“...!!”
ทั้งพริมาทั้งโยธินต่างตัวแข็งทื่อไม่กล้าส่งเสียงร้องอุทานสักแอะ โยธินทำหน้าเครียดค่อยๆ ขยับเอวหนาเคลื่อนไหวเบาๆ
แต่เน้นจังหวะหนักหน่วงทุกครั้งที่กระแทกกระทั้นเอวเข้าหา ทำเอาเลขาสาวถลึงตาโตจิกเล็บกับบ่าแกร่ง ฟันคมขาวราวกับไข่มุกกัดกลีบปากล่างไว้กลั้นเสียงครางสะอื้นไว้
เพราะมีเวลาไม่มากและไม่อาจหยุดยั้งได้ ทั้งสองจึงร่วมแรงร่วมใจถาโถมใส่กันอย่างบ้าคลั่ง คลื่นยักษ์พัดถล่มสาดซัดรุนแรงครั้งแล้วครั้งเล่าจนสุดท้ายก็ทำลายราบเป็นหน้ากลอง
ชายหนุ่มหญิงสาวกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันบนพื้น ต่างนอนหอบหายใจแฮ่กๆ รอจนร่างกายกลับสู่ภาวะปกติ โยธินก็ถอนแก่นกายออกหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตมาเช็ดคราบน้ำรักที่เอ่อล้นกลีบกุหลาบแดงสวยออก ดันนิ้วกลางเข้าไปทีละข้อควานเอาน้ำส่วนที่เหลือออกป้ายใส่ผ้าเช็ดหน้า ก่อนจะพับเก็บยัดใส่เสื้อเชิ้ตตามเดิม
โยธินสวมชุดกลับเข้าที่เดิม แล้วเดินลงไปหยิบชุดเดรสที่เขาเป็นคนถอดออกและเหวี่ยงทิ้งกลับมาสวมให้ร่างอวบอัดเย้ายวน โดยมีสายตาของพริมามองตามการกระทำนุ่มนวลเอาใจใส่ของเขา
ผู้หญิงคนไหนที่ถูกเขาปฏิบัติตัวอย่างนี้ก็ต้องตกหลุมรักทั้งนั้น แต่เธอไม่กล้ามอบหัวใจให้เขา
ผู้ชายเจ้าชู้ที่เห็นผู้หญิงเป็นแค่ที่ระบายอารมณ์อย่างเขา ขืนมอบหัวใจให้สักวันหนึ่งเธอต้องพบกับความเจ็บปวดเหมือนผู้หญิงคนอื่นที่เคยถูกเขาทิ้ง
“พรีมคงเดินไม่ไหว เดี๋ยวผมอุ้มไปส่ง คงจะเดินไปขึ้นลิฟต์ในสภาพนี้ไม่ได้ด้วยสิ เดินขึ้นบันไดเอาแล้วกัน”
“แล้วคุณโยมาโผล่อะไรที่ชั้นห้าล่ะคะ”
พริมาที่ถูกอุ้มในวงแขนแกร่งก็ยกมือขึ้นตบหน้าผาก ถอนหายใจมองหน้าโยธินด้วยสายตาเอือมระอา คราวนี้ก็เดินขึ้นไปบนชั้นสิบซะให้เหนื่อยไปเลย ดันลากเธอมาเล่นรักกันข้างล่างเอง สมน้ำหน้า
“สมน้ำหน้าผมอยู่ในใจเหรอพรีม”
“ดูออกด้วยหรือคะ”
“ก็สายตาพรีมมันฟ้อง”
โยธินหยุดแวะที่ชั้นแปด เพราะขาเริ่มสั่นบ้างแล้ว พริมาเลยยันตัวลุกขึ้นยืนเอง โดยพิงผนังด้านข้างช่วยพยุงร่างอ่อนเปลี้ยไว้ไม่ให้ทรุดล้ม ดวงตาสวยเฉี่ยวฉลาดหลักแหลมเหลือบมองเจ้านายหนุ่มสุดฮอตแวบหนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองด้านบนพลางครุ่นคิดอะไรเงียบๆ
“ทำไมคุณโยถึงทำตัวเจ้าชู้นักล่ะ ไม่มีผู้หญิงที่ชอบสักคนเลยเหรอ”
“ก็ชอบพรีมไงล่ะ”
“โกหกสินะคะ” น้ำเสียงเย็นๆ กับแววตาไม่เชื่อถือของหญิงสาวทำให้อดีตคาสโนวาอย่างโยธินสะดุ้งสะเทือนเล็กน้อย
พรีมนี่ก็คิดมากคิดมายไปได้ ถ้าเขาไม่ชอบจะตามป้วนเปี้ยนวนเวียนอยู่รอบตัวเธอทำไม
“ผมพูดความจริงนะพรีม”
“ค่าๆ พรีมเชื่อ รีบขึ้นไปข้างบนก่อนที่คนอื่นจะมาถึงดีกว่าค่ะ ป่านนี้พวกพนักงานคงทยอยเข้าตึกกันเกือบหมดแล้ว”
“มาครับ เดี๋ยวผมอุ้มพรีมไปส่งถึงที่เลย”
“ก็สมควรต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วนี่คะ เพราะคุณโยเป็นคนลากพรีมลงมาข้างล่างให้ลำบากเอง รับผิดชอบการกระทำของตัวเองซะเถอะ”
“เฮ้อ คนสวยใจร้ายแบบนี้ทุกคนเลยรึเปล่า” ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองเลขาสาวด้วยสีหน้าอ่อนอกอ่อนใจ
พริมาเป็นผู้หญิงที่มีความเด็ดเดี่ยวมั่นใจในตัวเองสูง อะไรที่มองว่าไม่ถูกต้องก็จะเอ่ยปากต่อว่าตรงๆ ไม่กลัวว่าจะถูกไล่ออกเลยสักนิด ทำให้มีผู้ชายหลายคนในบริษัทหมายปองอยากได้มาเชยชมข้างกาย เสน่ห์เย้ายวนใจที่เจ้าตัวปล่อยออกมากำลังล่อลวงให้ภมรหนุ่มหลงใหล อยากลิ้มรสหวานล้ำจากเกสรดอกไม้สักครั้ง ไม่เว้นแม้แต่เขา
หนุ่มน้อยใหญ่ต่างขายขนมจีบเดินหน้านำของฝากราคาแพงมาให้เธออย่างเอาใจ แต่ก็ถูกปฏิเสธกลับมาหมด ส่วนเขาจะจีบเธอก็ทำไม่ได้เพราะตำแหน่งประธานมันค้ำคอ ถ้าไม่บังเอิญวันนั้นพริมาเมาหนักเดินเข้าห้องผิด ความสัมพันธ์ของพวกเราคงหยุดอยู่ที่เจ้านายกับลูกน้อง ไม่ได้ขยับไปเป็นอย่างอื่นเหมือนอย่างตอนนี้
เป็นความสัมพันธ์พิเศษ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นคนรัก ยังไม่ใช่ความรักหรอก
“คงมีสักวันที่เจ้านายเลิกเจ้าชู้ได้ และหลงรักใครจริงๆ สักที” เสียงไพเราะนุ่มหูกระซิบแผ่วเบาคล้ายพึมพำกับตัวเอง ทำเอาโยธินที่ได้ยินเข้านิ่งชะงักไปชั่วครู โดยที่สาวสวยในอ้อมแขนไม่ทันสังเกตเห็น ในดวงตาคู่คมมีแววเศร้าหมองวูบผ่าน
รักน่ะเหรอ...
ครั้งหนึ่งเขาเคยมีมัน และเชื่อว่าจะคงอยู่ตลอดไป ทว่าที่ไหนได้ความรักนั้นกลับถูกทำลายด้วยผู้หญิงที่เขารักหมดหัวใจ เธอจากไปโดยไม่เหลียวหลังกับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของเขา
ความรักไม่มีจริงหรอก ก็แค่สิ่งที่มนุษย์นิยามมันขึ้นมาเอง แต่ถ้าหากจะมีความรักไหนที่เชื่อถือได้ก็คงเป็นการรักตัวเอง
เพื่อไม่ให้กลับไปสัมผัสความเจ็บปวดเจียนตายซ้ำอีก จะไม่ยอมมอบหัวใจให้ใครทั้งนั้น!
พริมาไม่รู้ถึงความคิดนั้น เธอรู้ว่าตัวเองหลงรักเจ้านายหนุ่มมานานแค่ไหนแล้ว หากแต่ความเจ้าชู้มีอะไรกับผู้หญิงไปเรื่อยก็ทำเธอขยาด ต่อให้ตอนนี้เขาจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเธอแค่คนเดียว แต่ก็ใช่ว่าจะละทิ้งนิสัยเก่า ถ้ามีผู้หญิงมาอ่อยมาให้ท่า เขาอาจจะเผลอใจไปมีอะไรด้วยก็ได้ เธอถึงต้องเก็บซ่อนความรู้สึกนั้นไว้เป็นความลับตลอดไป
แล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ก็ได้เกิดขึ้นจริงในเวลาต่อมา...