ด้วยเพราะวันนี้เป็นวันหยุดและฉันไม่มีงานที่ไหนจึงนอนขี้เกียจอยู่ในห้อง เมื่อคืนโทรหาเนสก็ไม่รับสาย ฉันน่ะเสียใจมากเลยนะที่เขาโกรธฉันอีกแล้ว
ครืด ครืด~
สมาร์ทโฟนสุดหรูสีเขียวเป็นสีที่ฉันชอบมากเลยนะ สีผมยังสีเขียวเลยคิดดู แล้วกัน ปลายสายเป็นเบอร์ของคุณฌอนที่โทรมาหาแต่เช้าเลย โทรมาเพื่ออะไร! “ค่ะ”
(“ทางซีรีส์ผู้กำกับแจ้งมาว่าให้สกายเปลี่ยนสีผมเป็นสีดำด้วยครับ”)
“ทำไมล่ะคะ?” ต้องลุกขึ้นเลยสิ มาบอกให้ย้อมสีดำเนี่ยกว่าฉันจะได้สีเขียว อมทะเลใช้เวลาเป็นวันเลยนะ
(“บทฟ้าใสเป็นผู้หญิงวัยยี่สิบที่ซื่อๆ ใสๆ นะครับ สีผมสกายสีนี้บทฟ้าใสคงเป็นนางร้ายแล้วล่ะ”)
“แหม ได้ทีต่อว่ากันเลยนะคะ”
(“อย่าลืมนะครับ ไปคนเดียวได้ใช่ไหม? ผมต้องเคลียร์คิวให้สกายด้วย”)
“ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันโทรหา ‘หนิม’ ให้ไปเป็นเพื่อนค่ะ”
วางสายจากคุณฌอนฉันก็ส่งข้อความหาหนิมเพื่อนคณะและปีเดียวกันทันที แม้ว่าเธอจะอ่อนกว่าฉันเพราะฉันต้องเรียนปีสี่ด้วยเพราะดรอปไว้เทอมแรกเป็นปี จนเพื่อนในรุ่นจบกันจนมีงานทำแล้ว แต่ฉันยังไม่จบและตั้งใจจะจบภายในสามเดือน ที่เหลือนี้ จะได้ทำงานได้อย่างสบายใจดีหน่อยที่ไม่ค่อยได้เข้าคลาสก็ได้หนิมช่วย เรื่องเรียน ตัวฉันเองก็คุยกับอาจารย์และเรียนออนไลน์เวลาว่างๆ
หนิมตกลงไปเจอกับฉันที่ห้างสรรพสินค้าและต้องไปย้อมผมสีดำอีก คงจะ ไม่ยากหรอกมั้งต้องกลับไปผมดำอีกแล้ว แต่ถ้าถ่ายซีรีส์เสร็จสัญญากับตัวเองเลยว่าจะรีบไปทำสีเก่าทันที ฉันสวมชุดวอร์มสีดำทั้งตัวรองเท้าผ้าใบสีขาว หมวกปีกรอบสีดำกับแว่นตาสีชา แมสปิดปากสีขาวที่ต้องแต่งตัวไปสาธารณะก็เพราะกลัวว่าใครจะจำได้น่ะสิ เวลาส่วนตัวจะใช้ยากนิดหน่อย
ลงลิฟต์เพื่อขับรถไปห้าง พอเห็นลิฟต์เรื่องเมื่อคืนก็ผุดขึ้นมาอีก ตาบ้านั่นทุเรศที่สุดคิดว่าฉันเป็นคนยังไงถึงคิดว่าฉันอยากจะมีเซ็กซ์กับเขา เหอะ หลงตัวเองชะมัด คิดว่าหล่อ แบดรอยสักเต็มตัวจะอ่อยแล้วฉันตกลงได้ง่าย คือฝันไปก่อนย่ะ!
รถบีเอ็มสีขาวสองประตูแล่นออกจากตัวที่พัก มาถึงห้างในเวลาไม่ช้าเพราะวันนี้รถไม่ค่อยติดเท่าไหร่ อาจจะเพราะวันหยุด คนก็เลยพากันไปเที่ยวที่อื่นแทน ฉันทิ้งตัวลงนั่งที่ร้านเบเกอรีประจำตรงข้ามคือหญิงสาวสวยรวยและเพอร์เฟคทุกอย่าง
“แต่งตัวจะไปปล้นร้านทองที่ไหนจ้ะ?”
“ไม่แต่งแบบนี้ คนเห็นก็แตกตื่นสิ”
“ฉันลืมไป ว่าเพื่อนสนิทฉันเป็นคนดัง” หนิมหัวเราะก่อนจะเรียกพนักงานมาเพื่อให้ฉันสั่งเค้กกับกาแฟตอนเช้า อันที่จริงฉันไม่ค่อยกินของหนักๆ ตอนเช้า ลดหุ่นอยู่ไงช่วงนี้ดูเหมือนจะมีเนื้อขึ้นมานิดหน่อย “แกได้ซีรีส์บทนางเอกแล้วสินะ”
“อือ”
“เป็นแบบใสๆ” หนิมมองฉันพลางทำหน้าเหยเก “แน่ใจเหรอ”
“ถึงต้องไปย้อมผมสีดำแล้วนี่ไง”
“เอาจริงใช่ปะ ฉันจะได้รอดู... เล่นกับพระเอกสุดฮอตด้วย” พอนึกไปถึง คุณขุน ฉันก็กลอกตาไปมา “อะไร ไม่สนใจหรือไงหล่อ รวย ล่ำ กำยำ”
“พอ จะบรรยายไปถึงไหน”
“ก็มันจริงนี้ เขาชอบเล่นเลิฟซีนแบบดุๆ ด้วยดิ เปลื้องผ้าอะไรแบบนี้ จูบจริง ไซ้จริงแล้วก็... คล้ายเอาจริง”
“หนิม!”
“แหมแต่เขาก็มีฝีมือ แกจะกลัวอะไรจริงไหม?” ไม่ได้กลัวเว้ย แต่พอยัยหนิมบรรยายมาแบบนี้ฉันก็ขนลุกขึ้นมา หรือจะคิดเอาคำพูดของคุณฌอนมาคิดดีไหมนะว่าให้ใช้มุมกล้องเอา
“เรต 18+ ด้วยนะ”
“ฉากอย่างว่าคงไม่เยอะหรอกมั้ง” ขอให้เป็นแบบนั้นแล้วกัน! รู้สึกกลัวขึ้นมาเลยแหะ แต่ดันผ่านจะปฏิเสธก็ยังไงอยู่ เดี๋ยวโดนหาว่าหยิ่งอีกทั้งที่ผู้กำกับออกปากชวนเองด้วย ฉันกำลังดังมีเหรอว่าคนจะไม่รอติดตามซีรีส์เรื่องแรกของฉัน “เอาน่า ถือว่าเป็นประสบการณ์แล้วกัน แต่แกก็มีแล้วนี้ประสบการณ์เรื่องบนเตียงอะ”
“หนิม”
“โอเค ไม่แซวแล้วกินเถอะ” ตักเค้กคีโตเข้าปากพร้อมจิบกาแฟดำ
“เออหนิม”
“ว่า” เพื่อนสาวเงยหน้าจากชีสเค้กบลูเบอร์รี เห็นกินแล้วอิจฉาชะมัด
“แกคิดว่าจะมีใครไม่รู้จักฉัน มันจะมีไหม”
“ถามอะไรของแก”
“ก็... ผู้ชายคนหนึ่งเขาเหมือนไม่รู้จักฉันอะ ก็เลยสงสัยว่ามีคนในประเทศ ไม่มีใครไม่รู้จักสกายเลยเหรอ?”
“คนเฒ่าคนแก่อะอาจจะมี ผู้ชายคนนั้นแก่แล้วล่ะมั้งถึงไม่รู้จักอะ”
“แก่ตรงไหน? ยังรุ่นๆ ยี่สิบปลายๆ” ใบหน้าสวยของเพื่อนมึนงงทันทีไม่ต่างจากฉันนักหรอก
“แสดงว่าเขาแทบจะไม่เปิดทีวี ไม่ก็ไม่เคยอ่านนิตยสารหรือก็ไม่เคยเล่น โซเชียล”
“จริงเหรอ” ดูจากรูปลักษณ์แล้วน่าจะเล่นโซเชียลนะ แต่ทำไมถึงไม่รู้จักฉัน
“แกจะให้ทุกคนมารู้จักแกก็ไม่ได้ไหม? มันก็ดีไม่ใช่เหรอ” มันก็ดีนั่นแหละ แต่ว่าเขาพูดจาได้น่าเกลียดมากนั่นแหละ
ขณะที่กำลังจิบกาแฟมองหนิมที่ไถไอแพดเพื่อส่งเอกสารการเรียนให้ฉันในเมล สมาร์ทโฟนก็สั่นครืนอยู่ในกระเป๋ากางเกงวอร์ม ปลายสายทำให้ฉันฉีกยิ้มกว้าง “เนส”
(“อยู่ไหนครับ”)
“กายมาห้างค่ะ นัดกับหนิม... เนสกลับแล้วเหรอ?”
(“อืม ผมรอที่ห้องนะ”)
“วันนี้เราดินเนอร์กันนะ กายอยากไถ่โทษ”
(“ได้ครับ”) เมื่อคุยกับเนสเรียบร้อยฉันก็บอกว่าจะซื้อของสดกลับไปด้วย วางสายจากเขาไปหนิมก็มองฉันด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“ฉันนึกว่าแกเลิกกับหมอนั้นแล้ว”
“ทำไมถามแบบนี้อะ”
“เปล่า เมื่อวานก่อนจะกลับฉันเห็นเนสมันเดินกับผู้หญิงในคณะ” มือที่กำลังตักเค้กเป็นอันหยุดชะงัก มองหนิมที่พยักหน้ารับ ไหนบอกว่าไปค้างบ้านดลไง?
“อาจจะเพื่อนๆ กันนั่นแหละ แกเห็นผู้ชายอีกคนไหมล่ะ”
“เห็นสิ”
“งั้นก็ใช่ เมื่อคืนเนสไปค้างบ้านเพื่อนทำรายงานกัน” เมื่อเคลียร์เรื่องที่หนิมเห็นก็จบเรื่อง ฉันไว้ใจเนสนะเขาไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นหรอก ผู้หญิงที่เห็นก็น่าจะเป็นเพื่อนกันนั่นแหละ
มาถึงร้านเสริมสวยที่เป็นร้านประจำ เจ้าของร้านถึงขั้นมาทำผมให้ฉันเองซึ่งทำผมเป็นสีดำมันทำง่ายมากใช้เวลาไม่ถึงสามชั่วโมงด้วยซ้ำ ผมฉันก็ดำแล้วแต่จะดำที่เหมือนย้อมไม่ได้ธรรมชาติเท่าไหร่ แต่ก็พอถูไถไปได้นะ