“คุณอัสมินเป็นคนดูแลคุณเลิฟมาตลอดสี่ปีที่ผ่านมา ข้อมูลและร่องรอยของคุณเลิฟก็ถูกคุณอัสมินนี่แหละครับ ที่คอยจัดการเก็บรายละเอียด ทำลายหลักฐานและที่อยู่ของคุณเลิฟเพื่อไม่ให้นายตามคุณเลิฟเจอ”
“หมายความว่า...” ไม่ต้องบอกอะไรแล้ว เขารู้แล้วว่าทำไมเขาถึงไม่สามารถหาตัวนรีกานต์เจอก็เพราะแบบนี้นี่เอง เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าอดีตเพื่อนรักคนนี้จะยังแค้นเขาเรื่องของไลล่า ทั้งที่ความจริงๆ แล้วมันไม่ใช่อย่างที่อัสมินเข้าใจเลยสักนิด แต่ที่เขาไม่พูดเพราะไม่อยากทำให้ชายหนุ่มเสียใจกับสิ่งที่ไลล่าทำผิดพลาดไปหรอก เขาขอยอมรับเป็นผิดเองก็แล้วกัน ปล่อยให้คนที่จากโลกใบนี้ไปแล้วได้นอนตายอย่างมีความสุขไปเถอะ ส่วนเรื่องที่อัสมินกล่าวหาว่าเขาเป็นคนทำให้ไลล่าเสียชีวิต ที่เขาไม่ปฎิเสธก็เพราะไม่อยากทำร้ายความรู้สึกของเพื่อนที่เขารัก หากเขาบอกความจริงไป แล้วอัสมินจะรับได้ไหม
ถ้ารู้ว่าน้องสาวถูกคนที่เพื่อนรักเคารพนับถือมากที่สุดในชีวิตบังคับข่มขืน จนไลล่าตั้งท้องแล้วหาทางออกไม่ได้จนคิดฆ่าตัวตาย แม้ครั้งแรกเขาจะช่วยเธอเอาไว้ได้ในครั้งแรก แต่ครั้งที่สองเขากลับช่วยเหลือเธอไม่ทัน สุดท้ายสาวน้อยที่เขารักเหมือนน้องสาวก็จบชีวิตของตัวเองลงจนได้
ใครว่าเขาไม่เสียใจ แต่เขาไม่อยากบอกความจริงกับเพื่อนที่เขารักมากที่สุดถึงความจริงที่เกิดขึ้น แต่สุดท้ายกลับหลายเป็นว่าเขากับอัสมินต้องเลิกคบกันก็เพราะเรื่องของไลล่านี่แหละ
“ครับ คุณอัสมินรักคุณเลิฟ” ควาริมถือโทรศัพท์มือถือค้างเอาไว้แบบนั้น แม้ว่าตอนนี้อดีตคนสนิทจะวางสายจากเขาไปแล้ว แต่ในหัวสมองของเขากลับคิดไปถึงเรื่องเมื่อหลายปีก่อน แต่ก็ช่างเถอะ เขาจะไม่รื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก ปล่อยให้อัสมินเข้าใจไปแบบนั้นแหละดีแล้ว อีกอย่างตอนนี้ไอ้แก่ตัณหากลับคนนั้นก็พิการจนเดินไม่ได้ ทำอะไรเองก็ไม่ได้ เพราะเขาเป็นคนไปจัดการกระทืบมันเองกับมือ แล้วมีหรือที่มันจะรอดมาสร้างบาป ทำร้ายผู้หญิงได้อีก
นาดารีบสาวเท้าเดินเมื่อความรู้สึกของเธอบอกว่า มีใครบางคนเดินตามเธอมา เท้าเล็กรีบสาวเท้าจนแทบจะวิ่งเลยทีเดียว ใบหน้าสวยเริ่มขมวดคิ้วขึ้นมาสงสัย ใครกันที่เดินตามเธอ เท้าเล็กหยุดเดิน ก่อนหันไปมองทางด้านหลังด้วยความหวาดระแวง แต่พอหันไปมอง เธอก็พบกับความว่างเปล่า
“สงสัยท่าจะบ้าไปแล้วฉัน ไม่เห็นมีใครเดินตามมาสักคน”
คนหวาดระแวงบ่นพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะหันหลังกลับแล้วรีบสาวเท้าเดินกลับไปห้องพัก คนที่แอบสะกดรอยตามมายืนหลบอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่อย่างขบขำ ไม่ยักกะรู้ว่าผู้หญิงคนนี้หูดี รู้จักระมัดระวังตัวแจเลยทีเดียว
เห็นทีเขาคงจะต้องใช้แผนเสียหน่อยแล้ว แต่ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลา แต่อีกไม่นานหรอก เขาจะจัดการผู้หญิงคนนี้ให้สาสมกับสิ่งที่อดีตเพื่อนรักของเขา ทำเอาไว้กับน้องสาวของเขา
“เธอมาโทษฉันไม่ได้นะนาดา หากจะโทษ เธอก็ต้องไปโทษไอ้ควาริมมันก็แล้วกัน ที่ทำให้เธอต้องมาเจอเรื่องแบบนี้”
อัสมินพูดกับตัวเองเบาๆ เมื่อก่อนเขาไม่ทันคิด หากจะแก้แค้น เขาสามารถดังฟารีน่าเขามาเป็นเหยื่อของเขาได้เหมือนกัน แต่ตอนนั้นเขาไม่ทันได้คิด ซึ่งตอนนี้น้องสาวของควาริมก็กำลังคบหาดูใจอยู่กับราฟาเอล เซอเรนโซ พี่ชายต่างมารดาของอลินเซีย อัมฟาล อัล ราเฟล นั่นเอง เมื่อเห็นว่าหญิงสาวร่างระหงเดินเข้าไปภายในห้องพักแล้ว
อัสมินก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากนั้นก็กดหาลูกน้องที่เขาสั่งให้ออกไปซื้อของให้กับนรีกานต์ทันที ไม่นานปลายสายก็ถามเขากลับมาว่า...
“มีอะไรหรือครับคุณอัสมิน”
“ตอนนี้พวกนายกลับกันมาหรือยัง”
“ยังเลยครับ ผมเดินตามคุณเลิฟอยู่ที่ตลาดสดครับ”
“เสร็จจากงานเมื่อไหร่ โทรมาหาฉันทันทีเข้าใจไหมโอซามา”
“ครับ”
โอซามารับคำ ก่อนที่ปลายสายจะตัดไป ชายหนุ่มเก็บโทรศัพท์มือถือลงในกระเป๋าเสื้อ จากนั้นก็หันมาสนใจเจ้านายสาวอีกครั้ง วันนี้เขาได้รับคำสั่งจากเจ้านายหนุ่มให้มาช่วยคุณนรีกานต์ซื้อของเข้ารีสอร์ท แล้วไม่ใช่แต่เขาหรอกที่ได้รับคำสั่ง เพราะมุญาฮิดกับยานาฟก็มาช่วยกันถือของที่เจ้านายสาวซื้อนั่นเอง
“ใครโทรมาหรือโอซามา” นรีกานต์ถามคนสนิทของอัสมิน ส่วนมือก็กำลังหยิบกล่องทิชชูขึ้นมาดู
“คุณอัสมินครับคุณเลิฟ” โอซามาตอบเจ้านายสาวเสียงนุ่ม เกือบสี่ปีแล้วสินะ ที่เจ้านายหนุ่มของเขาตามดูแล เทคแคร์สาวสวยคนนี้ แม้ว่าหญิงสาวจะมีลูกแล้ว แต่ผู้เป็นนายของเขาก็ยังรัก
ถึงแม้จะรู้ว่าสาวสวยคนนี้เป็นภรรยาของอดีตเพื่อนรักที่ดันกลายมาเป็นศัตรูกันก็เถอะ แต่ดูเหมือนว่าความรักที่เจ้านายของเขามีให้ ก็ไม่มีวันลบเลือนไปเช่นกัน
“คุณอัสมินโทรมาทำไมกัน”
นรีกานต์เอ่ยขึ้น เพราะก่อนหน้าเธอถามชายหนุ่มแล้ว ว่าทำไมจะต้องให้คนสนิทของเขาตามมาช่วยเธอด้วย เพราะปกติเธอก็ทำเองได้อยู่แล้ว ของแค่ไม่อีกอย่าง เธอถือเองได้
“ไม่ทราบเหมือนกันครับคุณเลิฟ”
“งั้นเราก็รีบไปกันเถอะ ฉันยังซื้อของอีกสองสามอย่างเท่านั้น ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว”
“ครับ” โอซามารับคำ ก่อนจะหันไปมองเพื่อนร่วมงานอีกสองคนที่เดินตามเขามา อีกสองหนุ่มก็ถือของกันเต็มทั้งสองมือ เขาล่ะอยากหัวเราะออกมาจริงๆ กับคำพูดของเจ้านายสาวคนนี้ หากเขาจำไม่ผิดหญิงสาวบอกว่า เธอจะมาซื้อของแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น แต่ดูในมือของมุญาฮิดกับยานาฟสิ มันมีแค่สองสามรายการเสียที่ไหน
“ช่วยถือหน่อยสิแก มองอยู่ได้”
ยานาฟบ่นเสียงขุ่น เมื่อเห็นโอซามาเอาแต่จ้องมองเขาและมุญาฮิด มือซ้ายถูกยื่นออกมาตรงหน้าของโอซามา จากนั้นก็เอ่ยขึ้นว่า
“อันนี้ของแก เอาไปเลย ช่วยกันถือหน่อย” เขาถือจนมืออ่อนล้า ไม่มีแรงเอาดื้อๆ เดินมาเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว แต่เจ้านายสาวคนสวยก็ยังซื้อของไม่เสร็จเสียที
“ฉันเห็นด้วยกับยานาฟเลย...โอซามา ถึงรอบของแกแล้ว เอาช่วยกันถือหน่อย”
มุญาฮิดยื่นมือออกไป พร้อมกับถุงใส่ผลไม้และของแห้งบางอย่างเกือบห้าถุงยื่นให้โอซามาอย่างหงุดหงิด มากันสามคนที่เขากับยานาฟถือกันสองคน ส่วนโอซามาดันเดินเฉย ไม่ช่วยพวกเขาถืออะไรเลย
“คุณเลิฟยังซื้อของไม่หมดเลย พวกแกถือพวกนี้ไปก็แล้วกัน เดี๋ยวของที่เหลือที่คุณเลิฟจะซื้อ ฉันจะเป็นคนถือเอง ฉันไปก่อนนะ คุณเลิฟเริ่มหันมามองพวกเราแล้ว”
โอซามาพูดจบ ชายหนุ่มก็สาวเท้าเดินตรงเข้าไปหาเจ้านายสาวอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาเห็นว่าในมือของผู้เป็นนายเริ่มมีถุงหลายถุงแล้ว เห็นทีรอบนี้น่าจะเป็นเขาแล้ว ที่ต้องช่วยหญิงสาวถือ
ยานาฟกับมุญาฮิดหันมามองหน้ากัน ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ พวกเขาหวังว่าของที่เจ้านายสาวซื้อ มันคงจะมากกว่าที่พวกเขาแต่ล่ะคนถือเถอะ เพราะถ้าหากหญิงสาวซื้ออีกไม่กี่อย่างจริงๆ พวกเขาสองคนคงถูกโอซามาเอาเปรียบแน่นอน เพราะตลอดเกือบหนึ่งชั่วโมงที่เดินถือของกันมา โอซามาไม่ได้ช่วยถืออะไรเลย
“เฮ้อ.../ เฮ้อ...”
/////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...