บ้านเจริญสุไพศาล
หลังจากที่ฉันไปรับผลตรวจจากโรงพยาบาลก็ตรงกลับบ้านทันที ฉันนั่งคิดถึงตากิจมาตลอดทางเพราะฉันมีเขาเพียงคนเดียวเขาขาดพ่อกับแม่ไปตั้งแต่เด็ก มีฉันที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่เล็กจนโตนี่คงเป็นวิธีเดียวที่ฉันจะทำให้เขาได้
“คุณท่านจะขึ้นไปพักผ่อนเลยมั้ยคะ...”
“ฉันอยากรอทานข้าวกับตากิจ...”
“คุณกิจโทรมาบอกว่าคงกลับดึกค่ะ...เพราะจะไปทานข้าวกับเพื่อน”
“อืม...ถ้างั้นเอานมขึ้นไปให้ฉันบนห้องก็พอ”
“ค่ะคุณท่าน...”
ฉันขึ้นไปบนห้องแต่ก็ยังนอนไม่หลับ แต่หยิบแฟ้มเอกสารในลิ้นชักขึ้นมาเปิดอ่านอีกรอบ ฉันอ่านจนจบแล้วเก็บเข้าที่เดิม
“กิจ...ย่าหวังว่าถ้าย่าไม่อยู่แล้ว กิจคงจะมีคนที่รักกิจได้มากเท่ากับที่ย่ารักนะ...”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“คุณท่านค่ะ ดูนี่ซิคะ...”
จันเดินเข้ามาในห้องแล้วยื่นโทรศัพท์ที่มีกล้องวงจรปิดตรงจุดหน้าห้องของตากิจ และสิ่งที่ฉันเห็นคือ
“นี่หนูเจนนี่...ทำไมยังไม่กลับบ้าน นี่มัน 1 ทุ่มแล้วนะ...”
“ใช่ค่ะ...เห็นคุณวันเลขาคุณกิจที่เพิ่งไปยื่นใบลาคลอด บอกจันว่าคุณกิจเอาแฟ้มมาให้หนูเจนสรุปทั้งหมด 20 แฟ้มแล้วให้ส่งภายในพรุ่งนี้ 8 โมงเช้านะคะ...”
“บ้าหรือไง ใครจะไปทำทันตั้งเยอะแยะขนาดนี้ แล้วถ้าหนูเจนทำไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้น...”
“คุณกิจจะไม่ให้หนูเจนฝึกงานที่บริษัทคะ...”
“ตากิจนะตากิจ มันโหดเกินไปพนักงานที่ว่าเก่งๆยังทำไม่ทันเลย นี่หนูเจนเป็นแค่เด็กฝึกงานจะไปทำทันได้ยังไง...โทรหาตากิจเดี๋ยวนี้ฉันต้องคุยกับตากิจ...”
“คะคุณท่าน...”
.....
Miss call 10 สาย จากคุณจัน
ผมรู้ว่าพี่จันโทรหาผมทำไมคงจะมีคนเอาเรื่องยัยเด็กฝึกงานนั่นไปบอกคุณย่าแน่ๆ ฝันไปเถอะว่าผมจะรับสาย ผมไม่มีวันยอมหรอกก็คอยดูว่าจะทนได้นานแค่ไหน
“จะดื่มอะไรเยอะแยะขนาดนั้นคะเดี๋ยวก็เมาหรอก...”
ผมยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มหลายแก้วเพื่อหวังจะให้ตัวเองเมา พอกลับไปถึงบ้านย่าจะได้ไม่ต้องคุยกับผมถ้าเห็นว่าผมเมา แต่ตอนนี้ต้องชะงักเพราะมีคนที่ผมไม่อยากเจอหน้ามากวนใจ
“นั่งดื่มคนเดียวแบบนี้ เหงาแย่เลยนะกิจ”
มากันเป็นคู่เลยนะโลกมันกลมจริงๆ ร้านนั่งกินมีเป็นร้อยร้านในกรุงเทพฯแต่ดันมาเลือกนั่งร้านเดียวกับ 2 คนนี้ บ้าจริงๆ เลย
“จะไปทักมันทำไมละคะ ดูหน้ามันเหมือนไม่อยากจะคุยกับภาเลยนะ...”
ผมไม่อยากสนใจพวกเขา 2 คน จึงยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอีกครั้ง
“นี่ได้ข่าวว่าทำเกมมาใหม่หรอ แต่เสียใจนะกิจเกมที่บริษัทฉันทำตอนนี้ดูเหมือนจะนิยมจนขึ้นไปอยู่อันดับ 1 ได้แล้ว...ส่วนเกมของนายก็ตกไปอยู่รั้งท้ายเหมือนเดิม”
“เกมของบริษัทฉันถึงจะอยู่รั้งท้ายก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะเกมของฉันก็ไม่เคยได้รับผลโหวตให้เป็นเกมที่ยอดแย่มาก่อนก็แล้วกัน”
“ไอ้กิจ...”
มันกระชากคอเสื้อผมให้ยืนขึ้น
“พอเถอะค่ะ อย่ามีเรื่องกันเลยนะคะ”
“ก็ดูมันพูดซิคะ มันเยาะเย้ยบริษัทกันนะคะ”
“กัน...คนเยอะแยะนะคะ ปล่อยกิจเถอะค่ะเราไปนั่งที่โต๊ะกันเถอะ...นะคะภาขอ”
มันหันมามองหน้าผมแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ที่หูผม
“มึงอย่าคิดนะไอ้กิจว่ามึงจะชนะกูได้ตลอด กูจะทำให้มึงยอมแพ้กูให้ได้ แล้วกูนี่แหละจะแย่งทุกอย่างมาจากมึงให้หมด...”
“มึงอย่าฝันไปเลยว่ากูจะยอมแพ้มึงง่ายๆ ...”
“แต่มึงก็เคยแพ้กูมาแล้ว...เพราะขนาดภากูยังแย่งมาได้เลย 5555....”
มันสบัดคอเสื้อผมออกแล้วหัวเราะเดินกอดคอภาออกไป
สายตาที่จ้องมองทั้ง 2 คนเดินจากไปมันทำให้ผมอดโมโหไม่ได้ เพราะว่าภาเคยเป็นเป็นแฟนผมมาก่อนแต่ถูกมันแย่งไป ทั้งที่ผมกับมันก็เคยเป็นเพื่อนรักกันแต่ผิดที่ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันก็ชอบภาเหมือนกัน แต่ตอนนั้นภาชอบผมเราเลยได้คบกัน และเรื่องที่ทำให้ผมต้องแตกหักกับมันก็เป็นเรื่องที่ผมทำเกมส่งเข้าประกวดเพื่อให้เกมขึ้นไปอยู่บนเว็บไซต์ระดับเอเชีย และผมกับมันดันต้องได้ไปแข่งกันและผมก็ชนะมันหลังจากนั้นมันก็เปลี่ยนไป และมันก็พยายามตีตัวออกห่างผม พยายามเอาชนะผมทุกเรื่องและแย่งภาไปจากผมจนได้ ผมกับมันจึงเป็นศัตรูกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
เวลา 5 ทุ่ม
“คุณท่านค่ะ คุณกิจเมาเละเลยค่ะ...”
“อะไรนะตากิจเมาหรอ แล้วนี่ใครขับรถมา”
“คุณกิจขับมาเองคะ จอดรถปุ๊ปก็เปิดประตูรถอ้วกปั๊บเลยค่ะ...”
ฉันหน่ายใจกับหลานชายคนนี้จริงๆ ออกไปดื่มทีไรเมากลับมาทุกทีแบบนี้จะไม่ให้เป็นห่วงได้ยังไง
“คุณย่าา....”
ตากิจถูกแบกเข้ามาในบ้านพอเห็นฉันก็เดินเข้ามาจะกอด แต่ฝันไปเถอะเหม็นกลิ่นเหล้าแบบนี้
“หยุดเลยนะตากิจ...เหม็นกลิ่นเหล้าขนาดนี้ไม่ต้องเข้ามาใกล้ย่าเลยนะ ไปเลยขึ้นไปอาบน้ำเลย”
ฉันไล่ให้คนงานในบ้านแบกตากิจขึ้นไปบนห้องนอน เพราะวันนี้คงคุยกันไม่รู้เรื่อง
“แล้วแบบนี้จะทำยังไงละคะเรื่องหนูเจน...”
“ไม่เป็นไรพรุ่งนี้ฉันจะจัดการเอง...”
ฉันมองขึ้นไปข้างบนอย่างหน่ายใจ ที่เจ้าหลานตัวดีเล่นเมาเละเทะพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้
วันรุ่งขึ้น
ผมตื่นมาในตอนเช้าโคตรปวดหัวเลยเมื่อคืนนี้ผมดื่มหนักมาก ไม่รู้ว่าขับรถมาไหวได้ยังไงดีนะไม่ไปชนใครเข้า ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงมาทานข้าวเพื่อจะรีบไปจัดการยัยเด็กฝึกงานจอมแสบแต่คุณย่าไม่รู้หายไปไหนแต่เช้า
“นี่เธอ...”
“สวัสดีค่ะคุณกิจ...”
ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องตอนเวลา 8 โมงเช้าพอดีและคนที่อยู่ในห้องผมก็คือ ยัยเด็กฝึกงานตัวแสบ
“นี่แฟ้มเอกสารทั้งหมดที่คุณกิจให้หนูอ่าน แล้วให้หนูทำสรุปมาให้คะ...”
ผมอึ้งๆ มองเธอโดยไม่เชื่อสายตาตัวเอง นี่เธอทำได้จริงๆ หรอ
“คุณกิจลองอ่านดูได้เลยนะคะ ถ้ามีจุดไหนที่ผิดบอกได้เลยหนูจะรีบไปแก้ไขให้คะ...”
ผมเดินอ้อมไปนั่งที่โต๊ะและหยิบสมุดรายงานขึ้นมาอ่าน และก็ไม่น่าเชื่อรายงานที่เธอทำมา ไม่มีจุดไหนเลยที่ผิดพลาด มันถูกต้อง และละเอียดอ่อนแล้วเข้าใจง่ายดีจนเขาไม่เชื่อว่าเธอทำได้จริงๆ
“นี่เธอทำเองทั้งหมดเลยหรอ...”
“ค่ะ...”
เธอตอบผมแต่สายตาที่ดูเหม่อลอยบวกกับชุดที่เขารู้สึกว่าเหมือนชุดที่เธอใส่เมื่อวาน หรือว่า...
“นี่เธอยังไม่ได้....เห้ย...เธอ เธอ”
แล้วยัยเด็กฝึกงานนั่นก็เป็นลมไปเลย
ผ่านไป 20 นาที
ห้องพยาบาลในบริษัท
“กิจถ้าหนูเจนเป็นอะไรไป พ่อเขาจะมาเล่นงานเราเอาได้นะ ที่ทำให้ลูกเขาเป็นแบบนี้”
“ผมไม่ได้บอกให้ยัยนี้อ่านทุกแฟ้มนี่ครับ ผมแค่ยกมาให้แล้วก็เลือกเอาสิว่าจะสรุปแฟ้มไหน มันก็เหมือนกันทุกแฟ้มอะ...”
“กิจอย่ามาย้อนย่า ย่ารู้นะว่ากิจแกล้งน้องกิจต้องการจะให้น้องทนไม่ได้แล้วก็ไม่อยากฝึกงานที่นี่ใช่มั้ย”
คุณย่านี่รู้ทันผมไปหมดทุกอย่างจริงๆ
“ผมเปล่าคิดแบบนั้นสะหน่อย...”
“ลูกผมอยู่ไหนครับ...”
แล้วอยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา
“คุณท่านคะพ่อของน้องเจนมาคะ...”
ผมหันไปมองตามที่พี่จันบอก คงจะเป็นคุณย่าให้คนโทรไปบอกพ่อของยัยนี่ ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ไปได้ก็แค่เป็นลม
“ลูกสาวผมเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ...เมื่อวานบอกแค่ว่าไปทำรายงานบ้านเพื่อน สงสัยเมื่อคืนจะนอนดึกเลยตื่นมาทำงานแล้วเป็นลม...ผมต้องขอโทษด้วยครับที่ทำให้เดือดร้อนพวกคุณ” ผมได้ฟังพ่อของยัยเด็กนี่เล่าก็อึ้งๆ เหมือนกัน ที่ยัยนี้ไม่ได้บอกความจริงกับพ่อตัวเองว่าถูกผมใช้งาน
“ไม่ใช่อย่างที่หนูเจนบอกคุณหรอกค่ะ จริงๆแล้วเป็นเพราะหลานชายของดิฉันเองค่ะ...”
ผมนี่อึ้งกว่าหันไปมองหน้าตุณย่าทันที
“ครับ..หลานชายคุณ ทำไมหรอครับ?”
“คุณย่า...”
ผมปรามคุณย่าแต่คุณย่าหันมาหาผม
“ทำอะไรก็ต้องยอมรับนะกิจ เราโตแล้วและเราก็เป็นลูกผู้ชายด้วย ไม่ควรรังแกผู้หญิง...”
“นี่มันเรื่องอะไรกันครับ ผมไม่เข้าใจ”
พ่อของยัยนี่ถามใหญ่แล้ว คุณย่าจะบอกความจริงกับพ่อยัยนี่จริงๆ หรอ
“คุณพ่อของหนูเจนคะ ดิฉันเป็นคุณย่าของผู้ชายที่เป็นเจ้านายของหนูเจน คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคุณนี่แหละคะ...เรื่องที่หนูเจนเป็นลมเป็นเพราะหลานชายของดิฉันเอง เมื่อคืนนี้เขาอยู่ด้วยกันที่นี่ทั้งคืน...”
“คุณย่า...”
ผมกำลังจะพูดห้ามแต่ย่ายื่นมือมาชี้หน้าผมให้หยุด
“ฉันจะบอกว่าเพื่อไม่ให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของหนูเจน และไม่ให้คนในบริษัทเอาไปพูดได้ ดิฉันอยากจะ...ขอให้หนูเจนหมั้นกับหลานชายของดิฉันเพื่อเป็นการรับผิดชอบค่ะ...”
“หมั้น...?”
“หมั้น...?”
.....