ตอนที่ 10 ของหวง

1647 Words
ด้านพรีนที่ลิลลี่ว่ามาเช่นนั้น “แทคิณเนี่ยนะ สนใจกู” พรีนเอ่ยเสียงเบา อย่างไม่เชื่อหู “ก็เออ น่ะสิ มึงฟังกูนะพรีน ผู้ชายถ้าไม่สน ไม่รู้สึกอะไร ใครจะอยากจูบกับผู้หญิงที่ไม่ใช่แฟนตน แล้วพวกมึงสนิทกันเหรอ ก็ไม่นิ” ที่ยัยลี่พูดมามันก็หน้าคิดนะ แทคิณสนใจฉันงั้นเหรอ ไม่รู้สึก แต่ตอนนี้พออิลี่พูดมาเท่านั้นแหละ อร้าย ฉันอยากจะกรี๊ด กรี๊ดให้นักผู้หล่อสนใจฉันมันก็ใจฟูอยู่นะ “ไง หน้าแดงแบบนี้ แสดงว่ามึงก็รู้สึกกับแทคิณแล้วใช่ไหมล่ะ” ลิลลี่ที่สังเกตุเห็นใบหน้าสวยของพรีนแดงซ่านขึ้นมาด้วยท่าทีเขินอาย เหอะยัยนี่มีอย่างที่ไหนไปเม้าท์ทูเม้าท์กับคนดังมาแล้วขิงใส่ฉัน บอกเลยเห็นแบบนี้ยัยพรีนนางร้ายมากค่ะ ร้ายสุดก็เล่นนักร้องดังขิงใส่เพื่อนไปเลยสิ หมั่นไส้นางชิบหาย “ลี่...เปล่านะ กูยังไม่ได้คิดอะไรกับเขา” พรีนเอ่ยไม่เต็มเสียง “เหอะ กูเชื่อ เชื่อตายล่ะ” หน้าตายิ้มแย้มอิ่มเอมใจฟูแบบนี้ใครจะเชื่อมันล่ะคะ ลิลลี่ไม่เชื่ออิพรีนแล้วหนึ่ง แค้นมากจูบกันแล้วมาขิงใส่เรา คอยดูเถอะเจอผู้ลี่ไป แทคิณก็แทคิณเหอะ ได้ชิดซ้ายแน่ผู้ของฉันแน่นอน “กูพูดจริงนะลี่” ถึงจะใจสั่นเต้นแรงทุกครั้งที่อยู่ใกล้แทคิณก็เถอะ ถึงเขาจะหล่อเบ้าหน้าเทพพระบุตรลูกรักพระเจ้าเรื่องอะไรจะยอมรับ “แน่ใจ๋ ว่ามึงไม่ได้โดนแทคิณตก” ลิลลี่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “อืม...” พรีนเอ่ย แต่นั้นก็หลบไม่กล้าที่จะสบตากับลิลลี่ “อิพรีน ขา ต่อให้ฟ้าผ่าลงตรงนี้ ตอนนี้กูก็ไม่เชื่อมึงค่ะ ว่ามึงไม่ได้คิดอะไรกับแทคิณ มึงตอบและมองตากูมาค่ะ” อ่า...อิลี่นี่ยังไง ฉันไม่น่าหลุดปากเรื่องที่ฉันจูบกับแทคิณ ให้ยัยลี่รู้เรื่องเลย และดูมันตอนนี้สิ “กูไม่ได้โดนเขาตกอะไร หรอกน๊า” “เหอะ แต่มึงหลบตากูค่ะ ไหนๆ พวกมึงก็จุบุ จุบุกันแล้ว มึงอยากได้เขาป่ะล่ะ กูมีวิธีนะ รับรองคนหล่อเขาลืมมึงไม้ลงแน่นอน” พอลิลลี่ว่ามาเช่นนั้น คนที่ปากบอกไม่สนใจ ไม่คิดอะไร ถึงกับตาลุกวาวขึ้นมา จากนั้นยัยลิลลี่ก็กระซิบที่หูของฉัน พอพรีนได้ฟังคำแนะนำจากลิลลี่ไป “ห้ะ...แบบนี้เลยเหรอ ไม่เหมาะกับกูมั้งลี่” พรีนถึงกับต่อว่าลิลลี่ทันที ด้านลิลลี่หน้ายัยพรีนตอนนี้คือต่างกับเมื่อครู่อย่างเห็นได้ชัด นี่เหรอคนที่บอกไม่สนหน้านางตอนนี้คืออยากได้หลัวสุดๆ อีพรีนเอ้ย มึงหลุดแล้วค่ะสาว ฉันอยากจะตอกหน้านางนัก ลิลลี่ที่แนะนำวิธีเข้าหาแทคิณให้กับพรีนได้ถึงกับหลุดขำให้กับคนออกอาการ ไม่สนแต่พอฉันพูดถึงชื่อแทคิณตานี้เปล่งประกายวาววับ เลยค่ะเพื่อนฉัน ด้านพรีนที่ฟังวิธีคำแนะนำจากปากลิลลี่แล้วนั้น “ลี่มึงแน่ใจนะ ว่าวิธีนี้มันจะได้ผลจริง” ใบหน้าสวยเอ่ยด้วยสีหน้าคิดหนัก แต่นั้นทำเอาลิลลี่ขำลั่น “ฮ่าๆ ” “จ้า แม่คนไม่สนผู้ สนองค์ เป็นไงล่ะมึง โดนเขาจูบทีเดียวถึงกับลืมไม่ลง” “อิลี่ มึงว่ากู” !! เพี๊ยะ !! มือเรียวฟาดเข้าที่แขนเพื่อน อย่างไม่ยอม ที่ลิลลี่พูดให้เขิน “มึงจะซีไปทำไมพรีน สมัยนี้โลกเปลี่ยนไปแล้วค่ะ ใครได้วิธีนี้กับกูไป เขาก็ทำกันทั้งนั้นแหละ ถ้าชอบ ถูกใจ ก็พุ่งเข้าใส่ ช้าอยู่ทำไม ” คำพูดของอิลี่ถึงจะดูแรง แต่นี้คือเรื่องจริง แต่ว่าที่อิลี่แนะนำฉันมานี้จะได้ผลจริงเหรอ เพราะคนแนะนำฉันมาพึ่งโดนเทมาไม่ต่างอะไรจากฉัน “สรุปคือมึงชอบเขา” ลิลลี่จ้องตาพรีน “เปล่า เขาสนใจกูก่อน” ลิลลี่ดูจากนางบอกแล้วอิพรีนแรดไม่ไหวค่ะ ลิลลี่ได้แต่คิด ด้านพรีนพอบอกสิ่งที่ค้างคาใจกับฉันลิลลี่แล้วฉันรู้สึกโล่งมากอย่างบอกไม่ถูก “พวกยัยนิลมายังอ่ะ” เมื่อนั่งกันสักพักอิลี่นางก็หันมาถามฉัน “ยัยกิ๊บบอกทานข้าวที่โรงอาหารบริหารนะ น่าจะใกล้เสร็จแล้ว ทำไมอ่ะ” ฉันหันไปถามยัยลิลลี่ “ฝากยัยนิลปริ้นงานมาให้น่ะ งานอาจารย์พีรพล ส่งวันนี้วันสุดท้าย” ลิลลี่ที่ว่ามาเช่นนั้น ใบหน้าสวยถึงกับชะงัก “วันสุดท้าย อ้าวนี่ไม่ใช่วันศุกร์หรอกเหรอ” เธอเอ่ยถามด้วยสีหน้าตกใจ “ศุกร์ไหน ไรอีกคะ มึงนี้ไม่อ่านไลน์กลุ่มหรือไงพรีน” ชิบหายแล้วไหมฉัน ร่างบางเหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมืออีก 20 นาทีจะถึงชั่วโมงเรียน ให้ตายเถอะวันนี้รถฉันไม่ได้เอารถมาด้วยสิ เอาไงล่ะทีนี้ “นี้อย่าบอกนะว่ามึงยังทำไม่เสร็จ เดดไลน์วันนี้นะจ๊ะ” พออิลี่ว่ามาเช่นนั้น มือเรียวถึงกับหยิบกระเป๋าที่วางบนโต๊ะด้วยท่าทีเร่งรีบ “ลี่ กูลืมงาน ถ้ากูมาไม่ทัน ฝากบอกจารย์พี ด้วยนะว่ากูขอเข้าสาย 10 นาที” เพราะตอนนี้เวลาสิบเอ็ดโมงห้าสิบ เข้าเที่ยงสิบก็คงจะทัน พรีนเอ่ยจบร่างบางในชุดกระโปรงพลีทสั้นก็รีบสาวเท้าหาทางกลับคอนโดของตนทันที เรื่องหลงๆ ลืมๆ นี่ไว้ใจฉันเถอะ รายงานเล่มนี้ชี้วัดเกรดฉันได้เลยนะลืมไปได้ อยากจะเขกหัวตัวเองนัก ร่างบางสาวเท้าออกจากคณะวิศวะ จนกระทั่งถึงตึกคณะบริหาร ซึ่งเป็นฝั่งประตูที่จะไปคอนโดของฉัน มาถึงก็ไม่รอช้าโบกมือเรียกพี่วินมอไซค์ทันที ไม่นานมอไซค์ก็มาจอดตรงหน้าของฉัน “ซอย 8 คอนโดD ค่ะ” เธอเอ่ยกับคนขับวิน “น้องซอย 8 มีตำรวจดักอยู่นะ ถ้าน้องจะไปต้องมีหมวกกันน็อค” “อ้าว แล้วนี่พี่ไม่มีหมวกให้หนูเหรอ” พรีนถามด้วยสีหน้างงงวย ปกติต้องเขาไหมที่ต้องมีบริการฉันน่ะ “พี่ให้วินเบอร์ 5 ยืมนะน้อง” ให้ตายเถอะ ฉันยิ่งรีบๆ อยู่ด้วย เอาไงดีวินในตอนนี้มีคันเดียวซะด้วยสิ “พี่รอหนูแป๊บนะ” พรีนเอ่ยจบรางบางก็วิ่งกลับเข้ามหาลัย ฉันจำได้ว่าแถวประตู 5 มีมอไซค์เมื่อวิ่งเข้ามาประมาณ 200 เมตรก็มีมอไซค์ของนักศึกษา พนักงานในมหาลัยจอดเรียงรายกันหลายคัน ฉันสะดุดเข้ากับหมวกกันน็อคบิ๊กไบท์คันวางเอาไว้คู่กับรถ ดูท่าทีแข็งแรงทนทานดีไม่รอช้ารีบหยิบขึ้นมาให้ไว “ขอยืมก่อนนะ เดี๋ยวเสร็จรีบเอามาคืน” เอ่ยจบร่างบางก็ยกมือไหว้บิ๊กไบค์คันสีน้ำเงิน เจ้าของรถไม่อยู่ตรงนี้ถือว่ายืมกับรถก็ได้ รถคันนี้ก็คุ้นๆ แฮะเหมือนเคยเจอที่ไหน เมื่อได้หมวกกันน็อคแล้ว พรีนก็ไม่รอช้า ร่างบางรีบวิ่งกลับไปหาวินมอไซค์กลับไปเอารายงานที่คอนโดทันที เมื่อ 5 นาทีที่แล้ว ด้านแทคิณหลังจากที่เรียนเสร็จและวันนี้ผมนัดทานมื้อเที่ยงกับพวกไอ้โรมไอ้รามที่โรงอาหารคณะบริหารแต่พอมาถึงไอ้รามเสือกชวนออกไปทานด้านนอก ผมเรียนนิเทศแต่ก็สนิทกับพวกเพื่อนที่เรียนบริหารมากกว่า ขณะที่ แทคิณ โรม ราม มอส ทั้งสี่หนุ่มเดินลงจากตึกมาเพื่อจะมาเอารถนั้น สายตากับสะดุดเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอหยิบหมวกกันน็อคออกไปจากรถผม ผมมองในระยะไกล เห็นหน้าไม่ชัด แต่เห็นว่าเธอจงใจขโมยหมวกกันน็อคผมไป “เชี่ย เฮ้ย...หมวกกันน็อคกู” แทคิณที่เดินมากับโรม นั้นจะสาวเท้าตาม แต่นั้นก็ไม่ทัน เพราะคนขโมยสวมหมวกนั้นวิ่งขึ้นวินไปแล้ว จะตามไปก็คงไม่ทัน “เหมือนวินจะจอดรอเธอ” ไอ้โรมเอ่ยขึ้นมา “หมวกใบนี้มึงแพงด้วย สงสัยทำกันเป็นขบวนการ” ร่างบางนั้นวิ่งออกไป มอสเอ่ยตามที่เห็น หมวกมีหลายสิบใบแต่จงใจหยิบของเชี่ยคิณ “ผู้หญิงซะด้วยสิ” รามเอ่ยมา “เป็นผู้หญิง” “ ผู้หญิง แต่กล้าขโมยของกู เชี่ยแม่งหมวกใบนี้ ใบโปรดกูเสียด้วยสิ” แทคิณเอ่ยด้วยสีหน้าหงุดหงิดและโมโหสุดๆ เขาอยากจะเห็นหน้าคนขโมยนัก “ช่วงนี้ มึงแม่งมีเรื่องกับใครป่าว” ไอ้รามถามผมมา “ป่าว” ผมตอบมัน “เชี่ยคิณวันนี้ มึงฤกษ์ไม่ดีแล้ว กูว่าวันนี้แม่งแดกที่โรงอาหารนี่แหละ” รามที่เห็นสีหน้าของแทคิณถึงกับเอ่ยมา เพราะอากาศก็ร้อน สีหน้าเชี่ยคิณตอนนี้พวกเขาไม่ควรออกไปทานข้างนอก “อย่าให้กูรู้เหอะ ว่าใครแม่งขโมยหมวกกูไป กูจะเล่นให้หนัก” แทคิณได้แต่คาดโทษคนที่ขโมยหมวกกันน็อคสุดรักสุดหวงของเขาไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD