พนักงานในร้านดูตื่นเต้นกับการมาของผู้ชายคนนั้นยกเว้นเธอ ถ้าฟังไม่ผิด เจ้านายของเธอเรียกแทนผู้ชายคนนั้นว่า ‘คุณหมอรามิล’ เขาเป็นหมอเหรอ?
คนแบบนั้นน่ะนะ แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเป็นหมอ ดูเหมือนพวกโรคจิตหื่นกามมากกว่า มีช่วงนึงสบตากัน และเป็นเธอเองที่หลบสายตา ระหว่างทำงานอยู่เสียงพนักงานด้วยกันที่พูดเรื่องผู้ชายคนนั้นดังเข้ามาในโสตประสาท
ไม่ได้ตั้งใจฟังแต่บางทีเรื่องชาวบ้านก็ไม่เข้าใครออกใคร อยากรู้บ้างเป็นธรรมดา
“นั่นคุณหมอรามิล ลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลใกล้ๆร้านกาแฟของเรานิ ตัวจริงหล่อมาก ออร่าสุดๆ”
“เนอะๆ ยังกับพระเอกซีรีส์เกาหลีแน่ะ ทั้งหล่อ เก่ง แถมยังรวยอีก คนอะไรจะเพอร์เฟกต์ขนาดนี้”
“ไม่ใช่แค่หล่อและรวยอย่างเดียวนะ แต่เป็นคุณหมอที่เก่งมากกก ตัวท็อปของวอร์ดเลยมั้งน่ะ”
“หมออยู่วอร์ดอะไร?”
“จะไปรู้ด้วยเหรอฉันไม่ได้ทำงานอยู่โรงพยาบาลเดียวกับหมอสักหน่อย รู้มาแค่นี้ เป็นหมอศัลยกรรมมั้ง”
“รู้ไหมว่าเป็นหมอศัลยกรรมอะไร”
“ไม่รู้ รู้แค่เป็นหมอศัลย์เนี่ยแหละ ป่ะๆทำงานต่อ เดี๋ยวเจ้โบนัสก็ว่าเอาหรอก”
“อันดาจ้ะ”
“คะ?” เธอขานรับเจ้านาย
“หยิบร่มแล้วเดินไปส่งคุณหมอรามิลที่รถหน่อยสิ”
เจ้โบนัสก็ขยันเปิดทางให้เขาเสียจริง แล้วถามว่าทำไหม? แน่นอนว่าเธอปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าไม่ทำเดี๋ยวก็โดนเจ้านายว่าเอา ท่าทางเจ้โบนัสกับเขาจะรู้จักกันดี เพราะเห็นนั่งคุยกันถูกคอเชียว
“ส่งคุณหมอให้ถึงประตูรถเลยนะอันดา”
“ค่ะเจ้”
เธอเปิดประตูร้านแล้วกางร่มออก ด้วยความที่เขาสูงมากเลยทำให้เธอต้องยกร่มขึ้นสูงๆ สูงอะไรขนาดนั้น กินอะไรมาเนี่ยพ่อคุณ
เอียงร่มให้เขาจนไหล่ตัวเองเปียก การกระทำแบบนี้คนรักมักชอบทำกัน แต่สำหรับเธอนะเหรอ? กลัวว่าเดี๋ยวเสื้อราคาแพงของเขามันจะเปียกแล้วหันมาว่าเธอกางร่มไม่ดี
เขาขับรถแอสตันมาร์ตินคันละสิบๆล้าน สมฐานะลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลดี…
เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของโรงพยาบาลแถวร้านกาแฟที่เธอทำงานมาเหมือนกัน โรงพยาบาลนี้ถือเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ มีแพทย์เก่งๆหลายคน เห็นดาราและคนมีเงินส่วนใหญ่ชอบมาใช้บริการที่นี่
“ทำไมถึงไม่รับงาน”
“เพราะไม่อยากรับค่ะ”
“ต้องการเท่าไรถึงจะรับงานของฉัน”
“ไม่รับเหมือนเดิมค่ะ”
มุมปากหยักหักโค้งขึ้นเล็กน้อย แววตาเผยความร้ายกาจออกมาโดยอีกคนไม่ทันสังเกตเห็น
อันดาเป็นผู้หญิงที่เห็นแก่เงิน ในขณะเดียวกันเงินก็ไม่สามารถซื้อเธอมาได้ เป็นผู้หญิงที่คาดเดาอะไรไม่ได้เลย เพชรเม็ดงามอยู่ใกล้แค่เอื้อมแต่กลับเอื้อมไม่เคยถึง ยิ่งเป็นแบบนี้ยิ่งอยากได้เธอมาครอบครองมากเท่านั้น
“หมดหน้าที่ของฉันแล้ว ขอตัวกลับไปทำงานต่อก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวสิ”
“คะ?”
“ถ้าเปลี่ยนใจก็ติดต่อฉันมาส่วนตัว”
เธอมองนามบัตรที่ผู้ชายคนนี้ยื่นมาให้หนึ่งครั้ง จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองเขา เธอรับนามบัตรมาให้จบๆเพื่อตัดความรำคาญ
“ค่ะ”
รามิลมองอันดาที่เดินกลับเข้าไปในร้านด้วยรอยยิ้มมุมปาก ความเย่อหยิ่งของเธอทำให้เขาต้องการเอาชนะ นานๆจะเจอผู้หญิงแบบนี้เข้ามาในชีวิต เป็นเรื่องท้าทายดีเหมือนกัน
ณ โรงพยาบาลภูริธนากุล
“สวัสดีค่ะคุณหมอรามิล”
“สวัสดีครับ” คุณหมอหนุ่มทักทายพยาบาลกลับอย่างเป็นกันเองด้วยรอยยิ้ม พออยู่ในเสื้อกาวน์สีขาววิญญาณคุณหมออบอุ่นผู้แสนดีก็เข้าประทับทันที
ตัวตนที่แท้จริงถูกซ่อนเอาไว้ภายใต้เสื้อกาวน์ขาวสะอาด รามิลอนุญาตให้ทุกคนรู้จักตัวตนแค่ในฐานะ ‘คุณหมอรามิล’
หลังจากตรวจคนไข้เสร็จ คุณหมอหนุ่มก็กลับมานั่งทำงานที่ห้องส่วนตัวของตัวเองต่อ ขณะเดียวกันใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นพลันฉายเข้ามาในหัวจนรู้สึกหงุดหงิดและหัวเสีย
ครืด ครืด
เสียงโทรศัพท์ที่สั่นบนโต๊ะทำงานทำให้เขาปรายสายตาไปมอง ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้ามากดรับสายหลังจากเห็นเบอร์ที่โชว์หลา
“ไง”
(กูเพิ่งถึงไทย ไปดื่มกัน)
“ไม่คิดจะพักผ่อนหน่อยรึไง แลนด์ดิ้งปุ๊บมุ่งไปหาเหล้าอย่างเดียว”
(ชีวิตขาดเหล้าไม่ได้)
“ที่ไหน”
(ไนต์คิงส์ก็ได้ ไปเจอไอ้คิระด้วย)
“รายนั้นติดเมียไปแล้ว จะมาเจอมึงกับกูไหมก่อน”
(กูนัดมันเอาไว้แล้ว สองทุ่มเจอกัน)
“เออๆ” เขาวางสายจาก ‘เคียนติ’ เพื่อนสนิทที่เพิ่งบินกลับจากอิตาลี
คุณหมอหนุ่มเอนแผ่นหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วหลับตาลง ทุกครั้งที่ว่างสมองมักนึกถึงใบหน้าและท่าทางหยิ่งผยองของผู้หญิงคนนั้น
เธอไม่มีอะไรน่าสนใจเลยสักอย่าง แต่ทำไมเขาถึงเอาเธอออกไปจากหัวไม่ได้
เก่งมากที่ทำให้เขา ‘ลืมไม่ลง’