เดือนเด่นคอแข็งในบัดดลเมื่อได้ยินชื่อน้าสาวของรัญตา
“แหม...คุณพิชฎานี่ จน แล้วยังจะหยิ่งอีกนะ” เดือนเด่นเอ่ยออกมาอย่างลืมตัว เดือดร้อนคนเป็นสามีต้องปรามด้วยการส่งเสียงกระแอม
“อะแฮ่ม...ไม่เอาน่าคุณเดือน หนูรัญนั่งอยู่ตรงนี้ด้วยนะ”
เดือนเด่นถอนหายใจเล็กน้อยแล้วหันมาขอโทษรัญตา
“ฉันขอโทษนะหนูรัญ ฉันมันคนปากไวแบบนี้แหละ หนูอย่าถือสาฉันนะ ฉันก็แค่อยากให้หนูได้มีชีวิตที่สะดวกสบาย เลยอดเคืองไม่ได้ที่ความรู้สึกของน้าหนูทำให้หนูต้องอดได้อดมีของดีๆ ที่เราตั้งใจจะให้ ฉันขอโทษนะ” ว่าพลางขยับไปใกล้ๆ สาวน้อย วางมือบนหลังมือที่ยังเต่งตึงแล้วตบเบาๆ อย่างขออภัย
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ รัญเข้าใจ ความจริงน้าฎาก็ทำเพื่อรัญนะคะ น้าฎาบอกว่าจะดาวน์รถให้รัญเร็วๆ นี้ รัญรู้ละว่าน้าฎาแค่ปลอบใจ เราไม่มีเงินมากพอมาใช้จ่ายได้อย่างใจนึกหรอก แต่รัญก็ไม่ได้โกรธน้าฎานะคะ รัญรู้ว่าน้าฎาอยากให้รัญมีความสุข ขอบคุณทุกคนมากนะคะ ขอบคุณจริงๆ” สาวน้อยคนงามยกมือไหว้ทุกๆ คนไม่เว้นแม้แต่แฟนหนุ่มของตัวเอง แมคโลริคอายุมากกว่าน้าสาวของเธอด้วยซ้ำ เธอจึงไม่กระดากใจเวลาต้องยกมือไหว้เขา
“โธ่...หนูรัญ หนูเป็นเด็กดีมากนะ ต้องขอบคุณน้าของหนูที่เลี้ยงหนูมาดีเหลือเกิน” ท่านติภพพึมพำ ภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ เบะปากใส่เล็กน้อย ด้วยว่าไม่ชอบผู้ที่ถูกกล่าวถึง สาวใหญ่จะไม่โกรธพิชฎาเลยหากว่าอีกฝ่ายจะไม่ตั้งป้อมรังเกียจกันก่อน
“ถ้าอย่างนั้นวันนี้รัญกลับก่อนนะคะ เอาไว้วันหยุดจะแวะมาเยี่ยมค่ะ”
สาวน้อยถือโอกาสลากลับ ท่านติภพกับภรรยาออกจะเสียดาย แต่ก็ยอมให้รัญตากลับไปโดยมีแมคโลริคอาสาไปส่ง
หลานสาวพิชฎานั่งเงียบไปตลอดทางที่แฟนหนุ่มขับรถไปส่ง รัญตาเงียบจนแมคโลริคไม่สบายใจ
“รัญเป็นอะไรหรือเปล่า เงียบไปนะ”
รัญตาหันมายิ้มให้แมคโลริคเล็กน้อย ก่อนจะสารภาพ ใบหน้างามผุดผ่องท่ามกลางเรือนผมดำขลับที่ดัดเป็นลอนหลวมๆ
“รัญ...สงสารน้าฎา น้าฎาถูกเข้าใจผิด น้าดีกับรัญมากนะคะ ทุกอย่างที่น้าทำก็เพื่อรัญ รัญอยากมีเงินเยอะๆ น้าฎาจะได้ไม่ลำบาก”
ใบหน้าสาวน้อยสลดลง ก่อนจะถอนหายใจแล้วเอ่ยประโยคต่อมา
“แต่งงานกันไหมคะอาแมค”
เอี๊ยด!
รถ Maybach สีเดียวกับนัยน์ตาเจ้าของ ถูกเหยียบเบรกจนมิดก่อนจะเคลื่อนแอบอิงข้างทาง แมคโลริคหันมามองสาวน้อยที่นั่งข้างๆ หล่อนดูตื่นตระหนก แต่เขานี่สิ ความรู้สึกมันเลยคำนั้นไปมากมายนัก
“รัญพูดเล่นใช่ไหม!”
สาวน้อยส่ายหน้าดิก ดึงมือข้างหนึ่งของแมคโลริคออกจากพวงมาลัยรถ กุมมันไว้แล้วเอ่ยบางอย่างออกมา
“รัญรู้ว่ารัญเห็นแก่ตัว แต่ถ้าการแต่งงานของรัญกับอาแมคจะทำให้รัญมีฐานะดีขึ้น รัญก็ยอม เรารักกันไม่ใช่หรือคะ”
“เอ่อ...แต่รัญยังเด็กนะ อาว่า...”
“แต่อาแมคอายุมากแล้วนะคะ อาแมคจะรออะไร”
“ปะ...เปล่า คือว่า...อาคิดว่าเรื่องนี้มันเรื่องใหญ่ รัญควรปรึกษาน้าของรัญก่อน อีกอย่าง อาไม่คิดว่ารัญจะแต่งงานเพื่อเงินหรอก จริงไหม” หาทางไกล่เกลี่ยสถานการณ์อันชวนอึดอัดนี้
“ความจริง...รัญแค่ไม่อยากอยู่เป็นภาระน้าฎา ถ้ารัญแต่งงานน้าฎาก็จะเป็นอิสระ” สาวน้อยสารภาพ หยดน้ำตาค่อยๆ ร่วงรินแมคโลริคต้องดึงร่างน้อยมากอดปลอบ
ความอบอุ่นของแผ่นอกหนาพาให้รัญตาหลั่งน้ำตาไม่หยุด หากบิดามารดาของเธอยังอยู่เคียงข้าง เธอคงไม่ต้องเอ่ยเรื่องน่าละอายอย่างนี้
“ถ้าพ่อยื่นมือมาช่วยรัญบ้างก็คงดี รัญอยากรู้เหลือเกินว่าพ่ออยู่ไหน ทำไมไม่เคยมาดูดำดูดีรัญเลย ทำไมต้องทิ้งรัญไว้กับน้าฎา น้าไม่เคยมีชีวิตเป็นของตัวเองเลย ตั้งแต่มีรัญน้าก็ทำเพื่อรัญมาตลอด รัญสงสารน้าฎา ฮือออ...”
รัญตาร่ำไห้อยู่กับแผงอกกว้าง มีแมคโลริคคอยลูบหลังปลอบโยน บางครั้งเขาก็โกรธพิชฎาที่ไม่ยอมบอกเรื่องพ่อของรัญตา เพราะทิฐิของหล่อนแท้ๆ ที่ทำให้รัญตาต้องหลั่งน้ำตาในเวลานี้
“อาเชื่อว่าพ่อของรัญคงไม่ได้นิ่งดูดาย เขาคงกำลังเฝ้ามองรัญอยู่ สักวันเมื่อสวรรค์เปิดทางให้ เขาคงมีโอกาสได้ดูแลรัญให้สมกับที่เขาทิ้งรัญไว้กับน้า ตอนนี้รัญทำใจให้สบายเถอะนะ อารับรองว่าอีกไม่นาน รัญต้องได้เจอพ่อของรัญอย่างแน่นอน”
“ค่ะ...ขอบคุณนะคะ ขอบคุณอาแมคมากๆ ถ้าไม่มีอาแมครัญคงแย่กว่านี้ ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างเด็กกะโปโลอย่างรัญ ขอบคุณจริงๆ”
สาวน้อยผละออกจากอ้อมแขนแกร่ง ยกมือปาดเช็ดน้ำตา แมคโลริคเคลื่อนรถออกจากริมทาง กลับสู่ท้องถนนที่คับแคบด้วยยานพาหนะมากมาย เพื่อไปส่งรัญตาให้ถึงยังจุดหมายปลายทาง