ติ้ง…
ประตูลิฟต์ส่วนตัวที่พามาถึงเพนท์เฮาส์ชั้นบนสุดของรามิลเปิดตัวออก คุณหมอหนุ่มใส่รหัสประตูแล้วเปิดออก ผายมือให้สุภาพสตรีเข้าไปก่อน
ท่าทางดูเหมือนสุภาพบุรุษหากแต่สายตาที่มองหญิงสาวเต็มไปด้วยความร้ายกาจ
อันดาสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดแล้วก้าวผ่านหน้ารามิลเข้าไปในเพนท์เฮาส์
ปัง…
เสียงปิดประตูเป็นสัญญาณบอกว่าลูกกวางน้อยติดกับดักเสือร้ายตัวนี้เข้าให้แล้ว รอยยิ้มมุมปากของรามิลปรากฏขึ้นขณะมองแผ่นหลังบาง
“นั่งรอตรงนั้นก่อน”
“ค่ะ” เธอเดินไปนั่งลงโซฟาตามที่เขาบอก สายตากวาดมองไปรอบๆเพนท์เฮาส์หรูระหว่างรอรามิลกลับมา
การตกแต่งและโทนสีขาวดำบ่งบอกถึงตัวตนเจ้าของ ภายใต้เสื้อกาวน์ที่ขาวสะอาด นี่คงเป็นตัวตนที่แท้จริงของคุณหมอรามิลสินะ
ภายนอกดูอบอุ่นหากแต่ในความเป็นจริง…มันไม่ใช่
กลิ่นอายของความมีอำนาจเจือด้วยความอันตรายทำให้เธอนึกหวาดกลัว ทว่าก็พยายามข่มความรู้สึกพวกนั้นเอาไว้ไม่แสดงออกมา
กลัวแค่ไหนก็ต้องทำใจดีสู้เสือ
“คุณอยู่คนเดียวเหรอ”
“ใช่”
“ทำไมถึงเลือกอยู่เพนท์เฮาส์” ราคาเพนท์เฮาส์ที่เขาอาศัยอยู่แพงพอๆกับราคาบ้านหลังนึงหรืออาจจะแพงกว่าหลายเท่าเลยก็ว่าได้
“ดูรวยดี”
คำตอบของรามิลทำให้เธอนึกหมั่นไส้ ไม่พูดอะไรต่อจากนั้น นั่งมองเขาวางแก้วและพวกเครื่องดื่มมึนเมาทั้งหลายลงบนโต๊ะ ราคาเครื่องดื่มก็ไม่ใช่เล่นๆ แพงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
เป็นคนรวยนี่ดีจริงๆ
“ขอบคุณค่ะ” เธอรับแก้วเครื่องดื่มที่รามิลรินให้มา ยังคงเกร็งและวางตัวไม่ถูกเหมือนคืนแรกที่อยู่กับเขาสองต่อสอง
สายตาพลางเหลือบมองเสี้ยวหน้าของรามิลที่กำลังยกแก้วน้ำสีเหลืองอำพันขึ้นดื่ม เขาเป็นผู้ชายที่ดูดีมากๆ ใบหน้าหล่อเหลาสมกับเป็นที่หมายปองของผู้หญิง แถมยังเหมือนมีออร่าบางอย่างเปล่งประกายออกมาจากตัวเขาอยู่ตลอดเวลา
นั่งเฉยๆยังมีเสน่ห์
“ฉันจะโอนเงินหนึ่งแสนบาทคืนให้คุณ”
“ไม่ต้อง”
“ฉันไม่ได้รับงาน”
“แต่เธอก็ยอมมากับฉัน”
“ฉันมาเพื่อคุยกับคุณเรื่องนี้ ฉันเลิกรับงานพวกนี้แล้ว และหวังว่าคุณจะเข้าใจฉันด้วย ที่คืนนี้ยอมมากับคุณไม่ใช่เพราะเงินนี่ แค่อยากมาคุยกับคุณให้เข้าใจ”
รามิลนั่งยิ้มเบาๆ พลางควงแก้วน้ำสีเหลืองอำพันในมือเล่นขณะฟังอันดาพูด
“คืนนี้ฉันดื่มกับคุณได้ถึงห้าทุ่มครึ่ง หลังจากนี้ฉันหวังว่าคุณจะไม่มาเซ้าซี้พี่แซมมี่ให้มาบอกฉันรับงานอีก”
คนอย่างรามิลสามารถเลือกผู้หญิงมาปรนเปรอได้ตามใจโดยไม่ต้องเจาะจงแค่เธอคนเดียว แค่เป็นเขา ผู้หญิงทุกคนก็อยากเข้าหาแล้ว
หล่อ รวย เก่ง เพอร์เฟกต์ในคนเดียวกัน
“เหมือนโดนฟันแล้วทิ้งเลยแหะ”
“นั่นมันคุณรึเปล่า ฟันผู้หญิงแล้วทิ้ง”
“อาหารที่ไม่ถูกปาก ใครจะอยากกลับไปกินอีก”
เลวดี…
รามิลซ่อนตัวตนที่แท้จริงเอาไว้ภายใต้เสื้อกาวน์ที่ขาวสะอาด นี่แหละตัวตนของเขา
“บางทีคราวหน้า เธออาจจะเป็นคนกลับมาหาฉันเองก็ได้” เขาพูดเสียงเรียบ ก่อนจะยกน้ำสีเหลืองอำพันในแก้วขึ้นดื่มอย่างใจเย็น
“คงไม่มีวันนั้นหรอกค่ะ”
“หึ เดี๋ยวก็รู้”
นี่แค่เริ่มต้น…
“ชนแก้วกันไหมคะ”
เคร้ง~
เขายื่นแก้วไปชนกับอันดา พลางมองเธอขณะกำลังยกน้ำสีเหลืองอำพันขึ้นดื่ม ลำคอระหงกลืนของเหลวอึกแล้วอึกเล่า ตรงนั้นเคยใช้ริมฝีปากสัมผัสมาแล้ว มันหอมเย้ายวนจนอยากสัมผัสอีกครั้ง
ได้แต่กดอารมณ์ปรารถนาเอาไว้แล้วรอคอยจังหวะที่เหมาะสม ถึงคราวนั้นเขาจะทบทั้งต้นและดอกให้สาสมกับที่อดทนรอ
“คุณเคยพาใครมาที่นี่ไหม”
“ยังไม่เคย”
“ปกติพาผู้หญิงไปกินที่ไหน”
“โรงแรม”
“เพนท์เฮาส์นี้ราคาเท่าไรคะ”
“สองสามร้อยล้าน ซื้อนานแล้วจำราคาไม่ได้”
เธออึ้งจนพูดไม่ออก ที่อึ้งกว่าคือ รามิลใช้คำว่า ‘ซื้อ’ ไม่แปลกหรอกเพราะครอบครัวเขารวยมากอยู่แล้ว
เคยได้ยินคาร์เทียร์เล่าเรื่องรามิลให้ฟังบ่อยๆ แต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาเป็นคุณหมอ เพิ่งมารู้เมื่อไม่นานมานี้ รามิลเป็นทายาทหมื่นล้าน ครอบครัวทำอสังหาริมทรัพย์ เป็นเจ้าของโรงพยาบาลภูริธนากุล และธุรกิจอีกมากมายที่เธอเองก็จำไม่ได้แล้วว่ามีอะไรบ้าง
แอลกอฮอล์ที่ไหลเวียนในร่างกายทำให้อันดาเริ่มรู้สึกมึนหัว ทั้งๆเพิ่งดื่มไปไม่กี่แก้ว เธอไม่รู้เลยว่ารามิลเลือกเครื่องดื่มที่มีปริมาณแอลกอฮอล์เยอะที่สุดมาดื่มในค่ำคืนนี้
“พอก่อน…” บอกเขาที่กำลังรินให้อีกแก้ว ลิมิตของเธอตอนนี้ใกล้เต็มแล้ว หากดื่มอีกแก้วที่รามิลกำลังรินให้คงได้เมากันพอดี
“น้ำเปล่า” เขายื่นน้ำเปล่าให้อันดา เริ่มขยับเข้าไปนั่งใกล้เธอเรื่อยๆ ขณะอีกคนกำลังดื่มน้ำเปล่าพลางเลื่อนมือไปปัดปอยผมที่ปรกใบหน้าสวยหวานไปทัดหูให้
“ทะ…ทำอะไร”
“ผมปรกหน้าเธอ”
“เมื่อกี้คุณนั่งตรงนั้นไม่ใช่เหรอ”
“แล้วทำไมเราต้องนั่งห่างกัน ทั้งที่มาดื่มด้วยกัน?”
“ก็ตอนแรกคุณนั่งตรงนั้น…”
“เธอเมาแล้วรึเปล่า”
“ฉันไม่ได้เมา”
“คนเมาที่ไหนบอกว่าตัวเองเมา”
หรือเธอเมาแล้วจริงๆอย่างที่รามิลบอก ไม่ใช่หรอกน่า เธอแค่รู้สึกมึนหัวนิดหน่อยเท่านั้นเอง เธอคว้าโทรศัพท์มาดูเวลา ใกล้ห้าทุ่มครึ่งแล้ว
“ฉันกลับก่อนนะคะ จะห้าทุ่มครึ่งแล้ว”
“ดื่มแก้วนี้หมดก่อนสิ” เขายื่นแก้วเครื่องดื่มที่รินเมื่อครู่ให้อันดา
“หมดแก้วนี้ฉันกลับเลยนะ”
“อืม” มองอันดาที่พยายามดื่มแก้วสุดท้ายให้หมดพลางเลียขอบปากตัวเอง เขาจะอดทนกับเธอได้นานแค่ไหนกันนะ ไล่มามองลำคอระหงที่กำลังกลืนของเหลวลงอึกแล้วอึกเล่าอีกครั้ง
นัยน์ตารามิลเริ่มดำมืดลงเรื่อยๆ มือหนาเลื่อนไปสัมผัสหน้าขาอ่อนผ่านกางเกงขายาว สอดเข้าไปใต้ต้นขาด้านใน อันดาคงไม่รู้เรื่องแล้วเพราะตอนนี้…
เธอเมาแล้ว
“อื้อ… ฉะ…ฉันจะกลับบ้าน”
“จะรีบไปไหน อยู่ดื่มด้วยกันก่อนสิ” น้ำเสียงทุ้มต่ำเจือเสน่ห์ดังอยู่ข้างใบหู
อันดาหันไปหาเจ้าของน้ำเสียงเมื่อครู่ จังหวะนั้นเองริมฝีปากสีระเรื่อเกือบสัมผัสเข้ากับปากหยักได้รูป ไออุ่นจากลมหายใจทั้งคู่เป่ารดกัน ความอดทนของรามิลใกล้ขาดผึงรอมร่อ
สายตาคมเข้มหลุบมองริมฝีปากสีระเรื่อตรงหน้าพลางขบกรามแน่น ไม่เคยอดทนกับผู้หญิงคนไหนเท่าอันดามาก่อน หากอยากได้เธอมาเป็นของตัวเองต้องใจเย็นและรอจังหวะที่เหมาะสม
แต่ทว่า…
ริมฝีปากอันดากลับโน้มลงมาสัมผัสเข้ากับปากของเขา วินาทีนั้นเขาจูบเธอกลับไปโดยอัตโนมัติ บดคลึงจูบอย่างร้อนแรง มือที่สัมผัสต้นขาด้านในเลื่อนขึ้นสูงเรื่อยๆมาจนถึงเอวบาง
กลิ่นแอลกอฮอล์ที่เธอดื่มเข้าไปกระตุ้นอารมณ์ปรารถนาในกายเขาจนพลุ่งพล่าน ที่สำคัญเธอไม่ต่อต้านหรือขัดขืนด้วย แบบนี้เรียกว่าเปิดทางให้เสือหรือเปล่านะ…
สอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปในโพรงปากอุ่นชื้น มือสอดผ่านเสื้อยืดเข้าไปสัมผัสหน้าอกผ่านบราเซียร์ เขาเริ่มหยุดตัวเองไม่ได้แล้ว แม้เคยสัมผัสทุกส่วนบนร่างกายอันดา ทว่าเขายังคงต้องการสัมผัสมันอีกครั้ง
เขาควรหยุดแล้วรอจังหวะที่เหมาะสม…
ยิ่งสัมผัสเขายิ่งต้องการอันดามากขึ้น ไม่เคยรู้สึกต้องการใครมากเท่าเธอมาก่อน เก่งมากนะที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ได้
วันไหนอันดาเป็นฝ่ายเดินมาหาเขา อย่าคิดว่าจะได้เดินออกไปง่ายๆ
หมับ!
เขาจับมืออันดาที่กำลังสัมผัสหน้าท้องแกร่งเอาไว้ อีกนิดจะถึงขอบเข็มขัดอยู่แล้ว
“อย่าทำให้ฉันหมดความอดทน”
ดวงตาคู่สวยช้อนขึ้นมองรามิล ริมฝีปากสีระเรื่อฉีกยิ้มให้เจ้าของคำพูดเมื่อครู่ ก่อนจะใช้มืออีกข้างเลื่อนขึ้นมาสัมผัสใบหน้าคมคายมีเสน่ห์
“คุณหล่อนะ แต่น่าเสียดายที่…”
รามิลเลื่อนขึ้นมาจับมือเล็กซึ่งกำลังสัมผัสใบหน้าของตัวเอง สายตามองอันดาที่อยู่ใกล้จนแทบจูบกันได้อีกครั้ง
“น่าเสียดายที่อะไร”
“ดูเลวเกินไปหน่อย”
“ผู้หญิงไม่ได้ชอบผู้ชายเลวๆหรอกเหรอ” ส่วนใหญ่เห็นผู้หญิงทิ้งผู้ชายดีๆไปหาผู้ชายเลวๆ เพราะผู้ชายเลวน่าตื่นเต้นและเร้าใจมากกว่าผู้ชายที่แสนดี
“เลวเกินไปก็ไม่ดี”
“ไม่ชอบผู้ชายเลว?”
อันดาส่ายหน้าเป็นคำตอบ
“เคยได้ยินไหมว่า ไม่ชอบอะไรจะได้สิ่งนั้น”
“ไม่ใช่คุณแน่ๆ”
อันดาผลักรามิลออกแล้วลุกขึ้นยืน เพียงแค่เริ่มทรงตัวยืนโลกทั้งใบก็หมุนคล้ายกับจะพาล้มให้ได้ เท้าเล็กก้าวเดินออกไปโดยมีสายตาคมเข้มคอยมองตาม
“จะไปไหน”
“กลับบ้าน”
รามิลนั่งมองพลางยกยิ้มมุมปากแล้วส่ายหน้าไปมา เดินยังไม่ตรงยังดึงดันจะกลับบ้านให้ได้ คนอะไรอวดเก่งสิ้นดี…
เขาวางแก้วเครื่องดื่มลงแล้วเดินไปจับหมับเข้าที่แขนอันดา ดึงเธอให้หันกลับมาหา เมาขนาดนี้ปล่อยกลับคนเดียวไม่ได้หรอก สภาพนี้ไม่ได้นอนข้างถนนก็คงโดนใครสักคนฉุดไปอย่างแน่นอน
“ปล่อย…”
“คืนนี้นอนที่นี่ เธอเมามากแล้ว”