"คุณท่านกับคุณหญิงเชิญให้ไปทานอาหารเย็นค่ะ"
"เดี๋ยวฉันตามลงไป"
"คุณท่านบอกให้รีบด้วยนะคะ"
"อืม" เขาตอบสั้นๆแล้วปิดประตูแล้วเดินกลับไปที่เตียงนอนมองเมียเด็กแสนขี้เซาแล้วก็ชักจะหวั่นใจว่าชีวิตต่อจากนี้จะเต็มไปด้วยความวุ่นวายจนแทบจะแยกประสาทออกจากกันไม่ทันและเหตุผลหลักๆก็น่าจะเป็นเพราะเธอด้วยสิเพราะดูแล้วว่าน่าจะแสบไม่เบา
"ตื่นแล้วมั้งจะนอนไปถึงไหน!" มือจับขาเล็กเขย่าเบาๆยัยหนูอายตาก็เบ้ปากใส่แล้วดึงผ้าห่มมาคลุมไปทั้งตัวเหมือนว่าเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งไม่ใช่วัยรุ่นเฟี้ยสจัดเหมือนตอนกลางวัน
"พ่อแม่หนูรอแล้วอายตา" เขาก็ไม่รู้หรอกว่าจะโดนสอบสวนอะไรบ้างเพราะตอนนี้เราอยู่ในบ้านไม่ใช่นอกสถานที่อย่างร้านกาแฟ พ่อแม่ของเธอเป็นคนนิสัยยังไงไม่รู้แต่คงจะต่างกับพ่อแม่ของเขามากและคงตามใจลูกสาวคนเดียวที่สุดเลยด้วย
"เฮ้อ...น่าเบื่อ!"
"อย่าให้ผู้ใหญ่รอนาน"
"รอหนูล้างหน้าแป๊ปหนึ่งนะ พ่อแม่จะเอาของขวัญมาให้ด้วยเมื่อคืนวันเกิดหนู"
"ชอบอะไร? กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้าหรือเครื่องประดับ"
"จะซื้อให้เหรอ?"
"ก็เราเป็นแฟนกันนี่จะไม่ซื้อให้ได้ไงเล่า หนูชอบอะไร?"
"ไม่รู้สิ! อยากซื้ออะไรก็ตามใจแต่ไม่เอารองเท้านะเพราะไม่มีที่จะเก็บแล้ว"
เขาก็ไม่เคยซื้อของขวัญวันเกิดให้คนรักมาห้าปีแล้วแบบนี้จะเลือกถูกเหรอและที่สำคัญเขาไม่ใช่คนนิยมคบเด็กขนาดนี้ด้วยนะ ที่ผ่านมาก็แค่เซ็กซ์แทบจะไม่ได้สานสัมพันธ์อะไรต่อเลยหรือกับบางคนก็ยังเป็นเพื่อนที่มีความสัมพันธ์ทางกายอย่างหนักหน่วงแต่ไม่เคยมีสถานะมากกว่าเพื่อนเท่านั้นและไม่มีครั้งไหนเอาใจลงไปเล่น
เขาไม่ชอบเด็กเพราะเบื่อความงี่เง่าเอาแต่ใจตัวเองแถมบางคนยังพูดคุยยากเกินจะทนไหว แต่ไม่รู้ทำไมถึงอยากจะคบกับอายตาด้วยทั้งที่ก่อนหน้านี้เราก็ไม่เคยเจอกันมาก่อน มันเป็นตลกร้ายตรงที่เธอไม่อยากจะมีใครสักคนนี่สิและด้วยฐานะร่ำรวยขนาดนี้เงินแค่สิบล้านคงไม่สามารถรั้งไว้ได้หรอกถ้าเธอจะยกเลิกสัญญาที่ให้ไว้ว่าจะแกล้งคบกันเพื่อหลอกทุกคน
เธอกำลังสนุกในความแปลกใหม่แต่ว่าเขากลับคิดอยากคบจริงจัง!
กลิ่นความฉิบหายลอยมาแล้ว!!
"เหม่ออะไรอะ?"
"พี่แค่คิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไรเป็นของขวัญให้เมียดี"
"คบหลอกๆจะจริงจังอะไรนักหนา!?"
"เดี๋ยวไม่เนียน!"
"อย่าเวอร์น่า! บ้านหนูไม่มีคนมาจับผิดขนาดนั้นหรอก รู้ไหมว่าต่อให้เราจะรักหรือจะเลิกพ่อแม่หนูก็ไม่ได้ว่าอะไรแค่อย่าให้การเรียนตกต่ำก็พอ สามเดือนต่อจากนี้ก็คิดแค่กำลังเล่นสนุกเฉยๆไม่เห็นต้องใส่ใจอะไรเยอะแยะเลยด้วยซ้ำ เราคบกันหลอกๆให้พี่ไม่ต้องถูกจับแต่งงานแค่นั้นเอง พอครบกำหนดเราก็แกล้งทะเลาะแล้วเลิกกัน"
"หนูนี่คิดอะไรง่ายๆดีนะ"
"ก็ถ้ารู้ว่าชั่วคราวแล้วจะเอาใจลงไปเล่นทำไมล่ะ ไปกันเถอะเดี๋ยวพ่อแม่จะรอนาน" เธอจับมือเขาดึงให้ลุกออกจากเตียงแล้วไปกินข้าวเย็นสักทีเพราะว่าตอนนี้ท้องเริ่มเรียกร้องหาอาหารแล้วล่ะ
พ่อแม่ยิ้มกว้างไม่ได้พูดคุยถึงเรื่องวันนี้เลยสักคำคาดว่าคงจะเคลียร์จบหรือไม่ได้สำคัญมากพอจะเก็บเอามาใส่ใจด้วยซ้ำ เธออายุสิบเก้าปีสามารถเรียนโดยที่ไม่โดนไล่ออกเท่านี้ก็ดีมากแล้ว พ่อแม่วางกล่องของขวัญคนละสีไว้ให้แล้วแม่บ้านก็ยกเค้กมาพอดีกับที่ไฟทั้งบ้านดับสนิท
"มีความสุขมากๆนะยัยหนูของพ่อ เป็นเด็กดีต่อไปนานๆแล้วอย่าดื้อมากล่ะ หนูไม่โสดเหมือนเมื่อก่อนแล้วทำอะไรคิดเยอะๆเอาแต่ใจตัวเองมากไม่ได้แล้วนะ"
"พ่ออะ!"
"น้องอายตาของแม่ยิ่งโตยิ่งสวยขึ้นทุกวัน แม่ขอให้หนูเจอแต่สิ่งดีๆคนดีๆและทุกอย่างที่ดีวิ่งเข้ามาหาลูกเลยนะ อ่อ...ปีนี้มีแฟนแล้วก็ปาร์ตี้ลดลงหน่อยสงสารพี่เขาเวลาหนูเมา"
"นี่จะเผาหนูเหรอคะ?"
"หรือไม่จริงละคะน้องอายตา"
"งั้นต่อไปถ้าไปเที่ยวหนูก็จะลากพี่มิเกลไปด้วยพ่อแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ"
"ปีนี้ยัยหนูอายุสิบเก้าแล้วขอให้เป็นเด็กดีนานๆมีความสุขเยอะๆนะครับแล้วถ้ามีเรื่องอะไรบอกพี่ได้เลยนะ ทุกเรื่องในชีวิตของหนูพี่จะร่วมอยู่ด้วยทุกอย่างไม่ว่าทุกข์หรือสุข"
"อวยพรเหมือนเราแต่งงานกันงั้นแหละ!" เธอหันไปบ่นเบาๆเพราะรู้สึกแปลกใจในคำอวยพรของเขามากที่สุดเลยแต่ก็คงไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอกมั้ง เค้กวันเกิดสีม่วงพาสเทลขนาดสองปอนด์แบบที่ชอบปักด้วยเทียนน่ารักเป็นรูปตัวเลขอายุของเธอ
ของขวัญวันเกิดปีนี้ได้มาเฟียมาเป็นของเล่น!
...ดีจริงๆเลยนะ!!
เพียงแค่เป่าเทียนดับไฟทั้งบ้านก็เปิดสว่างอีกครั้ง เธอกับพี่มิเกลช่วยกันตัดเค้กแจกจ่ายให้พ่อแม่เป็นคนแรกแล้วแบ่งให้กับแม่บ้าน คนสวนและคนขับรถเนื่องจากว่าเยอะพอสมควรถ้ากินคนเดียวคงไม่หมดแน่นอน
พ่อได้วิสกี้ขวดใหม่มาส่วนแม่ก็เปิดไวน์เก่าเก็บจนไม่แน่ใจว่าบ่มไว้กี่ปีกว่าจะเปิดขายในจำนวนจำกัด เธอดื่มได้หมดทุกอย่างไม่มีเกี่ยงและเมื่อมีเสียงเพลงคลอเบาๆพ่อกับแม่ที่เริ่มเมาก็จับมือเต้นรำส่วนเธอก็นั่งซบไหล่คนตัวใหญ่ที่ลวมลามกันไม่หยุดสักที
"ครอบครัวหนูดูมีความสุขกันจัง"
"ก็สุขแต่ไม่สุดหรอก พ่อแม่เป็นเพื่อนกันไม่ได้มีความรักแบบผัวเมียทั่วไปแต่พวกเขาก็พยายามเป็นพ่อแม่ที่ดีอยู่นะ"
"หนูดูไม่ค่อยดีใจนะ"
"ลองได้เห็นพ่อแม่เปลี่ยนคู่ขาไม่ซ้ำหน้าตั้งแต่เด็กจนโตแล้วต้องสร้างภาพครอบครัวอบอุ่นดูสิคะพี่จะเข้าใจมากขึ้น" เธอเองก็ซึมซับพฤติกรรมแบบนั้นมาจนกลายเป็นคนไม่เชื่อถือในความรักแบบนี้ไง พี่มิเกลหันมาจูบปากแผ่วเบาก่อนจะวางแก้ววิสกี้แล้วดึงแก้วไวน์ออกจากมือของเธอไปวางไว้แล้วลุกขึ้นยืนตรงหน้าพลางยื่นมือมาคล้ายว่ากำลังขอให้เต้นรำ
มาเฟียทำอะไรโรแมนติกเป็นด้วยเหรอ?