หญิงสาวนั่งอ่านสมุดบัญชีของเดือนนี้แล้วก็ถอนหายใจออกมา เพราะมันทำให้เธอคิดหนักทีเดียว เศรษฐกิจปีนี้ก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ นักท่องเที่ยวก็บางตากว่าปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด แต่ฉับพลันสายตาของเธอก็เห็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กำลังเปิดประตูห้องทำงานของเธอเข้ามาด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
“มาถึงเมื่อไหร่ค่ะคุณอัสมิน ทำไมไม่โทรศัพท์มาบอก เลิฟจะได้ไปรับที่สนามบิน” ร่างระหงลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน พร้อมกับสาวเท้าเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มที่เธอสนิทและรักเหมือนพี่ชาย
“ผมก็อยากมาเซอร์ไพร์สคุณเหมือนกันนะเลิฟ ว่าแต่สบายดีไหม ไม่ได้เจอกันเกือบครึ่งปี” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยถามหญิงสาวที่เขาปักใจรักมาเกือบสี่ปีด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน จากนั้นก็ยื่นของฝากมาให้เธอ
“ของฝากอีกแล้ว เลิฟบอกแล้วยังไงค่ะ ว่าไม่ต้องซื้ออะไรมาฝาก แค่คุณอัสมินมาเยี่ยมเลิฟก็ดีใจแล้ว”
“แค่ดีใจเองหรือครับ ขอเป็นอย่างอื่นบ้างได้ไหม”
“ขออย่างอื่นอีกแล้วคุณอัสมินเนี่ย เลิฟบอกแล้วยังไงล่ะค่ะว่าคุณอัสมินเป็นเหมือนพี่เหมือนพี่ชายของเลิฟ อีกอย่างเลิฟไม่เหมาะกับคุณอัสมินหรอกค่ะ เชื่อสิ สักวันหนึ่งคุณอัสมินจะต้องเจอผู้หญิงที่เหมาะและคู่ควรที่จะเป็นแม่ของลูกของคุณแน่นอน”
“พูดเสียยาวเลยนะเลิฟ” อัสมินทำเสียงหยอกเย้านรีกานต์ ทุกครั้งที่เขาเริ่มที่จะขอความรักจากเธอ นี่ก็เป็นคำตอบเดิมๆ ที่เขาได้ยินมาตลอดเกือบสี่ปีที่เขาและเธอรู้จักกัน อยากรู้เหลือเกิน ว่าหัวใจดวงนี้ทำด้วยอะไร ทำไมมันถึงได้แข็งแกร่ง จนเขาไม่สามารถที่จะหลอมละลายให้มันกลายเป็นน้ำได้เสียที
อัสมินรู้ดีว่านรีกานต์คงจะรักควาริมอย่างหมดหัวใจไปแล้วนั่นเอง หญิงสาวถึงไม่มีใจที่จะรักเขา แต่ก็ช่างเถอะ แม้เขาไม่ได้หัวใจของเธอมา แต่อย่างน้อยเธอก็อยู่กับเขามาเกือบสี่ปีแล้ว อย่าว่าแต่ควาริมเลย ต่อให้เป็นท่านลุงรามินทร์กับท่านหญิงฟาร่ามาขอร้อง เขาก็ไม่ยอมยกนรีกานต์คืนให้กับควาริมอย่างเด็ดขาด
“ก็คุณอัสมินชอบถามเลิฟแบบนี้บ่อยๆ นิค่ะ” นรีกานต์ตอบด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานเหมือนเดิม
“ว่าแต่คราวนี้คุณอัสมินจะมากี่วันค่ะ”
“สองอาทิตย์จ้ะ”
“สองอาทิตย์เลยหรือค่ะ แล้วงานที่โน่นล่ะ ใครดูแล”
“ผมมีคนดูแลงานก็แล้วกัน ว่าแต่เลิฟเถอะ นั่งทำอะไรอยู่เนี่ย”
“บัญชีของเดือนนี้นะคะ เลิฟกำลังดูรายราบกับรายจ่ายนิดหน่อย รู้สึกว่าช่วงนี้รายได้น้อยมาก แต่รายจ่ายนี้เยอะมากจนน่าตกใจ”
“ผมว่าเลิฟผอมไปนะ”
“ไม่นิค่ะคุณอัสมิน เลิฟก็ยังปกติ ไม่เห็นผอมตรงไหน”
////////
อัสมินยิ้มกว้างกับอาการตื่นๆ ของนรีกานต์ ผู้หญิงคนนี้ยุขึ้นเสียด้วย แค่เขาบอกว่าผอมไป หญิงสาวถึงกับต้องก้มลงมามองตัวเองอย่างสำรวจตรวจตรา ยิ่งเห็นใบหน้าสวยคมขมวดคิ้วขึ้นมา เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าโลกนี้ช่างน่าอยู่ไม่น้อย หากเขาสามารถทำให้เธอยอมตกลงแต่งงานกับเขาเสียที
“ไม่เห็นจะผอมเลย เลิฟก็ยังน้ำหนักเท่าเดิมนะคะคุณอัสมิน”
“ผมล้อเล่นนะเลิฟ คุณนี่คิดมากจัง” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ดี เมื่อเห็นใบหน้าสวยคมเริ่มจะบึ้งตึงเล็กน้อย กับการแกล้งของเขา
“เที่ยงแล้ว ผมว่าเราไปทานข้าวกันดีกว่าครับ” สายตาคู่คมก้มลงมามองนาฬิกาบนข้อมือ ก่อนจะเงยขึ้นมาสบตามองคนตรงหน้าเหมือนจะเป็นการบังคับกลายๆ “ไปสิครับ ผมหิวแล้วนะ”
“แต่งานเลิฟยังไม่เสร็จเลยนะคะคุณอัสมิน”
“เดี๋ยวค่อยมาทำก็ได้นะเลิฟ จะขยันไปถึงไหน ถึงคุณไม่มีเงินจะเลี้ยงเจ้าตัวยุ่งสองคนนั้น แต่ผมก็มีเงินเยอะแยะ ที่จะเลี้ยงคุณสามแม่ลูกได้นะ ลุกสิ หรือจะให้ผมอุ้ม” เขาบอกอย่างขำๆ
“ลองมาอุ้มดูสิ เลิฟจะทำให้คุณสูญพันธุ์ไปเลย” ไม่เพียงแต่พูดเท่านั้น แต่ร่างระหงที่ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ทำให้คนที่หยอกล้อ ถึงกับต้องขยับกายถอยหลังอย่างตกใจ พร้อมกับหัวเราะออกมา
“ฮ่าๆ เอาจริงเหรอเลิฟ ผมแค่ล้อเล่นเอง” เขาหรือจะกล้า ก็รู้ดีหรอกน่า ว่าคุณเธอมีฝีมือแค่ไหน ขนาดลูกน้องของเขายังไม่สามารถล้มเธอได้เลย แล้วอย่างเขาจะกล้าต่อกรกับเธอได้อย่างไร เพราะว่ารักหรอกถึงไม่อยากทำ หากเขาจะใช้กำลังกับนรีกานต์ เขาก็ทำได้ แต่ที่ไม่ทำ เพราะรู้ดีว่ามันไม่มีประโยชน์ หัวใจของเธอไม่ได้เป็นของเขา แต่เป็นของอดีตเพื่อนรักอย่างควาริมต่างหาก
เขารู้ดีว่าแม้นรีกานต์บอกว่าเธอไม่ได้รักควาริม แต่สิ่งที่หญิงสาวปฎิบัติมาตลอดเกือบสี่ปี เขารู้ว่าทั้งตัวและหัวใจของเธอ มอบให้ควาริมไปจนหมดแล้ว แถมเธอยังมีพยานรักออกมาอีกตั้งสองคน แล้วแบบนี้จะให้เขาไปสู้ควาริมได้ยังไง
“คุณล้อเล่น แต่เลิฟทำจริง” น้ำเสียงหวานเริ่มเขียว เมื่อเห็นสายตาวิบวับของอัสมิน
“ไปทานข้าวกันเถอะ ผมหิวแล้ว”
“ก็ไปสิค่ะ ยืนมองเลิฟอยู่ทำไมล่ะ” นรีกานต์ต่อว่าเสียงเขียว ก่อนจะรีบเก็บเอกสารกับสมุดบัญชีเข้าไปเก็บไว้ในลิ้นชัก จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมามองคนก่อกวนอย่างไม่พอใจนิดๆ
ทุกครั้งที่อัสมินมาเยี่ยมเธอและลูกที่นี่ เขาก็จะเข้ามาป่วนเวลาทำงานของเธอจนล้มไม่เป็นท่า เรียกได้ว่าถ้าชายหนุ่มมาพักผ่อนที่นี่หนึ่งอาทิตย์ เธอก็จะต้องหยุดทำงานหนึ่งอาทิตย์เลยเช่นกัน ส่วนคนที่อยากให้มาอยู่ในตอนนี้ก็ดันหายหน้าหายตาจากเธอไปเหมือนกัน
“แล้วนี่อัสซามินไปไหน” อัสมินเอ่ยถามอดีตคนสนิทของควาริมอย่างสงสัย เพราะช่วงหลังมานี้ ผู้ชายคนนี้เริ่มทำตัวแปลกๆ ขึ้นทุกวัน ที่ร้ายไปกว่านั้น เขาต้องตามเก็บเอกสารที่จะถูกส่งไปยังคฤหาสน์อัมฟาล อัล ราเฟลเพราะฝีมือของอัสซามิน แต่เชื่อเถอะว่าเขาจะไม่มีทางยอมให้ควาริมรู้เรื่องนรีกานต์อยู่เมืองไทยและยังเรื่องของลูกฝาแฝดของเธอกับควาริม เขาจะไม่ยอมให้อดีตเพื่อนรักคนนี้ได้มีความสุขอย่างเด็ดขาด ในเมื่อน้องสาวเขาต้องมาจบชีวิตลงแบบนี้ เขาก็ยิ่งไม่มีวันยกนรีกานต์กลับไปให้ควาริมแน่
“ไม่รู้เหมือนกัน สงสัยอยู่กับน้องใหญ่กับน้องเล็กมั้งค่ะ”
“งั้นเราไปกันเถอะ”
“ก็ไปสิค่ะ จะยืนรออะไรกันอยู่ล่ะ” นรีกานต์พูดขึ้น
ชายหนุ่มได้แต่อมยิ้มกับนิสัยเอาแต่ใจของนรีกานต์ ขนาดว่ามีลูกถึงสองคนแล้วแต่เธอยังไม่เลิกนิสัยอารมณ์ร้อน เขาอยากรู้เหลือเกินว่าควาริม ทำยังไงถึงสามารถพิชิตใจของผู้หญิงอารมณ์ร้ายคนนี้ได้
‘แกมันแน่จริงๆ เลยวะ ควาริม’
//////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...