2 จินซิน / 2

1285 Words
"อี้ฟาง! อี้ฟางช่วยฉันด้วย!" คนที่ยืนอยู่กลางเปลวเพลิงร้องขอความช่วยเหลือ แต่เหมือนว่าความรุนแรงของเปลวไฟ ขะแรงเกินกว่าที่อี้ฟางจะลุยเข้าไป หรือแม้แต่จินซินเองก็ไม่สามารถฝ่าออกมาได้เช่นกัน ดวงตากลมมองหาสักลู่ทางที่พอจะวิ่งออกไปได้อย่างปลอดภัย และเธอมองเห็นจุดที่เปลวไฟไม่โหมมาก อยู่ห่างจากเธอไปเพียงสองสามก้าว จินซินตัดสินใจก้าวเท้าหมายจะลุยไฟออกไป แต่ด้วยน้ำมันที่เธอราดเอาไว้ ทำให้หญิงสาวลื่นถลาแล้วล้มลงในกองเพลิง ความร้อนกระจายแผ่ทั่วทั้งร่างกายอย่างรวดเร็ว อี้ฟางทำได้เพียงร้องขอความช่วยเหลือ และมองดูเพื่อนถูกเปลวไฟเผาต่อหน้าต่อตา ความแสบร้อนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ภาพของศาลเจ้าและเพื่อนสนิทที่ยืนร้องไห้สลับกับร้องขอความช่วยเหลืออยู่นอกศาลค่อยๆ เลือนลางและจางหายไปในที่สุด 'นี่ฉันเอาชีวิตมาทิ้งอย่างนั้นเหรอ บ้าจริง' 'ทำไม...ความร้อนเมื่อกี้มันหายไปหมดแล้วล่ะ ทะ...ทำไมมันถึงกลายเป็นความรู้สึก...เย็น เย็นเหมือนน้ำ อึก ฮึก...' เมื่อดวงตาคมเบิกขึ้น เธอพบว่าตัวเองกำลังลอยอยู่ในน้ำ ในน้ำที่แสนเยือกเย็นและมืดครึ้มด้วยความลึกของมัน แขนสองข้างตีพยุงร่างให้ลอยกลับขึ้นไปยังผิวน้ำ "เฮือกกกกก" ทันทีที่ร่างกายได้รับอากาศ เธอรู้สึกราวตื่นจากฝันร้าย ความรู้สึกแน่นหน้าอกหายไปหมดสิ้น แต่เมื่อมองไปรอบๆ เธอก็ต้องประหลาดใจอีกครั้ง "ที่ไหนวะเนี่ย" "คุณหนู...ฮือ...ชุนเหยียนคิดว่าท่านสิ้นเสียแล้ว" ขณะที่หญิงสาวกำลังพยายามหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้น และตัวเธอนั้นอยู่ที่ใดกันแน่ ก็มีหญิงสาวผู้หนึ่งแต่งตัวดูคล้ายกับในซีรีส์จีนที่เธอเคยดู วิ่งเข้ามาจับมือของเธอและร้องไห้คร่ำครวญพร้อมกับสาดคำด่าทอตัวเอง หญิงสาวยังคงงุนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า เธอกวาดตามองไปรอบๆ และพบกับผู้คนอีกจำนวนหนึ่งที่มายืนมุงดูเธอ ทุกคนล้วนแต่สวมเสื้อผ้าแปลกประหลาด และเมื่อเธอก้มมองดูชุดของตัวเอง ก็ดูจะไม่ต่างจากคนอื่นๆ "นี่มันเรื่องอะไรกัน" ไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไรต่อ ภาพทั้งหมดก็ค่อยๆ ตัดมืดและหายไป ด้วยร่างกายที่อ่อนแรงจากการดำดิ่งอยู่ใต้น้ำลึกเป็นเวลานาน หญิงสาวค่อยๆ ลืมตาขึ้นอีกครั้ง เธอกวาดตาสำรวจดูรอบๆ และสันนิษฐานว่าที่เธออยู่นั้นน่าจะเป็นห้องพักที่ไหนสักแห่ง แต่ดูการตกแต่งแล้วนั้นช่างดูโบราณพิลึก ไม่ใช่ว่ามันไม่สวย แต่มันดูโบราณจนเหมือนหลุดมาอยู่ในอีกยุค "คุณหนู...ดื่มยาเสียก่อนเถิดเจ้าค่ะ อีกเดี๋ยวฮูหยินเจินจะมาเยี่ยมนะเจ้าคะ" หญิงสาวรู้สึกว่าภาษาที่อีกฝ่ายพูดนั้นจะไม่ใช่ภาษาเดียวกับที่เธอใช้ แต่แปลกที่เธอกลับฟังมันเข้าใจ "ที่นี่...ที่ไหนเหรอคะ?" เธอก็ไม่ได้อยากจะเอ่ยคำถามโง่ๆ นี้ออกไปสักเท่าไหร่นัก แต่เพราะนึกไม่ออกจริงๆ ว่าตัวเองกำลังอยู่ที่ไหน จึงต้องยอมจำใจถามออกไป ไม่ว่าจะพยายามมองสำรวจดูสักกี่รอบ เธอก็ไม่รู้สึกคุ้นชินกับที่นี่เลยแม้แต่น้อย "จวนของตระกูลเจินไงเจ้าคะ คุณหนูจำมิได้หรอกหรือ" หญิงสาวกะพริบตาถี่ เธอเพิ่งจะสังเกตว่าชุดที่หญิงสาวตรงหน้าสวมใส่นั้น เหมือนกับชุดในหนังจีนที่เธอเคยดูไม่มีผิด ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้ฝันไป "โอ๊ย!!" และเมื่อเธอหยิกเข้าที่แขนของตัวเอง ก็พบว่าตอนนี้เธอก็ไม่ได้กำลังฝันอยู่เช่นกัน 'นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน' เธอคิดในใจ "เสี่ยวถงเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง" เสียงหวานของสตรีผู้หนึ่งที่เพิ่งจะเดินเข้ามาถึงดึงให้หญิงสาวบนเตียงไม้ ต้องหันไปมอง เธอผู้นี้แต่งตัวดูดีกว่าหญิงสาวที่อยู่กับเธอทีแรก เครื่องประดับระโยงระยางเต็มตัว แถมยังมีหญิงสาวอีกสองคนที่แต่งตัวดูด้อยกว่าติดตามมาด้วย แสดงให้เห็นว่าสตรีผู้นี้น่าจะเป็นใครสักคนที่มีอำนาจ ซึ่งก็อาจจะมากกว่าเธอ "ทหารบอกว่าเจ้าตกลงไปในบ่อน้ำ จมหายไปเนิ่นนาน ทหารที่กระโดดตามลงไปพยายามงมหาร่างของเจ้า แต่ก็ไม่พบ แต่หลังทุกคนถอดใจแล้ว เจ้ากลับลอยขึ้นมาเอง เหลือเชื่อมาก" ผู้มาเยือนเล่าด้วยสีหน้าที่ดูประหลาดใจกับเรื่องที่พูดถึง "ข้าไม่เป็นอะไรมาก เพียงแต่...รู้สึกว่าจะจำอะไรไม่ค่อยได้" อยู่ๆ ปากมันก็ขยับพูดไปเอง คนพูดอ้าปากค้าง เพราะตกใจที่ตัวเองพูดภาษาจีนได้ แต่ทำไมถึงต้องใช้คำโบร่ำโบราณขนาดนั้นด้วยเล่า "งั้นหรือ? ตอนเจ้าตกลงไปในบ่อหัวไปกระแทกกับอะไรเข้าหรือไม่" คนพูดว่าพลางยกมือขึ้นจับที่ศีรษะของอีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง "ข้าก็...ไม่แน่ใจ" "เช่นนั้นข้าจะให้หมอหลวงช่วยมาตรวจดูเจ้าก็แล้วกัน ยานั่น...เจ้ายังไม่ได้กินอีกหรือ" เมื่อดวงตาคู่สวย มองเห็นถ้วยยาที่ตนเองเป็นคนสั่งให้เอามามอบ แก่คนป่วยยังคงตั้งอยู่โดยปริมาณยาในถ้วยก็ยังไม่ลดลงไปแม้แต่น้อย จึงได้เอ่ยถามขึ้น หญิงสาวที่เพิ่งถูกถามหันมองถ้วยย่าที่ว่านั้น ก่อนจะหันกลับมามองที่คนถามพลางสั่นศีรษะไปมาแทนคำตอบ "งั้นก็กินเสียเถอะ ข้าไม่รบกวนเจ้าแล้ว" หญิงงามว่าพลางยืนขึ้นเต็มความสูง ก่อนจะเดินจากไปพร้อมบริวารที่ติดตามมา เมื่อหญิงงามผู้ทรงบารมีเดินหายไปแล้ว หญิงสาวที่นั่งอยู่บนเตียงก็หันไปหาหญิงชราที่เธอตื่นขึ้นมาพบเป็นคนแรก "ผู้หญิงคนเมื่อกี้ใครเหรอ" "คุณหนูเจินหลี่หลัวไงเจ้าคะ บุตรสาวคนโตของตระกูลเจิน พี่สาวของแม่ทัพเจินฮุ่ยหมิงคู่หมั้นของคุณหนูไงเจ้าคะ" สาวใช้บอกกับนายของตนด้วยความประหลาดใจ ถึงจะจำอะไรไม่ได้ อย่างน้อยเธอก็น่าจะจำเจินหลี่หลัวได้บ้าง เพราะเป็นคนที่ใจดีกับนางมากที่สุดแล้ว "เหรอ จำไม่ได้เลยแฮะ แต่...ฉันชื่อะไรนะจำไม่ได้แล้ว เหมือนจะได้ยินคุณเจินหลี่หลัวเรียกอยู่ว่า..." "ถงหลานเฟยเจ้าค่ะ นี่คุณหนูจำอะไรมิได้เลยหรือเจ้าคะ ลืมแม้กระทั่งตัวเองเลยหรือ" ว่าแล้วหญิงชราก็เสียงสั่นสะอื้นขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่ถงหลานเฟยเกลี้ยกล่อมอยู่นานสองนาน "หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ แล้วก็เล่าให้ข้าฟังด้วยว่าข้าเป็นใคร มาจากไหน มาอยู่ในบ้านของคนอื่นได้อย่างไร" เจ้าตัวพอจะเดาได้ว่าเรือนหลังนี้ไม่ใช่ของตนเป็นแน่ แต่ก็นึกไม่ออกว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร เมื่อคุณหนูตัวน้อยของชุนเหยียนยอมดื่มยาที่คุณหนูเจินมอบให้จนหมดถ้วย หญิงชราก็เริ่มเล่าเรื่องราวแสนอาภัพของหญิงสาวนามว่าถงหลานเฟยให้กับเจ้าตัว ที่อ้างว่าจำอะไรไม่ได้ฟัง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD