ความเป็นมา

1207 Words
บทที่1 ความเป็นมา โรงเรียนสกุลวาณิชย์ ร่างบอบบางของนักเรียนสาวเดินเข้ามาช้าๆ เธอหายหน้าหายตาจากโรงเรียนไปเป็นอาทิตย์เนื่องจากติดงานศพของพ่อแม่และคุณยายที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เด็ก ข้าวปั้นมองไปรอบๆ เห็นภาพพ่อแม่มาส่งลูกหน้าโรงเรียนแล้วนึกเสียใจ จากวันนี้ไปเธอต้องอยู่คนเดียว “ข้าวปั้นนนน!!!” เฟย์เพื่อนรักของข้าวปั้นวิ่งมาสวมกอดเพื่อนด้วยความเป็นห่วงตามด้วยต้นหลิวที่พึ่งลงจากรถของที่บ้าน ทั้งสามยืนกอดกันอยู่หน้าโรงเรียนท่ามกลางสายตาของคุณครูและนักเรียนทุกคน “ฮึก! ฮืออ” “ไม่เป็นไรนะมึง เข้มแข็งไว้มึงยังมีพวกกูสองคนนะ” “ใช่มึงมีพวกกูมึงจะไม่โดดเดี่ยว เดี๋ยวคืนนี้พวกกูจะไปนอนเป็นเพื่อนมึงเอง พวกกูขนเสื้อผ้ามาแล้วนี่ไง” ต้นหลิวเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าให้ข้าวปั้นดู เธอจึงร้องไห้โฮอีกครั้ง ถึงเวลาขึ้นห้องเรียนอาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์มาลีจึงเข้ามาพูดคุยกับข้าวปั้นเธอมีอาการเหม่อลอยจนเรียนไม่รู้เรื่อง เรื่องทุนการศึกษาทางโรงเรียนจะยื่นขอทุนพิเศษให้เธอ “ลองไปคุยกับอาจารย์ธันวากับครูไหมเรื่องทุนพิเศษจะได้ไม่ต้องไปหางานพิเศษทำ เอาเวลามาตั้งใจเรียนดีกว่า อีกไม่กี่เดือนก็จะจบแล้ว ดีไหมปัณณลักษณ์” “แต่หนูได้ทุนเรียนดีมาแล้วนะคะอาจารย์ อาจารย์ธันวาจะให้เหรอคะ” “ลองดูก่อน” ห้องอาจารย์ ธันวา ธราสกุลวาณิชย์ ห้องสีขาวแอร์เย็นเฉียบตกแต่งด้วยต้นไม้สีเขียวมินิมอล ทุกอย่างมันดูอ่อนโยนแต่ในความเป็นจริง ธันวาคืออาจารย์ที่เฮี๊ยบทุกระเบียบนิ้วเด็กๆจึงไม่ค่อยกล้าดื้อกับเขาสักเท่าไหร่ “สวัสดีค่ะอาจารย์” “ครับ ฉันเสียใจเรื่องครอบครัวเธอด้วยนะ แล้วก็ขอโทษที่ไม่ได้ไปฉันพึ่งกลับจากต่างประเทศ” “ไม่เป็นอะไรค่ะ” “มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับพี่มาลีนี่มันเป็นเวลาเรียนทำไมถึงพานักเรียนลงมา” “เอ่อ.... คือพี่อยากมาคุยกับธันวาเรื่องทุนนักเรียน ตอนนี้เสาหลักของบ้านเสียหมดแล้วปัณณลักษณ์ต้องอยู่คนเดียว ตอนนี้มีแค่เงินจากงานศพที่หักค่าใช้จ่ายแล้วไม่กี่หมื่น ถ้าจะให้ปัณณลักษณ์ต้องไปหางานพิเศษทำพี่กลัวว่าจะเสียการเรียน” ธันวามองหน้านักเรียนตัวน้อยด้วยความเห็นใจเรื่องทุนเธอได้ทุนการศึกษาไปแล้วส่วนเรื่องทุนพิเศษปกติทางโรงเรียนจะไม่มีให้เพราะงบจะไปช่วยเหลือเรื่องอุปกรณ์การเรียนหรืองบอาหารกลางวันอยู่แล้วถ้าจะให้ทุนพิเศษกับนักเรียนเพียงคนเดียวคงจะมีปัญหาตามมาอีกเพราะคนที่ลำบากกว่าเธอก็ยังมี “เทอมสุดท้ายแล้วพี่อยากให้ปัณณลักษณ์มีเวลาอ่านหนังสือ” “เฮ้อ เรื่องทุนผมต้องเอาเข้าที่ประชุมกับคณะกรรมการก่อน เพราะถ้าให้ปัณณลักษณ์คนเดียวเด็กกำพร้าคนอื่นจะคิดยังไง” “ค่ะ พี่เข้าใจ” “เอาเป็นว่าผมเข้าใจงั้นเอาแบบนี้ปัณณลักษณ์ เธอรับเงินนี่ไว้เอาไว้ใช้จ่าย ช่วงนี้เธอต้องทำรายงานอีกหลายวิชา” ธันวาส่งเงินให้ข้าวปั้น5000บาท เธอจึงยกมือไหว้แล้วรับเงินมาเก็บเอาไว้ ช่วงพักกลางวันข้าวปั้นเล่าเรื่องที่อาจารย์ธันวาให้เงินเธอให้เพื่อนๆ ได้ฟัง ทุกคนจึงสบายใจอย่างน้อยเรื่องค่าใช้จ่ายเพื่อนก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรมากนะ “มึงคณะกรรมการเรียกอาจารย์ทุกคนเข้าประชุมช่วงบ่ายอาจารย์ชูชาติเลยให้พวกเรานั่งทำงานของแก” ต้นหลิวหัวหน้าห้องเปิดอ่านไลน์ให้เพื่อนๆ ฟัง “สบายใจกูล่ะ กูจะได้นอนยาวๆ เพราะงานกูทำเสร็จหมดแล้ว” เสียงเพื่อนนักเรียนชายร้องเฮกันยกใหญ่ ข้าวปั้นไม่รู้เลยว่าตอนนี้คณะกรรมการของโรงเรียนรวมถึงผู้บริหารโรงเรียนพ่อของอาจารย์ธันวาก็เดินทางมาด้วย แน่นอนว่าการประชุมในวันนี้แบ่งเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเห็นด้วยที่จะแบ่งงบประมาณบางส่วนมาช่วยปัณณลักษณ์แต่อีกฝ่ายไม่เห็นด้วยเพราะนักเรียนที่ลำบากต้องอาศัยทุนเรียนก็มี อาจารย์มาลีเริ่มหน้าถอดสีเพราะดูท่าจะหมดหนทางในการช่วยเหลือลูกศิษย์ ผู้บริหารจึงตัดปัญหาด้วยการเก็บงบประมาณเอาไว้แต่จะหาทางช่วยนักเรียนทางอื่นเอง เมื่อคณะกรรมการกลับไปแล้วอาจารย์มาลีจึงหยิบผลการเรียนของปัณณลักษณ์ให้ผู้บริหารได้ดูเธอเรียนดี กีฬาก็เก่งแต่เธอกำลังจะหมดหนทางในการเรียนมหาวิทยาลัย “ธันวาเอาแบบนี้ไหมให้เด็กคนนี้ไปอยู่บ้านเรา ช่วยงานบ้านช่วยงานแม่เราในช่วงวันหยุด จะได้มีเงินไว้ใช้จ่าย” “ดีเลยค่ะผอ. มาลีเห็นด้วยปัณณลักษณ์เป็นเด็กดีเธอไม่ใช่เด็กเหลวไหล” “ผมแล้วแต่คุณพ่อครับ” “ถ้าอย่างนั้นอาจารย์มาลีจัดการเรื่องนี้ด้วย ลองเรียกเด็กคนนี้มาคุยเพราะถ้าจะให้ผมควักเงินส่วนตัวมามันไม่มีปัญหาหรอกแต่ถ้าเข้าเรียนมหาวิทยาลัยอาจจะลำบาก” “ได้ค่ะผอ. งั้นมาลีขอตัวไปคุยกับปัณณลักษณ์ก่อนนะคะ” อาจารย์ที่ปรึกษารีบเดินออกมาจากห้องพร้อมรอยยิ้ม เพื่อเข้าไปหาลูกศิษย์ในห้องสมุด เธอเล่าเรื่องการประชุมให้ข้าวปั้นฟังแต่ข้าวปั้นเธอไม่กล้าไปอยู่ที่ไหน ตั้งแต่เกิดมาก็อยู่ที่บ้านมาโดยตลอด “มึงไปเถอะอย่างน้อยก็ไม่ต้องเครียดเรื่องหาเงินเรียนมหาลัย ถ้ามึงทำงานข้างนอกไหนจะต้องไปเรียนอีกมึงจะไหวเหรอ อย่างน้อยไปอยู่บ้านอาจารย์มึงก็ทำแค่งานบ้าน” “ใช่ต้นหลิวพูดถูกส่วนบ้านของเธอก็ปล่อยเช่าสิจะได้มีรายได้อีกทาง” “หนูขอคิดดูก่อนได้ไหมคะ ไว้หนูโทรคุยกับป้าดูก่อนถ้าป้าจะส่งเสียหนูจะได้ไม่ไปรบกวนอาจารย์ธันวา” “ก็ได้ลองโทรเลย อาจารย์จะได้คุยกับป้าเธอด้วย” ข้าวปั้นกดโทรหาป้าของเธอแต่ดูเหมือนว่าป้าของเธอจะบล็อกการติดต่อทุกช่องทาง อาจารย์มาลีจึงตัดสินใจแทนด้วยการพาข้าวปั้นมายืนยันกับอาจารย์ธันวาว่าเธอจะย้ายไปอยู่ด้วยเพื่อทำงานในบ้านและช่วยงานที่ร้านอาหารในวันหยุด วันหยุดสุดสัปดาห์ สามสาวช่วยกันเก็บเสื้อผ้าเพื่อรออาจารย์ธันวามารับแต่ข้าวปั้นแอบร้องไห้ เธอไม่อยากปล่อยเช่า อยากเก็บบ้านหลังนี้เอาไว้ หากวันไหนเธอหมดหนทางเธอก็ยังมีบ้านไว้เป็นที่พักพิง “พ่อจ๋า แม่จ๋า ยายจ๋า เป็นกำลังใจให้หนูด้วยนะ” “สู้ๆ มึง อาจารย์มาแล้วไปกันเถอะ” _______________________ ขอย้ำอีกครั้งว่าทั้งสองไม่ได้มีความสัมพันธ์ในช่วงเรียนมัธยมนะคะ รอเวลาน้องโตเป็นสาวเต็มตัวโน้น ถึงจะมีไอ้โบ้ตามหึงตามหวง ? อ่านเพลินๆอย่าลืมกดเพิ่มเข้าชั้น+คอมเมนต์ให้ไรท์บ้างนะคะ อาจจะไม่ค่อยได้ตอบแต่ไรท์อ่านหมดค่ะ ??❤️❤️
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD