แล้วรัญตาก็เดินลงบันไดบ้านไปพร้อมกับความสงสัย ทว่าก็ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจด้วยว่าถึงซักถามอย่างไร คนถูกถามก็คงบ่ายเบี่ยงไม่ตอบความจริงอยู่ดี เธอหวังว่าร่องรอยที่ลำคอน้าสาวคงไม่ได้เกิดจากแฟนเก่าของเจ้าหล่อนหรอกนะ เธอจำได้ว่าพิชฎาเคยมีคนรักคนหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว ทั้งสองเลิกรากันเพราะฝ่ายชายเจ้าชู้ และตั้งแต่นั้นมา เธอก็ไม่เคยเห็นคนเป็นน้าคบใครอีกเลย...
เย็นวันนั้นสองน้าหลานกินข้าวด้วยกันเช่นเคย บ้านเช่าหลังน้อยยังอบอุ่นเหมือนเมื่อวันวาน ผิดก็แต่ภายในใจของคนเป็นน้ากำลังถูกรุมเร้าด้วยใบหน้าของชายที่ได้ชื่นชมเรือนร่างเธอ แม้ไม่ได้ล่วงเกินถึงขั้นได้เสีย แต่มันก็มากพอให้รู้สึกกระดากอาย เธอจะทำหน้าเช่นไรเวลาเจอหน้าเขา เจอหน้าชายผู้มีฐานะเป็นอาของหลาน และแฟนหนุ่มในคราวเดียว
สามวันถัดจากนั้นพิชฎาก็ไม่ได้พบหน้าแมคโลริคอีก ด้วยว่าเขาไปดูงานต่างประเทศตามที่หลานสาวบอก เธอพยายามบอกตัวเองว่าอย่าคิดถึงเขา ทว่าไม่เคยทำได้สำเร็จ กลิ่นกายแห่งบุรุษยังกรุ่นที่ปลายจมูกราวกับว่าเขายังอยู่ใกล้ๆ มันทรมานเมื่อค้นพบว่าตัวเองเริ่มมีความรู้สึกบางอย่างกับคนที่ไม่ควรสานสัมพันธ์
วันนี้ฝนตกตั้งแต่เที่ยงกว่าๆ กระทั่งบ่ายสี่โมงก็ยังไม่หยุด เธอตัดสินใจระงับการปั่นต้นฉบับไว้เพียงเท่านั้น ด้วยว่าหน้าจอคอมพิวเตอร์มีแต่ชื่อของแมคโลริคอยู่เต็มไปหมด
หญิงสาวตกใจไม่น้อยที่มันเป็นเช่นนั้น สุดท้ายเลยต้องปิดคอมฯ ลงโดยปริยาย
“ป่านนี้ยัยรัญยังไม่กลับอีกเหรอ” ถามตัวเองขณะเดินมาหยุดที่ริมหน้าต่างชั้นสอง มองออกไปที่ถนนนอกรั้วบ้าน ฝนยังตกกระหน่ำ ระรานกิ่งดอกรักที่อยู่ริมรั้ว มันเอนไหวไปมาเมื่อถูกเม็ดฝนรังแก เธอถอนหายใจอย่างปลดปลง บรรยากาศไม่เป็นใจสำหรับการเดินทางทุกชนิด พอเงยหน้ามองท้องฟ้ามืดครึ้มอยู่สักพัก รถรับจ้างสองล้อก็แล่นฝ่าฝนมาจอดที่หน้าบ้าน เธอรีบลงไปด้านล่างเพื่อจะพบว่าหลานสาวตัวเปียกโชกกำลังเดินตัวสั่นเข้ามา
“ยัยรัญ โธ่เอ๊ย! ส่งของมาให้น้าแล้วรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไป เอาน้ำอุ่นไหมเดี๋ยวน้าต้มไปให้” ถามหลานสาวด้วยความหวังดี อากาศเย็นขนาดนี้เธอคิดว่ารัญตาคงหนาวหากต้องอาบน้ำเย็น บ้านเธอไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ถ้าอยากอาบจริงๆ ก็ต้องต้มน้ำในกระติกน้ำร้อนไปผสมในกะละมังเอา
“ไม่ไหวค่ะน้าฎา อาบน้ำเย็นดีกว่าไม่อยากรอค่ะเดี๋ยวจะหนาวยิ่งกว่านี้” หลานสาวว่าแล้วยกสัมภาระที่ถือมาให้คนเป็นน้า ก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำ โดยมีน้าสาวเดินเอาของขึ้นไปเก็บให้ที่ชั้นบนแล้วเอาผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้าลงมาให้หลาน
ระหว่างที่รอรัญตาอาบน้ำ พิชฎาก็ขึ้นมาที่ห้องหลานสาวอีกครั้ง หยิบเอากระเป๋าถือของหลานมาปัดเช็ดทำความสะอาด มีถุงกระดาษเนื้อดีใบหนึ่งขนาดใหญ่พอสมควร แกะออกดูก็พบถุงผ้าเนื้อดีที่ข้างในบรรจุกระเป๋าถืออีกใบซึ่งเดาจากยี่ห้อคงใบละหลายหมื่นบาท รัญตาคงไม่มีปัญญาซื้อของพรรค์นี้ แต่เธอปฏิเสธไม่ได้ว่าหลานสาวคงพอใจไม่น้อยที่ได้มันมาครอง
“สวยไหมคะ อาแมคซื้อมาฝากค่ะ” หลานสาวเดินยิ้มเผล่เข้ามา เส้นผมที่ยังเปียกแนบไปกับศีรษะทุย ล้อมกรอบวงหน้างามที่ไร้ซึ่งเครื่องสำอางทาบทา สาวน้อยมีผ้าขนหนูผืนเล็กคล้องรอบคอ
“จ้ะ คงจะหลายตังค์นะ มานี่สิเดี๋ยวน้าช่วยเช็ดผม”
น้าสาวอาสา รัญตาจึงมานั่งข้างๆ ให้คนเป็นน้าช่วยเช็ดผมเปียกๆ ส่วนตัวเองก็หยิบกระเป๋าใบสีน้ำตาลยี่ห้อดังมาชื่นชม ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ราวกับว่ามันคือตัวของผู้มอบให้
“รัญ...เอ่อ...รักอาแมคของรัญมากไหม”
พิชฎาตัดสินใจถามแล้วเฝ้ารอคำตอบ หัวใจข้างในอกสั่นไหวแปลกๆ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแม่มดชั่วร้ายที่แอบแทงข้างหลังเจ้าหญิงแสนดีอย่างรัญตา เธอยังไม่ได้นอนกับแมคโลริคนะ แต่รู้สึกคล้ายๆ ร้อนตัวอย่างไรก็ไม่รู้
“รักหรือคะ...ก็รักนะคะ อยู่กับอาแมคแล้วอบอุ่นดีค่ะ ถ้าอาแมคขอรัญแต่งงาน รัญก็แต่ง” ตอบอย่างไม่ต้องคิด แมคโลริคสำหรับเธอเป็นมากกว่าคนรัก เธอไม่เคยรักใครเลยไม่รู้ว่าความรักอย่างหนุ่มสาวมันจะเหมือนความรักที่เธอมีต่อแมคโลริคหรือเปล่า มันรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเมื่อมีเขาอยู่ใกล้ๆ ดีใจเมื่อได้รับของกำนัลจากเขา และมีความสุขเมื่อได้ทำอะไรให้เขาภาคภูมิใจ
พิชฎาหน้าเจื่อนเล็กน้อย จะเป็นอย่างไรนะหากวันหนึ่งรัญตารู้ว่าแมคโลริคคืออาแท้ๆ ของหล่อน
“แน่ใจแล้วเหรอ รัญไม่มีเพื่อนชายคนอื่นที่ดีเท่าแมคโลริคแล้วหรือจ๊ะ”
หลานสาวหันขวับกลับมาหาคนเป็นน้า เพราะคำถามของพิชฎาแปลกๆ ชอบกล
“รัญไม่มีเพื่อนชายคนอื่นนี่คะ น้าฎาก็น่าจะรู้ ทำไมถามเหมือนไม่อยากให้รัญกับอาแมคลงเอยกัน”
“ปะ...เปล่า น้าเปล่านะ” ตอบอย่างรวดเร็ว ใบหน้างามมีแววพิรุธฉายชัด
“ก็ดีค่ะ รัญอยากให้น้าฎารักอาแมคเหมือนอย่างที่รัญรักเพราะอีกหน่อยอาแมคจะมาเป็นหลานเขยน้าฎา” ตอบพลางยิ้มแล้วหันหลังให้น้าสาวอีกครั้ง
พิชฎาเช็ดผมให้หลานสาวต่อ แม้หัวใจมิได้จดจ่ออยู่ตรงนั้น เธอรู้ว่าไม่มีวันที่รัญตาจะได้แต่งงานกับแมคโลริค แต่ก็ไม่อยากให้ถึงวันนั้น วันที่หลานสาวรู้ความจริง เธอคงกลายเป็นคนชั่วร้ายในสายตาหลานอย่างไม่ต้องสงสัย