ภาคินปรี่เข้าไปจับล็อกสองแขนเรียวแล้วกระชากเข้ามาถามด้วยความไม่พอใจ
"เข้ามาทำไม!"
"คะ..คุณคิน หนึ่งเจ็บค่ะ" คนถูกบีบแขนด้วยความแรงอย่างน้ำหนึ่งเบ้หน้า มือของเขาใหญ่มาก และกำลังของเขาก็ไม่ต่างจากคีมคีบดีๆ นี่เอง
"ฉันถามว่าเข้ามาทำไม!" ภาคินไม่สนว่าใครจะเจ็บปวดสักเท่าไหร่ น้ำหนึ่งควรกลับไปตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้วไม่ใช่เหรอ แล้วใครอนุญาตให้เธอเข้ามาที่นี่ได้!
"พยู!" ภาคินเรียกหาแม่บ้านอายุน้อยเสียงลั่นบ้าน
"ยะ..อย่าไปว่าพยูเลยนะคะ พยูไม่รู้เรื่องด้วย หนึ่งปีนรั้วเข้ามาเองค่ะ" รีบออกหน้ารับแทนพยูอย่างที่ตกลงกันไว้ เธอเข้ามาเอง ไม่ประสงค์ให้คนอื่นเดือดร้อนด้วยในเมื่อรู้แล้วว่าเจ้าของบ้านไม่ต้อนรับ
คนตัวเล็กถูกผลักออกให้ห่างจนร่างบอบบางฟุบลงไปที่พื้น ก้นกระแทกจ้ำเบ้า มันเจ็บจนเบ้หน้าออกมา
ทำใจดีสู้เสือค่อยๆ ลุกขึ้นยืนช้าๆ แล้วเขยิบเข้าไปหาเขา ใจกล้ายกมือขึ้นเพื่อจะสัมผัสแขน แต่คนรู้ตัวกลับเดินออกห่างแถมยังมองแรงกลับมา
น้ำหนึ่งพยักหน้า เมื่อก่อนเคยเป็นเมียรัก แต่ตอนนี้คงเป็นเมียชังไปแล้วเธอเข้าใจ
"กลับไปซะ! อย่ามายุ่งกับฉัน" ภาคินเอ่ยสั้นๆ อย่างพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองแล้วเดินไปแต่งตัว ทว่าเอวสอบกลับถูกสวมกอดจากทางด้านหลังทำให้เขาเดินต่อไปไม่ไหว
"หนึ่งไม่กลับได้ไหมคะ หนึ่งคิดถึงคุณค่ะคุณคิน ขอหนึ่งกลับมาอยู่ด้วยนะคะ อย่าไล่หนึ่งเลยนะ" เธอสัญญากับตัวเองแล้วว่าจะกลับมาทำหน้าที่เมียของเขาไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ไม่ว่าไล่ยังไงก็จะไม่ไป เอาช้างมาลากเธอก็จะนอนอยู่ตรงนี้
ภาคินรีบแกะแขนเรียวออกทันที เกิดการยื้อยุดกันไปมาเพราะน้ำหนึ่งไม่ยอมถอดกอดออกจากสามี แต่ท้ายที่สุดคนตัวเล็กก็ต้องพ่ายแพ้ให้แก่เขาจนได้เพราะอีกฝ่ายแรงเยอะกว่า
"อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำ"
น้ำหนึ่งส่ายหน้า "ยังไงหนึ่งก็เป็นเมียคุณ คุณอย่าไล่หนึ่งเลยนะคะ" มารยาผู้หญิงต้องมา ว่ากันว่าผู้ชายแพ้น้ำตารีบบีบมันออกมาให้เยอะที่สุด
รู้แหละว่าเขายังโกรธ จะพูดอะไรก็พูดเถอะ แต่เขาหนีความจริงไม่ได้อยู่ดีว่าเราแต่งงานกันแล้ว ไม่ว่าเราจะอยู่กันได้กี่วัน แต่หลังแต่งงานเธอก็คือเมียของเขาอยู่ดี
"หึ เมีย?" ภาคินแสยะยิ้มออกมา ช่างหน้าตลกสิ้นดี แต่โทษทีเขาไม่ได้โง่!
"ฉันไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับเธอจำไม่ได้เหรอ เพราะฉะนั้นเธอไม่เคยเป็นเมียฉันเลยนะ เธอก็แค่คนที่มาหลอกแต่งงานเอาเงินสินสอดฉันไป" โทษทีขนขาเขาไม่ร่วง แต่มันโคตรเจ็บใจ!
เราแต่งงานกันไปแค่เดือนเดียว ยัยผู้หญิงคนนี้ก็รีบหอบสินสอดวิ่งแจ้นกลับบ้านจะให้เขาว่าไงล่ะ
น้ำหนึ่งยืนอึ้งเมื่อเขาเข้าใจแบบนั้น
"มะ..ไม่ใช่นะคะ คุณเข้าใจผิด" อะไรกันเนี่ย ใครบอกเขาแบบนั้น หรือว่า..
แม่ย่าเธอแน่นอน!
ให้บอกความจริงว่าแม่เขาไม่ชอบเธองี้ ท่านไล่เธอทุกครั้งเวลาเขาไม่อยู่บ้าน
แบบนี้มันจะเป็นการใส่ร้ายคนตายโดยที่ไม่มีหลักฐานหรือเปล่า แล้วนั่นแม่เขาแท้ๆ สายเลือดเดียวกัน แต่กับเธอเพิ่งมาเจอกันตอนโต เขาจะเชื่อใครกันถ้าไม่เชื่อแม่
ถ้าเธอบอกว่าแม่เขานั่นแหละต้นเหตุให้เธอทนอยู่ไม่ไหว แล้วสองแม่ลูกจะเป็นยังไง เขาจะยอมผิดใจกับแม่แล้วเลือกเธอ? พาเธอไปอยู่ที่อื่นแล้วทิ้งแม่แก่ๆ ไว้กับคนใช้
ไม่แน่นอน เขาไม่ทำแบบนั้นชัวร์ ก็นั่นแม่เขา และเขาคือลูกชายคนเดียว เขาคงไม่เลือกเธอมากไปกว่าแม่บังเกิดเกล้า น้ำหนึ่งจึงยอมยกธงขาวเดินออกมาเอง
ยอมตกเป็นจำเลยให้สามีสุดที่รักเข้าใจผิด ยอมให้แม่ลูกเขาดีกันต่อไปแล้วเป็นฝ่ายโดนตราหน้า
"งั้นเราไปจดทะเบียนสมรสกันดีไหมคะ" น้ำหนึ่งรีบเคลียร์น้ำตาแล้วยิ้มออกมา
"หึ ฝันเหรอ พอเงินหมดรีบวิ่งแจ้นกลับมาชวนไปจดทะเบียนสมรสมันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ"
"ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ ไม่ใช่เงินหมด เงินอยู่ที่.."
"ฉันไม่อยากฟัง แล้วก็ไสหัวออกไปได้แล้ว ไม่ใช่แค่ออกจากห้องนะ แต่ออกจากบ้าน อย่ามาทำตัวหน้าด้านแถวนี้!" ไม่ว่าเปล่าจับน้ำหนึ่งผลักออกไปด้านนอกห้องนอนด้วยความหงุดหงิดแล้วปิดประตูดังปัง!
น้ำหนึ่งได้ยินเสียงล็อกจากทางด้านหลังบ่งบอกว่าเขาไม่ต้องการให้เธอเข้าไปรบกวน
ไม่รู้จะปลอบใจตัวเองกับประโยคไหนก่อนดี ที่เขาไล่หนี ยังไม่เจ็บเท่าบอกเธอไม่เคยเป็นเมีย มันไม่ใช่แค่เขาโกรธ แต่เกลียดเข้ากระดูกดำเลยแหละ
แล้วแม่ย่า..แสบจริงๆ เป่าหูลูกชายว่าเธอมาหลอกแต่งงานเพื่อหิ้วสินสอดกลับบ้าน ก็ว่าอยู่ทำไมเขาไม่ต้อนรับขนาดนั้น
ความจริงสินสอดเธอให้แม่เขากลับ ไม่งั้นกลับไปจะได้ขายของงกๆ หาเลี้ยงพ่อแม่เหรอ