ตอนที่ 2
เขายืนยันหนักแน่นด้วยคำเดิม เหมือนเล่นลิ้น ทำให้พาลิณีหนักใจ แล้วต่อมา หล่อนด่า
“ไอ้โจรห้าร้อย ไอ้โจรไม่มีมนุษย์ธรรม ไม่มีเมตตา”
หากแต่เขายืนนิ่งไม่สะทกสะท้าน ทีแรกนึกว่า เขาจะโกรธจัด ถึงจะขนาดเหวี่ยงตัวหล่อนบนพื้นเสียอีก แต่ ไม่ใช่ ก็ทำให้พาลิณีนึกใจสั่นเช่นกัน เพราะพวกมันตั้งค่าตัวของหล่อนไว้สูงขนาดนี้ ทั้งๆที่ไม่รู้ว่า ทำไปเพราะ เจ็บแค้นเคืองตัวหล่อนด้วยเรื่องอะไร หล่อนยังงงไม่หาย แล้วนี่พาลิณีจะบ้าตาย เมื่ออดคิดถึงสภาพตัวเองในวันข้างหน้าไม่ได้ นี่หล่อนจะต้องทนอยู่ที่นี่ ไปอีกนานแค่ไหน แล้วจะอยู่กินอย่างไรล่ะ โอ้ยตายแล้ว นี่ หล่อนจะต้องตายแน่เลยล่ะ
เมื่อเขาผละจากร่างของหล่อนไปแล้วก็ทำให้
พาลิณีพยายามเตือนสติเขาหากว่ารัมธ์กำลังครุ่นคิดนั่นเพราะพี่เขยอกตัญญูและเงินทั้งหมดที่ตนุผลาญไป คือเงินที่พี่สาวของเขา นั้นให้ไปเพื่อลงทุนทำธุรกิจ หาก มันกลับทำธุรกิจเจ๊ง จนธุรกิจพังทลายแล้วก็ หนีไปจากพี่สาวของเขา โดยไม่รับผิดชอบ และมันแอบไปมีคนใหม่
เมื่อรัมธ์ทราบเรื่องนี้เขาแค้นแทบกระอักเลือด เลยทีเดียวเพราะพี่สาวของเขานั้นมาฟูมฟายด้วยน้ำตา ว่าพี่เขยของเขา ไปติดพันผู้หญิงทางกรุงเทพ และถึงขั้น หอบข้าวหอบของเก็บเสื้อผ้าไปอยู่ด้วยกันเสวยสุขด้วยซ้ำ
เมื่อเป็นเช่นนี้ จากนั้นชายหนุ่มก้าวเท้ามาอีก และหยุดตรงหน้าหล่อน พร้อมเขายกมือขึ้นเชยที่คางนวล ของหล่อน
“เงยหน้าแล้วก็มองดูให้เต็มตาจะได้ดูให้เต็มตาว่าฉันเป็นใคร”
“ผู้ชายสารเลวคนหนึ่ง” ปากหล่อนด่าพรวดทันที
สีหน้าของรัมธ์เปลี่ยนเป็นขึงขังและเหี้ยมเกรียมใส่
“ไหนพูดใหม่ซิ เมื่อกี้เธอพูดอะไรออกมา”
และพาลิณี นั้นกลับตวัดดวงตา ขึ้นมองพร้อมจ้อง เขาอย่างท้าทาย
“ฉันพูดถึงผู้ชายสารเลวคนหนึ่งต่างหากล่ะก็แค่ เท่านั้นเองค่ะ ”
“อ้อถ้าอย่างนั้นจะเรียกว่าหมาก็ได้เพราะคงไม่ต้องไปยกย่องถึงขนาดนั้น”
“นั่นคุณพูดเองนะคำนั้น เพราะฉันไม่ได้แตะต้อง เลยสักนิดเดียว”
มือที่ยังเชยคางกลับบีบกดจนเนื้อนุ่มรู้สึกเจ็บเพราะเขาไม่ปรานีสักนิด คนใจร้าย
“ผมเป็นโจรและมันมีความเถื่อนอยู่ในตัวก็เลยไม่คิดจะปรานีผู้หญิงใจชั่วและมีญาติเชื้อชั่วๆของคนที่ เป็นต้นเหตุที่ทำให้พี่สาวต้องฆ่าตัวตาย”
“นี่ นายแค้นใคร ก็ไปทำใส่คนนั้นสิ แล้วทำไมต้องมาทำกับคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อย่างฉัน”
พาลิณีแหวใส่ อย่างเหลืออด
“อ้าว ใครว่าไม่รู้อีโหน่อีเหน่ล่ะ”
พาลิณีไม่รู้จะเถียงด่าใครอีก เพราะอารมณ์ของหล่อนยังกรุ่นโกรธ
“นี่ ขออย่าให้ฉันหลุดไปได้ก็แล้วกัน ไม่งั้นพวกนายกับพรรคพวก เดือดร้อนกันทั้งแก๊งค์แน่”
พาลิณีเดือดดาลถึงกับบ่นในใจอีกครั้ง หกสิบล้าน หรือ นี่ชีวิตของหล่อนตอนนี้ มันเหมือนตกนรกทั้งเป็นเสียแล้ว พวกโจรเอาหล่อนมาเป็นเครื่องต่อรอง เป็นทาส เพื่อเรียกค่าไถ่จากครอบครัวของหล่อน
หากในเวลาต่อมา คนชั่วที่พาลิณีได้ด่าทอนั้น เขา ก็กลับมาหาหล่อนอีกครั้งในเวลาเกือบใกล้เที่ยงถือถุงอาหารก้าวเดินมาพร้อมกับเด็กรับใช้คนเดิม คือ เด็กแพน แล้วจากนั้นเขาบอกให้ เด็กแพนนั้นออกไปทำงานข้างนอก
“เอาล่ะ แพนแกจะไปทำอะไรก็ไปเถอะหรือลงไปช่วยงานในครัวก็ได้”
กล่าวจบแล้วเด็กแพนก็รีบก้มหน้า แล้วพาตัวเดินจากไปด้วยแววตาที่ไม่พอใจเจืออยู่อย่างมาก
หากแต่เขา รัมธ์ได้เงยหน้ามองดูหล่อน และดวงตาคมพร้อมกับริมฝีปากนั้นแสยะยิ้มใส่และพาลิณีเกลียดดวงตาแบบนี้เหลือเกินและท่าทางของเขานั้นด้วย อีกอย่างหล่อนไม่เคยรู้จักกับเขามาก่อน เขาต้องการอะไร
“มาทำไมอีกแล้วทำไมพวกแกไม่ปล่อยให้ฉันอดตายไปเลย จะได้ สาสมใจพวกแกไงล่ะ”
เพราะหล่อนไม่เคยถูกกักขังเป็นนักโทษดวงตาของหล่อนจึงจ้องใส่อย่างไม่เกรงกลัว
“ฮึ เพราะเวลานี้ ถึงเวลาอาหารเที่ยงแล้วยังไงล่ะผม และอีกอย่าง ผมยังไม่อยากให้คุณขาดใจตายหรือ อดตายในตอนนี้หรอกนะ”
เขาใช้สำเนียงภาคกลางชัดเจน นึกว่าพวกแหลงใต้ คอทองแดง
“และหากคุณรีบด่วนตายไป มันก็ง่ายซีคนสวย” เขาหรี่ดวงตาคมมองหล่อนเสียงเข้มเยาะ
“เพราะผมนั้นยังไม่ทำในสิ่งที่ต้องการสำเร็จและ คุณเองจะต้องเป็นผู้ชดใช้ ในสิ่งที่อาของคุณได้ทำกับพี่สาวของผมเอาไว้พาลิณี
นี่ เขารู้จักชื่อหล่อนด้วยหรือ และก็เพิ่งรู้ว่า ต้นตอมาจากญาติของหล่อน
“คุณภรณิชไงกับตนุ”
หล่อนยอมรับว่า ภรณิช เป็น อาสาวของหล่อน และบิดาของหล่อนรักน้องสาวคนนี้อย่างมาก
และทราบว่าอาสาวของหล่อนนั้นเพิ่งแต่งงานใหม่ กับชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีพื้นเพทางปักษ์ใต้ หากแต่ก่อนหน้านั้น อาสาวของหล่อนเคยแต่งงานมาแล้ว
และสามีเสียชีวิตเป็นเพราะอุบัติเหตุเมื่อปีที่แล้วแต่นั่นเอง แต่มากลางปีนี้เธอก็แต่งงานใหม่แบบสายฟ้าแลบกับนักธุรกิจเจ้าของฟาร์มหอยมุก ที่กระบี่
เอ..หรือ ที่นี่เป็นจังหวัดกระบี่ หรือว่าเขาคนนี้ อาจจะเป็นเจ้าของฟาร์มหอยมุก
“คงรู้เรื่อง แล้วใช่ไหม ว่าเรื่องทั้งหมด นี่ คือเรื่องจริง อย่างที่ผมบอกเอาไว้แล้ว และเกลือมันก็ต้องจิ้มเกลือ แค้นมันก็ต้องรดราดด้วยแค้นเหมือนกัน”
เขาตอกย้ำให้ฟังอีกครั้ง ประกาศด้วยเสียงกร้าว
พาลิณีไม่อยากได้ยิน หล่อนยกมือปิดหู หากแต่เขากลับตรงเข้าไป กระชากที่ข้อมือของหล่อน
“ฮึ ทนฟังไม่ได้ สินะ เพราะการกระทำ ของผู้หญิง หน้าด้านอย่างอาของเธอ”
พาลิณีอึ้งจนเนื้อตัวหล่อนชาไปหมด ถ้าเป็นเรื่องจริง แล้วละก็ ที่ อาสาวของหล่อนนั้นไปยื้อแย่งสามีของคนอื่น นั่นเพราะอาสาวเป็นคนที่ชอบสังคมและความฟุ้งเฟ้อ หรูหราชอบแต่งกายเปรี้ยว หากคำที่เขาเอ่ยมันก็มีมูลของความจริง ที่หล่อนไม่ ปฏิเสธ
“เอ๊ะ แต่ถึงแม้ว่า อาฉันจะทำลงไปจริงๆ แต่ฉัน ก็ไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย และฉันไม่รู้เรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ”
หากร่างสูงนั้น เขาตอบโต้หล่อนทันควันอีกครั้ง
“แต่มันก็ใช้นามสกุลเดียวกันนี่คิดว่ามันก็พอจะชดใช้แทนกันได้เพราะผมอุตส่าห์เก็บข้อมูลเกี่ยวกับตัวคุณไว้ตั้งมากมาย นานถึงสามเดือนทีเดียว กว่าจะเอาตัวคุณมาได้” โจรร้ายสารภาพถึงแผนการและบอกหล่อน