนั้นขึ้นมาดูด้วยความชื่นชม ฝีมือภรรยาเขานับว่าดีไม่น้อย "ตัดชุดไว้ให้ลูกของพวกเจ้าไงเล่า เมิ่งเอ๋อร์เขาอยากทำเลยให้ย่าช่วยสอน แต่กำลังทำไปได้สักพักยาก็ออกฤทธิ์พอดีสภาพเลยเป็นอย่างที่เห็นนี่หล่ะ" หญิงชรากล่าวขึ้นอย่างกลั้วหัวเราะในลำคอด้วยความเอ็นดูจิวเมิ่งยามหลับช่างน่ารักเหมือนเด็กน้อยๆ นอนหลับสนิทไม่รู้เรื่องราว "ปล่อยให้เขานอนให้สบายเถิดท่าทางคงเพลียมาก" "ขอรับท่านย่า"เหอจิ้นเค่อนั่งที่ข้างตั่งยกมือหนาขึ้นใช้นิ้วเรียวเกลี่ยแก้มนวลด้วยความเอ็นดู "ท่านย่าขอรับ" "หืมว่าไงลูก" "ทำไมเมิ่งเอ๋อร์ใกล้ข้าแล้วจึงว่าข้าเหม็นทั้งยังอาเจียนจนเป็นลมเพราะข้ามาสองครั้งแล้วขอรับ" "เขาบอกข้าว่านอกจากเหม็นอาหารก็เหม็นข้า หรือว่าเขาจะเกลียดข้าใช่หรือไม่ขอรับ" "ไม่หรอกเจ้าอย่าคิดมากคนท้องก็เป็นเช่นนี้ตอนย่าตั้งครรภ์พ่อเจ้าท่านปู่ก็เข้าใกล้ย่าไม่ได้เช่นกัน อาการแพ้ท้องแต่ละคนไม่เหมือนกันหรอกนะลูก บางคนเหม็นอาหาร บ้างก็เหม็นสามี บ้างก็ไม่แพ้อันใดเลยก็มี" "ย่ารู้ว่าระหว่างพวกเจ้าเริ่มต้นไม่ดีนัก และย่าก็รู้ว่าเจ้าคงพอใจเมิ่งเอ๋อร์ไม่น้อยจึงได้ยอมแต่งงานกับเขา ไม่ใช่ว่าเพียงต้องการรับผิดชอบความผิดที่ทำและลูกในครรภ์ใช่หรือไม่" หญิงชรากล่าวอย่างรู้ทันเพราะนางเลี้ยงดูคุณชายใหญ่ด้วยตนเองจึงรู้จักนิสัยหลานชายดียิ่งนัก "ขอรับ" ชายหนุ่มยิ้มรับพร้อมหูที่แดงขึ้นสีเล็กน้อย "นั่นปะไร"หญิงชราแทบจะตบเข่าฉาดดีใจที่ตนคิดถูก "เช่นนั้นก็ค่อยเป็นค่อยไปเพียรทำดีกับเขาทุกวันไม่ช้าเขาจะเห็นเองหากเจ้าจริงใจเขาย่อมรับรู้ได้สักวัน" "ขอรับท่านย่า" "อื้อ..ห้าว...."ร่างบางบิดตัวเล็กน้อยเหมือนแมวน้อยเพิ่งตื่นนอน พลางขยี้ตา ท่าทางเขาเป็นดังเด็กเล็กๆ เพิ่งตื่นนอนก็มิปาน น่ารักยิ่งนัก...คุณชายเหอได้แต่คิดในใจ "ท่านพี่กลับมาแล้วหรือขอรับ"เหอจิ้นเค่อเข้าไปประคองภรรยาที่กำลังงัวเงียลุกขึ้นนั่งอย่างระวัง "ข้าหลับไปนานแค่ไหนกันเนี่ย" "ราวสองชั่วยามได้ขอรับฮูหยินน้อย"เสี่ยวไป๋ที่คอยเฝ้าข้างๆ ร่างบางมาตลอดรีบรายงานทันที "ห๋า..นานขนาดนั้นเชียว ขอโทษนะขอรับท่านย่าข้าว่าจะมาอยู่เป็นเพื่อนดูแลท่านกลายเป็นมาให้ท่านย่าดูแลข้าแทนเสียนี่"หยางจิวเมิ่งกล่าวอย่างสำนึกผิด "ไม่เห็นเป็นไรเลยแค่นี้ก็ดีแล้วเจ้ามานอนเป็นเพื่อนย่าก็ได้ ดีเสียอีกย่าจะได้ไม่เหงาและยังจะได้คอยดูเจ้าไปด้วย" "เมิ่งเอ๋อร์อย่าคิดมากแค่นี้ก็ดีมากแล้ว ท่านย่ามีเจ้ามาอยู่เป็นเพื่อนเช่นนี้ท่านจะได้ไม่เหงา"  "แต่ข้ามันไม่ได้เรื่องเลย" "เอาน่าลูกไม่ต้องกังวล ได้เห็นเจ้ากินอิ่มนอนหลับย่ายิ่งมีความสุข อย่างน้อยย่าก็วางใจว่าเหลนย่าจะได้แข็งแรงน่ารักเหมือนเจ้า" "มาทานของว่างเสียหน่อยย่าให้คนเตรียมมาให้แล้ว เดี๋ยวสักครู่ก็ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว ทานอะไรรองท้องเสียก่อนเถิด" "ขอบคุณขอรับท่านย่า" ร่างบางมองขนมตรงหน้าได้กลิ่นหอมหวานก็ถึงกับกลืนน้ำลาย พอได้ทานเข้าไปเขายิ่งรู้สึกว่าขนมนี้ช่างอร่อยถูกปากเสียจริง "นี่คือขนมอะไรหรือขอรับท่านย่า" ร่างบางทานอย่างเอร็ดอร่อย ขนมนี้เขาไม่เคยทานมาก่อนแต่กลับรู้สึกว่ามันอร่อยมาก เขาทานอย่างไรก็ไม่อิ่มเอาเสียเลย ท่านย่าและเหอจิ้นเค่อต่างยกยิ้มพอใจ ขนมนี้เป็นหนึ่งในของโปรดของคุณชายใหญ่ดูเหมือนลูกเขาจะชอบทานเหมือนเขาจริงๆ "นี่คือขนมกุ้ยฮวา ย่าทำเอง เป็นของโปรดของสามีเจ้า" "แค่กๆๆ " จิวเมิ่งแทบจะสำลักในทันที เมื่อได้ยินเช่นนั้น 'อีกแล้วหรือ...นี่เจ้าเป็นลูกเขาคนเดียวใช่หรือไม่เหตุใดชอบแต่ของที่พ่อเจ้าโปรดปรานกันเล่า' ร่างบางได้แต่ครวญในใจ "ดื่มชาเสียหน่อยเถิด"คุณชายเหอรินชาส่งให้หยางจิวเมิ่งที่สำลักขนมจนหน้าแดงดื่ม ร่างบางก็รีบรับมาดื่มทันที "หากชอบก็ทานมากๆ เจ้าจะได้แข็งแรง ดูท่าแล้วย่าว่าเรื่องที่เจ้าทานไม่ลงคงแก้ไขได้แล้ว ย่าจะให้คนทำของโปรดของอาเค่อให้เจ้าลองทานดู ส่วนขนมนี่เดี๋ยวย่าจะให้คนส่งไปให้เจ้าที่เรือนหากเจ้าชอบ" "จริงหรือขอรับ ขอบพระคุณท่านย่ามากขอรับ" หยางจิวเมิ่งตาวาวเป็นประกายเมื่อรู้ว่าจะได้ทานขนมนี้อีก เขาก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเพราะอะไร แม้แต่ท่าทางดีใจเป็นเด็กๆ ของตนเองก็ยังทำออกไปไม่รู้ตัวเพราะกำลังเพลิดเพลินกับขนมในจานนั้นหยางจิวเมิ่งทานอย่างอร่อยเพียงครู่เดียวขนมนั้นก็หมดจาน เหอจิ้นเค่อจึงยกส่วนของเขาให้แก่ภรรยา ซึ่งจิวเมิ่งเองก็รับมาทานอย่างไม่อิดออดใดๆ สองย่าหลานได้แต่นั่งอมยิ้มมองร่างบางที่ทานขนมอย่างเอร็ดอร่อยด้วยความพอใจ อย่างน้อยก็ได้คลายกังวลเรื่องแพ้ท้องจนทานไม่ได้ไปหนึ่งเรื่องแล้ว เด็กในครรภ์จะได้แข็งแรงในเร็ววัน . . . เฉินเจียวหวงคุณหนูตระกูลเฉินผู้งดงาม ลูกสาวคนเดียวของคหบดีเฉินก้านลู่เพราะนางได้พบกับรัชทายาทโดยบังเอิญความหล่อเหลาของบุรุษหนุ่มสูงศักดิ์จึงทำให้นางลุ่มหลงและตำแหน่งที่สูงส่งจึงคิดหวังในยศศักดิ์อยากจะเป็นชายารัชทายาท เพียงเพราะได้ใกล้ชิดชายหนุ่มโดยบังเอิญและทึกทักไปเองว่ารัชทายาทอาจตกหลุมรักตนเอง นางจึงทอดทิ้งเหอจิ้นเค่อไปเมืองหลวงตัดสัมพันธ์กับชายหนุ่มเพื่อเข้าร่วมคัดตัวเป็นชายารอง หวังจะได้เป็นหนึ่งในพระชายา แต่สุดท้ายก็ผิดหวังเมื่อมิได้ถูกเลือกดังเช่นที่คิด เพราะรัชทายาทมีหญิงที่รักอยู่แล้ว ชายหนุ่มสูงศักดิ์ผู้นั้นมิได้ชายแม้หางตามองมาที่นางด้วยซ้ำ หญิงสาวจึงจำต้องกลับมายังบ้านเกิดพร้อมกับความผิดหวังอันยิ่งใหญ่ สำนึกได้ว่าตนเองก้าวผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิตเมื่อสายไปเพราะทิ้งบุรุษที่แสนดีเช่นเหอจิ้นเค่อไปแล้วกลับไม่ได้ตำแหน่งชายารองมาครอบครองดังที่ใฝ่ฝัน คราวนี้จึงคิดกลับมาเพื่อรื้อฟื้นสัมพันธ์กับรักเก่า คิดกลับมาคบหากับชายหนุ่มอีกครั้ง แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อทราบว่าชายหนุ่มนั้นแต่งงานไปแล้ว แต่เมื่อทราบถึงข้อเท็จจริงว่าฮูหยินน้อยตระกูลเหอเป็นชาย ดูเหมือนความหวังนางเจียวหวงจะกลับคืนมา อย่างไรเสียนางก็เป็นหญิงงามคนหนึ่งของเมืองทั้งยังเป็นถึงลูกสาวคหบดี มีหรือชายผู้นั้นจะสู้นางได้ อย่างไรเสียคงไม่มีใครยอมรับได้เพราะชายต้วนซิ่วล้วนเป็นที่รังเกียจว่าวิปริตนัก คนมีหน้ามีตาเช่นตระกูลเหอมีหรือจะยอมให้ลูกชายคนโตว่าที่ผู้สืบทอดตระกูลต้องมีภรรยาเป็นชายด้วยกันเช่นนี้ต่อไป อีกทั้งนายท่านเหอและฮูหยินใหญ่ต่างก็รักเอ็นดูนางดุจลูกสาวมาเสมอ แม้กระทั่งถึงวันนี้ที่นางได้พบเจอฮูหยินใหญ่ในร้านขายผ้าไหมโดยบังเอิญ ฮูหยินใหญ่ยังคงแสดงออกว่าอยากได้นางเป็นสะใภ้เสียมากกว่าบุรุษผู้นั้น นางจึงมีความหวังคิดแย่งชิงคนรักของตนเองกลับคืนมา อย่างไรเสียเมื่อพลาดการเป็นชายารองไป แต่หากได้เป็นฮูหยินเอกของลูกชายคนโตตระกูลเหอก็นับว่าไม่เลว ทั้งนางเองก็ยังพิสมัยรักใคร่ในตัวชายหนุ่มไม่น้อย เหอจิ้นเค่อทั้งรูปหล่อและสง่างามมีครบทุกคุณสมบัติแห่งเอกบุรุษเป็นที่หมายปองของหญิงสาวมากมายมาตลอด อยู่ๆ มาถูกบุรุษที่ไหนไม่รู้มาคว้าไปมีหรือนางจะยอม TBC.
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD