ตอนที่ 1
เลขาเฉิ่มอุ้มรัก
EP 1
“เข้ามาครับ”
จบเสียงอนุญาตทุ้มทรงอำนาจ เรือนร่างของผู้หญิงที่มีส่วนสูงประมาณหนึ่งร้อยหกสิบเซ็นติเมตรก็ก้าวเข้ามาภายในห้องทำงานกว้างที่ตกแต่งอย่างเรียบหรูมีสไตล์ของ ธีธัช จรรยาธาดากุล
มิรดา อาภากร เลขาผู้ทรงประสิทธิภาพของประธานกรรมการใหญ่ของบริษัทการเงินยักษ์ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และติดหนึ่งในห้าของทวีปเอเชีย
เขาเข้ามารับช่วงบริหารงานที่นี่ต่อจากคุณพ่อที่ว่างมือไปได้เกือบๆ ห้าปี ซึ่งตอนนั้นหญิงสาวก็ทำงานอยู่ที่นี่แล้ว แต่เพิ่งเข้ามาทำงานได้เพียงแค่สองเดือนเศษ
เขารับช่วงงานต่อจากบิดา และก็รับช่วงเลขาหน้าห้องต่อจากท่านด้วยเช่นกัน
ตอนแรกเขาปรามาสหญิงสาวเอาไว้ว่าไม่มีทางทนทำงานกับผู้ชายเจ้าระเบียบ และทุกอย่างต้องถูกต้องตรงเป๊ะไร้ที่ติ เพราะคนอย่างเขาไม่เคยรู้จักคำว่าผิดพลาดมาก่อน แต่มิรดากลับทำทุกอย่างได้ตรงตามความต้องการของเขาจนน่าทึ่ง
ไม่มีคำว่าผิดพลาดในการทำงานของหล่อนเช่นกัน
เพราะอย่างนี้ไงล่ะ เขากับหล่อนจึงร่วมงานกันมาถึงห้าปีเต็ม ตั้งแต่หล่อนอายุยี่สิบเอ็ดจนตอนนี้หล่อนอายุยี่สิบหกแล้ว
แต่ถึงแม้วันเวลาจะเคลื่อนผ่านไปหลายปี แต่แม่เลขาทรงประสิทธิภาพตรงหน้าก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปจากครั้งแรกที่เจอกัน
หล่อนยังคงเหมือนเดิม...
สวมแว่นหนา
ทำผมทรงคุณยายคลุมทับด้วยเน็ตตาข่ายสีดำบ้างกรมท่าบ้าง และก็...
ไม่แต่งหน้าเลย
ความจริงเขาเคยบอกหล่อนหลายหนแล้วว่าให้เปลี่ยนการแต่งตัว และแต่งหน้ามาทำงาน เพื่อที่จะได้คู่ควรกับตำแหน่งเลขาฯ ของท่านประธาน แต่หล่อนกลับย้อนกลับมาว่า...
หน้าตาไม่ได้สำคัญเท่ากับประสิทธิภาพในการทำงาน
ใช่ หล่อนพูดได้ถูกต้องทุกอย่าง และเขาก็ไม่มีเหตุผลใดจะคัดค้านด้วย ทำให้เขาไม่เคยยื่นมือเข้าไปก้าวก่ายเรื่องการแต่งตัวของมิรดาอีก
หล่อนจะเฉิ่มเชยแค่ไหนก็ได้ ตามใจหล่อนเลย ขอแค่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนเดิมก็พอแล้ว
จริงไหม...?
“ถุงยางอนามัยไซส์พิเศษจากอิตาลีมาถึงแล้วค่ะบอส”
ใบหน้าของมิรดาเรียบเฉย ไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆ ขณะเดินเข้ามาหยุดใกล้กับโต๊ะทำงานไม้ตัวใหญ่ของเจ้านายสุดหล่อ และวางกล่องถุงยางอนามัยที่สั่งทำพิเศษขึ้นมาเพื่อธีธัชโดยเฉพาะลง
ธีธัช ผู้มีเจ้าโลกใหญ่จนต้องสั่งทำถุงยางอนามัยรุ่นพิเศษโดยเฉพาะ และหล่อนก็รับหน้าที่จัดหาจัดการเรื่องนี้ให้กับชายหนุ่ม ตั้งแต่วันแรกที่เจ้านายสุดหล่อเข้ามาบริหารงานที่นี่
ธีธัช จรรยาธาดากุล ประธานกรรมการใหญ่ของบริษัทฯ การเงินชื่อดัง เขาคือหนุ่มโสด และหล่อมาก ผู้หญิงล้วนแต่วิ่งเข้าใส่ จึงไม่แปลกที่ชายหนุ่มจะมีผู้หญิงห้อมหน้าห้อมหลัง จนต้องให้เลขาฯ อย่างหล่อนเป็นคนช่วยจัดคิวให้
“รอบนี้มากี่กล่องครับ จะพอผมใช้ถึงเดือนหรือเปล่า”
“มาห้ากล่องค่ะ”
หล่อนตอบเสียงเรียบ สีหน้าไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมา
“หากบอสใช้งานคืนละไม่เกินห้าชิ้น ก็น่าจะพอใช้ถึงเดือนค่ะ”
“โอเค ผมมั่นใจว่าคุณคำนวณไม่พลาดหรอก”
“ค่ะบอส”
หล่อนโค้งศีรษะให้ ก่อนจะถอยหลังออก เพื่อจะออกไปนอกห้อง แต่เจ้านายหนุ่มเรียกเอาไว้เสียก่อน
“คืนนี้คิวของใครหรือ”
แววตากลมโตที่มักจะซ่อนอยู่ใต้แว่นหนาเสมอชะงักเล็กน้อย ก่อนจะตอบ
“คุณแพ๊ตตี้ค่ะ นางแบบลูกครึ่งไทยสิงคโปร์ คนที่เคยมาถ่ายโฆษณาให้บริษัทค่ะ”
ธีธัชเลิกคิ้วครุ่นคิดอยู่เล็กน้อย ก่อนจะปฏิเสธออกมา
“คนนี้นมเล็ก และก็ผอมเกินไปด้วย ผมไม่ชอบ หาคนอื่นมาแทนนะ”
“ได้ค่ะบอส”
มิรดาตอบรับทุกอย่างที่เจ้านายสั่งไม่เคยขัด ไม่ว่าจะต้องบุกน้ำลุยไฟไปหามา หล่อนก็จะต้องนำมาประเคนเจ้านายให้จงได้
“โอเค สิบโมงครึ่งมีประชุม เข้ามาเตือนผมด้วยล่ะ”
“ได้ค่ะบอส”
แล้วเลขาฯ ดีเด่นก็ถอยหลัง และหมุนตัวเดินออกไปจากห้องทำงานของเขา
ธีธัชระบายยิ้มพึงพอใจ ขณะเอนกายพิงกับพนักเก้าอี้ด้วยความผ่อนคลาย
“ถ้าไม่มีคุณ ผมคงต้องแย่แน่ๆ เลย มิรดา”
“หกโมงตรง รถจะไปรับคุณมินนี่ที่หน้าคอนโดนะคะ ตามนี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
มิรดาวางสายจากผู้หญิงที่ตัวเองติดต่อให้กับธีธัชแทนนางแบบลูกครึ่งไทยสิงคโปร์ที่ธีธัชปฏิเสธที่จะขึ้นเตียงด้วย
กลีบปากอิ่มเต็มที่มีเพียงลิปสติกสีชมพูอมส้มจางๆ แต้มอยู่เผยอออกจากกัน และพ่นลมออกมาแผ่วเบา
หล่อนทำหน้าที่เป็นเลขาฯ ของธีธัชทั้งเรื่องงานและก็เรื่องส่วนตัว ทำอย่างนี้มาห้าปีเต็มแล้ว และก็คงจะต้องทำต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าธีธัชจะไม่ต้องการหล่อนนั่นแหละ
แว่นตาหนาถูกถอดออกมาวางบนโต๊ะ เผยดวงตากลมโตที่มีขนตายาวงอนสีดำขลับล้อมกรอบเอาไว้
ตอนแม่ยังมีชีวิตอยู่ ท่านเคยบอกว่าหล่อนมีดวงตาที่หวานมาก ใครเห็นก็ต้องชื่นชม และหล่อนก็เคยภูมิใจกับมัน
แต่ตอนนี้หล่อนต้องหลบซ่อนมันเอาไว้ภายในแว่นหนาทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้สายตาสั้นแต่อย่างใด นั่นก็เพียงเพราะว่า หล่อนต้องการซ่อนความรู้สึกของตัวเองเอาไว้จากใครบางคน
ธีธัช...
เจ้านายเพลย์บอยสุดหล่อของหล่อน
เขาคือผู้ที่กุมดวงใจของหล่อนเอาไว้ทั้งดวง ตั้งแต่แรกเห็นหน้า
เขาไม่มีทางรู้หรอกว่าหล่อนหวั่นไหว และก็ฟุ้งซ่านแค่ไหนเมื่อได้ทำงานร่วมกับเขา แต่เขาก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า เขาคือสมภารที่ไม่มีทางกลืนกินไก่ในวัดของตัวเอง
หล่อนมีสิทธิ์แค่เพียงแอบรัก แต่ไม่มีสิทธิ์ที่จะแสดงมันออกไปเลย
ดังนั้นการได้ทำงานร่วมกับเขาทุกวัน ได้มองเขาในเวลาที่เขาเผลอ ได้พูดคุยกับเขา ได้เห็นรอยยิ้มสดใสของเขา มันจึงมีค่ากับหล่อนมากมายเหลือเกิน เพราะอย่างนี้ไง ตลอดห้าปีที่ผ่านมา หล่อนถึงไม่เคยลาหยุดงานเลย
หลายครั้งที่หล่อนอิจฉาผู้หญิงพวกนั้น และหลายครั้งที่หล่อนอยากจะขึ้นไปทำหน้าที่บนเตียงแทนพวกหล่อน แต่ก็จำต้องหยุดคิด เพราะหากหล่อนทำเช่นนั้นลงไป ธีธัชจะไม่มีวันยอมทำงานร่วมกับหล่อนอีก และแน่นอนว่า หล่อนจะไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิด หรือว่าเห็นหน้าเขาอีกเลยชั่วชีวิต
หล่อนต้องเก็บซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงเอาไว้ภายในใจ เก็บซ่อนเอาไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึก
แม้ว่าจะรักเขามากมายแค่ไหนก็ตาม...
หล่อนเจ็บปวดนะ ทรมานมากด้วย แต่ก็ไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้อีกแล้ว
“เมื่อกี้คุณทำได้ดีมากเลยนะคุณมิ้ม”
เจ้าของช่วงขายาวเอ่ยชมเลขาฯ ของตัวเองไม่ขาดปาก หลังจากจบการประชุมใหญ่ และทุกอย่างราบรื่นจนน่าทึ่ง
“ไม่ใช่เพราะมิ้มหรอกค่ะ เพราะบอสต่างหาก ลูกค้าถึงได้เชื่อถือและยอมตกลงเซ็นต์สัญญาง่ายกว่าที่คาดคิดเอาไว้”
ชายหนุ่มหยุดเดิน และมองเลขาที่ตัวเองเล็กกว่าตนเองไม่น้อย ระดับศีรษะของหล่อนอยู่แค่ปลายคางของเขาเท่านั้นเอง ทำให้เวลาจะพูดคุยด้วย เขาแทบจะต้องย่อเข่าเลยทีเดียว
“คุณถ่อมตัวเสมอต้นเสมอปลายเลยนะคุณมิ้ม ห้าปีก่อนคุณเป็นยังไง ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม”
“ขอบคุณค่ะบอส”
“แล้วค่ำนี้ว่าไงครับ สรุปหาผู้หญิงให้ผมได้หรือยัง”
“เรียบร้อยค่ะ คนนี้หน้าอกใหญ่ตามที่บอสชอบ”
นี่ธีธัชจะรู้บ้างไหมนะว่าหล่อนจะต้องใช้แรงกายแรงใจมากแค่ไหน ที่จะไม่เขินหน้าแดงยามที่พูดถึงสรีระของสตรีออกไป
“เยี่ยมมาก คุณคนเดียวที่รู้ใจผม”
หล่อนฝืนยิ้ม และก้มหน้าลง
“เตรียมถุงยางให้ผมสักสามสี่ชิ้น”
“ห้าชิ้นดีกว่าไหมคะ ปกติบอสไม่เคยใช้ต่ำกว่านี้”
ธีธัชหัวเราะจนต้องเงยหน้าขึ้นสูง ขณะออกก้าวเดินอีกครั้ง โดยมีเลขาคู่ใจเดินตามมาข้างๆ
“คุณนี่ทำผมเขินจัง โอเค ห้าชิ้นก็ได้ครับ”
“ค่ะ มิ้มจะเตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้พร้อมค่ะ”
“ขอบคุณมาก”
เขายังคงเดินนำหน้าหล่อน ทำให้หล่อนได้มีโอกาสมองสำรวจเขา
ธีธัชหล่อเหลาไร้ที่ติด แต่ถึงแม้หล่อนจะอยู่ใกล้เขาเพียงแค่เอื้อมมือเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ธีธัชอยู่ห่างไกลจากหล่อนเหลือเกิน
ไม่มีวันที่จะเอื้อมมือแตะเขาได้ เพราะเขา... ไม่ต้องการนั่นเอง
หญิงสาวก้มหน้าเดินตามเขาไป หัวใจบอบช้ำแต่ก็ต้องเก็บซ่อนเอาไว้
หยาดน้ำใสๆ เอ่อล้นจนแทบจะทะลุแว่นหนาออกมา จนต้องกะพริบตาเร็วๆ เพื่อไล่มันให้หายไป
เมื่อไหร่นะ หล่อนถึงจะสามารถตัดใจเดินจากธีธัชได้เสียที
“อ้อ... ผมลืมบอกคุณไปเรื่องหนึ่ง”
จู่ๆ คนที่เดินนำหน้าก็หยุดเดิน จนหล่อนที่ใจเหม่อลอยเบรกไม่ทัน ร่างอรชรชนเข้ากับเรือนร่างใหญ่โตของผู้เป็นเจ้านายเข้าอย่างชัง ทำให้แว่นตากระเด็นออกไปจากดวงหน้างาม
“อ๊ะ...”
หล่อนตกใจหน้าซีดเผือด รีบถอยออกห่าง และขอโทษขอโพยเสียงสั่น
“ขอโทษค่ะ มิ้มมัวแต่คิดอะไรเพลิน”
หล่อนก้มหน้าขอโทษเขา ก่อนจะรีบก้มลงหยิบแว่นตาที่พื้น แต่ธีธัชหยิบมันขึ้นมาเสียก่อน และส่งให้กับหล่อน
แววตาของเขามีอะไรบางอย่าง ยามจ้องมองเข้ามาในดวงตาเบิกกว้างของหล่อน
“นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นคุณใจลอย”
“เอ่อ... มิ้มขอโทษค่ะบอส”
หล่อนรับแว่นมาจากมือของเขา แต่ปลายนิ้วสัมผัสโดนมือของเขาโดยบังเอิญ ไฟร้อนๆ แล่นปรู๊ดปร๊าดเข้ามาในกระแสโลหิต จนช่องท้องร้อนผ่าว จิตวิญญาณคล้ายกับถูกเขย่า
“และก็เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นดวงตาของคุณ โดยไร้แว่นหนาเตอะ”
“เอ่อ...”
หล่อนฝืนยิ้ม พร้อมกับขยับออกห่าง มือกระชับแฟ้มเอกสารเอาไว้ข้างตัว
“ตาคุณสวยนะ ไม่น่าใส่แว่นปิดเอาไว้เลย”
“ขอบคุณค่ะบอส”
หล่อนคาดเดาว่าเขาคงชื่นชมตามมารยาทเท่านั้น
“ตอนนี้คุณอายุเท่าไหร่แล้วนะ”
“เอ่อ... ยี่สิบหกค่ะ”
“สมควรมีคนรักได้แล้วนะ”
หล่อนอึ้งไป เกลียดตัวเองที่เสียใจกับคำพูดของธีธัช ทั้งๆ ที่เขาก็แค่หวังดี
“มิ้ม... ยังไม่คิดเรื่องนั้นหรอกค่ะ”
“ความจริงผมไม่อยากก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของคุณหรอกนะ แต่เพราะผมเห็นคุณเป็นเหมือนเพื่อน ผมก็อยากให้คุณได้ลิ้มลองความสุขในแบบผู้ชายผู้หญิงบ้าง”
คราวนี้แก้มนวลแดงระเรื่อขึ้นจนไม่อาจจะปกปิดจากสายตาของคู่สนทนาได้ หล่อนเห็นเขาระบายยิ้มน้อยๆ
“พรุ่งนี้ผมมีงานเลี้ยง ไปกับผมนะ แต่งตัวสวยๆ รับรองว่าคุณจะต้องได้แฟนจากงานนี้แน่ อ้อ... และที่สำคัญในงานนี้มีแต่นักธุรกิจรวยๆ ทั้งนั้น”
“มิ้ม... คงไม่...”
หล่อนจะปฎิเสธ แต่เขาไม่เปิดโอกาสใดๆ ให้กับหล่อนเลย
“เดี๋ยวผมจะจัดการเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมให้”
“มิ้ม... ขอบคุณค่ะ แต่ว่ามิ้มเกรงใจบอส”
มือใหญ่ยื่นมาแตะท่อนแขนของหล่อน เขาไม่ได้คิดอะไร แต่หล่อนกลับรู้สึกหวั่นไหวกับสัมผัสของชายหนุ่มเหลือเกิน
“ไม่ต้องเกรงใจผมหรอก คุณทำเพื่อผมมาตั้งห้าปีแล้ว แค่นี้ทำไมผมจะทำให้คุณไม่ได้...”
ยิ่งดวงตาของเขามีรอยยิ้มพร้อมๆ กับริมฝีปากเช่นนี้ ธีธัชก็ยิ่งไม่ต่างจากเทพบุตรชั้นฟ้า
“ผมอยากให้คุณมีความสุขบ้าง ผ่อนคลายจากเรื่องงาน”
“มิ้ม...”
“ตกลงตามนี้นะครับ”
หล่อนอยากปฏิเสธเขา แต่พอเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความจริงใจของธีธัช หัวใจก็อ่อนยวบ และก็ต้องตอบรับไปในที่สุด
“ค่ะบอส”
“เยี่ยมมาก เลขาฯ ดีเด่นของผม”