พื้นเพเดิม
สายรุ้ง เหล่าอมรกุล หรือ รุ้ง ลูกสาวคนเล็กของเจ้าสัวเปา มหาเศรษฐีเจ้าของร้านทองที่มีสาขาทั่วประเทศกว่า 50 สาขา เจ้าสัวเปาเดิมทีเป็นจีนฮกเกี้ยน บรรพบุรุษอพยพมาตั้งถิ่นฐานอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 การแต่งงานภายในตระกูลทุกรุ่นจะแต่งกับคนจีนด้วยกัน ผ่านการจับคลุมถุงชนด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น จนมาถึงลูกสาวคนสุดท้องของเจ้าสัวที่เกิดจากภรรยาเอก หากไม่ติดว่ายังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่สายรุ้งก็คงถูกบิดาจับใส่ถุงชนกับคนอื่นไปแล้ว
เจ้าสัวเปา หรือ บารมี เหล่าอมรกุล อายุ 60 มีภรรยาด้วยกัน 3 คน ซึ่งภรรยาของเจ้าสัว 2 คนหลังนั้น ต่างก็เต็มใจที่จะเข้ามาเป็นอนุภรรยาของเจ้าสัว และภรรยาเอกก็เต็มใจมองว่าเป็นธรรมเนียมที่สามีจะมีภรรยาได้หลายคน ครอบครัวของเจ้าสัว เหล่าภรรยาไม่ได้ตบตีกันเหมือนในละคร แต่กลับรักใคร่กันดี และช่วยกันเลี้ยงดูลูกอย่างดี
ภรรยาเอกของเจ้าสัวมีชื่อว่า กิมหงษ์ เหล่าอมรกุล อายุ 54 ทุกคนในบ้านต่างเรียกกันว่า 'แม่ใหญ่' เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของเจ้าของร้านทองเช่นเดียวกับเจ้าสัว หลังแต่งงานจึงมีการรวบกิจการของสองร้าน จึงก่อให้เกิดสาขาและกลายเป็นร้านทองที่มีอำนาจและมีสาขามากภายในเวลาไม่นานนัก เธอมีลูกกับเจ้าสัว 3 คน คือ เมฆา อายุ 34,วายุ อายุ 32และสายรุ้ง อายุ 20 บุตรชายทั้งสองนั้นแต่งงานไปแล้วเรียบร้อย
ภรรยาคนที่ 2 ของเจ้าสัวคือ ประภา จงชิดสกุล อายุ 49 ทุกคนในบ้านขานเรียกว่า 'แม่รอง' เธอเป็นลูกสาวเพื่อนสนิทของบิดาเจ้าสัวเปา ก่อนตายเพื่อนสนิทคนนี้ได้ฝากฝังบุตรสาวคนเล็กให้เจ้าสัวดูแล เจ้าสัวจึงรับมาเป็นภรรยาอีกคน ประภาเข้ามาเป็นภรรยารองของเจ้าสัวหลังจากเมฆาและวายุโตแล้ว เธอมีลูกชายกับเจ้าสัว 1 คน คือ ทิวา อายุ 24
คนสุดท้ายภรรยาคนที่ 3 ของเจ้าสัวคือ บุหลัน ตั้งอรุณรัตน์ อายุ 44 ทุกคนในบ้านเรียกเขาว่า 'แม่เล็ก' เป็นบุตรสาวของลูกหนี้เจ้าสัวที่เปิดร้านขายยาจีน เดิมทีบิดาพามาขัดดอกให้ทำงานรับใช้แม่ใหญ่ แต่ไปๆมาๆบิดาตายเจ้าสัวสงสารจึงส่งให้เรียนจนจบ และเมื่อเรียนจบแล้วเธอเสนอตัวเองขอเป็นอนุภรรยาเจ้าสัวเพื่อตอบแทน เมื่อภรรยาทั้ง 2 คนอนุญาต เจ้าสัวจึงรับเธอมาเป็นเมียอีกคน เธอมีลูกชายกับเจ้าสัว 2 คน คือ สายฟ้า อายุ 20 และ สายลม อายุ 16
สายฟ้าและสายรุ้งนั้น ทั้งคู่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่อนุบาล 1 จนถึงมหาวิทยาลัย ทั้งคู่เลือกที่จะเรียนบัญชีเพื่อที่ในอนาคตจะมาสานต่อกิจการของครอบครัว เจ้าสัวไม่ได้บีบบังคับลูกแม้แต่คนเดียวในการเลือกเรียนสิ่งที่ชอบ ใครๆก็มักคิดว่าสายฟ้าและสายรุ้งเป็นฝาแฝดกัน ด้วยทั้งคู่มีหน้าตาที่เหมือนกันมากๆ แถมเจ้าสัวยังตั้งชื่อให้สอดคล้องกันอีก นิสัยของทั้งคู่ก็คล้ายๆกัน ทั้งๆที่สายฟ้าเกิดก่อนสายรุ้งถึง 5 เดือน ด้วยความสนิทสนมในวัยเดียวกันทำให้สายรุ้งสนิทกับสายฟ้ามากกว่าพี่ชายแท้ๆของตัวเอง ที่อายุห่างจากเธอเป็นสิบปี
....วันตรุษจีน....
เจ้าสัว : สายรุ้งไปไหน
สายลม : จี้ยังไม่ตื่นเลยป๊า
เจ้าสัว : ไปลากมันลงมา
จบคำของเจ้าสัวสายฟ้ารีบกุลีกุจอขึ้นไปปลุกสายรุ้งทันที เขารู้ดีว่าหากช้ากว่านี้สายรุ้งยังไม่ลงไป เธอจะต้องโดนแม่ใหญ่ฟาดด้วยไม้เรียวแน่ๆ
สายฟ้า : รุ้ง ตื่น!!!!!
สายรุ้ง : อะไรว่ะ ยังเช้าอยู่เลย
สายฟ้า : พ่อมึงให้มาตามไปไหว้เจ้า
สายรุ้ง : พ่อกูก็พ่อมึงด้วยนั่นแหละ
สายฟ้า : เฮ้อ!!!
สายรุ้ง : เดี๋ยวนะ..ไหว้เจ้า
สายฟ้า : เออ
สายรุ้ง : แล้วทำไมเพิ่งบอก ไอเชี่ยฟ้า
สายรุ้งรีบล้างหน้าแปรงฟันและเปลี่ยนชุด ใส่เป็นกี่เพ้าสีแดงสดที่แม่ใหญ่เตรียมไว้ให้แบบทุกปี เด็กสาวตัวผอมบาง ผมสั้นประบ่ามีหน้าม้าบางๆ มัดผมครึ่งหัวผูกโบว์สีแดงแบบลวกๆ กึ่งเดินกึ่งวิ่งลงบันไดบ้านมา ทุกคนจับตามองเธอด้วยความตลก ไม่มีสักปีที่เธอจะพร้อมในการไหว้เจ้า
เจ้าสัว : ช้าทุกปีเลยนะ
สายรุ้ง : รีบสุดตีนแล้วป๊า
เจ้าสัวส่ายหน้าให้ลูกสาวด้วยความระอา เมื่อเสร็จสิ้นพิธีการ ทุกคนต่างช่วยกันเก็บของไหว้เจ้า และล้อมวงร่วมกันรับประทานอาหาร โต๊ะถูกแบ่งเป็น 3 โต๊ะ คือ โต๊ะแรกของเจ้าสัวและเหล่าภรรยา โต๊ะที่สองเป็นของ เมฆา วายุ และภรรยา, ทิวากับแฟนสาว โต๊ะที่ 3 เป็นของสายฟ้า สายรุ้ง สายลมและลูกๆของเมฆากับวายุ โต๊ะสุดท้ายนั้นดูจะวุ่นวายมากที่สุด สายฟ้ากับสายรุ้ง ไม่ได้เป็นพี่ที่ดูแลเด็กๆ แต่ทำตัวเป็นหัวหน้าแก๊งค์เด็กต่างหาก
สายรุ้ง : เก็บไก่ให้ด้วย จี้จะไปนอน เดี๋ยวมากินต่อ
สายลม : เป็ดได้มั๊ยจี้ ลมอยากกินไก่อีก
สายรุ้ง : ถ้าไม่ใช่ไก่ มึงตาย!!!
สายรุ้งมักข่มขู่สายลมอยู่เสมอ และสายลมก็กลัวเธออย่างกับกลัวผี ในวัยเด็กสายลมเคยถูกสายฟ้ากับสายรุ้งแกล้งผีหลอกจนเป็นไข้มาแล้ว ด้วยความแสบของทั้งคู่ จึงโดนแม่ใหญ่ตีบ่อยๆ บางครั้งแม่เล็กก็เหนื่อยกับการไล่จับเด็กทั้งสองคนให้อาบน้ำ อ่านหนังสือ ทำการบ้าน จนสุดท้ายต้องขอช่วยให้แม่ใหญ่จัดการอยู่บ่อยครั้ง ด้วยความที่สายรุ้งเป็นลูกสาวคนเดียวของเจ้าสัว ชีวิตห้อมล้อมไปด้วยพี่น้องผู้ชาย เธอจึงมีนิสัยที่ห้าวหาญไม่กลัวใคร อีกทั้งยังซุกซนยิ่งกว่าเด็กผู้ชายเสียอีก
ในสมัยเรียนมัธยมปลายมีหลายครั้งที่สายรุ้งมีเรื่องกับเพื่อนที่โรงเรียน และทุกครั้งเพื่อนที่มีเรื่องด้วยจะเป็นเด็กผู้ชาย จนเจ้าสัวเปายื่นคำขาดหากมีเรื่องอีกจะให้ลาออก ส่งไปอยู่เมืองจีน ไปช่วยญาติที่เมืองจีนปลูกผักเลี้ยงสัตว์ ด้วยความที่อยากท้าทายอำนาจมืดของบิดา สายรุ้งก็มีเรื่องจนสุดท้ายบิดาส่งเธอไปจริงๆ เมื่อสายรุ้งไปอยู่ที่เมืองจีนได้ไม่ถึงอาทิตย์ก็ร้องโอดครวญขอกลับมาเมืองไทยพร้อมทั้งเป็นคนเสนอให้ทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะเป็นเด็กดี ไม่ดื้อ ไม่ซน ไม่มีเรื่องอีกแล้ว
ความยากลำบากในการใช้ชีวิตในแถบชนบทของจีน สภาพห้องน้ำห้องส้วมที่ไม่สะดวกสบาย สภาพอากาศที่หนาวจนสุดขั้วหัวใจ ทำให้สายรุ้งทนไม่ไหว และขอไปตายเอาดาบหน้าที่เมืองไทยจะดีกว่า ในระหว่างที่เธออยู่เมืองจีน 1 อาทิตย์ ญาติของบิดาดูแลเธออย่างดี แต่เธอต้องตื่นตี 4 ทุกวัน ไร้การติดต่อ ไร้การเล่นโซเชียล ทุ่มนึงต้องเข้านอน ชีวิตที่ไร้แสงสีทำให้เธอทำใจอยู่ต่อไม่ได้จริงๆ
***คำศัพท์ฮกเกี้ยน***
จี้ = พี่สาว