คืนวันต่อมา
นี่ก็เป็นอีกคืนที่มินตรารู้สึกว่านอนไม่หลับและออกมาเดินเล่นที่หน้าบ้านพักของตัวเอง ในขณะที่ทุกคนหลับกันไปหมดแล้ว
ไฟในบ้านทุกหลังถูกปิดมืดสนิทมีเพียงแสงไฟรอบนอกของตัวบ้านและแสงจันทร์ที่ส่องลงมาพอให้เธอเห็นรอบๆ ตัว
หมับ!
"อื้อ!!" จู่ๆ เธอก็ถูกปิดปากจากทางด้านหลัง ก่อนที่จะถูกอุ้มลอยหายเข้าไปในความมืด เธอไม่สามารถส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากใครได้เลย
ลูกน้องอยู่เต็มบ้านขนาดนั้นมีโจรด้วยเหรอ?
"อื้อๆๆ!! งับ!!"
"โอ้ย!!" เสียงร้องจากด้านหลังทำให้มินตรารู้ทันทีว่าเขาเป็นผู้ชาย และน้ำเสียงมันก็ดูคุ้นหูเอามากๆ
"ไอ้บ้า! ไอ้คนเลว! เป็นโจรเหรอห๊ะ! ช่วยด้วยค่า ชะ...อุ๊บอื้อ!!"
"ชู่วว!! เธอจะแหกปากร้องทำไมเนี่ย"
"ปล่อย!!"
พรึบ!
และแล้วไฟก็ถูกเปิดขึ้นจนสว่างจ้า มินตรารีบหันหลังกลับไปมองคนที่พาตัวเธอมาที่นี่ทันที
"คะ คุณกร..."
"ไง....ตัวแสบ"
"คุณพามินมาที่นี่ทำไม"
"ฉันก็พาเธอมาเค้นเอาคำตอบไงล่ะ"
"คะ คำตอบอะไร มินไม่มีคำตอบอะไรให้คุณทั้งนั้นแหละ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก พร้อมกับก้มหน้าหลบสายตาของเขา
สำหรับมาเฟียอย่างเขาแค่นี้ก็มองออกแล้วว่าเด็กสาวตรงหน้ามีพิรุธมากแค่ไหน
"ถ้าไม่มีอะไรเธอก็มองหน้าฉันสิ ทำไมต้องหลบหน้าฉันด้วย?"
"กะ ก็คุณเล่นจ้องแบบนั้น ใครจะกล้ามองล่ะ"
"ฉันจะให้เธอสารภาพมาเอง เพราะถ้าฉันใช้ไม้แข็งเหมือนกับที่ฉันใช้กับพวกคนที่มันทรยศ เธอจะรับไม่ได้เอา"
"....."
"ว่าไง...สาวน้อย"
"มะ มินไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้นคุณพูดถึงเรื่องอะไร"
"หรือว่าจะให้ฉันบอกกับยายของเธอดี แล้วให้ยายของเธอลงโทษเอง"
"อยะ อย่านะ อย่าบอกยายมินนะ"
"บอกอะไร บอกว่าเธอแอบเข้ามาในบ้านของฉันเมื่อคืนน่ะเหรอ?"
"กะ ก็...."
"เธอรู้มั้ยว่าฉันจัดการไอ้พวกทรยศยังไง ถ้ามันไม่ร้ายแรงก็แค่จับตัดนิ้ว ตัดลิ้น ตัดหู แต่ถ้าหนักมาหน่อยก็ฆ่าให้ตายแล้วเอาศพโยนลงไปในบ่อจระเข้ หรือไม่ก็จับมันกดน้ำให้ตาย หรืออีกวิธีนึงก็เอายาพิษใส่ในข้าวให้มันกิน แล้วก็ค่อยให้มันตายอย่างทรมาน"
"....." มินตราถึงกับยืนตัวแข็งทื่อ น้ำเสียงของมาเฟียหนุ่มมันช่างเย็นยะเยือกไปถึงต้นคอของเธอ
"เอาไง จะยอมให้ฉันตัดนิ้ว หรือจะยอมสารภาพมาเองดีๆ"
"ฮึก!! ใช่...มินเป็นคนเข้ามาเอง!"
"เข้ามาทำไม...ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าแม่นมจะไม่บอกเรื่องนี้กับเธอ กฎของที่นี่คือกฎเหล็กถ้าใครไม่ทำตามก็อยู่ไม่ได้"
"ก็มินเห็นในบ้านเปิดไฟอยู่ก็เลยหวังดีจะเข้าไปปิดไฟให้ แล้วก็ได้ยินเสียงอะไรก็ไม่รู้ดังตับๆ ก็เลยคิดว่ามีโจรเข้ามาในบ้าน แต่ก็ไม่คิดว่า..." ไม่คิดว่าภาพตรงหน้าจะเป็นภาพผู้หญิงกับผู้ชายกำลังกระทำเรื่องอย่างว่ากัน
"หึ! โจรที่ไหนจะกล้าปล้นบ้านมาเฟีย เข้ามามันก็มีแต่ตายกับตาย ไม่มีใครอยากเอาชีวิตมาเสี่ยงหรอก"
"ก็ใครจะไปรู้ล่ะ คนอุตส่าห์หวังดี!"
"พูดดีๆ"
"ก็มินไม่รู้ไง"
"....."
"คุณเองก็น่าจะปิดประตูสักหน่อย ทำอะไรไม่อายฟ้าอายดิน" ประโยคหลังเธอพูดขึ้นมาเบาๆ เพราะกลัวว่ามาเฟียหนุ่มจะได้ยิน
"....."
"คุณอยากรู้แค่นี้ใช่มั้ย มินจะกลับไปนอนแล้ว"
"เธอยังกลับไม่ได้ ฉันยังกุมความลับของเธออยู่ หรือว่าเธออยากให้ยายของเธอรู้?"
"คุณจะเอาอะไรอีกคะ!?" เธอหันไปพูดกับเขาด้วยความโกรธที่ถูกเอาเรื่องนั้นมาขู่ สองมือกำเข้าหากันแน่น
"อยากเอาเธอ..."
"....."
"เหอะ! เด็กอย่างเธอเอาไปก็ไม่มันหรอก"
"ชิ!!"
"ไปหาอะไรให้ฉันกินหน่อยฉันหิว"
"ตอนเย็นไม่มีของสดเหลือหรอกค่ะ ของสดที่ทำแม่บ้านซื้อวันต่อวันไม่ได้ซื้อมาค้างไว้ในตู้เย็น ถ้าคุณหิวก็คงต้องรอกินพรุ่งนี้"
"อะไรก็ได้ที่กินได้ในตอนนี้ หรือว่าจะให้ฉันกินเธอ?"
"อ่า...เดี๋ยวมินไปหาอะไรให้กินก็ได้ค่ะ"
มินตราเดินเข้าไปในครัวและของที่เหลือก็มีเพียงมาม่ากับไข่อีกไม่กี่ฟอง และอาหารที่เธอทำให้เขาได้ก็คือมาม่าต้มใส่ไข่เพราะที่บ้านเธอเคยกินแบบนี้ และรสชาติมันก็ไม่ได้แย่
"มีเหลือแค่มาม่าอย่างเดียวค่ะ ไม่มีอะไรอย่างอื่นแล้ว"
"....." มาเฟียหนุ่มมองถ้วยมาม่าตรงหน้าอย่างชั่งใจ เกิดมาไม่เคยกินมาม่าต้มใส่ไข่แบบนี้เลย
"มินกลับแล้วนะคะ"
"เดี๋ยว..."
"คะ?"
"อยู่รอให้ฉันกินอิ่มก่อนแล้วเธอค่อยกลับ"
"....."
"เธอต้องล้างจานให้ฉันก่อน"
"แค่นี้ทำเองก็ได้มั้งไม่เห็นต้องใช้คนอื่นเลย เกิดเป็นลูกคุณหนูลูกคุณนายมันดีจริงๆ อะไรก็ไม่ต้องทำ" เธอบ่นพึมพำแล้วนั่งลงบนเก้าอี้
"ฉันได้ยิน..."
"....."
"เธอไม่กลัวฉันหรอ?"
"กลัวทำไมคะ?"
"ไม่รู้สิ มีแต่คนบอกว่าฉันน่ากลัว"
"....." ไม่เห็นจะน่ากลัวตรงไหนเลยน่ารำคาญมากด้วยซ้ำ // มินตราคิดในใจ
"เธอไม่อยากเรียนต่อหรอ?"
"ไม่ค่ะ เรียนไปก็ต้องเสียเงินอีก เสียเวลาทำมาหากินเปล่าๆ"
"อ่อ"
"รีบๆ กินสิคุณ มินจะได้กลับไปนอน เดี๋ยวพรุ่งนี้ถ้าตื่นสายยายก็บ่นอีก"
"แม่นมบ่นด้วยหรอ?"
"อือ..ค่ะ"
"กับฉันแม่นมไม่เห็นจะพูดอะไรเลย"
"....." ก็แหงล่ะลูกคุณหนูลูกเจ้านายใครจะไปกล้าบ่นกล้าว่าล่ะ ทำผิดแค่ไหนก็ต้องบอกว่าถูกเสมอเพราะเป็นลูกของเจ้านาย ไม่มีคำว่าผิดหรอก // มินตรานั่งคิดในใจ
"คราวหน้าคราวหลังถ้าเห็นอะไรได้ยินอะไรก็ไม่ต้องเข้ามา มันไม่ใช่เรื่องของเธอ และกฎของที่นี่คือห้ามเดินเพ่นพ่านภายในบ้านตอนดึกถ้าไม่จำเป็น"
"ค่ะ"
ต่อไปเขาคงจะพาผู้หญิงมามีอะไรที่ห้องนั้นไม่ได้อีกแล้วล่ะ เพราะมันมีเด็กขี้สงสัยคอยอยากรู้อยากเห็นอยู่ตลอดเวลาแบบนี้
มีผู้หญิงหลายคนที่เขาไม่ได้พามามีอะไรด้วยที่นี่ และผู้หญิงที่เคยมีอะไรกับเขาก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย ถึงเขาจะให้เงินเยอะหรือรวยหล่อมากแค่ไหนแต่ทุกคนก็รักชีวิตของตัวเองทั้งนั้น
เขาซาดิสม์ชอบเห็นผู้หญิงทรมานเหมือนจะตาย ในขณะที่เขากำลังจะสุขสมหวัง และผู้หญิงบางคนก็ถึงกับสลบคามือของเขาไปเลย
เขาไม่ได้อยากให้ใครเห็นด้านมืดตรงนั้นของตัวเอง
"คราวหน้าถ้าอยากจะเดินเล่นก็เดินเล่นในบ้านในห้องของตัวเอง ไม่ต้องออกมาข้างนอก"
"ค่ะ"
"กลับไปได้ละ"
"ค่ะ"