เชลยสาวออกฤทธิ์

1238 Words
ตอนที่ 9 “โถ ถ้ารู้ว่ามันหนัก ก็อย่าหักโหมมากสิคะ เอาพอประมาณ ภรก็ไม่ได้ให้คุณทำงานอย่างเอาเป็นเอาตายนี่ อีกอย่างเราก็เพิ่งแต่งงานได้ไม่นาน คุณก็ถนอมสุขภาพตัวเองไว้ให้มากๆก็ดี” “แล้วทุกวันนี้ ผมเป็นยังไงบ้าง ผมดีกับคุณเสมอต้นเสมอปลายทุกวันนะ” เขาหยอดเสียงหวานเติมแต่งลงไปอีก รู้ว่าจุดอ่อนของหล่อน เขาต้องเติมเสน่ห์?ลงไปมากเพื่อเป็นการเอาใจและเทคแคร์ เหตุนี้เองที่ทำให้หล่อนติดหนึบติดหนับผละจากเขาไปไม่ได้ อีกอย่างตนุรู้จักบริหารเสน่ห์ของตัวเองเป็น ภรณิชเริ่มจะคล้อยตามกับน้ำเสียงที่หยอดอ่อนหวานของเขา เพราะความที่เขาอยู่ในสายตาของหล่อนและทำตัวให้เสมอต้นเสมอปลายอย่างนี้นี่เอง ภรณิชคิดว่าชีวิตรักของหล่อนจะหวานฉ่ำเหมือนน้ำผึ้งเดือนห้า “ตนุ เป็นสุภาพบุรุษในสายตาของฉัน และ ขอให้เป็นอย่างนี้ไปเถอะนะคะตนุ ภร รู้สึกเหมือนว่าตัวเองโชคดี ที่ได้สามีเอาใจใส่อย่างนี้” ชีวิตผู้หญิงทุกคนก็ต้องการอย่างนี้ทั้งนั้นหล่อนถือว่าหล่อนโชคดี เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับคำตอบที่ ภรณิชคิด แต่นัยน์ตาที่วามวาวของสามีหนุ่ม เขากลับกระตุกและขยิบด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ที่ต้องการต่อยอดไปไกลกว่านั้น เขาคิดในสิ่งที่ภรณิชคาดไม่ถึงและไม่กล้าคิดสักนิด เพราะสายตาที่กระหยิ่มนั้นลึกลงไปเป็นแววตากระด้างที่ซ่อนนัยฝังอย่างมิดชิด ภรณิชแวะไปหาพี่ชายและพี่สะใภ้ยังบ้านพัก เพื่อสอบถามข่าวคราวเรื่องการหายตัวไปของหลานสาวคนสวยอีกคน ที่จริงในด้านความรู้สึกของเธอ นั้นกลับเฉยเมยและว่างเปล่าต่างหาก มันแตกต่างไปจากกิริยาท่าทางและการวางตัวดัดจริตที่บีบน้ำตาทำเสียงด้วยความสงสารและเห็นใจหลานสาวผู้โชคร้าย นึกเห็นใจพี่ชายและพี่สะใภ้ที่ลูกสาวสุดที่รักมาหายตัวไปโดยปราศจากร่องรอยอีกคน หล่อนนั้นไม่อาจคาดเดาได้ว่าปัญหานั้นเกิดจากอะไร ลืมคิดเรื่องที่อยู่ใกล้ตัว และคนอย่างภรณิชนั้น ไม่มีวันโทษตัวเองเด็ดขาด หล่อนมักจะโยนความผิดให้ใครก็ได้ แต่ไม่ใช่ตัวหล่อน ลึกๆแล้วสะใจไม่น้อย ที่แม่หลานสาวตัวดี หายหัวออกไปจากบ้าน มีข่าวซุบซิบไปในทำนองชู้สาว คุณภรณิชย่อมคิดแบบนั้นไปอีกคน เพราะพาลิณีก็เหมือนเด็กใจแตก ชอบเที่ยว นี่คงไปหว่านเสน่ห์ให้ใครรักใครหลงเข้าสิ พอไม่ได้ดั่งใจก็โดนอุ้มลักพาตัวไป ภรณิชย่อมคิดอย่างนี้ด้วยเพราะเชื่อว่าหลานสาวของหล่อนเป็นคนเจ้าเสน่ห์รุนแรงเหลือเกินนางเองก็ยอมรับกับความสวย จนถึงกับริษยา และอะไรอีกหลายอย่างที่พาลิณีได้รับมาหมดทั้งจากความรักจากบิดามารดาทรัพย์สินมรดก ที่พี่ชายของหล่อนกับพี่สะใภ้จะต้องประเคนให้ ความริษยาเหมือนคลื่นใต้น้ำลึกสุดเพราะหล่อนไม่มีวันเทียบเท่าหลานสาวคนนี้ได้ โชควาสนาของพาลิณีแท้ ที่เกิดมาพร้อมสรรพ แม้หล่อนจะเป็นน้องสาวของบิดา ซึ่งถือว่าเป็นอาสาวแท้ๆก็ตามแต่ความรักความสงสารที่ให้มันต่างกัน พี่ชายของหล่อนมีครอบครัวที่ต้องดูแล มีธุรกิจ แต่ก็ยังดีที่เขายังแบ่งปันความรักส่วนหนึ่งในฐานะพี่กับน้อง มาให้หล่อน ทั้งยังเจือจานดูแล ไต่ถามสารทุกข์สุกดิบ ด้วยเหตุนี้เอง คุณภรณิชจึงติดชินที่จะได้รับความรู้สึกเหล่านี้ คล้ายกับหล่อนยังหวงพี่ชาย และหล่อนก็ยังอยากที่จะทำตัวเหมือนเด็กๆ ที่ไม่รู้จักโต เพื่อให้พี่ชายเอาอกเอาใจ การตัดสินใจแต่งงานกับชายหนุ่มที่เคยผ่านการมีภรรยาแล้วอย่างตนุหล่อนก็เคยถูกพี่ชายไต่ถามด้วยความเหมาะสม และสืบสาวราวเรื่องประวัติของเขา ในเมื่อหล่อนเป็นน้องสาวสุดที่รัก ที่จะร่วมหอลงโรงกับผู้ชายคนหนึ่ง คุณยศเฉลิมเป็นผู้ทรงอิทธิพล กว้างขวางและรู้จักผู้คนในวงการ ทั้งนักธุรกิจและนักการเมือง รวมทั้งข้าราชการทหารและตำรวจ หล่อนเองคนหนึ่งที่คิดว่า ไม่เกรงกลัวใคร เพราะบารมีของพี่ชายปกป้องอยู่ ด้วยเหตุนี้แม้วัยจะสามสิบห้าแล้วก็ตาม คุณภรณิชยังติดชินนิสัยที่เอาแต่ใจตัวเอง เนื่องจากติดนิสัยการโอ๋เอาใจ ************************************ นี่หนอคงจะสุดหนทาง ที่หล่อนจะหาทางดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองหลุดรอดพ้นจากที่นี่ได้แล้วที่สุดพาลิณีก็ยังครุ่นคิดและคิด เพื่อหาทางเอาตัวรอดให้ได้ สิ่งเดียวที่ต้องการคือไปจากที่นี่ เกาะที่ดูเงียบสงบซ่อนอยู่ในความงดงามของหมู่แมกไม้และชายหาดรวมทั้งภูเขาที่ดูเป็นธรรมชาติ มันโอบล้อมสถานที่แห่งนี้ไว้ทั้งหมด อันที่จริงมันเหมาะสำหรับพักตากอากาศด้วยซ้ำ แต่ในโลกความคิดของพาลิณีไม่ได้สวยสดใสอย่างที่คิดเลย เพราะหล่อนก็ยังเหมือนคนที่ถูกพันธนาการไร้อิสระ ไม่ใช่สิ่งที่หล่อนจะเพ้อฝัน ปล่อยใจระเริง อย่างที่หล่อนเคยอาศัยอยู่กับครอบครัว และอยู่ท่ามกลางเพื่อนฝูง เวลานี้น้ำตาสักหยดของพาลิณีไม่มีจะไหล เพราะมันได้ไหลออกมาทั้งหมดจนสูญสิ้น และจนว่าน้ำตาแห่งความเจ็บปวดมันได้แห้งเกือบหายไปเอง แต่สิ่งหนึ่งที่มาแทนคือ แค้น แค้นจนแทบกระอักเลือด ที่พาลิณีถูกจับตัวมาด้วยวิธีการอันป่าเถื่อนหล่อนยังไม่ทราบสาเหตุที่กระจ่างชัด เคยตะโกนก้องตะเบ็งถามเขาไปแล้ว แต่กลับไม่มีคำตอบที่แน่ชัด นี่มันอะไรกัน ชีวิตของหล่อนถึงประสบเคราะห์ร้ายอย่างนี้ นายตัวการนั่นไปไหน เวลานี้เขาไม่มีตอกย้ำให้หล่อนได้เจ็บปวดและรู้สึกเจ็บไปทั้งใจอย่างทุกวันที่เขาแวะเวียนมาเพื่อถากถาง สร้างบาดแผลเจ็บปวดให้ราดรดลงไปในเนื้อหัวใจของหล่อน ที่เป็นเพียงเด็กผู้หญิงตัวเล็ก หัวสมองของพาลิณียังขบคิดไปเรื่อยเปื่อย ภายในห้องสี่เหลี่ยมแคบ แม้จะรู้สึกตัวดี แต่จิตใจและร่างกายก็อ่อนล้าเกินที่จะพยุงกายตัวเอง เขามองเหมือนหล่อนเป็นทาส จึงทำให้เพียงแค่ขยับกายเคลื่อนร่างมาพิงที่ข้างผนังซึ่งเป็นไม้กระดาน วันนี้ดูจะอบอ้าวมากกว่าทุกวันแม้พาลิณีจะได้สิทธิ์ออกไปเดินเตร็ดเตร่แถวนี้หรือช่วยงานในเกาะ เหมือนคนงานผู้หญิงทั่วไป แต่วันนี้หล่อนเลือกที่จะไม่ลงไปข้างล่าง ต้องการที่จะขัดใจเขา อีกอย่างหล่อนรู้สึกตัวว่าคล้ายกับจะเป็นไข้ เพราะเนื้อตัวรุมๆ ครั่นเนื้อครั่นตัวเป็นบางครั้ง ไม่รู้ว่าหล่อนจะเอาชีวิตมาตายเสียที่นี่หรือเปล่า เพราะอากาศข้างนอกอบอ้าวอย่างเห็นได้ชัด ไอแดดจึงลามเข้ามาถึงห้องที่หล่อนพักโดยกระแสลมทะเลพัดเข้ามา ยิ่งก่อให้เกิดความร้อนเป็นทวีคูณ บวกกับใจของหล่อนที่อึดอัดอยู่แล้วจึงแทบจะระเบิดในทันทีพาลิณีไม่กลัวใครเสียด้วยซ้ำหล่อนจะแผลงฤทธิ์ตามใจชอบ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD