แก้วในหิน / 2

1282 Words
“ผมว่าผมพูดชัดแล้วนะ ผมจะไม่ยอมให้แม่เอาผมไปขายให้ครอบครัวเศรษฐีอะไรนั่นหรอก” ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ใบหน้าของเขาดูเหนื่อยล้า ดวงตาเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ‘ชนะศึก’ หนุ่มนักเขียนที่กำลังตกอับ เขาเคยเป็นทายาทเศรษฐี แต่หลังจากที่พ่อเสียชีวิต แม่ก็เอามรดกไปใช้จ่ายจนหมด ประจวบเหมาะกับเป็นช่วงที่ผลงานของเขากำลังเดินสู่ช่วงขาลงพอดิบพอดี “แกพูดให้มันดีๆ หน่อยได้ไหม ฉันกำลังหาทางออกที่ดีให้กับเราอยู่นะ” คนเป็นแม่ยืนชี้หน้าบอกลูกชาย ‘วิชุดา’ แม่หม้ายสาวถังแตก เพราะตอนที่สามียังอยู่ เธอต้องใช้จ่ายอย่างจำกัด เมื่อเขาจากไปแล้ว เธอจึงใช้เงินอย่างขาดสติเมื่อมีโอกาส “แม่หาทางกู้หน้าให้ตัวเองมากกว่า เขารู้หรือยังว่าแม่ขายสมบัติพ่อกินจนหมดแล้ว แถมมีหนี้อีกท่วมหัว ไอ้ค่าสินสอดที่เขาเรียกมา แม่ก็เอาบ้านไปจำนอง ถ้ารู้แล้วยังจะอยากเกี่ยวดองกันอยู่อีกหรือเปล่า” ลูกชายเถียงกลับ เขารู้สึกสมเพชทั้งตัวเองและแม่อย่างมาก ที่อับจนหนทางจนต้องหาจับคนรวย “หุบปากของแกซะ แกมีทางออกที่ดีกว่านี้เหรอ ไอ้นิยายของแกมันหาเงินพอยาไส้ไหม? ฉันเลี้ยงแกมาไม่เคยเรียกร้องอะไรเลย จนวันที่พ่อแกตาย ฉันขอให้แกช่วยฉัน แกก็ไม่คิดจะช่วย แกมันก็แค่ไอ้คนอกตัญญู” คนเป็นลูกยืนคิดตามคำพูดของแม่ตัวเอง ก็จริงอย่างที่แม่เขาบอก ตั้งแต่เกิดมาชนะศึกไม่เคยต้องลำบากเลย พ่อไม่เคยคาดหวังอะไรกับเขา พ่อแค่อยากให้เขาใช้ชีวินตัวเองอย่างมีความสุข ตอนที่พ่อรู้ว่าเขาชอบวรรณกรรมก็สนับสนุนอย่างเต็มที่ พ่อผลักดันเขาจนได้เป็นนักเขียนอย่างที่ฝัน แต่ ใครจะคิดกันว่า มะเร็งจะพรากพ่อไปจากเขา ในวันที่พ่อจากไป เขาไม่มีความสามารถอะไรเลยที่จะเข้าไปบริหารธุรกิจของพ่อต่อได้ แม่ของเขาเองก็ไม่ต่างกัน ทำให้เกิดช่องโหว่ที่แม่ของเขาจะหยิบขึ้นมาเป็นข้ออ้าง ในการขายหุ้นส่วนของบริษัทแล้วเอาเงินมาใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย “ถ้าแกยืนยันว่าจะไม่แต่ง ฉันจะเป็นคนไปหาผัวรวยเอง คนรู้จักที่ฉันพอจะฝากตัวเป็นบ้านเล็กเขาได้ก็พอมีอยู่บ้าง” วิชุดารู้ดีว่าจุดอ่อนของลูกชายเธอคืออะไร จึงได้หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูด แต่ถ้าหากว่าชนะศึกลูกของเธอไม่ยอมทำตามคำขอของเธอ ข้ออ้างนี้ก็อาจจะต้องกลายเป็นความจริง เพราะเธอไม่เหลือศักดิ์ศรีอะไรอีกแล้ว กับอีแค่เป็นเมียน้อยของคนรวยคงไม่ยากเกินไป วิชุดานั้นแม้จะมีอายุมากแล้ว แต่ยังสวยและดูสาวกว่าอายุมาก เพราะสามีดูแลอย่างดีถึงจะจำกัดใช้เงินของเธอ แต่เขาก็บันดาลให้เธอได้ทุกอย่าง เธอไม่ต้องทำงานให้เหนื่อย มีหน้าที่แค่ดูแลเขากับลูกเท่านั้น “ก็ได้ ผมจะยอมทำตามคำขอของแม่ แต่ก็ไม่รับประกันหรอกนะว่าทางนั้นเขาจะ ยังอยากได้ผมอยู่หรือเปล่า” ชนะศึกไม่มีทางเลือก เขายอมรับไม่ได้หากแม่ต้องแต่งงานใหม่ เขารู้ดีว่าพ่อรักแม่แค่ไหน และคงอับอายเหลือเกินถ้าแม่ต้องไปเป็นเมียน้อยของใคร “แกคิดจะทำอะไร แม่พูดนี่แกไม่เข้าใจหรือไง ถ้าแกไม่ได้แต่ง แม่จะเป็นคนจัดการทุกอย่างเอง ถ้าอายที่แม่เป็นเมียน้อยคนอื่น ก็อย่ามาเจอกันอีก” “ผมก็คงทำได้ดีที่สุดเท่าที่คนอย่างผมจะทำได้” “แกแค่ไม่ต้องทำตัว ทุเรศๆ ให้เขาเห็นกันก็พอ นั่งนิ่งๆ แล้วฟังแม่พูดอย่างเดียว” “ที่แม่ไม่อยากพลาดโอกาสนี้ เพราะลูกสาวยายคุณหญิงกันยาน่ะ ดูท่าจะซื่อๆ โง่ๆ พ่อแม่เลี้ยงลูกเป็นไข่ในหิน แต่ก็อย่างว่าบ้านนั้นน่ะรวยมาก ลูกสาวเรียนจบยังไม่ยอมให้ทำงานอะไร” วิชุดาพูดต่อ “แม่จะเอายังไงก็บอกผมแล้วกัน” ชนะศึกจำใจต้องยอมทำตามคำขอของแม่ เขาไม่ได้ทำเพื่อวิชุดา แต่ทำเพื่อพ่อของเขา ในห้องสำหรับแขกวีไอพีของร้านอาหารไทยตกแต่งด้วยบรรยากาศแบบไทยแท้ตำรับชาววัง เมื่อก้าวผ่านประตูที่แกะสลักอย่างวิจิตรบรรจง ผนังตกแต่งด้วยผ้าทอไหมไทยลายกนกสีสันสดใสถือเป็นการประยุกต์ความทันสมัย และศิลปะไทยเดิมได้อย่างลงตัว บนโต๊ะรับประทานอาหารไม้สีเข้มหรูหรา ตกแต่งด้วยแจกันที่ปักประดับด้วยดอกกล้วยไม้สายพันธุ์ดีวางไว้ที่ตรงกลางโต๊ะ จานและอุปกรณ์สำหรับรับประทานอาหารในมื้อนี้ ล้วนเป็นเครื่องเคลือบราคาแพง ชนะศึกถูกวิชุดาแม่ของเขาบังคับให้สวมชุดสูทที่สำหรับใส่ในโอกาสพิเศษ เธอเลือกให้ลูกชายสวมสูทสีเทาชาร์โคลสีเข้ม คู่กับเสื้อเชิ้ตสีขาวด้านใน และไม่ลืมที่จะผูกเนกไทผ้าไหมที่มีลวดลายเล็กๆ และกางเกงสีเข้ม ผมเผ้าที่เคยรุงรังถูกจัดทรงอย่างดี ทุกอย่างลงตัวเรียบหรูดูสุภาพและมีสไตล์ ต้องยอมรับว่าวิชุดาเป็นคนมีพรสวรรค์ด้านการเลือกเสื้อผ้า ทั้งของเธอเอง และของใครก็ตามที่เธอเลือกให้ ชนะศึกและวิชุดาก็รีบไปตามนัดของคุณหญิงกันยาภรณ์ นี่เป็นครั้งแรกที่วิชุดาไม่ต้องเตรียมคำแก้ตัวไปให้ลูกชายของเธอ แม้จะแอบหวั่นอยู่บ้างเพราะกลัวว่าชนะศึกจะทำอะไรที่ไม่ควรทำ หรือพูดอะไรที่ไม่ควรพูด แต่มันก็ดีกว่าทุกครั้ง ที่ชนะศึกไม่ยอมมาตามนัด แบบนั้นมันหักหน้าฝ่ายของกันยาภรณ์เกินไป “สวัสดีค่ะคุณวิ วันนี้มาเร็วกว่าที่นัดกันไว้นะคะ” กันยาภรณ์กับมาลาแก้วลูกสาวของเธอ เดินเข้ามาในร้านอาหาร ที่ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงจองเอาไว้ “วินเขาตื่นเต้นน่ะค่ะคุณกันยา แล้วก็รู้สึกผิดด้วยที่ผิดนัดมาหลายรอบแล้ว” วิชุดารีบตอบ “สวัสดีครับคุณป้า” ชนะศึกยกมือไหว้ทักทายอีกฝ่ายอย่างนอบน้อม สายตาแอบมองหญิงสาวที่ตัวเองกำลังจะต้องแต่งงานด้วย เธอเป็นคนที่หน้าตาสะสวย บุคลิกภาพดูเรียบร้อย แต่ภาพรวมถือว่าอยู่ไกลจากสเป็กของเขามากทีเดียว ท่าทางขี้อาย ขาดความมั่นใจ อยู่ภายใต้การควบคุมของแม่แบบนั้น เขาไม่ชอบเอาเสียเลย “สวัสดีพี่วินเขาสิแก้ว คนนี้ล่ะคู่หมั้นหนู” มาลาแก้วเงบหน้าขึ้นมา เพื่อมองชายหนุ่มซึ่งเป็นว่าที่เจ้าบ่าวของเธอ เพียงแค่แวบเดียวที่สบตากับเขา เธอรู้สึกกลัวจนต้องรีบหลุบหน้าลง เพื่อหลบจากสายตาดุดันนั้น “สวัสดีค่ะ” มาลาแก้วยกมือขึ้นไหว้ทักทาย แต่ไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขาอีก ชนะศึกเห็นท่าทางแบบนั้น เขาก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิด เพียงแค่เขามองเธอนิ่งๆ ก็ยังแสดงท่าทางหวาดกลัวจนตัวสั่นขนาดนั้น แล้วแบบนี้จะอยู่ด้วยกันได้อย่างไร
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD